มีคนเสนอให้คนที่ไปลงคะแนน ช่วยกันเฝ้าสังเกตหน่วยเลือกตั้ง

บทความจากเว็บไทยโพสต์ครับ มีข้อมูลเขตเลือกตั้งที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ

---------------------------------

จับตาเลือกตั้ง "สภาโจ๊ก"

การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายนนี้ ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์อีกหน้าของการเมืองไทย เพราะมีพรรคการเมืองใหญ่พรรคเดียว คือ พรรคไทยรักไทย นอกนั้นเป็น ไม้ประดับ-นอมินี แน่นอน พรรคไทยรักไทยต้องชนะเลือกตั้ง แต่จะได้คะแนนเท่าไร คงต้องรอลุ้นอย่างระทึก

เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ประกาศว่า หากได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง หรือ 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ตนเองจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ลองมาดูสถิติการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เมื่อ 6 ก.พ. 48 ซึ่งพรรคไทยรักไทยชนะอย่างถล่มทลาย ได้รับคะแนนเสียงถึง 18,993,073 คะแนน ได้ ส.ส. 377 ที่นั่ง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ได้ 7,210,742 คะแนน ได้ ส.ส. 96 ที่นั่ง พรรคชาติไทย 2,061,559 คะแนน ได้ 25 ที่นั่ง ส่วนพรรคมหาชน 1,346,631 คะแนน ได้ 2 ที่นั่ง รวม ส.ส.กันแล้ว 123 เสียง ไม่มีโอกาสแม้จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล

หากลองดูจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อปี 2548 มีจำนวน 44,572,101 คน มีผู้มาใช้สิทธิแบบบัญชีรายชื่อ 32,341,330 คน (72.56%) บัตรเสีย 935,586 บัตร (2.89%) บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนเพียง 357,515 บัตร (1.11%)

ส่วนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 32,337,611 คน (72.55%) บัตรเสีย 1,938,590 บัตร (5.99%) จำนวนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 741,276 บัตร (2.29%)

สำหรับการเลือกตั้ง 2 เม.ย.นี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 45,232,145 คน

ส่วนพรรคการเมืองที่ลงชิงชัยในคราวที่แล้วในระบบบัญชีรายชื่อมีถึง 20 พรรค แบบเขตเลือกตั้งมีมากถึง 24 พรรค แต่คราวนี้เหลือเพียง 8 พรรค ที่ลงสมัครในแบบบัญชีรายชื่อ และ 18 พรรคในแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้มีแตกต่างจากครั้งก่อน เพราะหลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม คือ ประชาธิปัตย์ ชาติไทย มหาชน ประกาศ บอยคอตต์ ไม่สังฆกรรมด้วย จึงมีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยลงสมัครในเขตเดียวคนเดียวจำนวนมากถึง 254 เขต

โดยจังหวัดที่มีผู้สมัครคนเดียวยกจังหวัด มีทั้งสิ้น 27 จังหวัด ประกอบด้วย 1.กระบี่ 2.กำแพงเพชร 3.ฉะเชิงเทรา 4.ชลบุรี 5.ชัยภูมิ 6.เชียงราย 7.นครสวรรค์ 8.นราธิวาส 9.บุรีรัมย์ 10.ประจวบคีรีขันธ์ 11.พะเยา 12.พังงา 13.พิษณุโลก 14.ยะลา 15.ลพบุรี 16.ลำปาง 17.ลำพูน 18.เลย 19.สตูล 20.สมุทรสงคราม 21.สมุทรสาคร 22.สระแก้ว 23.สิงห์บุรี 24.สุโขทัย 25.หนองบัวลำภู 26.อำนาจเจริญ และ 27.อุตรดิตถ์

ในพื้นที่ กทม. 36 เขตเลือกตั้ง มี 12 เขตที่มีผู้สมัครคนเดียว ได้แก่ เขต 7, 8, 19, 21, 23, 25, 26, 27, 28, 32, 34 และเขต 35

สำหรับเขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวต้องได้คะแนนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ปรากฏว่ามี 17 เขตที่น่าเป็นห่วง เพราะจากสถิติการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

ได้แก่ จ.ปัตตานี เขต 1 และ 2, จ.พังงา เขต 1, จ.สงขลา เขต 6, จ.สุราษฎร์ธานี เขต 1, 3 และ 6, จ.ชุมพร เขต 3, จ.ยะลา เขต 2, จ.เพชรบุรี เขต 1, จ.สุพรรณบุรี เขต 2, จ.ตรัง เขต 2, จ.นครศรีธรรมราช เขต 2, 3 และ 6, จ.นราธิวาส เขต 1, และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3

จุ๊! จุ๊! งานนี้ต้องจับตาไม่กะพริบ เพราะหากพลัง VOTE NO VOTE หรือ กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ได้ผล ทั่นผู้นำหน้าเหลี่ยม คง (หาย) เหนื่อยแน่นอน???

และหากมีผู้สมัครเขตเดียวคนเดียวได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อีกหลายเขต ก็ต้องจับตาว่าทั้ง ไทยรักไทย และ กกต. จะดันทุรังกันไปอย่างไร แต่บอกให้เอาบุญว่า ทางไป นรก กับ สวรรค์ บางทีมันก็อยู่ใกล้ๆ กัน อยู่ที่ว่าจะมองเห็นกันหรือเปล่า!!@@?? (อิ อิ)