ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
02-12-2024, 10:47
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  และแล้ว...ต้นตระกูลเห่า ก็ "เห่าไม่ออก" ( ฮา ) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
และแล้ว...ต้นตระกูลเห่า ก็ "เห่าไม่ออก" ( ฮา )  (อ่าน 2219 ครั้ง)
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« เมื่อ: 01-06-2008, 11:33 »

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ท่ามกลางสถานการณ์ สับสนไร้หลักการ ฉบับนี้ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2551............


• หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ท่ามกลางสถานการณ์ สับสนไร้หลักการ ฉบับนี้ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2551............

• ฝ่ายเสียงข้างมาก ภายใต้ การตัดสินใจของ คณะผู้บริหารในปัจจุบัน ได้ประกาศยอมถอยหลายก้าวให้แก่ ฝ่ายชุมนุมประท้วง และ แนวร่วมทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเสียสละ จักรภพ เพ็ญแข จากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รวมถึงการ ถอนชื่อ เพื่อล้มญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญ ถือเป็นการส่ง บรรณาการระลอกแรก!!!............

• และหากคณะผู้บริหารยังทำตัวหน่อมแน้ม ยอมทำตามข้อเสนอของ เสียงข้างน้อย ตลอดเวลา สุดท้ายประชาชนก็จะพากันไปเลือก เสียงข้างน้อย ให้กลายเป็น เสียงข้างมาก เพราะไม่รู้จะเลือก รัฐบาลเสียงข้างมาก ที่ทำตัวเป็น หุ่นเชิด ให้เสียงข้างน้อยไปทำไมเหมือนกัน สู้ไปเลือก เสียงข้างน้อยตัวจริงเสียงจริง เลยไม่ดีกว่าหรือ!!!............

• “เห่าไฟ” ขอยืนยันอีกครั้งว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นการปกครองที่ดีที่สุดในโลก แต่เพื่อให้ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เป็นที่ยอมรับของ นานาชาติ จะต้องดำเนินการทุกอย่างไปตามบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญโดยเคร่งครัด เพราะกฎหมายจะเป็น หลักประกันที่ดีที่สุด ให้แก่มนุษย์ทุกคน ส่วน อารมณ์ ของคนนั้น มีขึ้นมีลง เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ แถมยังมี กิเลสตัณหา เป็นตัวบ่อนทำลาย ทำให้เกิด ความยุ่งเหยิงสับสน ขึ้นในบ้านเมือง!!! ............

• ก่อนหน้านี้ คณะปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็เคยทำทุกอย่างไปตาม อารมณ์ ของเสียงข้างน้อย เพราะคิดว่า เสียงข้างน้อยที่ส่งเสียงดังเอ็ดตะโร คือ เสียงข้างมาก แต่ปรากฏว่า พอผลเลือกตั้งออกมาก็ หงายหลังกันตึง เพราะเสียงข้างมากตัวจริง ไม่เคยออกไป ประท้วงแหกปากโหวกเหวกโวยวายข้างถนน เนื่องจากมีความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยดีว่า ต้องไปใช้สิทธิในคูหาเลือกตั้งเพื่อแสดงความต้องการอย่าง อารยชนที่เจริญแล้ว และให้เห็นผลเป็น รูปธรรมที่ยั่งยืนเท่านั้น!!!............

• ล่าสุด รัฐบาลสมัคร คงอยากเลียนแบบ คณะปฏิวัติ ด้วยการยอมรับ ข้อเสนอ ของเสียงข้างน้อย เพื่อตัดรำคาญเสียงเอ็ดตะโรเอะอะโวยวาย แต่สุดท้ายก็จะพบได้เอง ว่า ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เพราะเป้าหมายสำคัญของเสียงข้างน้อยก็คือ ขับไล่ตัวแทนเสียงข้างมากเพื่อ ช่วงชิง อำนาจการบริหารประเทศไปให้ พรรคนอมินี ของฝ่ายตนเช่นกัน!!!............

• และทั้งหมดนี้ก็คือ ความจริงของการเมืองไทย “เห่าไฟ” เห็นใจทุกฝ่ายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการ จัดสรรอำนาจทางการเมือง เพื่อปกครองประเทศ เพราะทุกอย่างเต็มไปด้วย ความไม่แน่นอน ไม่มีอะไรลงตัว แม้แต่คนเก่งๆที่เคยบริหารธุรกิจจนประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง อดีตนายกฯทักษิณ ยังโดนเล่นงานจนสะบักสะบอม แทบเอาชีวิตไม่รอด!!!............

• ที่สำคัญ ตอนนี้ทุกคนก็เล่นการเมืองกันแบบ หงายไพ่เป็นหงายไพ่ตายกันแล้ว เอาจริงเอาจังยิ่งกว่าในหนังเสียอีก สู้กันแบบต้อง ติดคุกติดตะราง ไปข้างหนึ่ง ทั้งที่ทุกฝ่ายก็เป็น บุคลากรที่มีค่า ของบ้านเมืองด้วยกันทั้งนั้น แต่กลับต้องมา ห้ำหั่น กันเอง แทนที่จะ รวมหัวกันคิด เอาชนะประเทศคู่แข่ง กลับต้องสิ้นเปลือง พลังคิด เพื่อเอาชนะคะคานกันเอง น่าเวทนาประเทศไทยจริงๆ!!!............

• ยิ่งไปกว่านั้น “เห่าไฟ” เห็นพฤติกรรมของบางคนแล้วยิ่งทำให้สังเวชใจหนักขึ้น คือ เอะอะอะไร ก็จะ ประกาศสงครามยันเต ทำท่าขึงขัง ตะโกนเสียงดัง ปลุกระดม คุณลุงคุณป้า ที่นั่งฟังให้โกรธแค้นชิงชังคนไทยด้วยกันเอง ถ้าเป็นสมัยอยุธยาจะไปรบทัพจับศึกกับพม่าก็ว่าไปอย่าง แต่นี่คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ฆ่ากันเกลียดกันแล้วได้อะไรหรือ!!!............

• “เห่าไฟ” ยืนยันว่า บ้านเมืองจะมั่นคงถาวรได้ ต้องยึด กฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่ปกครองไป ตามใจตามอารมณ์ ของคนบางคน เคยเห็นไหมในต่างประเทศ ฝรั่งในประเทศที่เจริญแล้วประท้วง เขาออกมาแสดงพลัง เป็นแสนเป็นล้านคน เต็มถนนไปหมด เสร็จแล้วก็ กลับไปทำงานต่อ ไม่มีการปักหลักอยู่ยาวสร้าง ความเดือดร้อนรำคาญ ให้คนอื่นเหมือนบ้านเรา แต่รัฐบาลในประเทศนั้นก็หนาวไปถึงกระดูก เพราะรู้ดีว่าเลือกตั้งสมัยหน้า ม่องเท่งแน่ ส่วนเมืองไทย ต้องยึดกฎหมู่เป็นหลัก ไม่งั้นไม่ใช่ฮีโร่ ฮ่วย!!!............

"เห่าไฟ"
http://www.thairath.com/society.php?content=91840


ห้วงนี้ "เห่าปู้เห่า อ๋า"

ต้องตามเก็บ ข้อเขียนบรรดา "อรหันต์ทองคำ" เช่น "พญามอด" "มดคันฝอย" และพวกคอลัมนิสต์ตระกูล "เห่า" อย่ากระพริบตา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2008, 11:39 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

NN
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 230


« ตอบ #1 เมื่อ: 01-06-2008, 11:38 »


ชิมไป เห่าไป - สถานะ ยุติรายการ

รายการใหม่

ดื่มไป หอนไป - ผู้ดำเนินรายการ เหลิม แทงข้างหลัง ศิษย์แม่เพ็ญ   
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 01-06-2008, 11:42 »

ชื่อนี้ไม่คุ้น "ตะวันทรงกลด"



ซ้ายอ่อนหัด
ไทยรัฐ[1 มิ.ย. 51 - 16:45]
 
โทษใครไม่ได้ แพ้ภัยตัวเอง

ที่สุดก็ทนดื้อด้านต่อไปไม่ไหว นายกจักรภพ เพ็ญแข ต้องชิงอัปเปหิตัวเองออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ไปแบบเจ็บช้ำระกำใจ

ไม่ใช่สปิริตอะไร แต่ถูกบีบจนหน้า ซีดหน้าเซียว

โดยเฉพาะพวกเดียวกันนั่นแหละแสบสุด ว่ากันว่างานนี้ “เสี่ย น.” ขาใหญ่ อีสานใต้ กับ “เสี่ย ป.” เส้นใหญ่ย่านนวมินทร์ อุ้มไปกล่อมกันอยู่นานสองนาน

นัยว่ารับงานเคลียร์มาจาก “นายใหญ่”

แต่เด็กมันดื้อ แถมผู้ใหญ่อย่างนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ยังให้ท้าย กางปีกป้อง ไม่เขี่ยออกง่ายๆ

ก็เลยต้องมีใบสั่งเชือดตัดตอน

มันน่าแปลกดีมั้ยล่ะ ตำรวจสรุปคดีเสร็จภายในชั่วข้ามคืน จากที่ก่อนหน้านี้ยังรำมวยป้อไปป้อมา อ้างต้องให้มหาวิทยาลัยที่เป็น กลางมาแปลคำปาฐกถา

ยื้อกันท่านั้นท่านี้

แต่พอโดนสั่งเร่งจริงๆก็ไม่เห็นยุ่งยาก

แม้จะยังปากแข็ง ยืนกรานไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกวิชามารเล่นงาน ตั้งท่าต่อสู้คดีจนถึงที่สุด

แต่พูดไปก็ขาสั่นไป

เพราะโดยพันธนาการที่รัดคอ จากคำพูดที่สะท้อนออกมา แม้สำนวนภาษาจะปลิ้นปล้อนพลิกลิ้นกันได้ แต่โดยทัศนคติที่แฝงอยู่ลึกๆ

“จักรภพ” หลอกตัวเองไม่ได้ คิดอะไรอยู่

“ทัศนคติที่อันตราย” แบบนี้ อย่าว่าแต่ คนเป็นรัฐมนตรีจะต้องโดนปรับออกจาก ครม.เลย แม้แต่ประชาชนคนธรรมดาถ้ามีความคิดอย่างว่า

ก็ต้องปลดออกจากความเป็นพลเมืองไทย

เอาเป็นว่าโดยวิบากกรรมที่นายจักรภพจะต้องเผชิญต่อไป ชะรอยคงต้องเดิน ตามลูกพี่ใหญ่ นปก.อย่าง “ไข่มุกดำ” นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตดาวโรจน์ที่อับแสง

เพราะปากพาจน

เข้าไปนอนในคุกเพราะคดีหมิ่นพระ บรมเดชานุภาพ

งานนี้จะโทษใครไม่ได้ เพราะความห่ามความห้าว คิดว่าตัวเองแน่ ทั้งที่กระดูกยังไม่แข็ง

นี่แหละบทเรียนของพวกซ้ายอ่อน หัด

กระนั้นก็ดี เมื่อนายจักรภพถูกเขี่ยออกจากเกม “เบี้ยแลกขุน” เพื่อรักษาขุน อย่างนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล

ก่อนที่จะโดนทหารล้มทั้งกระดาน

มันก็ถึงคิวอีแร้งรุมทึ้งซากหมาเน่า

เก้าอี้ รมต.ประจำสำนักนายกฯคุมสื่อรัฐ ทั้งกรมประชาสัมพันธ์ สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที อสมท โดยอำนาจและผลประโยชน์มันหอมหวานหยอกใคร

ไม่ทันไรจัดโผกันเสร็จตั้งแต่ “จักรภพ” ไม่ทันแถลงลาออกด้วยซ้ำ

เท่าที่ปล่อยชื่อกันออกมาโผแรก นายพงศกร อรรณนพพร จาก รมช.ศึกษาธิการ ไปนั่งเป็น รมต.ประจำสำนักฯแทน แล้วโยกนายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ ไปนั่ง

เป็น รมช.ศึกษาธิการ พร้อมกับดันนายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ระบบสัดส่วน ขึ้นเป็น รมช. เกษตรฯ

สลับเก้าอี้กันตามอำเภอใจ

ไม่ต้องคำนึงถึงหน้าตา ความเหมาะสม

และก็ไม่ต้องพูดถึงนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “สมัคร” งานนี้ไม่มีสิทธิ

อิทธิฤทธิ์หมอผีเขมรเสกมาทั้ง นั้นเลย.

"ตะวันทรงกลด"
 
 
บันทึกการเข้า

login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #3 เมื่อ: 01-06-2008, 11:46 »

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ท่ามกลางสถานการณ์ สับสนไร้หลักการ ฉบับนี้ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2551............


• หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ท่ามกลางสถานการณ์ สับสนไร้หลักการ ฉบับนี้ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2551............

• ฝ่ายเสียงข้างมาก ภายใต้ การตัดสินใจของ คณะผู้บริหารในปัจจุบัน ได้ประกาศยอมถอยหลายก้าวให้แก่ ฝ่ายชุมนุมประท้วง และ แนวร่วมทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเสียสละ จักรภพ เพ็ญแข จากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รวมถึงการ ถอนชื่อ เพื่อล้มญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญ ถือเป็นการส่ง บรรณาการระลอกแรก!!!............
......
...
.


ตอแห-ลตั้งแต่คำแรก ยันคำสุดท้าย
เป็นหมาก็เห่าไปตามประสาหมาปากเปราะ

555555
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 01-06-2008, 11:49 »

วิเคราะห์การเมือง ยังรักษาฟอร์มไว้ได้ "มือไม่ตก"



กระแสตก ทหารต้าน
ไทยรัฐ[1 มิ.ย. 51 - 23:34]
 
ยุทธศาสตร์เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบเต็มพิกัด

ของพรรคพลังประชาชนที่ชูธงต้องแก้ไขให้ได้อย่างรวดเร็วทันใจ โดยใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวขับเคลื่อน

มีการเตรียมการ เตรียมแผน เป็นขั้นเป็นตอน

ไล่ตั้งแต่การส่งนายชัย ชิดชอบ มาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา แทนนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่โดนคดีใบแดง

เพื่อมานั่งคุมเกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ

พร้อมเปิดไฟเขียวให้ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ทำหน้าที่หัวหมู่ทะลวงฟัน

ใช้ช่องทางรวบรวมรายชื่อ ส.ส.และ ส.ว.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ

แทนการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยคณะรัฐมนตรี หรือโดยพรรคร่วมรัฐบาล

เพื่อเลี่ยงประเด็นว่าไม่ได้เป็นการเสนอแก้ไขโดยฝ่ายรัฐบาล แต่เป็นการดำเนินการตามเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา

โดยมี ส.ส.พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำล่ารายชื่อ ส.ส.และ ส.ว.ในเครือข่าย รวม 159 คน เสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ต่อประธานรัฐสภา

พร้อมทั้งเตรียมเดินหน้าให้มีการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กันในช่วงเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเดือนมิถุนายนนี้

เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว หวังผลกันไว้ต้องทำให้เสร็จภายใน 3 เดือน

การขับเคลื่อนทุกอย่างมุ่งไปสู่เป้าหมาย “โละรัฐธรรม-นูญทิ้ง” ตามยุทธศาสตร์หลักของ “นายใหญ่”

การปลดล็อกคดียุบพรรค การปลดล็อกนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 การปลดล็อกคดีในอำนาจ คตส. การทวงคืนขุมทรัพย์ 6 หมื่นกว่าล้านบาทที่ถูกอายัด

อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม

แต่จู่ๆ การเร่งเครื่องเดินหน้าตะลุยแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มพิกัด ก็เหมือนถูกเบรกจนหยุดกึก

โดยเห็นได้ชัดว่าหลังมีสัญญาณออกมาจากนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่เปิดบ้านเมืองทองธานี ตั้งโต๊ะแถลงข่าว

ขอเอาหัวเป็นประกัน ยืนยันด้วยประสบการณ์ทางการเมืองกว่า 30 ปี

การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ

เพราะเชื่อว่าจะมี ส.ส.และ ส.ว. ทยอยถอนชื่อ จนทำให้ ญัตติเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องตกไป

พร้อมทั้งยังได้เผยเหตุผลทางลับว่า

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 พฤษภาคม ได้มีการประสานกับผู้ใหญ่หลายคนในพรรคพลังประชาชน

รวมถึง “นายเก่า” ของพรรคไทยรักไทย

ได้รับการยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยในการเสนอญัตติแก้ไข รัฐธรรมนูญในห้วงนี้

ในขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยอ้างว่า ส.ส.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอยู่แล้ว หากต้องการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็สามารถทำได้เลย ไม่จำเป็นต้องทำประชามติกันอีก

ก็เกิดอาการกลับลำ นำเรื่องเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบการทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

พร้อมที่จะใช้งบฯ 2,000 ล้านบาท ในการดำเนินการจัดทำประชามติ

และเมื่อเจอปัญหากรณีที่ยังไม่มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการทำประชามติมารองรับ ก็พยายามหาทางเร่งรัด ถึงขั้นคิดที่จะออกพระราชกำหนดแทน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว

แต่สุดท้ายก็มีการถอนคันเร่งที่จะออกพระราชกำหนดมารองรับการทำประชามติ ยอมปล่อยให้เป็นไปตามครรลอง

โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ยกร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการทำประชามติเสนอต่อสภาฯ

และในที่สุด สถานการณ์ก็เป็นอย่างที่นายเสนาะออกมาส่งสัญญาณ

ล่าสุด ได้มี ส.ส.และ ส.ว.หลายคนทยอยไปขอถอนชื่อออกจาก ญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ

จนรายชื่อผู้สนับสนุนญัตติเหลืออยู่แค่ 123 คน ไม่ถึงเกณฑ์ 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ส่งผลให้ญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน

ตกไปทันที

ขณะเดียวกัน ฝ่ายที่คัดค้านต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่า จะเป็นฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ หรือ ส.ว.ส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วย

ก็ยังประกาศที่จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปอย่างเหนียวแน่น

ในขณะที่กลุ่มม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกมาต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ยังมีการเคลื่อนไหวต่อต้านอย่างเข้มข้น

พร้อมมีการขยายแนวร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ

นี่คือ สถานการณ์ความเป็นไปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น

จากปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า

ทำไมความเคลื่อนไหวในการเดินเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคพลังประชาชน ที่หมายมั่นปั้นมือมาตั้งแต่แรกเริ่มเข้ามาเป็นรัฐบาล

เร่งเครื่องกันเต็มสตรีม เหยียบคันเร่งกันเต็มพิกัด

เพื่อต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นยุทธศาสตร์ หลักของ “นายใหญ่” สำเร็จลุล่วงไปอย่างรวดเร็ว

กลับต้องถอย

เบรกกันกะทันหัน

“ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ขอบอกว่า สาเหตุสำคัญของการต้องยอมถอยครั้งนี้ เป็นเพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย

โดยเฉพาะเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ก็อย่างที่เห็นๆกันว่า ในช่วงนี้ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจ จากพิษราคาน้ำมันพุ่งกระฉูดไม่หยุด

สินค้าทุกชนิดทั้งของกิน ของใช้ ค่ารถ ค่าเรือ พาเหรดขึ้นราคาแบบฉุดไม่อยู่ คนไทยต้องเผชิญทุกข์ในยุคข้าวยาก หมากแพง เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า

ประชาชนหวังให้รัฐบาลช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เร่งแก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้านเป็นอันดับแรก

แต่เมื่อรัฐบาลมองข้ามความเดือดร้อนเหล่านี้ ไปมุ่งเน้นแต่ประเด็นการเมือง โดยเฉพาะการเร่งเครื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เน้นเป้าแก้ปัญหาของพวกตัวเองเป็นหลัก มองปัญหาของชาวบ้านเป็นรอง

ทำให้ประชาชนไม่ขานรับ

ไม่มีอารมณ์ร่วมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้

ในขณะที่ทางกองทัพก็แสดงอาการออกมาในโทนเดียวกันว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

รวมทั้งกลุ่มม็อบต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีการชุมนุมกันหนาแน่น พร้อมที่จะขยายแนวร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งหมดเหล่านี้ ทำให้การเร่งเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคลังประชาชน ต้องเบรกกะทันหัน

เพราะรู้ว่า ถ้ายังดันทุรังก็คงฝ่ากระแสต้านไปไม่ได้ ยิ่งถ้าทำประชามติกันก็อาจจะโดนประชาชนตบหน้า ไม่ยอมให้แก้ไข

ยุทธศาสตร์หลักของ “นายใหญ่” อาจจะพังได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ในห้วงเวลาเดียวกัน ก็ยังมีปัญหาใหญ่ที่กระแทกเข้าใส่รัฐบาลแบบเต็มๆ นั่นก็คือ

ปัญหาว่าด้วย “ทัศนคติที่อันตราย” ของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ไปพูดที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ

มีการถอดความออกมาเป็นเอกสารทั้งภาคภาษาอังกฤษ และภาคภาษาไทย กระจายออกไปทั่ว

สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้คนในสังคม หลายกลุ่ม หลายองค์กร

โดยเฉพาะกองทัพ

ล่อแหลมสุ่มเสี่ยง

แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรที่จะเป็นการตัดไฟ

ปล่อยให้กลายเป็นเชื้อผสมผสานกับการเคลื่อนไหวต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

บวกกับความไม่พอใจของผู้คนที่ต้องเผชิญความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ข้าวยากหมากแพง

ยิ่งฉุดให้กระแสความนิยมของรัฐบาลวูบลงไปอีก

แม้ล่าสุด นายจักรภพได้ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ความรู้สึกของผู้คนก็ยังกรุ่นอยู่

ปรากฏการณ์เหล่านี้ ทำให้คนที่มีอำนาจสั่งการตัวจริงในพรรคพลังประชาชน ที่เคยวาดภาพไว้อย่างสวยหรูว่า

เกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างท่วมท้น

เกิดความไม่แน่ใจ จนต้องสั่งถอย

แต่การสั่งถอยครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ว่าเป้าหมายของยุทธศาสตร์ แก้ไขรัฐธรรมนูญจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เป็นการถอยเพื่อรอจังหวะ

เมื่อยังไม่ได้ตามเป้า เพราะสิ่งแวดล้อมยังไม่เป็นใจ

ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะจบ

เพราะสถานการณ์การเมืองจะต้องอมโรคต่อไป

กลายเป็นหนังเรื่องยาว ที่สังคมต้องจับตา.

"ทีมการเมือง"
 
 
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 01-06-2008, 11:52 »

ตอแห-ลตั้งแต่คำแรก ยันคำสุดท้าย
เป็นหมาก็เห่าไปตามประสาหมาปากเปราะ

555555

"เห่าไฟ" เค้าจะอยู่ทุกวันอาทิตย์ครับ เค้าเป็น "ขวัญใจราชดำเนิน" ด้วยนะ

ต้องจับตาตระกูล "เห่า" ยังมี "เห่าดง" อีกตัวไง อิ อิ

ผมจับมานานแล้ว ตอนนี้สงสัยเจอเชือกกล้วย...อ่อนระทวยลงอย่างเห็นได้ชัด ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #6 เมื่อ: 01-06-2008, 12:16 »

*  มีอยู่ตัวนึง  จมูกบาน ๆ  .....  ชอบ เห่า ออกอากาศทุกเช้าวันอาทิตย์

    เมื่อวานเปลี่ยนมาเห่าวันเสาร์  .......  ทั้ง เห่า  ทั้ง ขู่  แต่ ไม่กัด  แถม มุขแป๊ก
   
    รู้สึกว่า ... ตอนนี้จะได้ยินเสียงคราง เอ๋ง ๆ  แทนอ่ะะคะ  !!


บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
nominee
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 149


« ตอบ #7 เมื่อ: 01-06-2008, 12:37 »

ผมก็เป็นแฟนคลับ "เห่าไฟ" เหมือนกัน
ช่วงหลังๆ สังเกตุเหมือนกับคุณ CanCan เลยครับว่า "เห่าไฟ" เริ่ม "เห่าเบา" ลง 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 01-06-2008, 12:45 »

ผมก็เป็นแฟนคลับ "เห่าไฟ" เหมือนกัน
ช่วงหลังๆ สังเกตุเหมือนกับคุณ CanCan เลยครับว่า "เห่าไฟ" เริ่ม "เห่าเบา" ลง 

ผมนำมาบันทึกไว้ เพราะเพิ่งเห็น "เห่าไฟ" ยอมรับว่า รัฐบาลนี้เป็น "รัฐบาลนอมินี" เหมือนชื่อคุณนั่นแหละ

ในเมื่อไปด่าเค้าว่า มีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ก็กลายเป็นว่า "มือที่มองไม่เห็น" กลับกลายเป็น "หน้าเหลี่ยม"

เริ่มออกมายอมรับแล้วว่า คนที่ไม่มีสิทธิ์ทางการเมือง หรือ คนที่บอกวางมือ ๆ

จริงๆ แล้ว มัน "ตอแหล" ทั้งเพ


เวลาที่เค้าเรียกร้องพลังคุณธรรมมาช่วยสังคมช่วยประเทศชาติ

มันบอกว่า "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ใช้อำนาจเหนือระบบระบอบอะไรมันก็ว่ากันไป

แต่พอถึงทีตัวเอง มันทำยิ่งกว่าที่เค้าทำมา คือ จุ้นมันทั้งรัฐบาล ทั้ง สภานิติบัญญัติ ทั้งกระบวนการยุติธรรม

ตกลงใครดีกว่าใคร ใครเลวกว่าใคร

คนหนึ่งได้เป็นรัฐบุรุษ อีกคนเป็น ผู้ต้องหาโกงชาติ

แล้วยังบังอาจไปด่าเค้า...


บรรดาลิ่วล้อที่หลงผิด น่าจะกลับลำได้แล้วนะ
บันทึกการเข้า

nominee
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 149


« ตอบ #9 เมื่อ: 01-06-2008, 12:53 »

เห่าไฟ คงไม่ใช่ลิ่วล้อที่หลงผิดหรอกครับ
คงเป็นการชดใช้บุญคุณในอดีตให้ใครบางคนมากกว่า
ไม่งั้นคงไม่เขียนข่าวบนตรรกูได้ขนาดนั้น ...
ส่วนชื่อของผม คุณ CanCan ไม่ต้องคิดมากครับ 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #10 เมื่อ: 01-06-2008, 14:27 »

ผมนำมาบันทึกไว้ เพราะเพิ่งเห็น "เห่าไฟ" ยอมรับว่า รัฐบาลนี้เป็น "รัฐบาลนอมินี" เหมือนชื่อคุณนั่นแหละ

ในเมื่อไปด่าเค้าว่า มีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ก็กลายเป็นว่า "มือที่มองไม่เห็น" กลับกลายเป็น "หน้าเหลี่ยม"

เริ่มออกมายอมรับแล้วว่า คนที่ไม่มีสิทธิ์ทางการเมือง หรือ คนที่บอกวางมือ ๆ

จริงๆ แล้ว มัน "ตอแหล" ทั้งเพ


เวลาที่เค้าเรียกร้องพลังคุณธรรมมาช่วยสังคมช่วยประเทศชาติ

มันบอกว่า "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ใช้อำนาจเหนือระบบระบอบอะไรมันก็ว่ากันไป

แต่พอถึงทีตัวเอง มันทำยิ่งกว่าที่เค้าทำมา คือ จุ้นมันทั้งรัฐบาล ทั้ง สภานิติบัญญัติ ทั้งกระบวนการยุติธรรม

ตกลงใครดีกว่าใคร ใครเลวกว่าใคร

คนหนึ่งได้เป็นรัฐบุรุษ อีกคนเป็น ผู้ต้องหาโกงชาติ

แล้วยังบังอาจไปด่าเค้า...


บรรดาลิ่วล้อที่หลงผิด น่าจะกลับลำได้แล้วนะ

น่าจะมีการทำสรุปรวบรวมความเห็นของคอลัมนิสต์ต่างๆ นะครับ
รวมทั้งความเห็นของผู้มีชื่อเสียงต่างๆ (รวมถึงต่างประเทศด้วย)

ใครเคยแสดงความเห็นว่า รัฐบาลสมัคร เป็น รัฐบาลนอมินี บ้าง
ก็รวบรวมรายชื่อและอ้างอิงลิงค์บทความไว้ อย่างน้อยก็สะท้อน
ว่าสังคมรับรู้สถานภาพ ทักษิณ อย่างไร เท่ากับย้อนเกล็ดคำพูด
ของฝ่ายทักษิณที่กล่าวหาประธานองคมตรีมาโดยตลอด
ถามว่าคุณทักษิณอยู่ตรงไหนในระบบบริหารราชการแผ่นดิน? 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 01-06-2008, 14:42 »

ไทยรัฐเค้ามีระบบสมัครสมาชิก สามารถสืบค้นได้

พอดีผมไม่ได้เป็นสมาชิก ก็เก็บเฉพาะที่น่าสนใจในเว็บ WOM

แบบวันต่อวัน

บางวันข่าวมันเข้มข้นเลยไม่ค่อยได้ติดตาม

ในมติชน เค้าเก็บบทความที่เด่น ๆ เป็นคนๆ ก็น่าติดตามครับ


ที่จริง อาจารย์ เอื้อจิต เหมะ เค้ามีกลุ่มมอนิเตอร์สื่อ แต่ยังไม่เห็นผลงานจะจะ
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #12 เมื่อ: 01-06-2008, 20:06 »

เลิกอ่าน "เห่าไฟ" "อินทรีเหล็ก" "หมัดเหล็ก" มานานเป็นปีแล้วค่ะ แค่เหลือบสายตาดูบ้างนิดหน่อย หลายวันก่อน เห็นมี "เห่าดง" เขียนในคอลัมน์ของ "สายล่อฟ้า" มาตะเภาเดียวกันเลย

อ้าววว นี่ เริ่มเห่าไม่ออกแล้วหรือคะ 

แต่ "บทบรรณาธิการ" ดีค่ะ กับ "ทีมข่าวการเมืองวันอาทิตย์" แต่บางอาทิตย์ก็น่าหมั่นไส้นะคะ บางอาทิตย์ก็ดี

สงสัยว่า เมื่อไหร่จะเลิกลงรูปโป๊ดาราหน้าหนึ่งซักที เห็นแต่ละนวลนางโพสต์ท่าแล้วก็...

บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 01-06-2008, 22:52 »

เมื่อเช้าอ่านวิเคราะห์การเมือง จากที่ไม่ค่อยได้อ่าน ก็ยังนับว่าไทยรัฐพอฝากผีฝากไข้ได้ 
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 01-06-2008, 23:53 »

เลิกอ่าน "เห่าไฟ" "อินทรีเหล็ก" "หมัดเหล็ก" มานานเป็นปีแล้วค่ะ แค่เหลือบสายตาดูบ้างนิดหน่อย หลายวันก่อน เห็นมี "เห่าดง" เขียนในคอลัมน์ของ "สายล่อฟ้า" มาตะเภาเดียวกันเลย

อ้าววว นี่ เริ่มเห่าไม่ออกแล้วหรือคะ 

แต่ "บทบรรณาธิการ" ดีค่ะ กับ "ทีมข่าวการเมืองวันอาทิตย์" แต่บางอาทิตย์ก็น่าหมั่นไส้นะคะ บางอาทิตย์ก็ดี

สงสัยว่า เมื่อไหร่จะเลิกลงรูปโป๊ดาราหน้าหนึ่งซักที เห็นแต่ละนวลนางโพสต์ท่าแล้วก็...



บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ คือการแสดงจุดยืนของสื่อนั้น ๆ

รู้สึกจะได้รับรางวัลดีเด่นบ่อย ๆ สำหรับบทบรรณาธิการ

ส่วนพวกคอลัมน์ต่างๆ จะเป็นความคิดอิสระ ไม่มีใครบังคับได้

นั่นคือ ทางกองบรรณาธิการหรือผู้บริหารดูแล้ว ไว้ใจในวิจารณญาณ

จะว่าไปที่เอียงข้างเหลี่ยมก็ไม่มากนะ ฝั่งต่างประเทศก็ยังคงเส้นคงวา

อ้อ..มีกระสุนทองอีกคน...น่าจะเอียงทางฝั่งหน้าเหลี่ยม

"ใต้ฝุ่น" อาวุโสมาก ใครก็สั่งไม่ได้ ...ระดับอากู๋ขอ พี่แกยังไม่ยอมเล้ยยย...อิ อิ

แต่ที่กลางสุดๆ ก็ "พี่ซูม" อ่านแล้วสบายใจ

วันนี้ ชั่วโมงข่าว ของเติมศักดิ์ ยังนำบางตอนไปอ่านบนเวทีพันธมิตร
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: