...
ผมขอเสนอให้แก้ไขเพิ่มวรรคสอง ในม.77 ในการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งต่างๆในวรรคหนึ่งรวมทั้งการดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งต้องมีการประเมินผลพฤติกรรมทางคุณธรรม จริยธรรม ควบคู่ไปกับการประเมินสมรรถภาพ ให้สองอย่างเท่ากัน
เราต้องการทั้งคนเก่งและคนดี เก่งอย่างเดียวเป็นมหาโจรได้ ดีอย่างเดียวเป็นเหยื่อมหาโจรได้เหมือนกัน ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติต้องทำรายละเอียดให้เสร็จภายใน 1 ปี แค่นี้มีช่องทางให้เรารื้อฟื้นประเด็นจริยธรรมขึ้นมาได้ ไม่ใช่แถลงว่าผมทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง เรื่องจริยธรรมอย่ามาถามผม นักกฎหมายใหญ่พูดอย่างนี้อยากจะลาออกจากการเป็นนักกฎหมายเลย นี่เป็นความเสื่อมทางคุณธรรมจริยธรรม ไม่ว่าศาสตร์แขนงไหนถ้าไม่มีคุณธรรมเป็นรากฐานศาสตร์นั้นไม่ใช่ศาสตร์เลขาธิการศาลฎีกา กล่าว
....
นายจรัญ กล่าวต่อว่า ปัญหาทางจริยธรรมมีในทุกวงการ โดยมีสาเหตุมาจากกระแสวัตถุนิยมที่มากขึ้นที่ได้มากดเรื่องจริยธรรมให้มีน้อยลง ซึ่งวิธีการแก้จะทำการชำระคนและจิตวิญญาณให้เกิดปัญญา เพื่อลดกระแสวัตถุนิยมไม่ให้มีการแบ่งแยกชนชั้นและแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งตัวเลขไม่ว่าจะเป็น6หลักหรือ7หลักไปมากกว่านี้ จนสร้างระบบธนบัตรนิยม ทำให้คนจากเดิมที่เคยนับถือศาสนาในเรื่องของคำสอน แต่กลับนับถือเป็นศาสนาเงินที่ยึดหลักว่าความดีคือเงินเข้าความชั่วคือเงินออก ซึ่งสร้างระบบ กินตามน้ำได้แต่อย่าให้ใครจับได้ก็พอ ในการแก้ปัญหาตนในฐานะฝ่ายตุลาการยอมรับฝ่ายเราลงเข้าไปแก้ปัญหานี้ได้ยาก เพราะเราเองยังขาดความเชื่อมโยงกับภาคประชาชน แต่ตนเห็นว่าในเบื้องต้นที่จะทำได้คือจะต้องให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000069013คุณจรัญ พูดไว้ดีจริงๆ