ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
13-05-2025, 00:32
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  'สนธิ'เสียงแข็งไม่ย้ายที่ ถ.ราชดำเนินรถติดหนัก [2 มิ.ย. 51 - 08:38] 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
'สนธิ'เสียงแข็งไม่ย้ายที่ ถ.ราชดำเนินรถติดหนัก [2 มิ.ย. 51 - 08:38]  (อ่าน 3005 ครั้ง)
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« เมื่อ: 02-06-2008, 09:11 »

'สนธิ'เสียงแข็งไม่ย้ายที่ ถ.ราชดำเนินรถติดหนัก
ไทยรัฐ[2 มิ.ย. 51 - 08:38]
 
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ว่ายังไม่คลี่คลาย แม้จะยังไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเพียงการยุติชั่วคราว หรือซื้อเวลาเท่านั้น การแก้ปัญหาต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อสร้างกติกาให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ไม่ให้มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน และหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เนื้อหาต้องป้องกันไม่ให้มีข้อที่จะก่อให้เกิดปัญหาทางการเมืองอีก ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการทำ

นายสมชาย ยังระบุว่าหากกติกาทางการเมืองยังไม่เป็นที่ยอมรับ ก็จะกระทบกับเศรษฐกิจ ภาคเอกชนจะต้องแบกรับภาระความไม่แน่นอนไปอีกหลายปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยยืนยันจะปักหลักชุมนุมอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งบรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกลุ่มรถจักรยานยนต์มาป่วนการชุมนุมบ้างก็ตาม แต่หลังจากนายสนธิ ได้ลงจากเวทีไม่นานนัก ปรากฏว่าได้มีฝนตกโปรยปรายลงมา ทำให้ผู้ที่มานั่งฟังการปราศรัยเดินทางกลับไปเกือบครึ่ง เหลือแต่ผู้ที่เตรียมอุปกรณ์กันฝนติดตัวมาด้วย ที่ยังคงปักหลักฟังคำปราศรัยของบรรดาแกนนำต่อไป ทั้งยังได้อ่านแถลงการณ์ย้ำจุดยืน และเรียกร้องในกลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักชุมนุมโดยไม่เคลื่อนที่ไปไหน และเตรียมพร้อมรับมือการสลายการชุมนุม

ส่วนการจราจรช่วงเช้าของวันนี้ ตั้งแต่เวลา 06.00-07.00 น.  ปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณที่ใช้หลีกเลี่ยงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินนอก เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ มีปริมาณรถติดสะสมจำนวนมาก ตั้งแต่แยกลานพระราชวังดุสิตจนถึงแยกวังแดง การจราจรติดอย่างมาก โดยรถที่ลงจากสะพานพระราม 8 มุ่งหน้าไปแยก จปร. รถติดปริมาณมาก เคลื่อนตัวได้ช้า และในส่วนของสนามหลวงมุ่งหน้าไปนางเลิ้ง ปริมาณรถหนาแน่นติดขัดเช่นกัน 

 
 
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 02-06-2008, 09:28 »

รักษาการผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมกองร้อยปราบจลาจล [2 มิ.ย. 51 - 01:00]
 
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าววานนี้ (1 มิ.ย.) ขณะตรวจความเรียบร้อยกองร้อยปราบจราจล บริเวณบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า แม้การชุมนุมจะทำให้เกิดปัญหาการจราจร ผู้ชุมนุมก็มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการพิจารณาความสำคัญของทั้ง 2 เรื่อง ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เกือบเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อมีกลุ่มต่อต้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 100 คน รวมตัวบริเวณท้องสนามหลวง และเดินเท้ามายังบริเวณสะพานมัฆวานฯ แต่ถูกตำรวจสกัดไว้ได้บริเวณสะพานผ่านฟ้า เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกันระหว่างคนทั้ง 2 กลุ่ม

ขณะที่บรรยากาศบนเวที แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ยังผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย  สลับกับการแสดงดนตรี มี จอย-ศิริลักษณ์ ผ่องโชค นางเอกสาว และตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ขึ้นเวทีพันธมิตร ฯ ร่วมร้องเพลงขับกล่อมในช่วงดึกที่ผ่านมา  และช่วงเที่ยงคืน มีฝนจะตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับไปเกือบครึ่ง เหลือแต่ผู้ที่เตรียมอุปกรณ์กันฝนมาด้วย ยังคงปักหลักร่วมชุมนุมอย่างไม่ย่อท้อ

 
 

ไม่เคยมีใบสั่งสลายชุมนุม ผบช.น.ชี้ไม่นานมีข่าวดี
ไทยรัฐ[2 มิ.ย. 51 - 03:41]
 
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) ถึงความคืบหน้าการเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า มีการเจรจากันตลอด มีการบอกว่าขอให้อยู่กับที่ อย่าได้เคลื่อนไปไหน แม้จะทำผิดกฎหมายการจราจร ทั้งนี้ตำรวจกำลังพยายามแก้ไขอยู่ ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ไม่น่าจะมีอะไร

"ยืนยันไม่มีการสลายการชุมนุม คำว่า สลายไม่เคยออกจากปากผม  และไม่เคยได้รับคำสั่งจากผู้หนึ่งผู้ใด" ผบช.น. กล่าว และว่า ขอวิงวอนกลุ่มผู้ชุมนุม และแกนนำว่า เป็นไปได้อยากให้ขยับที่ เพื่อเปิดการจราจรไปอยู่บริเวณอื่น บริเวณไหนก็ได้ที่อยากจะไป โดยจะไปส่งถึงที่ด้วยความปลอดภัย ขอยืนยันด้วยเกียรติ ขอให้ช่วยกันคนละนิดละหน่อย เพราะความเดือดร้อนของสังคม ไม่ว่าจะเป็นคนทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กนักเรียนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวด้วยว่า ฝ่ายพันธมิตรฯ เริ่มเข้าใจกำลังพูดคุยกันในกลุ่มอยู่ คิดว่าประมาณ 1-2 วันจะประสบความสำเร็จในการพูดจา
 
 

พันธมิตรกร้าวสมัครต้องออก จี้พรรคร่วมรบ.ถอนตัว  
ไทยรัฐ  [1 มิ.ย. 51 - 22:06]

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (1 มิ.ย.) ว่า  เมื่อเวลา 21.30 น. แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวที ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 13 เรื่องการประณามนายกรัฐมนตรีรัฐบาลเผด็จการหุ่นเชิด โดยมีการประณามการกระทำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่า หมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะใช้วาจาส่อให้เห็นเจตนาจะใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ใช้สิทธิ์การชุมนุมโดยสงบ จึงเรียกร้องให้นายสมัคร แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที

ส่วนสาเหตุที่ชุมนุมที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในแถลงการณ์ระบุว่า  เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายที่นำเครื่องกีดขวางจราจรมาขัดขวางมิให้กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ชุมนุมจึงจำเป็นต้องปักหลัก ณ ที่ แห่งนี้ เท่ากับว่า ตำรวจเป็นฝ่ายเลือกพื้นที่ชุมนุมให้กับกลุ่มพันพันธมิตรฯ เอง และหากกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ทราบว่า จะมีขบวนเสด็จฯ ผ่านมายังสถานที่ชุมนุมเมื่อใด กลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมเปิดเส้นทางโดยทันที

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังขอให้พรรคร่วมรัฐบาล แสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน และประเทศชาติ ด้วยการหยุดให้การสนับสนุนนายสมัคร และถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยทันที
 
 

ตำรวจปฏิเสธ 'สมัคร' ขีดเส้นสลายการชุมนุมในวันนี้
ไทยรัฐ[1 มิ.ย. 51 - 17:56]
 
พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันนี้ (1 มิ.ย.) ว่า วานนี้ (31 พ.ค.) มียอดผู้ชุมนุมสูงสุด 9,000 คน ขณะที่ผู้ชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณท้องสนามหลวงมีประมาณ 800 คน และเจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้นจักรยานยนต์ประมาณ 100 คัน ที่เข้ามาก่อกวนในบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ได้

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมวันนี้ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมการไว้เหมือนเมื่อวาน โดยคงกำลังไว้ประมาณ 750 นายเท่าเดิม แต่พร้อมเสริมกำลังตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม ได้ขอร้องผู้ชุมนุมไม่ให้ถือไม้ หรือ ท่อนเหล็ก เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีเงื่อนเวลาว่า จะต้องให้ผู้ชุมนุมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากถนนราชดำเนินเมื่อไร อย่างไรก็ตาม การนำคำสั่งอย่างเป็นทางการให้ผู้ชุมนุมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากถนนราชดำเนินนั้น อาจสร้างความไม่พอใจและเป็นชนวนบานปลายได้ เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ได้ดำเนินการ 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลให้ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ ไม่ใช้กำลังปราบปราม หรือ เข้าสลายการชุมนุมแต่อย่างใด
 
 
บันทึกการเข้า

Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 02-06-2008, 09:37 »

ต้องดูก่อนว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมที่ถนนราชดำเนินนอก รัศมีตั้งแต่สะพานมัฆวาน แยกมิสกวัน ล้อมไปถึงทำเนียบรัฐบาล ทำไมจัดการจราจรไม่มีปัญหา อีกด้านหนึ่งในครั้งนี้ ตำรวจตัดสินใจใช้โล่ห์มนุษย์บล็อกที่กลางสะพานมัฆวาน ทำให้ผู้ชุมนุมต้องปักหลักกันที่นี่ ตำรวจคงต้องรับผิดชอบในความผิดพลาดตั้งแต่ต้น
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #3 เมื่อ: 02-06-2008, 09:52 »

ต่างฝ่ายต่างบีบกันค่ะ   พันธมิตรจะแสดงพลังให้เห็นว่า แกร่งจนรัฐบาลทำอะไรไม่ได้

ส่วนรัฐบาล ก็จะทำให้รถติดไปทั่วเมือง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน แล้วกล่าวหาว่าพันธมิตรเป็นต้นเหตุ

ลักษณะนี้คงยื้อกันไปได้อีกไม่กี่วัน รัฐบาลกำลังเสียเปรียบ ต้องหามุขเด็ดมาจัดการพันธมิตรก่อน เพราะม๊อบมีทีท่านยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ และม๊อบอาจจะเปลี่ยนยุทธวิธี ล้อมทำเนียบ ล้อมรัฐสภา

เวลาของทั้งสองฝ่ายมีจำกัดค่ะ พันธมิตรยืดเยื้อเป็นเดืนนั้นพอไหว สองเดือนมากไป คนเบื่อ  ส่วนรัฐบาล เวลาแก้รัฐธรรมนุญใกล้หมดแล้ว หากเข้าไปครึ่งเวลาสมัยประชุมวิสามัญ แก้ไม่ทันคดีที่จะตัดสินแล้ว

ยิ่งถ้า ศาลรัฐธรรมนูญขยันขึ้นมา ตีความเรื่อง คตส.เสร็จเร็วกว่ากำหนด แล้วผลออกมาว่าทำหน้าที่ได้ ถูกต้องตามกฎหมายทุกระยะ  ตายค่ะ ตาย เจ้าของรัฐบาล ตายค่ะ 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 02-06-2008, 09:53 »



พันธมิตรย้ำจุดยืน ไล่รัฐบาล ออกหรือยุบสภาฯ
ไทยรัฐ [2 มิ.ย. 51 - 03:58]
 
หลังการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดตลอดวันตลอดคืนวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงปักหลักยึดพื้นที่ถนนราชดำเนินนอก บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ยาวไปจนถึงแยก จปร.มาครบสัปดาห์ เพื่อคัดค้านการที่รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ ต่อมาเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นการขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แทน โดยที่ก่อนหน้านายกรัฐมนตรียังได้ประกาศให้ตำรวจเข้าจัดการกับผู้ชุมนุมขั้นเด็ดขาด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมอ่อนข้อให้ชุมนุมต่อไปได้นั้น

“จำลอง” ประกาศกลุ่มชุมนุมชนะแล้ว

ต่อมาเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 1 มิ.ย. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีพร้อมประกาศว่า วันนี้เป็นชัยชนะของกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่ที่บ้าน ออกมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในส่วนของบรรยากาศการชุมนุม ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอย่างสงบเรียบร้อย โดยมีการวิเคราะห์ ข่าวของสองพิธีกร น.ส.กมลพร วรกุล และ น.ส.อัญชลี ไพรีรัตน์ รวมทั้งเล่นดนตรีเพลงเพื่อชีวิต ด้านการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลต่างๆ และตำรวจตระเวนชายแดน ได้สับเปลี่ยนกำลังปฏิบัติ หน้าที่เช่นเดียวกัน

นักการเมืองดาหน้าขึ้นเวที

จากนั้นบนเวทีมีบรรดาแกนนำขึ้นปราศรัยอย่างต่อเนื่อง อาทิ นางรัชดาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.พรรค ปชป. นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีต ส.ว.สกลนคร นายการุณ ใสงาม ขึ้นกล่าวบนเวทีให้ความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ สลับการแสดง ดนตรี และในเวลา 09.00 น. นายโพธิรักษ์ นักบวชสันติอโศก พร้อมด้วยนักบวชจำนวน 20 คน เดินออกมารับอาหารจากผู้ชุมนุมและเดินมาที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยด้านหลังเวที  ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ชุมนุมนำน้ำดื่มและผลไม้ มามอบให้ตำรวจ เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างสองฝ่ายลง

เย้ย “สมัคร” ไม้หลักปักขี้เลน

ต่อมานายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีการประเมินสถานการณ์ ซึ่งต้องประเมินเป็นระยะๆ แต่ในขณะนี้สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นมาก ส่วนที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้ประกาศชัยชนะเมื่อประมาณ 05.00 น. ตนคิดว่าเป็นการให้กำลังใจผู้ชุมนุมมากกว่า ส่วนกรณีที่นายสมัคร กับ ร.ต.อ.เฉลิม ให้ย้ายไปชุมนุมที่อื่น ตนคิดว่าไม่จำเป็น เพราะในรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่าให้ชุมนุมที่ใด ดังนั้นไม่จำเป็นต้องย้าย และที่สำคัญการปิดกั้นการจราจรนั้น ไม่เกี่ยวกับผู้ชุมนุม เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ปิดกั้นถนนเอง ส่วนที่นายสมัครบอกว่าจะมีการสลายการชุมนุมตั้งแต่เมื่อวาน ตนคิดว่านายสมัครเป็นคนพูดกลับไป กลับมา จะสลายแล้วก็ไม่สลาย เหมือนไม้หลักปักขี้เลน

“สมัคร” ฉุนโดนกุข่าวลูกสาวเครียด

จากนั้นในเวลา 08.30 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ถึงการดำเนินการกับ

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ถนนราชดำเนินนอก ว่า สิ่งที่พูดไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค. เป็นการพูดจาอธิบายความชัดเจนตามหน้าที่ของคนเป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันว่าที่พูดไว้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ได้มีอะไรแก้ไขอย่างไรเลย เพียงแต่ว่าเมื่อพูดไปแล้วกลายเป็นว่าสถานีโทรทัศน์ 1-2 ช่องที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ารัฐบาลก็เริ่มทำข่าว พูดเสร็จแล้วตนเลยไปตลาด อ.ต.ก.จ่ายกับข้าว ซื้อของ นักข่าวตามถ่ายเป็นพรวน พ่อค้าแม่ค้าก็เอาดอกไม้มาให้กัน แล้วก็ไปเยี่ยมลูกสาวคลอดลูกชายคนที่ 3 ที่โรงพยาบาล กลายเป็นข่าวลูกสาวเครียดหนักเข้าโรงพยาบาล ก็ตามเฮละโลไปโรงพยาบาล ตื่นเต้นว่านายสมัครป่วย หรือ ลูกสาวป่วยก็เลยต้องออกไปก็รำคาญเต็มที ก็ไปหาที่นั่งผมเขียนหนังสือต่วย'ตูน ถามว่ากลัวจะผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร ก็ไม่กลัว ก็ทำหน้าที่ปกติธรรมดา ไม่ได้มีอะไรแปลกประหลาดพิสดาร

บ่นทำหน้าที่กลายเป็นคนเลว

นายสมัครกล่าวอีกว่า แต่ทว่าที่จะมาพูดต่อก็คือว่านั่งดูโทรทัศน์กลายเป็นว่านายสมัคร สุนทรเวช จุดชนวนทำให้บ้านเมืองเกิดร้าวฉาน  เหมือนกับว่าที่เขาจัดการยึดตีนสะพานมัฆวานฯอยู่นั่นที่ชุมนุมกันนั้นเป็นของถูกต้องตามสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และนายกฯมาจุดชนวนให้เกิดความร้าวฉานในบ้านเมืองเหมือนกับมันร้อนเร่าขึ้นมาเพราะตนพูด พอบ่ายเข้าโทรทัศน์ช่องเอเอสทีวีที่ศาลคุ้มครองอยู่ 2 ปี ที่ปลุกระดมให้เกลียดรัฐบาลว่าตำรวจขีดเส้นตายจะสลายกลุ่มชุมนุม 17.00 น. ออกข่าวช่องนี้ๆรับช่องนี้ไป  นักวิชาการดาหน้าออกมาพูดจาว่ากล่าว ตนกลายเป็นคนร้ายคนเลวไปในฉับพลันเลยทีเดียว ต้องโทรศัพท์ถามฝ่ายตำรวจเขาบอกเปล่าไม่ได้พูดอะไรเลย เราต้องทำหน้าที่ต้องตรึงกำลังไว้ ไม่มีการจะไปคิดไปตบตีข่มฆ่าขู่แกงอะไรเลย ไม่เคยคิดประกาศว่าจะจับใครสักคนด้วย  มีแต่ทำกันเอง ปลุกระดมกันเอง

แจงไม่เคยใช้คำว่าสลายกลุ่มชุมนุม

นายสมัครกล่าวต่อว่า ตนก็รำคาญเต็มที ออกข่าวกันรุนแรงขึ้นทุกที ตำหนิติเตียนจะสลายกลุ่มชุมนุมอย่างโน้นอย่างนี้ ข่าวออกไปทั่วโลกเลยว่านายกรัฐมนตรีไทยสั่งสลายกลุ่มชุมนุม สั่งลุย สั่งอะไรต่างๆ นึกถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม ก็มีแบบฉบับอะไรที่เป็นความรู้ ส่วนที่รู้ก็เอามาจัดการแสดงให้เป็นความ ปรารถนาดี แต่ว่าความปรารถนาดีก็กลายไปว่า คือจะหลุดไปคำหนึ่งตอนท้ายว่า เชิญชุมนุมกันต่อไปตามสบายทำนองอย่างนั้น ฟังแล้วพักเดียวเท่านั้นได้เรื่อง คนที่เขาทำงานทำการกันอยู่เขาบอกแล้วตกลงเอาอย่างไรกันแน่ นสพ.ไทยรัฐหัวตัวโตๆ เบ้อเริ่มเลย “รัฐกลับลำไม่สลายการชุมนุม” อีกฉบับ “คนแห่ร่วมพันธมิตรฯหลังสมัครขู่ลุย เฉลิมแจ้นแก้แทน” ก็ไม่ทราบว่าแห่จากไหนมากันอย่างไร แต่ที่ว่าหลังสมัครขู่ลุย ก็ไม่ได้แสดงการขู่จะลุยแต่ตนพูดตามหลักเกณฑ์ เอาเทปที่พูดเปิดได้ แล้วขอยืนยันหมายความตามที่ได้พูดไว้ทุกประการ ว่าที่มาทำกันยึดอยู่ตีนสะพานมัฆวานฯ ผิดกฎหมายหลายฉบับ ไม่ถูกต้อง ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการ วิธีการอะไรอย่างไรนั้น เขาตกลงกันไว้เรียบร้อยหมด คำว่าสลายกลุ่มชุมนุมไม่เคยมีการใช้ ตนเป็นหัวหน้ารัฐบาลปล่อยมาแล้ว 7 วันก็ต้องบอกให้จัดการดำเนินการ และอย่าลืมว่าที่เขากำลังดำเนินการตามกฎหมายนั้น เพราะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องเสด็จฯ หลีกไปทางอื่น คนพวกนั้นก็ไม่อับอายนักเรียนโรงเรียนต่างๆเดือดร้อน ดังนั้น จำเป็นจะต้องบอกว่าที่ทำอย่างนี้ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วจะอยู่ อย่างนี้ไม่ได้

ถ่ายทอดสดทั่วโลกทุกขั้นตอนเจรจา

นายสมัครกล่าวว่า คำว่าสลายนี้เราไม่ได้ใช้คำนี้เลย ตำรวจจะต้องไปเจรจาความ ตำรวจไม่มีอาวุธ แม้แต่กระบองก็ไม่พก ต้องการจะไปบอกให้รู้ว่าทำตรงนี้ จะทำอย่างนี้ไม่ได้ แล้วก็ขอให้รื้อออกไป ถ้าไม่รื้อตำรวจจะเป็นคนรื้อออก ต้องเปิดเส้นทางให้ตามปกติเท่านั้น จะไปชุมนุมกันที่ไหน จะนั่งยืนด่าสักปีอยู่ในรั้วรอบขอบชิดต่างๆ ไม่มีใครว่าอ้างสิทธิประชาชน ส่วนถ้ารุกล้ำตามคดีหมิ่นประมาท ก็จะว่าเป็นคดีไป ตำรวจก็เตรียมการของในการจัดการ แต่ที่เน้นไว้และพูดกันรับรู้ด้วยก็คือว่า จะใช้โทรทัศน์ทุกช่องถ้ายอมมา ตอนที่จะเรียกกันว่าสลายนี้ คือตอนที่จะเอาสิ่งกีดขวางที่ยึดกันออกนี้จะถ่ายโทรทัศน์ให้คนทั่วโลกได้ดูเลย ว่ามาขอร้องว่าอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน เป็นเส้นทางจราจร ถนนราชดำเนินนอกตัดกับถนนกรุงเกษม มาบล็อกตรงนี้ไม่ถูกต้องผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทง จะเลือกเวลาที่เขาจัดการเสร็จจะได้เริ่มพูดจาเจรจากันแล้วจะออกขยายเสียงให้คนทั้งโลกได้ฟังด้วยนั่นถึงจะเรียกว่าสลาย

ข้องใจจงรักภักดีแต่ขวางทางเสด็จฯ

นายสมัครกล่าวอีกว่า นักวิชาการทั้งหลายก็เฮละโลออกมาพูดจาว่ากล่าวทำนองว่า ถ้าไปทำอย่างนั้นรัฐบาลก็แพ้ ไม่มีการแพ้ ไม่มีการชนะหรอก ใครทำผิดกฎหมายแล้วถ้าตำรวจไปจับกุมแล้ว ถ้าแพ้ต้องยุบกรมตำรวจไม่มีหรอก และบทเรียนที่เขาด่ากันระหว่างสหประชาชาติ จะไม่มีให้เกิดในประเทศไทยแต่ว่าที่เขาฟัดกันเองวันนั้น มีคนอดรนทนไม่ได้ ตำรวจก็บอกว่าเขาไม่รู้ข้างไหนเป็นข้างไหน ข่าวขายหน้าไปทั่วโลก วิ่งไล่ตีกันไปตีกันมา แต่ว่าทิ้งต่อไปอย่างนั้นไม่ได้ เพราะหน้าตารัฐบาลไทยไม่มีเหลือหรอเลย ขอยืนยัน ว่าบ้านเมืองต้องมีขื่อมีแปมีตัวบทกฎหมาย ใครจะมาทำอะไรกันตามอำเภอใจ ยึดไปกลางถนน สำคัญเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องหลีกเลี่ยงคนที่มาทำผิดกฎหมาย ไม่ได้ คนพวกที่มาทำควรจะอาย พี่น้องประชาชนทั้งหลายที่ไปร่วมขบวนการต้องอาย เพราะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องเสด็จพระราชดำเนินหลีกไปทางอื่น เพราะไปนั่งขวางทางเสด็จพระราชดำเนิน ถนนนั้นชื่อถนนราชดำเนิน แปลว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเสด็จพระราชดำเนินถนนนั้น ไม่ทรงใช้ถนนอื่นมากมาย มีกิจกรรมจะต้องโยงใยระหว่างวังหลวงกับวังที่ประทับ แล้วไปนั่งขวางแปลว่าอย่างไร นั่นหรือจงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน จะมาเอาชนะคะคานอะไร ไม่อายคนทั้งบ้านทั้งเมืองหรือ

รู้ทันกลุ่มชุมนุมยั่วอยากให้บุกตอนคนเยอะๆ

นายสมัครกล่าวด้วยว่า ตนไม่อยากจะบอกว่าคนหยิบมือหนึ่งเทียบกับคน 63 ล้านคน แต่คนทั่วบ้านทั่วเมืองต้องฟังที่ตนพูดทำความเข้าใจ ตนทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองนี้ บ้านเมืองนี้ไม่ใช่กลุ่มชุมนุมปลุกระดมที่ไหนจะมาเป็นคนบริหาร แต่ตนกับคณะรัฐมนตรีบริหาร ดังนั้นต้องให้เข้าใจกันเสียว่า ไม่มีหรอกจะข่มขู่เข่นฆ่า ตัว อย่างมีมาให้เห็นแล้ว ตนไม่ทำให้เห็น แต่จะถ่ายทอดโทรทัศน์ออกไปทั่วโลกให้เห็นเลยว่า คนดื้อด้านที่จะทำผิดกฎหมายนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วใช้เหตุผลอะไร กระบองก็ไม่ถือ ปืนก็ไม่ใช้ แต่จะต้องเอาออกไปจากตรงนั้น พูดกันให้ชัดเจนตรงนี้เลย ยังไม่กำหนดดีเดย์อะไรต่างๆ ตำรวจเขาจะดูเวลาที่เหมาะสม จะต้องไปพูดจาอธิบายความกัน ทำไมตนจะไม่รู้ว่าอยากจะให้บุกเข้าไปเวลาที่คนเยอะๆ นั้นจะได้ออกสหประชาชาติชัดเจนดี จะได้ถ่ายทอดสดไปทั่วโลกไม่ได้กินหรอก ตนก็คนไทยก็รักผู้คนในบ้านเมืองนี้เหมือนกัน แต่ว่าใครต้องการปลุกระดมให้เกิดอะไรนั้น พี่น้องประชาชนทั้งประเทศจะต้องเห็น คนทั้งบ้านทั้งเมืองที่เขาอยู่บ้าน เขาโอเคถูกต้องเขาไม่พูด

จ้องฟ้องหมิ่นประมาท

นายสมัคร กล่าวอีกว่า “ผมทำหน้าที่ของผม 7 วันก็พอเพียงแล้วครับ ต้องดำเนินการ ถ้าผมไม่ดำเนินการ ผมไม่มีหน้าจะไปอยู่อย่างนั้นได้หรอกครับ เวลาชุมนุมก็เริ่มต้นกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ บัดนี้พอเหตุหมดเรียบร้อยก็หันมาบอกว่า ต้องไล่รัฐบาลออก ด่าผมไอ้อี มีชื่อขนาดเขียนหนังสือ และใช้ด่าพูดจากันนั่น จะจดไว้ต่างหากเป็นเรื่องคดีความเฉพาะบุคคล ถอยไปนั่งกลางวง กลัวใครจะเข้าไปจับกุม ไม่จับ ไม่กุมหรอก แต่ว่าถ้าหากว่าพี่น้องประชาชนที่ไปนั่งร่วมกันอย่างนั้น ถ้าคุณจงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอย่างที่ชอบพูดจากันนั้น นั่งต่อไปสิครับ คนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาจะได้เห็นว่าหน้าตาคนเป็นอย่างไร ที่ให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องเสด็จพระราชดำเนินหลบไปทางอื่น ไหวไหมคนอย่างนี้ คนไทยหรือเปล่าครับ ผมบอกว่าผมพูดจากันธรรมดา ไม่ได้มีอะไรอื่นเลย ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงเคลือบแคลง พูดจาอธิบายชัดเจนเป็นหน้าที่ของคนเป็นนายกรัฐมนตรี ผมต้องขอความเห็นใจไม่ว่าจะสื่อ ไม่ว่าจะนักวิชาการ ได้โปรดกรุณาว่ารัฐบาลจะทำอย่างนี้ ให้นักวิชาการประกาศเลยว่า การไปนั่งขวางทางเสด็จ พระราชดำเนิน ขวางทางรถทั้งหมด ไม่ใช่จะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเท่านั้น ผู้คนที่ใช้ถนนหนทางนั้น เขาเดือดร้อนกันหมด ช่วยกรุณาออกมายืนยันหน่อยว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว”

“จำลอง” สวนกลับไม่ผิดที่ปิดถนน

จากนั้นในเวลา 11.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตร ได้เปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ตามปกติ ที่บริเวณเต็นท์ของสันติอโศก ภายในที่ชุมนุม โดยกล่าวว่าเมื่อวานมีประชาชนจำนวนมากจากจังหวัดต่างๆ มาร่วมชุมนุมกัน เพราะหัวหน้ารัฐบาลออกมาประกาศทั่วประเทศว่าจะสลายการชุมนุมให้ได้ ซึ่งทุกคนก็ยืนยันได้ว่านายกฯ จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกับทหารสลายการชุมนุมขั้นแตกหัก แต่ก็ไม่ได้ทำ เท่ากับรัฐบาลของนายสมัคร เชื่อถือไม่ได้ หมดความน่าเชื่อถือไปแล้ว ส่วนเรื่องที่ชอบพูดกันมากที่สุดตอนนี้คือเรื่องจราจร ขอบอกอีกครั้งว่าไม่ใช่ความผิดของเรา เป็นความผิดของรัฐบาล

ยัน ตร.เปลี่ยนเส้นทางเสด็จฯได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรที่นายกรัฐมนตรีได้ กล่าวในรายการสนทนาฯ ถึงเรื่องการปิดเส้นทางเสด็จพระ ราชดำเนิน ว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า พล.ต.จำลอง ตอบว่าตำรวจก็รู้ดีว่าสามารถจัดเส้นทางเสด็จฯ ไปเส้นทางอื่น ได้ ชอบเอาเรื่องนี้มาอ้าง มากดดันเรา เมื่อคราวพฤษภาทมิฬ หรือเมื่อ 19 กันยายน 2549 ก็กดดันแบบนี้เช่นกัน

เชื่อชาติอื่นจะเอาอย่างชุมนุมสงบ

เมื่อถามอีกว่าไม่กลัวภาพพจน์ประเทศเสียหาย หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ตอบว่าถ้าแพร่ภาพออกไปก็ จะด้วยความยินดี เพราะกลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมอย่างสงบ สวยงามและถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ประเทศอื่นๆ อาจนำไปเป็นแบบอย่างในการชุมนุมก็ได้ เพราะการชุมนุมของเราปราศจากความรุนแรง และเราจะยืนยันสิ่งเดิมว่าชุมนุมต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะลาออก ส่วนเรื่องการรอมชอมนั้น จะทำก็ต่อเมื่อคนทำผิดได้ทำให้ถูกต้องก่อน จึงจะเกิดการรอมชอมขึ้น เพราะเราทำเพื่อชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว พวกนั้นต่างหากที่ทำเพื่อหมู่คณะ ดังนั้น เรื่องการที่จะย้ายไปชุมนุมที่อื่น คงจะไม่ไปไหน

จับหนุ่มซุกมีดเข้ากลุ่มชุมนุม

ในส่วนของการดูแลความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายวันเดียวกัน ขณะที่ พ.ต.ต.พยงค์ เอี่ยมสกุล สวป.สน.ห้วยขวาง ด.ต.บัญชา บุญทวี ผบ.หมู่ (ป.) สน.พญาไท ตั้งด่านดูแลความเรียบร้อย บริเวณแยก จปร. แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย สังเกตเห็นนายสุริยา สุขสวัสดิ์ อายุ 32 ปี กำลังจะปั˜นรถจักรยานเข้าไปในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีมีดปลายแหลมยาวประมาณ 50 ซม. สนิมจับเขรอะ พันด้วยผ้าขาวม้ามัดติดไว้กับตัวถังจักรยาน จึงเข้าตรวจยึดไว้ นำตัวส่ง พ.ต.ท.อัครชัย แช่มช้อย พงส. (สบ 2) สน.นางเลิ้ง นายสุริยา อ้างว่าจะนำหนังสือพิมพ์เข้าไปส่งให้กับกลุ่มกองทัพธรรมไม่มีเจตนาจะก่อเหตุร้ายแต่อย่างใด และตนพกมีดอยู่ในบริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. แล้ว แต่ไม่เคยถูกจับ

วอร์รูม พปช.หนุนนายกฯ

ขณะเดียวก็มีความคิดเห็นจากบุคคลต่างๆเกี่ยวกับสถานการณ์การเผชิญหน้า ระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยที่พรรคพลังประชาชน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคฯ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ติดตามและวิเคราะห์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือวอร์รูม ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามสถานการณ์มาตลอด 24 ชั่วโมง วอร์รูมได้มีความเห็นว่ารัฐบาลได้มีความพยายามแล้วที่จะทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเหมาะสม และเห็นด้วยกับการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะมีการเสนอให้เจรจา โดยมีการเผยแพร่ออกสื่อ เพื่อเป็นการแสดงเหตุผลทั้ง 2 ฝ่าย และเพื่อให้พันธมิตรฯอธิบายด้วยว่า เหตุใดต้องยึดถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นทางสาธารณะ ส่วนการที่พันธมิตรฯยืนยันจะชุมนุมต่อ รัฐบาลคงทำอะไรไม่ได้ ซึ่งหากมีการสลายกลุ่มชุมนุมจะเข้าทางของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ที่ต้องการจะให้มีการใช้กำลัง แต่รัฐบาลไม่ตกหลุมพรางที่จะทำให้พันธมิตรฯอ้างว่ารังแกประชาชนแน่

ถามพันธมิตรฯอยากตั้ง รบ.เอง

ร.ท.กุเทพกล่าวอีกว่า ได้มีการวิเคราะห์กันด้วยว่า เมื่อพันธมิตรฯขยายประเด็นและยกระดับการชุมนุมให้เป็นการล้มรัฐบาล โดยมีข่าวลือว่าจะทำถึงขั้นที่บุกยึดทำเนียบรัฐบาลและสำนักงานสหประชาชาติเพื่อให้เกิดความรุนแรงนั้น อยากถามว่าพันธมิตรฯต้องการตั้งรัฐบาลเองหรืออย่างไร หรืออยากให้พรรคประชาธิปัตย์มาจัดตั้งรัฐบาล เพราะมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมชุมนุมปลุกปั่นประชาชน นอกจาก นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์แล้ว ยังมีนางรัชดาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.สัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ดังนั้น หากจะขับไล่รัฐบาลก็ต้องเสนอทางออกให้ประชาชนด้วย ประชาชนจะได้เปรียบเทียบ แต่หากตั้งใจสร้างสถานการณ์ให้ทหารออกมาปฏิวัตินั้น นายกฯมีความเข้าใจกับผู้นำทหารเป็นอย่างดี ดังนั้น การยึดอำนาจไม่เกิดขึ้นแน่

อัดหมดเงื่อนไขชุมนุม

ด้าน พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่ประกาศปักหลักขับไล่รัฐบาลอย่างยืดเยื้อไม่ยอมเคลื่อนย้ายไปที่อื่นว่า ใครๆ ก็รู้ว่ากลุ่มชุมนุมพันธมิตรฯทำผิด กฎหมายเพราะไปปิดถนน จนทำให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางเดือดร้อน กลุ่มพันธมิตรฯควรจะถอยกลับไป ไม่ควรจะ มาปักหลักชุมนุมกันต่อ เพราะเงื่อนไขทั้งเรื่องนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกฯ และเรื่องญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญก็หมดไปแล้ว เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯได้ยื่นถอด ถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่นแก้ไรัฐธรรมนูญแล้วก็ควร สลายตัว กลับไปรอดูกระบวนการพิจารณาของ ส.ว.และทาง กกต. ไม่เช่นนั้นจะเป็นการไปกดดัน ส.ว.และ กกต. ทำให้กระบวนการยุติธรรมล้มเหลว ส่วนข้ออ้างว่ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาปากท้องก็ต้องขอให้ประชาชนพิจารณาด้วยอย่าไปหลงการโฆษณาชวนเชื่อ เพราะหลังการปฏิวัติมา 1 ปี บ้านเมืองเราเสียหายไปมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ รัฐบาลแก้ไขให้สำเร็จได้ภายใน 3 เดือน 6 เดือน อย่างที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯออกมาพูด

ชี้ปมสงสัย ปชป.ส่งคนหนุนกลุ่มชุมนุม

รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าวต่อว่า ขณะนี้เงื่อนไขความรุนแรงถูกปลดชนวนไปหมดแล้ว หลายฝ่ายก็สงสัยกันว่ากลุ่มชุมนุมมีวาระซ่อนเร้นอะไรกันแน่ โดย เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เอง ที่ก่อนหน้านี้นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค เคยแถลงข่าวว่า พรรคสนับสนุนให้ ส.ส.ไปร่วมกับเวทีพันธมิตรฯ จนวันนี้ก็ชัดเจนว่ามีทั้ง ส.ส.คือนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พร้อมด้วยอดีตผู้สมัคร ส.ส. หรือพวกสอบตกของพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นนายการุณ ใสงาม นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯกันคึกคัก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจทำให้คนไทยบางส่วนอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้สนับสนุนกลุ่มชุมนุมอาจถูกมองว่าร่วมกันกระทำการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยสนับสนุนการก่อกลุ่มชุมนุมยืดเยื้อยั่วยุให้เกิดการแตกแยก อาจนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร หรือเพราะต้องการจะได้เข้าสู่อำนาจแทนรัฐบาล โดยใช้ช่องทางพิเศษ ซึ่งไม่ใช่ อุดมการณ์เดิมของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยต่อต้านเผด็จ การและการปฏิวัติรัฐประหาร

ท้าแกนนำฯตั้งพรรคสู้ในสภา

“การที่มี ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯเป็นอันตรายมาก ถ้าประชาธิปัตย์ไม่มีวาระซ่อนเร้นอะไร ไม่ได้เป็นอย่างที่คนสงสัยก็ควรถอนคนของตัวเองกลับไปสู่ระบบรัฐสภา การที่กลุ่มชุมนุมชุมนุมต้องใช้จ่ายเงินมากพอสมควร อาจมีคนสงสัยว่าเงินที่มาสนับสนุนกลุ่มชุมนุมมาจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ ต้องขอให้ทาง กกต.ช่วยติดตามดูด้วยว่าเงินที่นำมาสนับสนุนนั้นมาจากไหนแน่ หากไม่สามารถพิสูจน์หรือแจงที่มาที่ไปของเงินดังกล่าวได้ ก็อาจเข้าข่ายล้มล้างรัฐบาลได้ สำหรับกลุ่มพันธมิตรฯเองถ้าอยากจะมีอำนาจการเมืองก็ขอแนะนำให้ไปตั้งพรรคใช้ชื่อพรรคพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ แล้วไปหาเสียงแข่งกับรัฐบาลเข้าไปสู่สภาฯ แต่ผมเชื่อว่าคงไม่กล้าหรอก เพราะเงินที่สนับสนุนแจงที่มาของเงินไม่ได้” รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าวทิ้งท้าย

สับ ปชป.โค่นรัฐดัน “มาร์ค” นายกฯ

ส่วนนายสุทิน คลังแสง ส.ส.สัดส่วนและกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุม เมื่อมาถึงวันนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าคนที่ดำเนินการทั้งหมด ไม่ใช่กลุ่มพันธมิตรฯ เท่านั้น แต่เป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ร่วมกันดำเนินการสร้างความวุ่นวาย เหตุที่กล่าวเช่นนี้ เพราะมีหลักฐานและเหตุผลหลายอย่างประการแรกคือ การที่มี ส.ส.และอดีต ส.ส.และอดีตผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์แสดงออกอย่างเปิดเผยตัวตนอย่างชัดเจนบน เวทีปราศรัย และอยู่ในขบวนฝูงชนอย่างสม่ำเสมอ ประการต่อมา มีหลักฐานหลายอย่างที่ชี้ชัดว่ากรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์บางคน ขนคนจากภาคใต้ขึ้นมารวมสมทบกับกลุ่มชุมนุมและท่าทีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์และผู้ใหญ่ในพรรค มีท่าทีสนับสนุนการ เคลื่อนไหวและออกมาปกป้อง เป็นกันชนให้กลุ่มพันธมิตรฯ อย่างชัดเจน ทั้งนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคและนายอภิสิทธิ์ ก็ออกมาพยายามดิสเครดิตรัฐบาล สกัดกั้นไม่ให้ใช้มาตรการสลายกลุ่มชุมนุม ที่เป็นเช่นนี้เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเคลื่อนไหว ของพันธมิตรฯ การยกเงื่อนไขและเปลี่ยนเงื่อนไขการชุมนุมมาเรื่อยๆ นั้น มาวันนี้คำตอบสุดท้ายจริงๆ ที่ปิดบังมาตลอดคือ ต้องการล้มรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป้าหมายก็คือต้องการให้นายอภิสิทธิ์ ขึ้นเป็นนายกฯ

ฉะยับใช้วิธีนอกระบบแย่งอำนาจ

นายสุทินกล่าวว่า วันนี้ธาตุแท้ได้เผยตัวล่อนจ้อนแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถปฏิเสธปิดบังเป้าหมายของตัวเองได้อย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลและพรรคพลังประชาชนได้โอนอ่อนผ่อนตาม ได้ถอยในจุดที่พอจะถอยได้ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แต่ถอยไม่ได้ เด็ดขาดคือการยกตำแหน่งนายกฯ ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยวิธีการนอกระบบ เพราะเป็นเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ถ้าประชาธิปัตย์คิดจะแสวงหา อำนาจหรือให้นายอภิสิทธิ์ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ โดยวิธีการ นอกระบบเช่นนี้ เป็นตายอย่างไรเราก็ยอมไม่ได้ เพราะจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่ผิด เป็นมรดกบาปที่จะตกไปถึงคนรุ่นหลัง ขอให้ประชาธิปัตย์ไปสร้างความดีเอาชนะใจประชาชนจะดีกว่า และขอฝากถึงนายอภิสิทธิ์ด้วยว่า ยิ่งเล่นการเมืองนานเข้า ยิ่งห่างไกลจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปทุกที แต่วันนี้ก็ยังไม่สายที่จะหันมาเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาและเดินตามกติกา ประชาชนจะได้เห็นใจ จะสอบได้หรือสอบตกให้ประชาชนไปตัดสินในการเลือกตั้ง โอกาสที่จะไปถึงตำแหน่งนายกฯ ก็ยังพอมี

แฉ ส.ส.สอบตกร่วมขบวนชุมนุม

นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ก็กล่าวถึงกรณีอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯว่า คนเหล่านี้ทำงานร่วมกันมาตลอดตั้งแต่ก่อน 19 กันยา หลังปฏิวัติก็มีหลายคนได้เป็น สนช. บางคนได้เป็น ส.ส. และวันนี้ยังมีหน้าใหม่ๆ ผลัดกันขึ้นเวที ยั่วยุให้กองทัพปฏิวัติ เพื่อที่จะได้กลับเข้าไปเป็น สนช.อีก แผนตื้นๆ ใครก็อ่านออก ทั้งนี้เชื่อว่านายทหารคงไม่เล่นด้วย หรืออาจมีบาง คนที่อาจเล่นด้วย อย่างไรก็ดี การกระทำต่างๆ ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองแบบอีแอบ เพื่อต้องการให้ปฏิวัติ แม้รัฐบาลผ่อนไม่ได้ใช้กำลังปราบ แต่กลุ่มชุมนุมก็ยังชุมนุมไล่รัฐบาลต่อ โดยที่รัฐบาลพยายามกำลังเร่งแก้ไขการทำงานให้กับประชาชน

แบรายชื่อใครเป็นใครบนเวที

ทั้งนี้  บุคคลที่ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มพันธมิตรฯ  และเป็นตัวหลักในการพูดจะเป็นอดีตผู้ที่สมัคร ส.ส.และสอบตกทั้งหมด อาทิ นายการุณ ใสงาม อดีตผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วน พรรคมัชฌิมาธิปไตย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ นายพิเชษฐ พัฒนโชติ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคประชาธิปัตย์ นายประพันธ์ คูณมี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. นายสำราญ รอดเพชร อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีตผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคมัชฌิมาธิปไตย นางสาวอัญชลี ไพรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อแผ่นดินที่มีนายวัฒนา อัศวเหม สนับสนุน

จี้รัฐบาลเอาผิดกลุ่มชุมนุมพันธมิตรฯ

ส่วนที่สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด  นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานมูลนิธิ 111 ไทยรักไทยให้สัมภาษณ์ว่า  มูลนิธิไม่ได้มุ่งเน้นในกิจกรรมการเมือง แต่รวมตัวกันเพื่อระดมความคิดเพื่อแก้ปัญหาให้บ้านเมือง สมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองมาก่อน ขณะนี้ประเทศกำลังกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่ก็มีปัญหาบ้างทั้งเรื่องเศรษฐกิจน้ำมัน แต่ที่เป็นห่วงคือถ้าสถานการณ์ การเมืองยังไม่สงบ จะทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไป จะเป็นผลเสียต่อประเทศอย่างมาก นอกจากนี้คิดว่าทุกประเทศจะต้องบังคับใช้กฎหมายโดยเสมอภาคกัน และต้องคุ้มครองสิทธิบุคคลอย่างเท่าเทียมกัน หากปล่อยให้มีผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายลอยนวลไป คนจะตำหนิรัฐบาลและประชาชนต้องชั่งน้ำหนักดูว่าการชุมนุมประท้วงเหล่านี้มีผลกระทบต่อตัวท่านไหม ถ้าเกิดผลกระทบก็ต้องช่วยกันเรียกร้อง แม้การประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพที่ทำได้โดยสงบ แต่ต้องไม่กระทบสิทธิคนอื่นดังนั้นคนที่เดือดร้อนจากการชุมนุมประท้วงต้องเรียกร้องให้เขายุติการกระทำ   ทุกคนต้องอยู่ในกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ไปละเมิดคนอื่นไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนทางจราจร  หากมีการหมิ่นประมาทผู้อื่นรัฐบาลต้องจัดการ

เชื่อเป็นแผนเปลี่ยนตัวนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มชุมนุมพันธมิตรฯ มีการกล่าวปราศรัยโจมตีอดีตนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพตอบว่า หลายอย่างที่กล่าวหาบนเวที คนที่ฟังถ้าใช้สติก็จะรู้ว่าคำพูดเหล่านี้มีมูลความจริงแค่ไหน เพราะแกนนำบางคนก็ถูกศาลพิพากษาให้มีความผิดหลายคดี เพราะพูดไม่จริงและการกล่าวปราศรัยไม่ได้พาดพิงแค่อดีตนายกฯ คนเดียว แต่พาดพิงหลายคน แต่ละคนคงไปพิจารณาว่าจะดำเนินคดีอย่างไร ตรงนี้รัฐบาลก็ต้องให้ความคุ้มครองด้วย เมื่อถามว่าเดิมกลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้องแค่ต่อต้านรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้เปลี่ยนเป็นล้มล้างรัฐบาล   นายพงศ์เทพตอบว่า ถ้าดูเจตนาของการชุมนุมก็ต่อเนื่องมาจากก่อนเกิดการยึดอำนาจ 19 กันยายนจนมาถึงตอนนี้ มีวัตถุประสงค์ อย่างไรเชื่อว่าทุกคนดูออก นายสมัคร สุนทรเวช เพิ่งมาเป็นนายกฯ และรัฐบาลนี้ทำงานได้แค่ไม่กี่เดือน เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่คงไม่ปล่อยให้คนจำนวนหนึ่ง มาเอารัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งออกไปแล้วเอารัฐบาลที่เป็นคนของตัวเองมาเป็นแทน

ปชป.ชี้กลุ่มชุมนุมยังเสี่ยงโดนสลาย

ขณะเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกประชุมด่วนแกนนำพรรค กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. ของพรรค เพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามการดำเนินการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมอย่างใกล้ชิด ส่วนสาเหตุที่เรียกประชุมด่วน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากคำแถลงของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าสลายการชุมนุม ต่อเนื่องมาถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย บอกว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุมและนายกฯก็ออกมาพูดเมื่อเช้า โดยพยายามอธิบายว่าไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะสลายการชุมนุมก็ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ การแก้ปัญหาผู้ชุมนุมอยู่ในขั้นตอนที่สุ่มเสี่ยง ขาดความรอบคอบระมัดระวังและพยายามใช้เงื่อนไขที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมมาดำเนินการ ก่อให้เกิดผลกระทบกับประเทศต่อไป วันนี้นายกฯได้แสดงตัวตนออกมาอีกครั้ง ในการพยายามเอาสีข้างเข้าถู เพราะออกมาบอกว่า คำพูดเมื่อวานนี้ไม่ได้เป็นคำสั่งเพื่อที่จะให้สลายการชุมนุม และจะไม่มีการใช้กำลัง ถ้ากำลังตำรวจเข้าไปก็จะให้ทีวี เข้าไปถ่ายทอดด้วย

ยันฟังไม่ผิดนายกฯสั่งลุย

“คำพูดของนายกฯวันนี้ แตกต่างจากเมื่อวาน เพราะไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน นักวิชาการ นักการเมือง ฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ต่างมีความเห็นตรงกันว่า คำพูดของนายกฯ ใช้คำแตกหัก เพราะจะเอาตำรวจทหารเข้าไปดำเนินการ ไม่ว่านายกฯจะใช้คำอะไรในวันนี้ ก็ไม่สามารถลบล้างที่ท่านแสดงออกเมื่อวาน และแม้เมื่อวานจะไม่ใช้คำพูดว่าสลายการชุมนุม แต่องค์ประกอบโดยรวมก็ไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้ ทำให้วันนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องกลับจากภารกิจในต่างจังหวัดและเรียกประชุมแกนนำด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์ เพราะไม่เชื่อมั่นรัฐบาล ที่พูดกลับไปกลับมา จะตีสองหน้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะรัฐบาลไม่แสดงความจริงใจในการแก้ปัญหานี้อย่างแท้จริง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

เสนอ รบ.3 ข้อยุติสร้างเงื่อนไข

นายองอาจกล่าวอีกว่า ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ มีข้อเสนอถึงรัฐบาลดังนี้ 1. ให้อดทน อดกลั้น ในการแก้ไขปัญหา รัฐบาลต้องพึงระวังเสมอว่าใครที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาลก็มีสิทธิที่จะชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ แต่ถ้าทำอะไรที่ผิดกฎหมายก็สามารถจัดการได้ แต่ไม่ควรใช้กำลัง 2. รัฐบาลต้องยุติการสร้างเงื่อนไขใดๆที่จะเกิดการชุมนุมขึ้นมาอีก 3. รัฐบาลต้องยุติการใช้อำนาจเกินขอบเขต และการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลต้องยุติการเล่นเล่ห์เพทุบาย อย่ามองประเทศชาติเป็นเกม เอาชนะคะคานกัน เมื่อเป็นรัฐบาลก็ต้องคำนึงถึงความสงบสุขของประชาชน แม้จะเข้ามาโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็ต้องมีความชอบธรรมด้วย ขอยกตัวอย่างการขายหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็ขาดความชอบธรรม รวมทั้งกรณีของพล.อ.สุจินดา คราประยูร ที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยการยกมือสนับสนุนของ ส.ส.แม้จะชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ชอบธรรม เพราะว่ามาจากการยึดอำนาจ และ ส.ส.ก็ซื้อเสียงเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้นำบทเรียนไปทบทวนด้วย นอกจากนี้ กรณีที่มีรายงานข่าวมาจากกระทรวงกลาโหม ว่าจะมีการหยิบยก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเข้ามาดำเนินการกับผู้ชุมนุม ซึ่งก็ขอเตือนว่าอย่าพยายามใช้ พ.ร.ก.นี้กับผู้ชุมนุม เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ใช่อาชญากร หรือผู้ก่ออาชญากรรม หรือผู้ทำลายความมั่นคงของประเทศ

ผบ.สส.แนะพันธมิตรฯย้ายที่ชุมนุม

นอกจากในวันเดียวกัน พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวที่โรงเรียนเตรียมทหาร ต.ศรีกะอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก ถึงการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศจะไม่ใช้ความรุนแรงในการจัดการกับผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เรื่องดังกล่าวเชื่อว่าทุกคนคงจะเห็นด้วย เพราะการใช้ความนุ่มนวลนั้นเป็นสิ่งที่ดี ต่อคำถามว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการพูดจาประสาสมัครเมื่อตอนเช้าว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกีดขวางเส้นทางเสด็จฯนั้น  พลเอกบุญสร้างกล่าวว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นถนนพระราชดำเนิน และยังมีคนทั่วไปใช้ด้วย หากจะมีการเคลื่อนย้ายไปจุดอื่นก็ดีเหมือนกัน ต้องลองคุยกันดูว่าจะให้ย้ายไปที่ไหนดีส่วนข้อเสนอให้สองฝ่ายถอยคนละก้าว ตนเองคิดว่าหากสองฝ่ายไปหาทางประนีประนอมหาทางทำความเข้าใจความต้องการของกันและกันแบบคนไทย อาจจะมีผู้เชี่ยวชาญในการเจรจาเรื่องยากๆ เช่น พวกสันติวิธีมาเป็นคนพูดคุย ซึ่งอาจจะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และต้องพึ่งคนพวกนี้ให้มากๆ

ชี้ช่องหามืออาชีพมาช่วยเจรจา

เมื่อถามถึงบทบาทของทหารในเรื่องนี้ ผบ.ทหารสูงสุดกล่าวว่า ส่วนทหารนั้นต้องเฝ้าประเทศชาติและเน้นเรื่องการป้องกันประเทศเป็นหลัก ส่วนเรื่องภายในเป็นเรื่องของตำรวจ ทหารไม่ต้องห่วงเรื่องการวางตัว เพราะเป็นคนมีวินัยไม่ทำตามอารมณ์ เราทำตามกฎหมายและคำสั่ง ส่วนข้อเสนอแนะถึงผู้ชุมนุมนั้น ก็ขอให้ผู้นำทั้งหลายไปคุยกันโดยนึกถึงชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ซึ่งคิดว่าสิ่งที่ต่างคนต่างต้องการนั้น หากคุยกันด้วยใจที่มุ่งกับประโยชน์ ส่วนรวมเชื่อว่าคงจะคุยกันได้ แต่ทหารคงไม่ไปคุย หรือเป็นคนกลาง แต่คนที่ชำนาญในเรื่องการประสานประโยชน์ ในเมืองไทยมีมาก คิดว่าระดับรัฐบาลจะทราบดีว่าใครเป็นผู้เชี่ยวชาญ

“หมอเหวง” ชี้ช่องแยกหัวโจกกลุ่มชุมนุม

ส่วน นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 (คปพร.) ที่กล่าวภายหลังเข้าร่วมสัมมนาสภาประชาชน หัวข้อ “เอารัฐธรรมนูญ 50 คืนไป รัฐธรรมนูญ 40 คืนมา” ที่หอประชุมคุรุสภา ว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯที่เปลี่ยนเป้าหมายไป เป็นการไล่รัฐบาล ถือเป็นการชุมนุมที่ขัดต่อกฎหมาย และขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น ม.63 ที่ว่าแม้รัฐธรรมนูญรับรองเสรีภาพการชุมนุมไว้ แต่ต้องปราศจากอาวุธ การที่พันธมิตรฯนำไม้เบสบอลมาใช้ ถือว่ามีเจตนานำอาวุธมาใช้ในที่ชุมนุม ถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญข้อนี้ นอกจากนี้ ยังขัดรัฐธรรมนูญ ม.68 ที่ว่าผู้ใดจะใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้นมิได้ รวมทั้งผิดกฎหมายอาญา ม.113 ที่ระบุว่า ผู้ใดข่มขู่ ประทุษร้ายการบริหารประเทศ ถือเป็นความผิด เจ้าหน้าที่ควรจะดำเนินการ ส่วนเรื่องการสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ นั้น รัฐบาลควรใช้วิธีละมุนละม่อม ไม่ควรทำร้ายประชาชน ถ้าจะทำก็ควรแยกตัวหัวโจกพันธมิตรฯ ออกจากประชาชนที่เข้าร่วม อย่างไรก็ตาม มองว่าพันธมิตรฯน่าจะไปใช้ สถานที่ชุมนุมอื่นที่ไม่ต้องทำให้ใครเดือดร้อน อาทิ เช่น สวนลุมพินี หรือลานคนเมือง เป็นต้น ส่วนการเดินหน้าเข้าชื่อเสนอแก้รัฐธรรมนูญนั้น คปพร.จะยังคงเป็นหัวหอกในการดำเนินการต่อ โดยจะรวบรวมประชาชนให้ได้ 2 แสนรายชื่อเสนอสภา พร้อมจะขอยื่นขอแก้เฉพาะมาตราที่มีช่องโหว่ ขอร้องพันธมิตรฯอย่ามาใส่ร้ายป้ายสี เพราะที่ทำไม่ได้ทำเพื่อปกป้องอดีตนายกฯ แต่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญเผด็จการเท่านั้น

โพลชี้คนไทยอยากเห็นสังคมสงบ

วันเดียวกัน ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนใน 15 จังหวัดของประเทศ ทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาล ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ สมุทรสาคร ระยอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ชลบุรี นครพนม ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ขอนแก่น ภูเก็ต และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 3,487 คน เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชนต่อเหตุการณ์บ้านเมืองขณะนี้เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ประชาชนอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 88.8 ในเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ร้อยละ 94.1 ในเดือนพฤษภาคม

ส่วนใหญ่กังวลปัญหาการเมือง

นอกจากนี้ ประชาชนยังอยากเห็นสื่อมวลชนเสนอข่าวให้คนไทยรู้สึกดีต่อกันเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 81.7 มาอยู่ที่ร้อยละ 86.5 และพบว่าประชาชนวิตกกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 62.4 มาอยู่ที่ร้อยละ 79.6 ประชาชนวิตกกังวลต่อเหตุการณ์บ้านเมืองเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 58.2 มาอยู่ที่ร้อยละ 85.5 และคิดว่าการแบ่งขั้วทางการเมือง ทำให้สังคมไทยแตกแยกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากร้อยละ 57.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 60.3 และมองว่าสังคมไทยกำลังเข้าใกล้สภาพบ้านป่าเมืองเถื่อน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 53.9 ในเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ร้อยละ 74.8 ในการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ และเมื่อถามว่า ณ วันนี้ กล้าพูดประโยคต่อไปนี้ ได้เต็มที่หรือไม่ ผลสำรวจพบว่า คนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 68.8 ไม่กล้าพูดเต็มที่ว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่สงบสุข รองลงมา คือ ร้อยละ 65.1 ไม่กล้าพูดว่า วันนี้คนไทยรักกัน ร้อยละ 64 ไม่กล้าพูดว่าผู้ใหญ่ในสังคมไทยมีความเมตตา กรุณา ร้อยละ 63.8 ไม่กล้าพูดว่า มาเที่ยวเมืองไทย มีแต่ รอยยิ้ม อย่างไรก็ตาม คนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.4 กล้าพูดว่า ถ้าเลือกเกิดได้อยากเกิดเป็นคนไทยอีก

เชื่อการชุมนุมจะรุนแรงขึ้น

นอกจากนี้ ในส่วนแนวโน้มความรุนแรงของการชุมนุมในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 66.3 คิดว่าจะรุนแรงเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28.1 คิดว่าจะเท่าเดิม และร้อยละ 5.6 เท่านั้นที่คิดว่าจะลดลง และส่วนใหญ่ยังคิดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เด็กและเยาวชนไทยจะลอกเลียนแบบความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุของการใช้ความรุนแรงในการชุมนุม พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.1 ระบุมาจากการท้าทาย ยั่วยุ ข่มขู่ รองลงมาคือ ร้อยละ 72.2 ระบุการขาดสติ ไม่ยับยั้งชั่งใจ ร้อยละ 70.8 ระบุการกระทำของมือที่ 3 กลุ่มสร้างสถานการณ์ เมื่อถามถึงทางออกของปัญหาวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.2 ระบุความมีสติสัมปชัญญะ ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ รองลงมาคือร้อยละ 75.4 การยอมถอยคนละก้าว ร้อยละ 72.7 ระบุรู้จักการให้อภัย ร้อยละ 69.3 ระบุการให้โอกาสแก่กันและกัน

“วรัญชัย” แจ้งความกลุ่มชุมนุมล้ม รบ.

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.ต.ชุติพงษ์ ตระกรุดทอง พงส. (สบ 2) สน.ดุสิต เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯในข้อหาเป็นกบฏล้มล้างรัฐบาล และกีดขวางการจราจร โดยนายวรัญชัยกล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯมาชุมนุมเพื่อล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นการไม่ถูกต้องเข้าข่ายเป็นกบฏ ประกอบกับการชุมนุมยังมีการปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และสร้างความไม่สงบสุขในบ้านเมือง ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ตำรวจจึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป

หวั่นรื้อสิ่งกีดขวางกลุ่มชุมนุมยิ่งปะทุ

จากนั้นในเวลา 15.00 น. ที่ บช.น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกับ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อด้วย พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ประมาณ 9,000 คน ส่วนบริเวณสนามหลวงมีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯประมาณ 800 คน ในจำนวนนี้มีกลุ่มจักรยานยนต์ประมาณ 100 คัน พยายามเคลื่อนขบวนไปยังสะพานมัฆวานฯ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นไว้ได้ ตำรวจพยายามขอร้องแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ให้เลิกการชุมนุม หรือหากต้องการชุมนุมก็ให้ไปใช้พื้นที่อื่นที่ไม่กีดขวางการจราจร แต่ก็ไม่เป็นผล แม้ว่าตำรวจจะมีอำนาจสั่งให้รื้อถอนสิ่งกีดขวางการจราจรได้ก็ตาม แต่ขณะนี้ พล.ต.อ.วิเชียรได้สั่งระงับคำสั่งดังกล่าวไว้ก่อน เพราะเกรงจะเป็นชนวนความรุนแรง

ย้ำ ตร.ยังเน้นเจรจาให้ถึงที่สุด

ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นการเจรจาให้ถึงที่สุด ที่ผ่านมาตำรวจทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุมตามคำสั่งของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ซึ่งทราบว่าได้สั่งการผ่าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ไปยัง พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแพรศรี ผบก.จร. เจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมให้เปิดเส้นทางจราจร เพราะมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน จึงพยายามเจรจาขอให้เคลื่อนย้ายสิ่งของที่กีดขวางการจราจรออกไปจากเส้นทาง

“สนธิ” แนะรัฐบาลควรฟังพันธมิตร

ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถึงสถานการณ์การชุมนุม ว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯได้นำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ดังนั้น ทางรัฐบาลก็ต้องมองปัญหาให้ออก ซึ่งตนคิดว่าประชาชนที่เข้าร่วมก็มีความเข้าใจในแต่ละปัญหาดี ผู้สื่อข่าวถามว่า  ทางออกของการเมืองในขณะนี้ที่จะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกจะทำอย่างไร พล.อ.สนธิกล่าวว่า คิดว่าจิตสำนึกของคนไทยจะต้องมองถึงส่วนรวมเป็นหลัก อย่าไปมองถึงผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการชี้แจงถึงปัญหาและข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งรัฐบาลควรจะต้องรับฟังและนำมาปรับแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ตรงนี้จะต้องฟังกัน แล้วจะทำอย่างไรให้เกิดความสมานฉันท์มากขึ้น รัฐบาลก็ต้องพิจารณา

ยังไม่เห็นเหตุให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ต่อข้อถามว่า รัฐบาลและพันธมิตรฯควรจะต้องถอยคนละก้าวหรือไม่  พล.อ.สนธิตอบว่า  คงไปพูดตรงนั้นไม่ได้ แต่ทุกคนต้องมองถึงผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ในขณะนี้สมควรจะประกาศภาวะฉุกเฉินหรือยัง พล.อ.สนธิย้อนถามว่า ตอนนี้มันวิกฤติหรือยัง ถ้ายัง ก็ยังไม่สมควรใช้ พ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งรัฐบาลจะต้องใช้ดุลพินิจร่วมกับทางกองทัพ แต่ส่วนตัวดูแล้วก็ยังไม่มีเหตุอะไรรุนแรงและทางกลุ่มพันธมิตรฯก็ใช้หลักสันติวิธีในการชุมนุม ก็อยากให้รัฐบาลฟังเสียงของประชาชนที่สะท้อนมาดีกว่า ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่าให้ไปถามประชาชนหมายความว่าอย่างไร พล.อ.สนธิกล่าวว่า  ก็มีวิธีการในการหาข้อมูลกับประชาชน  เช่น ทำโพล หรือทำวิจัยเชิงวิชาการแล้วนำมาประมวลผล ซึ่งจะสะท้อนความต้องการของประชาชนได้

กลุ่มชุมนุมใจปํ้าแจกดอกไม้-หมวกเหลือง

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมในช่วงบ่ายถึงเย็น ปรากฏว่าประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางเข้ามาจับจองพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินนอก เพื่อรับฟังการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯที่จะขึ้นกล่าวบนเวที ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้นำดอกพุทธรักษาสีเหลืองทำด้วยผ้าหลายพันดอก และหมวกแก๊ปจำนวน 7 พันใบ สีเหลืองมีตราสัญลักษณ์งาน 80 พรรษา  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ประดับอยู่ด้วยหน้าหมวก พร้อมกับเขียนคำว่า “ทรงพระเจริญ” อยู่ด้านล่าง ส่วนด้านหลังเขียนคำว่า “เทิดทูนเหนือเกล้าฯ” ออกแจกจ่ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมอีกด้วย

ประสาน ตร.ตลอดเรื่องเส้นทาง

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวหาผู้ชุมนุมว่ากีดขวางเส้นทางขบวนเสด็จพระราชดำเนินว่า ความจริงได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา ไม่เชื่อให้ไปสอบถาม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ได้ เพราะทันทีที่ทราบหมายกำหนดการเสด็จฯ เราพร้อมที่จะเก็บเครื่องกีดขวางและปรับมาเป็นขบวนรับเสด็จฯทันที แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่มีขบวนเสด็จฯแต่อย่างใด ตนคิดว่านายกฯไม่ควรนำเรื่องนี้มาทำลายความชอบธรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ และไม่ควรใช้สถาบันมาเป็นเงื่อนไขทางการเมือง มันไม่เหมาะสม อยากบอกประชาชนทั้งประเทศว่า พันธมิตรฯจะชุมนุมอย่างยืดเยื้อโดยสงบ

มั่นใจคนหนุนเยอะสลายยาก

ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯกล่าวว่า เรื่องการสลายการชุมนุมนั้นทั้งฝ่ายตำรวจและความมั่นคงยังไม่สามารถปฏิบัติการได้ เพราะมีประชาชนมากันมาก ซึ่งตามหลักการแล้วหากน้อยกว่า 5 พันคนก็จะสลายได้ อย่างไรก็ตาม คำสั่งการสลายการชุมนุมของนายสมัคร ยังคงอยู่  แต่ที่ทำไม่ได้เพราะมีองค์กรต่างๆ  คัดค้าน อย่างไร ก็ตาม ในส่วนของพันธมิตรฯ ได้เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการสลายการชุมนุมจะมีการล่ารายชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ได้เตรียมการอะไรเอาไว้ กลุ่มพันธมิตรฯได้เตรียมการระวังเรื่องเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นภายในที่ชุมนุมเท่านั้น และสั่งการไม่ให้ยั่วยุเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ยอมรับต้องการกดดันรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้ได้รับการติดต่อเจรจาจากทางฝ่ายรัฐบาลหรือยัง นายสุริยะใสกล่าวว่ายัง แต่เรื่องการย้ายที่ชุมนุมมันจบไปแล้ว เพราะถ้าไม่ชุมนุมที่แห่งนี้ ก็จะไม่กดดันรัฐบาลและไม่รู้จะชุมนุมไปทำไม การชุมนุมทางการเมืองจะต้องสร้างความกดดันนี้ คือเหตุผลที่ต้องปักหลักอยู่ที่สะพานมัฆวานฯ รัฐบาลมีหน้าที่แก้ไขปัญหาด้วยวิธีการนุ่มนวล ไม่ใช่ใช้กำลัง เพราะไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหา

โต้ข่าวแกนนำแตกคอกันแล้ว

นอกจากนี้   นายสุริยะใสกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าแกนนำแตกคอกันเองว่า ขอยืนยันว่าแกนนำทั้ง 5 คนยังมีเอกภาพอยู่ แต่จะแตกต่างเพียงแนวความคิดเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และการที่นักวิชาการออกมาเรียกร้องให้พันธมิตรฯ และรัฐบาลถอยหลังคนละก้าว เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น จะถอยได้อย่างไร ในเมื่อรัฐบาลไม่เคยถอย มีแต่จะรุกคืบมา อย่างเช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พอเรื่องจบ ฝ่ายพลังประชาชนก็เตรียมยื่นญัตติแก้ไขต่อ ส่วนเรื่องของนายจักรภพ ที่ลาออกไปนั้น หากไม่จวนตัวมีหรือจะลาออก

เผยเป้าหมาย รบ.ยุบสภา/ลาออก

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป้าหมายของพันธมิตรฯ ในการชุมนุมครั้งนี้คืออะไร ผู้ประสานงานพันธมิตรฯกล่าวว่า จะชุมนุมเพื่อรัฐบาลประกาศยุบสภาหรือลาออกเท่านั้น ดังนั้น ในเรื่องเส้นทางการจราจรของนักเรียนในช่วงการชุมนุมที่มีปัญหา ตนจะประสานกับทางโรงเรียนและวัดต่างๆ ที่อยู่ในละแวกนี้ โดยในช่วงที่นักเรียนมาโรงเรียนก็จะเปิดเส้นทางบริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ส่วนหน่วยงานต่างๆนั้น ตนขอรบกวนให้เข้ามาประสานกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะทุกอย่างสามารถยืดหยุ่นกันได้

รสก.ขู่หยุดงานหากสลายกลุ่มชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเวลา 18.00 น. เป็นต้นมา ได้มีประชาชนทยอยกันเข้ามารับฟังการปราศรัยของแกนนำพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นจนยาวไปถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ขณะเดียวกัน บนเวทีปราศรัยก็มีบุคคลต่างๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นกล่าวโจมตีรัฐบาลนายสมัคร ซึ่งรวมถึง นายสาวิตย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ได้ขึ้นมาประกาศแถลงการณ์เรื่อง การตอบโต้รัฐบาล หากใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม โดยกล่าวว่า รัฐบาลไร้ความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมือง ประชาชนจึงมาชุมนุมขับไล่ และให้มีการตรวจสอบ ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ สามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย สมาพันธ์ฯ มีสมาชิกเป็นสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรวม 43 แห่ง ทั้งหมดจะส่งตัวแทนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ถนนราชดำเนินแห่งนี้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ และหากรัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุม  สมาชิกทั้ง  43  แห่ง  จะตอบโต้ด้วยการหยุดงานพร้อมกันทั่วประเทศทันที

มวยราชดำเนินโวยกลุ่มชุมนุมทำเจ๊ง

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ สุดจะปลาบปลื้มที่มีคนแห่เข้ามาให้การสนับสนุนด้วยการเข้ามาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ส่งผลกระทบให้กับกิจการในละแวกดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือ สนามมวยราชดำเนิน ที่กลับมีแต่ความเงียบเหงา แทบจะไร้คนมาดูการชกมวย ทั้งที่ตามปกติช่วงเสาร์อาทิตย์จะมีคอมวยเข้ามาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งนี้ นายชูเจริญ รวีอร่ามวงศ์ หรืออั้งม้อ โปรโมเตอร์ เวทีมวยราชดำเนิน ที่ออกมายืนดูกลุ่มผู้ชุมนุมที่ท้ายขบวนอยู่ไม่ไกลหน้าเวทีมวยฯมากนัก และได้ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีว่า อยากวอนขอความเห็นในกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะการมาปักหลักประท้วงปิดถนน ทำให้รายได้ของการจัดมวยหายไปถึง 4-5 แสนบาทต่อครั้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ยกเลิกการเข้ามาเที่ยวชมดูมวยจากเดิมลงไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และเห็นว่าการชุมนุมจะทำก็ทำไป ไม่เข้าข้างฝ่ายไหน แต่ก็ไม่ควรปิดถนน เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ในส่วนของนักมวยและโปรโมเตอร์ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมครั้งนี้ เพราะคนเข้าชมลดลงมาก ทำให้ขาดทุน หากการชุมนุมยืดเยื้อจนเราทนไม่ไหวแล้ว ก็จะนำนักมวยของเวทีราชดำเนินมาประท้วงผู้ชุมนุมบ้าง เพราะขณะนี้โปรโมเตอร์มวยทั้ง 14 คนของที่นี่ ต่างขาดทุนกันไปเป็นล้านบาทแล้ว

ประกาศกร้าวไม่กลัวรัฐบาล

ต่อมาในเวลา 20.30 น. บรรดาแกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ประกาศแถลงการณ์เรื่องการประณามนายกรัฐมนตรี รัฐบาลเผด็จการหุ่นเชิด โดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ว่า หลังจากกลุ่มพันธมิตรฯประกาศจุดยืนการชุมนุมอย่างยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศผ่านโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อวันที่ 31 พ.ค. อย่างแข็งกร้าวว่าจะให้ทหารตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุม หลังประกาศออกไป ปรากฏว่าได้มีประชาชนเข้ามาร่วมการชุมนุมต่อต้านมากขึ้น เพราะกำลังบริสุทธิ์ของประชาชนไม่หวาดกลัวการคุกคามของรัฐบาล เป็นผลทำให้แผนของรัฐบาลหุ่นเชิดล้มเหลวลงไป นายสมัครจึงต้องออกทีวีเอ็นบีทีอีกครั้ง โดยพูดจากลับลำแก้ตัวว่าจะใช้วิธีการเจรจาก่อน

สวนกลับ “สมัคร” ดึงฟ้าต่ำ

นอกจากนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า นายสมัครยังพูดดึงฟ้าต่ำ พูดแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาโจมตีผู้ชุมนุมว่าไม่จงรักภักดี เพราะกีดขวางทางเสด็จพระราชดำเนิน กลุ่มพันธมิตรฯขอประณามนายสมัครว่า หมดความชอบธรรมจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ใช้วาจาส่อเจตนาว่าจะใช้ความรุนแรงต่อประชาชน  ขอเรียกร้องให้นายสมัครลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และขอให้พรรคร่วมรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากรัฐบาล ส่วนเรื่องพูดจาแอบอ้างสถาบันฯ ว่าผู้ชุมนุมไม่จงรักภักดีขวางทางเสด็จฯนั้น พันธมิตรฯขอชี้แจงว่า การชุมนุมมีวัตถุประสงค์ที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จงรักภักดีตามที่นายกฯพยายามพูดบิดเบือน และที่ต้องชุมนุมบริเวณนี้ก็เพราะถูกตำรวจสกัด ไม่ให้ไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล หากผู้ชุมนุมทราบว่าจะมีการเสด็จฯผ่านทางเมื่อใด จะเปิดเส้นทางและจะรอรับเสด็จฯด้วยความจงรักภักดี

 
โวมีทหารรุ่นน้องให้เงินหนุนกลุ่มชุมนุม

หลังจากนั้น พล.ต.จำลองได้กล่าวบนเวทีด้วยว่า มีความพยายามปล่อยข่าวออกมาว่าประชาชนมาร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนินจะไม่มีความปลอดภัย ผู้ชุมนุมอาจได้รับอันตรายเหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ จึงขอให้เข้าใจว่าทุกคนมาชุมนุมที่ตรงนี้เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณประเทศชาติ ทุกคนจึงไม่กลัว และจะปักหลักต่อสู้กันต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวตอนหนึ่งว่า การชุมนุมของประชาชนในครั้งนี้ นอกจากประชาชนทั่วไปให้การสนับสนุนแล้ว ยังมีนายทหารรุ่นน้องส่วนหนึ่งก็ให้การสนับสนุนด้วย โดยมีการบริจาคเงินเข้ามาสองครั้ง ครั้งแรก 5 แสนบาท ครั้งที่สอง 4 แสนบาท รวมเป็น 9 แสนบาท และในวันนี้ยังมีนายทหารนอกราชการเป็นอดีตเสนาธิการทหารบก ได้มาร่วมบริจาคอีก 1 หมื่นบาท ซึ่งยอดบริจาคยังมีเข้ามาเรื่อยๆ และว่าในที่ชุมนุมนอกจากตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยให้ ผู้ชุมนุมแล้ว แล้วยังมีนายทหารแฝงตัวมาช่วยดูแลความปลอดภัยให้อีกทางหนึ่งด้วย

แก๊ง จยย.โผล่ป่วนพันธมิตรอีก

กระทั่งเวลาประมาณ 21.20 น. ในขณะที่ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ กำลังให้ความสนใจกับการปราศรัยสลับการแสดงบนเวที ปรากฏว่าที่บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรฯ ได้มีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ซึ่งชุมนุมกันอยู่ที่สนามหลวงได้ขี่รถจักรยานยนต์ประมาณ 150 คัน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ใช้ผ้าสีแดงโพกศีรษะ มีสติกเกอร์ปิดทับแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนผู้ซ้อนท้ายถือไม้และท่อนเหล็ก ขับมาวนเวียนรอบๆ จุดดังกล่าว แล้วจอดรถบีบแตรรถเสียงดังลั่น พร้อมส่งเสียงโห่ร้องขับไล่ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำแผงเหล็กมากั้นไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และไม่ยอมให้พวกนี้ผ่านไปได้ ทำให้กลุ่มจักรยานยนต์ทั้งหมดต้องวนรถกลับไป โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
 
 
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 02-06-2008, 10:04 »

แกนนำพันธมิตรเย้ย'หมัก'หมดภาวะผู้นำ
สั่งสลายม็อบไม่ได้ จี้พรรคร่วมรัฐบาลลอยแพ

มติชน วันที่ 02 มิถุนายน 2551 เวลา 09:29:44 น.

เวทีพันธมิตรเย้ย 'หมัก' ไร้ภาวะผู้นำสั่งสลายการชุมนุมไม่ได้ โดยกลางดึกคืนวานออกแถลงการณ์ประณาม 'สมัคร' ใช้วาจาส่อใช้ความรุนแรง ร้องพรรคร่วมฯถอนตัวลอยแพนายกฯ หลังกลับลำไม่กล้าแตกหัก ปัดใช้กำลัง ให้ตร.กล่อมพันธมิตรเปิดทาง

แกนนำพันธมิตรเย้ย 'หมัก' หมดสภาวะผู้นำ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงเช้าวันที่ 2 มิถุนายน ว่า นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาเหมือนลิงแก้แห จึงอยากฝากบอกนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า การบริหารบ้านเมืองมันไม่ง่ายเหมือนกับผัดสะตอ ซึ่งตรงนี้ถือว่าอันตราย โดยเฉพาะวิธีคิดเรื่องการชุมนุมที่เขาคิดว่าเป็นเรื่องผิด ซึ่งนายสมัคร ออกอากาศว่าจะสลายการชุมนุม แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วกลับบอกว่าไม่ได้พูด การกระทำดังกล่าวถือว่าหมดสภาวะในการเป็นผู้นำทันที และนายสมัคร เป็นคนหมดอำนาจรัฐ เพราะสั่งการอะไรไม่ได้แล้ว
       

'นอกจากนี้นายสมัคร ยังไปเกี่ยวข้องกับบริษัทโฆษณา ซึ่งนายสมัคร ออกมาระบุว่าไม่ได้เป็นลูกจ้าง แต่รับจ้าง ซึ่งนายสมัครรู้ว่ากฎหมายระบุเอาไว้ว่าห้ามเป็นลูกจ้าง ซึ่งการรับจ้างนั้น เป็นเรื่องการอธิบายเรื่องของการกระทำซึ่งประสงค์ต่อความสำเร็จของงาน ส่วนลูกจ้างนั้น คือ ทำงานให้กับนายจ้าง เสร็จไม่เสร็จไม่รู้ นายจ้างต้องจ่ายเงิน ถ้าไม่ดีนายจ้างจะลงโทษอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่เอามาใช้ในตำแหน่งนายกฯ เพราะเงินเดือนซึ่งเป็นภาษีของประชาชนนั้น จ่ายให้พอเพียงแล้วที่จะครองชีพอย่างปกติสุข ไปไหนก็กินฟรี มีรถนั่ง มีรถนำทาง จะโกงก็ทำได้ทั้งๆ ที่ผิดกฎหมาย' นายสมศักดิ์ ระบุ

พันธมิตรแถลงการณ์ ยุพรรคร่วมถอนตัว

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 1 มิถุนายน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งหมด ขึ้นเวทีพร้อมกัน จากนั้น พล.ต.จำลองอ่านแถลงการณ์พันธมิตร ฉบับที่ 13/2551 เพื่อประกาศจุดยืน 6 ข้อ

1) พันธมิตรขอบคุณประชาชนทั่วทุกสารทิศนับแสนคน ที่ได้หลั่งไหลเข้ามาร่วมการชุมนุม รวมถึงสื่อสารมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่นำเสนอข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นผลทำให้การชุมนุมรอดพ้นจากความป่าเถื่อนในการสลายการชุมนุม

2) ขอประณามการกระทำของนายสมัครว่าหมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะได้ใช้วาจาที่ส่อให้เห็นถึงเจตนาที่จะใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ใช้สิทธิในการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ จึงเรียกร้องให้นายสมัครแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกฯทันที

3) ขอประณามนายสมัครที่ได้พูดจาแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อมาโจมตีผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้ไม่จงรักภักดีเพราะมากีดขวางเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินนั้น เป็นความชั่วร้ายที่อาจทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้เสื่อมเสียต่อพระเกียรติของสถาบันพระมหากษัตริย์ได้
สาเหตุการชุมนุมที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์นั้นเกิดขึ้น เพราะตำรวจนำเครื่องกีดขวางการจราจรมาขัดขวางมิให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปยังที่ทำเนียบรัฐบาล นอกจากนั้น หากพันธมิตรได้ทราบว่าจะมีขบวนเสด็จฯผ่านมายังสถานที่ชุมนุมเมื่อใด กลุ่มผู้ชุมนุมก็พร้อมจะเปิดเส้นทางโดยทันที และแปรขบวนเป็นพสกนิกรที่จะคอยต้อนรับเสด็จด้วยความจงรักภักดีสูงสุด 

4) จากพฤติกรรมและทัศนคติที่เป็นอาชญากรรมของนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด ด้วยการแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อทำลายการชุมนุมของประชาชนที่จงรักภักดีนั้น พันธมิตรจึงขอกราบเรียนวิงวอนให้พรรคร่วมรัฐบาลได้โปรดแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศชาติ ด้วยการหยุดให้การสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยทันที

5) ตลอดเวลาการชุมนุม ตั้งแต่ปี 2549 นั้นได้พิสูจน์แล้วว่า มีแต่ความสงบ สันติ อหิงสา และปราศจากอาวุธมาโดยตลอด ไม่เคยก่อความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น หากมีแผนการใดๆ จากฝ่ายรัฐบาล ทั้งที่มาจากเจ้าหน้าที่รัฐนอกเครื่องแบบ หรือกลุ่มอันธพาลรับจ้าง ที่จะเข้ามาแทรกซึม แล้วสร้างความวุ่นวายหรือก่อเหตุรุนแรง เพื่อแอบอ้างเป็นสาเหตุในการสลายการชุมนุมนั้น ต้องถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว

6) ความยืนหยัดและเด็ดเดี่ยวของประชาชนตลอดระยะเวลา 8 วัน 8 คืนที่ผ่านมา เป็นวีรกรรมที่สมควรแก่การยกย่อง ได้โปรดยืนหยัดและเด็ดเดี่ยวอย่างหาญกล้า เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ เพื่อบรรลุชัยชนะในการโค่นล้มระบอบทักษิณ และขับไล่รัฐบาลให้จงได้ในเร็ววันนี้

 
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #6 เมื่อ: 02-06-2008, 10:06 »

NBT และเครือข่ายของรัฐบาลต้องรีบจัดทำสกุ๊ปข่าวเรื่องรถติดคนเดือดร้อนแล้ว on air ให้แบบคม ชัด ลึก เลยน๊ะคร้า
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 02-06-2008, 10:17 »

เมื่อวาน NBT ส่งนักข่าวเข้าไปถ่ายทอดสด เวลาประมาณ 17.00 น.

พยายามถามนำ แต่ ชาวบ้านไม่รับมุก เลยแป็กไปหลายคำถาม อิ อิ

ในขณะที่ ไทยพีบีเอส เข้ารายงาน สัมถาษณ์เด็ก สัมภาษณ์พ่อแม่

ถามว่าทำไมพาลูกมาร่วมชุมนุม เค้าตอบว่า อยากให้ลูกมาร่วมเรียนรู้การใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

มีสอบถามเด้ก ๆ ด้วย

สงครามสื่อ ยกใหม่....ถ้ายังไง NBT ก็อย่าไปถามนำ ในคำตอบที่ตนต้องการมากนัก...

วิธีตั้งคำถาม มันจะบ่งบอกถึงความมุ่งหมายในคำตอบ

ทีหลังอย่าทำ...ไม่ดี ไม่ดี...
บันทึกการเข้า

วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #8 เมื่อ: 02-06-2008, 18:42 »

กลับมาติดตามสถานการณ์แล้วครับ

หลังจากไปเชียงใหม่มา 2 วัน



บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-06-2008, 19:13 »

บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตร จนถึงขณะนี่มีประชาชนมาร่วมฟังการปราศัย 800 คน พันธมิตรได้ร่นแนวการชุมนุมจากเสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านที่กั้นแนวด้านหลังที่แยกจปร.แต่วันนี้ร่นมาที่บริเวณกองทัพบกเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนเวทีใหม่จากเดิมที่เป็นเวทีบนหลังรถบรรทุก แต่วันนี้ตั้งเป็นเวทีถาวร

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดระเบียบการชุมนุมว่า อะไรที่อะลุ้มอะล่วยได้ผู้ชุมนุมก็จะจัดระเบียบเพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุดอย่างวันนี้โรเงรียนมัธยมวัดมกุฎกษัตริย์ได้ทำหนังสือ เพื่อขอให้พันธมิตรเปิดช่องทางการจราจร ให้นักเรียนที่สัญจรไปมาโดยพันธมติรก็เปิดทางให้รถวิ่งผ่านบริเวณหลังเวที โดยจะเปิด เวลา  15.00-18.00 น. 

ส่วนที่มีแม่ค้าเดือดร้อนจากการชุมนุมนั้นก็ยังไม่มีใคร้องเรียนมาแต่อย่างใดแต่หากมีปัญหาก็ให้มาปรึกษากัน อย่าให้ถึงขั้นเป็นคดีความกันเลย ส่วนการเปลี่ยนเวทีนั้นก็เพื่อต้องการการรักษาความปลอดภัยโดยจะมีการจัดระเบียบและสกรีนคน ที่จะเข้าหลังเวที

ส่วนที่นักวิชาการ ตั้งกลุ่มประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ โดยรณงค์ให้ติดริบบิ้นขาวนั้น เป็นความคิดริเริ่มสร้างสรรค์การเคลื่อนของพันธิตรไม่น่ากังวลเพราะเราเคลื่อนไหวแบบสันติอหิงสาแต่อีกฝ่ายมีท่าทีคุกคามมุ่งทำร้ายหากจะเรียกร้องต้องไปเรียกร้องอีกฝ่ายไม่ให้สร้างเงื่อนไขในการเผชิญหน้า

ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องมากว่าบนเวทีพูดจาหยาบคายตั้งแต่คืนนี้พันธมิตรก็จะปรับวิธีการปราศรัยไม่ให้หยาบคาย ตั้งแต่พรุ่งนี้ เป็นต้นไป 19.00 น.-22.00 น. จะเน้นการปราศรัยทางที่มีสาระเนื้อหาเกี่ยวกับการเปิดโปงระบอบทักษิณและวาระซ่อนเร้นของรัฐบาลจะเชิญนักวิชาการมาปราศรัยและอธิบายให้เห็นถึงความชอบธรรมของการชุมนุม

ส่วนที่มีคนระบุว่าให้ถอยคนละก้าวนั้น ที่ผ่านมาเราได้ไปทีละขั้นไปทีละตอนไม่ได้รวบรัดตัดตอนอย่างใด  ฝ่ายที่ควรถูกเรียกร้องคือฝ่ายการเมือง ที่จะต้องทำให้บรรยากาศคลี่คลายไม่ว่าจะเป็นการถอยการยื่นญัตติแก้ไขรธน. แต่ทุกวันนี้ ไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้เขาไม่ได้ถอยสุดซอยแต่หลบเข้ามุมเท่านั้น หากรัฐบาลยอมที่จะไม่แก้ไขรธน. และลดเงื่อนไขต่าง ๆ จนบรรยากาศคลี่คลายเมื่อถึงเวลานั้นเรา ก็ต้องมาพิจารณาคุยกันว่าสมควรชุมนุมต่อไปหรือไม่หรือมีความชอบธรรมชุมนุมอย่างไรรัฐบาลควรแสดงความจริงใจด้วยการประกาศเป็นนโยบายว่าไม่แตะรัฐธรรมนูญจนกว่าคดีทักษิณจะยุติลงหากประกาศชัดเจนก็จะกลายเป็นมุมแมลงย้อยมาถามความชอบธรรมของพันธมิตรเอง

ส่วนที่มีการตั้งกมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่อง แก้ไขรธน.นั้นตนไม่มั่นใจว่าจะเป็นอย่างไร  เพราะวันนี้นายกฯก็พูดอย่างหนึ่ง เรายังไม่รู้ว่าพรรคพลังประชาชน ใครมีอำนาจตัดสินใจ และเมื่อเรื่องนี้ชัดเจนขึ้นพันธมิตรก็จะหารืออีกครั้ง

ส่วนกรณีที่นายประชา ประสพดี  ส.ส.พลังประชาชนระบุว่า  จะนำประชาชนมาปิดถนนเพื่อต้านพันธมิตรนั้นเป็นสิทธิการชุมนุมโดยสันติแต่อย่ามำให้เกิดการเผชิญหน้า  เช่นเดียวกับมีข่าวว่าจะมีการปลุกม็อบในภาคเหนือตนไม่กังวลเรื่องนี้เพราะถือเป็นสิทธิ์ชุมนุม

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเคลื่อนขบวนหรือไม่ นายสุริยะใสกล่าวว่า  ยืนยันว่าน่าจะปักหลักอยู่ที่นี่ ที่ผ่านมาก็มีจนท.อย่างเช่นพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบชน.  ประสานเข้ามา ขอให้เราเคลื่อนย้ายแต่เราก็ไม่รับที่จะเคลื่อนย้ายไปไหน
 
http://www.komchadluek.net/2008/06/02/x_main_a001_205133.php?news_id=205133
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #10 เมื่อ: 02-06-2008, 19:22 »

NBT และเครือข่ายของรัฐบาลต้องรีบจัดทำสกุ๊ปข่าวเรื่องรถติดคนเดือดร้อนแล้ว on air ให้แบบคม ชัด ลึก เลยน๊ะคร้า


รออยู่นะเนี่ย แต่ทำไมไม่กล้าทำก็ไม่รู้

เดี่ยวนี้ คอมฯ ทำได้ทุกอย่างแล้ว ลงทุนหน่อยดิ 555+
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 02-06-2008, 19:39 »

พันธมิตรฯ ยอมเปิดถนน ให้นักเรียน- ผู้ปกครองสัญจร ไทยยรัฐ[2 มิ.ย. 51 - 18:16]
 
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (2 มิ.ย.) ถึงบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนถึงขณะนี้ ว่า ยังมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งการแสดงดนตรีและการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และตัวนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงเย็นประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ มากขึ้น

ขณะเดียวกันทางทีมงานของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ต่อโครงเหล็กเพื่อสร้างเวทีจัดกิจกรรมถาวร  จากเดิมที่เปิดเป็นเวทีชั่วคราวบนหลังรถบรรทุก

ก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยอมเปิดเส้นทางการจราจรได้รถยนต์และรถโดยสารประจำทางสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ หลังจากตัวแทนคณะครูและผู้ปกครองโรงเรียนวัดโสมนัดวรวิหารและโรงเรียนวัดมกุฎกษัตริยารามได้เข้าเจรจากับตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองและนักเรียน ที่เปิดเรียนวันแรกหลังจากปิดชั่วคราวในวันศุกร์

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังเปิดเส้นทางการจราจรรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สาย 53 ได้สิ่งผ่านเข้ามาในเส้นทาง แต่เจ้าหน้าที่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังเก็บสัมภาระไม่เรียบร้อย ทำให้รถโดยสารประจำทางคันดังกล่าว เฉี่ยวชนเข้ากับรถขนสัมภาระของกลุ่มพันธมิตรฯ และไปเกี่ยวจอโปรเจกเตอร์ด้านหลังเวทีเสียหาย ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องเจรจาค่าเสียหายกัน

หลังจากนั้น ทางทีมงานของกลุ่มพันธมิตรฯ จึงได้รีบเก็บสัมภาระทั้งหมดและเปิดเส้นทางการจราจร 1 ช่องทางให้รถโดยสารประจำทางและรถรับส่งนักเรียนสัญจรไปมาได้
 
 
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #12 เมื่อ: 02-06-2008, 21:14 »

พันธมิตรฯ ยอมเปิดถนน ให้นักเรียน- ผู้ปกครองสัญจร ไทยยรัฐ[2 มิ.ย. 51 - 18:16]
 
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (2 มิ.ย.) ถึงบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนถึงขณะนี้ ว่า ยังมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งการแสดงดนตรีและการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และตัวนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงเย็นประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ มากขึ้น

ขณะเดียวกันทางทีมงานของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ต่อโครงเหล็กเพื่อสร้างเวทีจัดกิจกรรมถาวร  จากเดิมที่เปิดเป็นเวทีชั่วคราวบนหลังรถบรรทุก

....

ทั้งหมดและเปิดเส้นทางการจราจร 1 ช่องทางให้รถโดยสารประจำทางและรถรับส่งนักเรียนสัญจรไปมาได้
 
 


 

น่าจะเสริมเรื่องกีฬาด้วยนะคะ ตั้งทีวีจอยักษ์ถ่ายทอดสดบอลยูโรเสียด้วยเลย อย่าลืมจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วยหนา  Mr. Green Very Happy Mr. Green

แทนที่คนจะหนีกลับบ้าน จะได้แห่มาดูบอลด้วยกัน 

สลับกับการถ่ายทอดสด หรือเทป ของการแข่งขันเฟรนช์ โอเพ่นด้วยยิ่งดี

ตอนนี้ข่าวว่า นักเทนนิสเยาวชนหญิงของไทย ชนะเข้ารอบสองไปแล้ว 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2008, 21:15 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 02-06-2008, 21:21 »

ลิขสิทธิ์ เฮียฮ้อ มันเขี้ยวจะตาย

ขนาดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเปิด มันยังจะห้าม โถ...

แต่เท่าที่ดูมา 2 ชั่วโมง เน้นบันเทิง...

แกนนำเพิ่งมีโอกาสขึ้นพูด...

พลตรีจำลองขึ้นเวทีแล้วครับ....เมื่อเช้าสมศักดิ์ พูดเรื่องตั้งเมืองใหม่

พลตรีจำลองต้องออกมาแก้ข่าว ลดโทนแข็งกร้าวลง...
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: