http://thaiinsider.info/portal/content/view/8637/12/นพดล บุกเมืองผู้ดีแจงคนไทยในยุโรป ทักษิณ-ป๋าเปรม จับมือกันแล้ว อัดพันธมิตรฯปิดถนนทำชาวบ้านเดือดร้อน ขณะที่คนไทยในลอนดอนเศร้า วอนคนไทยสามัคคี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย. 2551 นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนกลุ่มประเทศยุโรป 5 ประเทศ โดยเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายนพดลเดินทางถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้โดยได้พบปะกับชมรมเพื่อนหญิงไทยในยุโรป ประมาณ 30 คน นำโดยนายชุมศรี อาร์โนลด์ ประธานชมรม ที่วัดพุทธปทีป ในเวลา 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ทั้งนี้นายนพดล กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย มีรัฐบาลใหม่แล้ว แต่ยังมีกลุ่มพันธมิตรฯ 5 คน ที่ออกมาชุมนุมเคลื่อนขบวนเข้าล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อคเอาไว้ จึงยึดถนนราชดำเนิน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้บอกว่าอยากให้ไปชุมนุมที่อื่น แต่ไม่ต้องการสลายการชุมนุม เพราะขนาดเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังต้องเสด็จเลี่ยงเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่น
เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้รัฐบาลกำลังจะทำประชามติ หากประชาชนต้องการให้แก้ก็จะแก้ไข แต่หากไม่ต้องการก็จะไม่แก้ไข ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พบกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีแล้ว ในงานศพของมารดาผบ.ทบ. ซึ่งผู้ใหญ่ได้เข้าใจกันมากขึ้น อีกทั้งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แม้จะอายุถึง 72 ปีแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรง ทำกับข้าวกินเอง ไปจ่ายตลาดที่อตก.เหมือนเดิม เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ดังนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วง บ้านเมืองเราไม่มีปัญหา ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานส่งเงินกลับประเทศ และขอให้มั่นใจว่าพวกเราจะดูแลบ้านเมืองอย่างดี ให้มีความสงบเรียบร้อยนายนพดลกล่าว
รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนกลุ่มประเทศยุโรปครั้งนี้ เพื่อต้องการสื่อให้คนไทยนำไปบอกคนต่างประเทศว่า ปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาลไทยไม่มีความรุนแรง ยังหาความปรองดองได้ เพื่อที่จะเรียกความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน โดยรัฐบาลเคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่ต้องแยกความเห็นต่างทางด้านการเมืองออกจากเสถียรภาพการเมือง ถ้าการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบปราศจากอาวุธจะชุมนุมอีก 10 ปี ก็ไม่เป็นไร แต่กลับมีการปิดถนนประท้วงซึ่งการที่บอกว่ารักประชาธิปไตยก็ต้องปฏิบัติให้เป็นประชาธิปไตยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยกับเครือข่ายหญิงไทยฯ พบว่าส่วนใหญ่เป็นห่วงสถานการณ์เมืองไทย เช่น นางจันทร พันธา เจ้าของร้านอาหารอีสานเขียว ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งรู้สึกเป็นห่วงประเทศชาติ และสงสารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงอยากให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้ง และอยากให้มีความสามัคคีกัน ขณะที่นายอดิศร พิมมาตร คนไทยที่มาทำงานในประเทศอังกฤษ กล่าวว่า รู้สึกเศร้า ควรเปิดให้รัฐบาลทำงานก่อน เพราะขณะนี้ประเทศถอยหลังไปมากแล้ว ขนาดประเทศเวียดนามก็จะแซงเราไปแล้ว จึงอยากใหคนไทยช่วยกันประคับประคองเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้
นั่นยังไงคะ การเข้าไปดักไหว้ท่านพลเอกเปรมของทักษิณ เริ่มถูกนำไปขยายผลทางการเมืองแล้ว ถึงฝ่ายนั้นจะรู้อยู่แก่ใจว่า หลอกได้แต่รากหญ้าและพวกสมองฝ่อ ก็ยังพยายามดิ้นรนจนสุดชีวิต
ขณะนี้เวลาตายของนายใหญ่ ใกล้เข้ามาทุกขณะ งัดกลเม็ดอะไรออกมาเล่นได้ ก็ต้องทำแล้ว ช่วยกันจับตาการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้ดี กรณีตีความ คตส. เพราะเป็นหนทางหนึ่งในการเอาตัวรอดของนายใหญ่ จ้บตาให้ดีอย่ากระพริบค่ะ