ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
01-07-2025, 08:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  แม่ทัพ1ติง 'หมัก' อย่าตื่นตูมปฏิวัติ... รับ'ทหาร'ไม่สบายใจ! 'สถาบัน'โดนก้าวล่วง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
แม่ทัพ1ติง 'หมัก' อย่าตื่นตูมปฏิวัติ... รับ'ทหาร'ไม่สบายใจ! 'สถาบัน'โดนก้าวล่วง  (อ่าน 2301 ครั้ง)
Aha555
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 168



« เมื่อ: 04-05-2008, 09:30 »



แม่ทัพ1ติงอย่าตื่นตูม ขอร้องทุกฝ่ายลดทิฐิ รับ'ทหาร'ไม่สบายใจ! 'สถาบัน'โดนก้าวล่วง     
Saturday, 03 May 2008 

ปชป.ร้อง “หมัก” รับผิดชอบปูดข่าวปฏิวัติ จี้คนเป็นนายกฯต้องป้องกัน หนุนนโยบาย “ผบ.ทบ.” ให้กำลังพลกระตุ้นสังคมให้เทิดทูน “สถาบัน” เชื่อปชช.จะร่วมมือกันป้องกันไม่ให้มีพวก “ดึงฟ้าลงต่ำ” ด้านแม่ทัพภาคที่ 1 ส่งเสียงคำรามเตือน “หมัก” อย่าตื่นตูมข่าวปฏิวัติ
 

เหตุกองทัพแค่เคลื่อนพลซ้อมประจำปี ยันกองทัพเป็นของ “ในหลวง” ยอมรับทหารไม่สบายใจที่มีการก้าวล่วง “สถาบัน” วอนทุกฝ่ายลดทิฐิเลี่ยงเผชิญหน้า

วันที่ 3 พ.ค. 2551 เวลา 10.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกมาพูดเรื่องการปฏิวัติและว่าจะมีการบุกจับรัฐมนตรีถึงบ้านด้วยการใช้เฮลิคอปเตอร์ ในเวทีสัมมนาเรื่องกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สถานการณ์รัฐธรรมนูญไทย" ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่านายกรัฐมนตรีควรระมัดระวังการพูดเรื่องนี้ เพราะการที่คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องการปฏิวัติ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในประเทศไทย เพราะข่าวที่ออกไปนั้น ไม่ได้อยู่แต่เฉพาะในประเทศแต่แพร่หลายออกไปต่างประเทศด้วย ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าการปฏิวัติเกิดขึ้นกับประเทศเราได้ตลอดเวลา ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีรู้เรื่องนี้ละเอียดและระแคะราย นายกรัฐมนตรีก็มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ การที่นายกรัฐมนตรีนำข้อมูลเบาะแสว่าจะมีการจับรัฐมนตรีนั้น หากมีหลักฐานไม่เพียงพอก็ไม่ควรที่จะเปิดเผย แต่ควรหาทางป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
               
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า  การที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สั่งการให้กองกำลังพลกองทัพออกมากระตุ้นให้สังคมเทิดทูนสถาบันเบื้องสูงนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะเราต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งมีความพยายามในหลายรูปแบบ ทั้งแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผยทำการหมิ่นเหม่จาบจ้วง ไม่ว่าจะเป็นใบปลิว หรือการโพสต์ลงในเว็บไซต์ ดังนั้นคิดว่าการที่กองทัพออกมากระตุ้นให้สังคมรณรงค์ จัดกิจกรรมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนส่วนมากที่มีจิตสำนึกและจงรักภักดีต่อสถาบัน จะร่วมมือกัน หาทางป้องกันไม่ให้กลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีกระทำการใดที่จะดึงฟ้าลงมาต่ำ


แม่ทัพภาค 1 ติงอย่าตื่นตูมข่าวปฏิวัติ

ด้านพล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า อยากให้ทุกคนหนักแน่น เพราะทหารเป็นทหารของประชาชนอยู่แล้ว ทำหน้าที่เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้กำชับดูแลอยู่เสมอว่าเราจะต้องทำหน้าที่ของ เราให้ดีที่สุด

"ทุกวันนี้ที่ยังเห็นทหารมีการฝึกหัดอยู่ เพราะเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเตรียมกำลังและใช้กำลัง ถือเป็นการฝึกตามวงรอบประจำปี ดังนั้นอาจจะเห็นว่ามีการเคลื่อนไหว มีการฝึกในค่าย ในหน่วยทหาร โดยเฉพาะการปฏิบัติในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะต้องมีการฝึกกลางคืน ทั้งการยิงปืน การปฏิบัติการทางยุทธวิธี ดังนั้นทุกคนอย่ากังวล ทหารทำหน้าที่ของเราเท่านั้น ถ้าไม่ให้ทหารฝึกหัดจะทำให้ทหารอ่อนแอ และจะไม่สามารถเป็นรั้วของชาติที่แข็งแรงได้ จึงขอฝากว่าอย่ากังวลและอย่าตื่นตระหนก"แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

พล.ท.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีการดึงชาติและสถาบันมาโจมตีกันว่า เราเป็นห่วงเรื่องชาติบ้านเมือง เพราะเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ เราไม่อยากให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ซึ่งทุกคนทราบดีแล้วว่าการเมืองมาโดยความถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ส่วนการบริหารต่างๆ ก็ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลจะต้องแก้ไข คิดว่าถ้าต่างฝ่ายต่างลดทิฐิ พยายามเข้าอกเข้าใจกัน และนึกถึงประโยชน์ชาติบ้านเมือง คิดว่าบ้านเมืองจะไปได้และไม่เกิดความรุนแรง

ยัน “กองทัพ” เป็นของ “ในหลวง”-มี “สถาบัน” เป็นที่ยึดเหนี่ยว

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. มอบนโยบายให้ทุกหน่วยทหารช่วยกระตุ้นจิตสำนึกประชาชนให้เทิดทูนสถาบันพระ มหากษัตริย์ แม่ทัพภาคที่  1 ตอบว่า การปฏิบัติใดๆ ก็ตาม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้ทำเฉพาะเมื่อสั่ง ซึ่งทหารทุกคนจะต้องมีคำว่าสถาบันอยู่ในหัวใจ เพราะสถาบันเป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชนทั้งประเทศ

"ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกคนดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อถวายพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพบก ซึ่งเราทำมาทั้งชีวิต"พล.ท.ประยุทธ์กล่าวและว่า เราทุกคนจะต้องมีความรักและสามัคคี ประเทศชาติจึงจะไปได้ ไม่เช่นนั้นประเทศเราจะต้องถอยหลัง ขอฝากให้ทุกคนช่วยกันรักชาติบ้านเมือง จะเห็นว่าสถาบันของเราถูกก้าวล่วง ซึ่งทางเราเองเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็รู้สึกไม่สบายใจ ตนคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองของเรามีความสงบเรียบร้อย และทำอย่างไรที่จะเทิดทูนพระองค์ท่านเหนือสิ่งอื่นใด แต่ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน รวมทั้งสื่อมวลชนด้วยที่จะต้องช่วยกัน

"อยากฝากให้ทุกคนช่วยกันดูแล อย่าให้แหลกยับไปในสมัยเรา จะต้องหันหน้าเข้าหากัน และลดทิฐิซึ่งกันและกัน สิ่งต่างๆ ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนทหารเองก็จะเป็นกลไกหนึ่งที่จะป้องกันและรักษาชาติบ้านเมือง"พล.ท.ประยุทธ์กล่าว

วอนทุกฝ่ายลดทิฐิ เลี่ยงการเผชิญหน้า

สำหรับความขัดแย้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ให้ฝ่ายการเมืองเขาว่ากันไป ในส่วนของเรามีหน้าที่ในการสนับสนุนในสิ่งที่ถูกต้อง เราจะปฏิบัติตามกติกา ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะดำเนินการ

ถามอีกว่า หากเกิดการเผชิญหน้ากันจริงๆ ทหารจะทำอย่างไร พล.ท.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้มันยังไม่มีการเผชิญหน้า ถ้าทุกคนช่วยลดทิฐิ ก็ไม่มีการเผชิญหน้า ทหารก็ทำหน้าที่ของทหาร ยังไม่มีคำสั่งอื่นใด ยังไม่มีการร้องขอกำลัง ไม่มีการสั่งการใดๆ ทั้งสิ้นขอให้สบายใจว่าทหารยังอยู่ในกรมกอง ท่านผบ.ทบ.ได้สั่งการเอาไว้ชัดเจน

ก่อนหน้านั้น แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานในพิธีต้อนรับกำลังพลสำรองเพื่อเข้ารับการตรวจสอบและฝึกวิชาทหารปี 2551 โดยมีนายทหารรวม 228 นาย เข้ารับการรายงานตัว ซึ่งการจัดพิธีการต้อนรับกำลังพลสำรองครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการเรียกพลเพื่อตรวจสอบและฝึกวิชาทหาร ของหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพภาคที่ 1 และนายทหารสัญญาบัตร นายสิบ กำลังพลสำรอง เข้าร่วมพิธี


ระบุพื้นที่กทม.เป็นหัวใจของประเทศ

พล.ท.ประยุทธ์ กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลสำรองตอนหนึ่งว่า ทุกคนถือเป็นกำลังสำรองที่มีความสำคัญที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ทดแทนกำลัง ทหารหลักในยามที่ชาติบ้านเมืองประสบภาวะวิกฤติ หรือในยามใดก็ตามที่กองทัพมีความต้องการใช้กำลังทหารจำนวนมาก  เพื่อเข้าคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ 

"ทุกคนคือสมาชิกของกองทัพภาคที่ 1 ที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่กับประชาชนชาวไทยตลอดไป พวกท่านมีความสำคัญ เพราะได้รับผิดชอบในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่หัวใจของประเทศ ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบและเป็นกองทัพของประชาชนในการดูแลประชาชนเมื่อได้ รับความเดือดร้อน ซึ่งหน้าที่ของชาติบ้านเมืองสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ความรู้และคุณธรรมถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้เรารู้ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนชั่ว ซึ่งบ้านเมืองเราทุกวันนี้ ต้องช่วยกันเพื่อให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายไปได้โดยไม่ใช้ความรุนแรง"

หลังให้โอวาท ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่าจะมีคนนำไปเชื่อมโยงกับข่าวการปฏิวัติหรือไม่ พล.ท.ประยุทธ์ตอบว่า คงไม่ต้องกังวล เพราะคนที่เรียกมาเป็นพลเรือนคงจะทำไม่ได้ เพียงแต่เรียกมาตรวจสอบว่ามีชื่อตามบัญชีหรือไม่ และทำความเข้าใจกับหน่วยต้นสังกัด ซึ่งกำลังพลเหล่านี้ถือเป็นพลเรือนที่ยังไม่เคยรับการฝึก มีเพียงผ่านการฝึกวิชาทหารอย่างเดียวเท่านั้น



เผยต้นตอของเหตุที่ “หมัก” ออกมาปูดเรื่องปฏิวัติอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระแสข่าวการปฏิวัติที่นายสมัครระบุว่าได้รับมาจากสื่อนั้น เท่าที่ตรวจสอบพบว่า มีหนังสือรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งได้เคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการ 22 เม.ย.ที่ขึ้นในหน่วยทหารหน่วยหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ โดยมีการระบุว่ามีการชุมนุมของผู้พันเพื่อปฏิบัติการเข้ายึดสถานที่สำคัญ และจับบุคคลสำคัญ คล้ายๆ กับการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ของกลุ่มยังเติร์ก แต่แผนดังกล่าวล้มเลิกไป นอกจากนั้นยังมีคอลัมนิสต์ชื่อดังที่เขียนว่ามีการเตรียมการปฏิวัติครั้งใหม่ โดยใช้ปฏิบัติการทางอากาศ ใช้เฮลิคอปเตอร์ไปจับรัฐมนตรีไปรวมกัน เข้าใจผิดคิดว่าปฏิวัติ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีผู้บังคับกองพันจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 1 ไปชุมนุมที่ ร.11 รอ. บางเขนจริง แต่เป็นวันที่ 21 เม.ย. เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเดินทางลงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของนายทหารระดับคุมกำลังทั้งหมดอยู่ในการจับตาของหน่วยข่าว ซึ่งในการโยกย้ายครั้งที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบหน่วยข่าวใหม่   ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในฟากของตท.10 เพื่อนของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพยายามส่งข่าวให้นายสมัครรับทราบตลอด ตั้งแต่ใบปลิวที่อ้างว่า "คนมีสี" จะปฏิบัติการก่อเหตุวุ่นวายในวันที่ 21 เม.ย.     โดยพุ่งเป้าไปที่พล.ท.ประยุทธ์ และกระตุกเตือนไม่ให้นายสมัครไว้ใจพล.อ.อนุพงษ์มากนัก

สำหรับแผนใช้เฮลิคอปเตอร์จับนักการเมืองนั้น อยู่ในแผนสำรองเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่หากการรัฐประหารเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. 2549 ไม่ประสบความสำเร็จ หรือแผนรั่วจนปฏิบัติไม่ได้ ก็จะมีการจับตัวพ.ต.ท.ทักษิณในระหว่างการเดินทางทางอากาศยาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์

 
 
 


*  (74.66 KB, 600x60 - ดู 165 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2008, 09:57 โดย Aha555 » บันทึกการเข้า
Aha555
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 168



« ตอบ #1 เมื่อ: 04-05-2008, 09:44 »

รบกวนผู้รู้ช่วยสอนวิธี เอาคลิ๊ปวีดีโอใส่ในเว็บบอร์ด ทีนะครับ

อยากได้แบบนี้ครับ...http://uthaisak.forumco.com/topic~TOPIC_ID~24.asp

ขอบคุณครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2008, 10:22 โดย Aha555 » บันทึกการเข้า
Aha555
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 168



« ตอบ #2 เมื่อ: 04-05-2008, 10:11 »

พี่ครับ..เวลาจะโพสต์คลิ๊ปวีดีโอ ขึ้นตามบอร์ด

ต้องโพสต์ยังไงครับ..ช่วยสอนทีนะครับ

(ไว้ประดับความรู้ครับ..ขอบคุณครับ)..

คือว่า...ผมอยากได้แบบนี้ครับ  ==>  http://uthaisak.forumco.com/topic~TOPIC_ID~24.asp
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2008, 10:20 โดย Aha555 » บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #3 เมื่อ: 04-05-2008, 10:17 »

มี่สักกี่ครั้ง ที่คนระดับแค่แม่ทัพภาค  ออกมาเตือนนายกรัฐมนตรี 

ผบ.ทบ. ยังหาได้น้อยคนนัก ที่จะต่อปากต่อคำกับนายกรัฐมนตรี 

เมื่อไหร่ที่ประมุขฝ่ายบริหาร ถูกทหารพูดพาดพิงในเชิงสั่งสอน หรือเย้าเล่น  มักจะต้องกลับบ้าน 

เอาไม้ซีกไปงัดซี่โครงไก่แท้ๆ ท่านแม่ทัพ เดี๋ยวโดนย้ายหรอก 
บันทึกการเข้า
justy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,250



« ตอบ #4 เมื่อ: 04-05-2008, 19:57 »

รบกวนผู้รู้ช่วยสอนวิธี เอาคลิ๊ปวีดีโอใส่ในเว็บบอร์ด ทีนะครับ


แต่ละบอร์ดของแต่ละเว็บ แล้วแต่ Admin ของเว็บนั้นๆจะอนุญาตหรือไม่ 
สำหรับบอร์ดเสรีไทยสคริปท์ที่เอาไว้โพสต์วีดีโอ โพสต์เพลงลงบอร์ด แอดมิน Disable ไปเรียบร้อย โพสต์ยังไงๆก็ไม่ขึ้นค่ะ


บันทึกการเข้า

พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: