ลองวิเคราะห์กันหน่อย ใครคือ "ผู้ใหญ่ที่เตือนสมัคร" จนต้อง "หุบปาก"

[Can ไทเมือง]

ลองวิเคราะห์กันหน่อย ใครคือ "ผู้ใหญ่ที่เตือนสมัคร" จนต้อง "หุบปาก"

ตามนั้นเลย....

[Kittinunn]

ไม่บอกดีกว่า เสียว

[อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย)]

ผมว่าไม่มี เพราะที่เขาจ้างมันก็เพราะมันอ้าปากเก่ง ถ้ามันหุบปาก แล้วมันจะเหลือค่าอะไร

หมาถ้ามันไม่เห่า เขาก็เอาไปปล่อยวัด

[northstar]

ไม่แน่ใจเหมือนกัน.... แต่ที่แน่ๆเลยก็มีอยู่คนเดียวพออ้าปากป๊าบบบบบบบบ... คนก็เกลียดเลย... ยิ่งหมักยิ่งอ้าปากมากเท่าไหร่ก็โดนเกลียดมากขึ้นเท่านั้น...

[Huad]

ผู้ใหญ่เหลี่ยมไง คงเห็นแล้วว่ายิ่งพูดมากความนิยมยิ่งหด แต่ศรัตูยิ่งเพิ่ม

[jrr.]

หมาถ้ามันไม่เห่า เขาก็เอาไปปล่อยวัด

..............................................

เข้าตำรา.....หมาจะสีอะไรก็ได้ ขอให้เห่าเป็น

ดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมา....คงไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนมาเตือนหรอก มันเคยฟังใครที่ไหน ???
ใครจะอยากไปเตือน ปล่อยให้พูดตัดคะแนนตัวเองไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ...ทุ่นแรงดี

มันคงรู้สึกตัวของมันเองแหละ....แต่ไม่รู้จะหาทางออกยังไงก็อ้างไปเรื่อยเปื่อย

เหมือนๆกับมือที่มองไม่เห็นน่ะแหละ....ขนาดมันมองไม่เห็น ยังเอามาพูดได้เป็นตุเป็นตะ !!!

[An.mkII]

เรื่องนี้  มองได้หลากหายมุม

มุมแรก ถ้าป็นความจริง... 

ความจริงที่ว่า  มีผู้ใีหญ่ร้องขอสมัครจริงๆ  แล้วคนอย่างสมัครเคารพใคร ล่ะ จึงได้หยุดพูด  เพราะคนในประเทศนี้มีกี่คนที่คนอย่างสมัครเคารภพและเชื่อฟัง....


มุมสอง เป็นกลลวงความเท็จ

ที่ว่าถ้าเป็นความลวง  มันก็เป็นคล้ายๆกรณี  มุกดาวพุธของเเม้ว นั้นแหละั ดังนั้นอย่าคิดอะไรมาก... ที่หยุดพูดเพื่อป้องกันกระเเสต่อต้านในประเด็นต่างๆที่เข้ามาในขนาดนี้..มิให้ลามไปกว่านี้


แต่ไม่ว่า..จะเป็นมุมไหน...


มุมหนึ่งที่ผมเชื่อ...   

ผมเชื่อว่าถ้าหมามันอดกินขี่ไม่ได้ ฉันท์ใด  คนอย่างหมักมันก็อดด่าคนได้ไม่นานเช่นกันฉันท์นั้น... และมันจะกลับมาหนักกว่าเดิม เพราะมันอั้นมานาน


แบบเดียวกะกรณี  ที่หยุดรายการทางทีวี เพราะดันไปด่าป๋าเข้าให้    แต่โผล่มาอีกที   ตอนเข้าไปรายงานตัวสว. ก็ล่อเอาประเด็นรัสปูตินมาพูดเลย  มิใช่หรือ..!!???


 

[Suraphan07]

น่าจะจาก "สมัคร ขนลุก ชื่อทักษิณปรากฏกลางธงชาติไทย".

นายกฯ สั่งสอบถามเป็นการภายในและเร่งแก้ไขกรณี ปรากฏชื่อ"ทักษิณ" กลางธงชาติไทย ในสนามแมนเชสเตอร์ซิตี้ เชื่อเจ้าตัวไม่ทราบเรื่อง

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในการพบปะสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ กรณีมีภาพธงชาติไทยติดชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในสนามฟุตบอลของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ โดยระบุว่ารู้สึกขนลุกเพราะถือเป็นเรื่องไม่สมควร และต้องแก้ไขเพราะไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก โดยเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องถูกทักท้วง และเมื่อกลับถึงประเทศไทยก็จะต้องชี้แจงว่า เป็นการกระทำของชาวต่างชาติ แต่ทั้งนี้เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจไม่ทราบเพราะหากเห็นจะต้องมีการทักท้วงอย่างแน่นอน โดยจะมีการสอบถามเป็นการภายในไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่จำเป็นต้องมีการตั้งกรรมการตรวจสอบ

นายกรัฐมนตรียัง ระบุว่า ถือว่าไม่สมควรที่มีผู้นำสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเป็นเงื่อนไขในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล

นอกจากนี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่เคยได้ยินกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยระบุว่า พร้อมสนับสนุนกลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคงพูดเป็นเรื่องสนุก พร้อมรับปากว่าคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะเห็นว่าไม่สมควร
ฯลฯ
http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=106156

                                                                   //////////////////////////

ถ้าไม่ขนลุก คงยังไม่รู้ตัว...

[Neoconservative]

ไม่ต้องเดา ก็ รู้ ครับ

ทั้งชีวิต เชื่อฟัง ไม่เคยขัด

เมียลุงหมัก ดีกรี คุณหญิง ไง

[ริวเซย์]

ขอเก็บคำตอบไว้ในใจดีกว่าครับ 

[see - u]

*  สงสัยจะเริ่มรู้สึกตัว ....... ว่า  ปากพา  ซวย

    ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว ... ลุงหมัก  แกก็เลยลดอาการเพลี้ยงพล้ำทางปากลง

    เพราะ ...  ตอนนี้มีปัญหาหลาย ๆ ด้านกำลังรุมเร้าเข้ามา

    แต่ก็ไม่นานหรอก  ... เด๋วแกก็มี วาทกรรม  ออกมาอีก

    ถ้าให้สัมภาษณ์อีกที  คำว่า  เฮงซวย  > ทำไปหาหอกอะไร  > ไอ้ฟันดำ  > ไอ้หัวเถิก  ฯลฯ   ไม่เอาแล้วนะคะ

    เอาคำใหม่ ๆ บ้าง  .....  ปากแบบลุงหมัก  สรรหา  คำด่า  ไม่ยากหรอก ( แต่คำพูดดี ๆ อาจหายากหน่อย )

[*bonny]

ผมว่า เขาเชื่อฟังอยู่คนเดียวตอนนี้ คือ คนที่มีบุญคุณทำให้ได้เป็นนายก

สำหรับผมแล้ว
ไม่เคยรู้สึกเลยเมื่อเห็นนายสมัครทางทีวีว่า คนนี้คือ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย  ทั้งบุคลิก ลักษณะ คำพูดคำจา เป็นนายกได้ก็จริง แต่ไม่เหมือนนายกครับ

[อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย)]

มีองคมนตรีท่านนึง ที่นายสมัครให้ความเคารพ แต่ไม่แน่ใจว่าเชื่อฟังหรือเปล่า

อีกอย่าง ตอนนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นนั้น คนไทยคิดมากกันไปเอง

 ไหนจะปากีสถาน อิรัก อัฟกัน แย่กว่านี้ตั้งเยอะ

แหมคนไทยน่าจะภูใจด้วยซ้ำ ว่าเรายังดีกว่าสามประเทศนั้น

ไว้แย่กว่า อิรัก ผู้ใหญ่ก็ออกมาปรามนายสมัครเองแหละ อย่ากลัวเลย

คนไทยนี่ขวัญอ่อนกันจริงๆ

[เล่าปี๋]

*  สงสัยจะเริ่มรู้สึกตัว ....... ว่า  ปากพา  ซวย

    ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว ... ลุงหมัก  แกก็เลยลดอาการเพลี้ยงพล้ำทางปากลง

    เพราะ ...  ตอนนี้มีปัญหาหลาย ๆ ด้านกำลังรุมเร้าเข้ามา

    แต่ก็ไม่นานหรอก  ... เด๋วแกก็มี วาทกรรม  ออกมาอีก

    ถ้าให้สัมภาษณ์อีกที  คำว่า  เฮงซวย  > ทำไปหาหอกอะไร  > ไอ้ฟันดำ  > ไอ้หัวเถิก  ฯลฯ   ไม่เอาแล้วนะคะ

    เอาคำใหม่ ๆ บ้าง  .....  ปากแบบลุงหมัก  สรรหา  คำด่า  ไม่ยากหรอก ( แต่คำพูดดี ๆ อาจหายากหน่อย )

               

[Cherub Rock]

'คนเคยจ้อขอเป็นใบ้' ถอดรหัส 'สมัคร' ถอย(ทางปาก) การถอยทางปากครั้งนี้ จึงมองได้ว่าเป็นการถอยเพื่อหนีการเพลี่ยงพล้ำเท่านั้น เพราะลำพังศึกเหนือ-ศึกใต้ ที่รุมกระหน่ำ ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ คดียุบพรรค แต่คงเป็นการหลบฉากเพียงระยะสั้นๆ จึงยากที่จะเป็นผล หากนิสัยใจจริงยังคงอยู่ ถึงกับงอนตุ๊บป่องขอเล่นบทใบ้ ประกาศงดให้สัมภาษณ์ประจำสัปดาห์ ทั้งในวันอังคารและวันศุกร์ หลังอยู่ทำหน้าที่คงเส้นคงวาแจกคำยุคพ่อขุนรามฯมานาน นับแต่เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน จนตั้งรัฐบาลมาได้เกือบ 3 เดือน วันนี้ "สมัคร สุนทรเวช" นายกรัฐมนตรี ขอรูดซิปปาก โดยให้เหตุผลแกมประชดประชันว่าถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิว่าพูดจาหยาบคาย หลังกรณีล่าสุด ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน ได้แจกโบนัสพิเศษ เป็นภาษาพ่อขุนรามฯ วันเดียวถึง 3 คำ ทั้ง "หอก" "เลว" "เฮงซวย" บุคลิกของ "สมัคร" เป็นที่รับรู้กันมาตั้งแต่อดีต ในความไม่ยี่หระ ไม่สนใจใคร พูดจาโผงผาง ฉายแววฝีปากกล้ามาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ กล่าวขานกันไปทั่ว โดยเฉพาะวาทะดุเด็จเผ็ดร้อน ในยุค 6 ตุลาฯ 2519 ด้วยบุคลิกเฉพาะ ตัว "สมัคร" จึงถูกเลือกจาก "นายใหญ่" มานั่งเป็นนอมินี ทำหน้าที่คุมทัพพิชิตศึกในช่วงที่ต้องทำสงครามหนักหน่วงกับ คมช. จนสามารถตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ทว่าด้วยความมีปากเป็นพิษ ในวันนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมัคร 1 เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน "สมัคร" แถลงยอมรับด้วยตัวเองว่า ต่อไปนี้จะลดราวาศอกลง เพราะพรรคขอร้อง แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น นานไปลายก็กลับมา แม้จะพยายามข่มตัวเอง แต่ "สมัคร" กลับโบ้ยให้เป็นเรื่องของไอ้โม่ง กระบวนการยุให้ตัวเองตบะแตก แตกน้อยได้ 1 หมื่น แตกมากได้ 5 หมื่น การพลิกกลับไปกลับมาในอดีต ได้สะท้อนการรูดซิปปากครั้งนี้ ว่า มีความน่าเชื่อถือเพียงใด? "คนใหญ่ๆ เขาว่ารุนแรงเลยว่า เกิดมาไม่เคยเห็นนายกฯคนไหน พูดจาหยาบคาย" เป็นเหตุผลที่ "สมัคร" ยกมาอ้างอีกเช่นเคย แน่นอน "สมัคร" อาจไปฟังคำเตือนจาก "คนใหญ่ๆ" มาจริง แต่คำเตือนนั้น มีผลเพียงใดต่อการตัดสินใจ อย่าลืมว่า ในอดีต "สมัคร" ไม่เคยฟังใคร แม้กระทั่ง "คนใหญ่ๆ" ในบ้านเมืองบางคน ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ยับเยินมาแล้วในรายการ "สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน" การถอยทางปากครั้งนี้ จึงมองได้ว่า เป็นการถอยเพื่อหนีการเพลี่ยงพล้ำเท่านั้น เพราะลำพังศึกเหนือ-ศึกใต้ ที่รุมกระหน่ำ ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ คดียุบพรรค คดีหุ้นของรัฐมนตรี การก่อตัวของม็อบพันธมิตร ขนาด "นายใหญ่" ยังตกที่นั่งลำบาก กับกรณีธงไตรรงค์ ฯลฯ ทั้งหมดใช้นิ้วมือรวมนิ้วเท้านับ ยังไม่หวาดไม่ไหว หากเพิ่มคดีปากเป็นพิษเข้าไปอีก ย่อมเป็นตัวเร่งให้หกคะเมนเร็วขึ้น คนมากประสบการณ์อย่าง "สมัคร" จึงอ่านออก และพร้อมถอยให้ในทางปาก เหตุที่ปัญหาปากเป็นพิษของ "สมัคร" จะเป็นตัวเร่ง หากวิเคราะห์ให้ลึกลงในรายละเอียด จะพบว่า "สมัคร" มีปัญหาทางการสื่อสารและการใช้ภาษา ในการให้สัมภาษณ์แทบทุกครั้ง มักสื่อความหมายที่นำไปสู่การตีความ การใช้ความเห็นส่วนตัว แต่กระทบถึงวงกว้าง ดังกรณีระบุว่าการกักตัว "อองซาน ซูจี" ของพม่า ไม่เป็นเรื่องเสียหาย จนสื่อต่างประเทศตีข่าวไปทั่วโลก ที่สำคัญคือ การใช้ถ้อยคำหยาบคายอย่างดาษดื่น ทั้งการแจก "เมถุน" ให้นักข่าวช่วงเพิ่งรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน การประชดประชันฝ่ายต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า จะทำให้บ้านเมือง "บรรลัยวายวอด" หรืออย่างไร การพูดเสียดสี กลุ่มพันธมิตร ว่า เป็นพ่อคนทั้งประเทศหรืออย่างไร การไล่โหรวารินทร์ ไปแขวนคอตาย เพราะทำนายว่าจะเกิดการปฏิวัติอีกครั้ง หรือการเลือกใช้คำว่า "มึง" เป็นสรรพนามเรียกธนาคารโลก แล้ววินิจฉัยเอาเองว่าหาใช้คำไม่สุภาพ และล่าสุดที่แจก "หอก" ให้นักข่าว แจก "เลว" ให้สำนักข่าววิทยุ และแจก "เฮงซวย" ให้โพล นอกจากนี้ "สมัคร" ยังขยันผลิตคำสร้อยติดปาก อาทิ "ดัดจริตดีดดิ้น" "ไอ้" "มันอะไรกันนักกันหนา" "มันประหลาด" "โอย" "กำลังนี้" "ไม่เข้าท่า" "กระ***นกระหือรือ" "ยำยำ" "มันแย่จริงๆ" "อวดศักดินา" "นั่น-นี่" อีกเป็นกระบุง ไม่นับการยอกย้อน ตัดบท กระแทกแดกดัน เช่น ย้อนถามสื่อว่า สังคมหน้าตาเป็นอย่างไร? ประชาชนชื่ออะไร คนไหน นามสกุลอะไร? สื่อเป็นห่วงชาติบ้านเมืองจนนอนไม่หลับหรือไง? แม้ "สมัคร" จะเด่นในเรื่องการใช้คำโบราณ แต่ถ้อยคำที่เลือกใช้ หาใช่คำโบราณที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานฟัง หรือเป็นเรื่องปกติ ที่คนเป็นถึงผู้นำประเทศ จะเลือกใช้วาจาลักษณะนี้ ดังนั้น หากลูกเล็กเด็กแดง เด็กอนุบาล ดูข่าวทีวีแล้วจะเก็บ "หอก" ที่ "สมัคร" ทำตกไว้ตามข่าว ไปแจกต่อที่โรงเรียน ก็อย่าได้ตกใจ การหลบฉากเพียงระยะสั้นๆ จึงยากที่จะเป็นผล หากนิสัยใจจริงยังคงอยู่ รอน้ำลด ตอก็ผุด แต่ก็เป็นวิธีการเดียวกับที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ใช้อยู่บ่อยๆ เมื่อคำพูดนำมาซึ่งภัยทางการเมือง ด้วยทั้งสองคน มีบุคลิกที่คล้ายคลึงกัน ในเรื่องความมั่นใจในตัวเองสูง ใจร้อน พร้อมโต้ตอบเสมอ เมื่อมีสิ่งมากระทบ แต่แม้ "สมัคร" จะเล่นบทใบ้ได้สำเร็จ แต่อย่าลืมว่า ยังมีขุนพลในรัฐบาลอีกหลายคน ที่ไม่ได้เล่นตาม ไม่ว่า "จักรภพ เพ็ญแข" รมต.ประจำสำนักฯ ที่ชอบใช้วาจาเชือดเฉือนเป็นรายวัน "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" รมว.มหาดไทย ที่พูดและแสดงความเห็นไปทุกเรื่อง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ที่ช่างสำบัดสำนวนกระแนะกระแหน รวมถึง "ประชา ประสพดี" ที่เป็นมะนาวไม่มีน้ำ พูดจาท้าทายพร้อมดับเครื่องชนทุกสถานการณ์ ขุนพลเหล่านี้ ยังทำหน้าที่ทางปากอยู่ และมีแนวโน้มหนักขึ้นๆ ขณะที่ระดับตัวจริงในพรรคพลังประชาชน อย่าง "นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี" หรือคนเป็นโฆษกพรรคอย่าง "ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง" ยังรักษาความสุขุมได้ยิ่งกว่า หากยังไร้เอกภาพกันอยู่เช่นนี้ ซ้ายที ขวาที "สมัคร" ใบ้ไปก็ไร้ผล ซ้ำจะเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลพรรคพลังประชาชน พลิกเกมมาพ่ายแพ้เร็วขึ้น แต่ก็ช่างประจวบเหมาะกันเหลือเกิน กับการปิดตัวของ เว็บไฮ-ทักษิณ การลาออกจากตำแหน่งประธานสภา ของ "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ถอยพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย แต่กรณี "ปากเป็นพิษนี้" มันจะได้สักกี่น้ำ... ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11010

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=29398&catid=1

[Can ไทเมือง]

อ่านตามข่าว ผู้หลักผู้ใหญ่มาก ๆ ต้องเป็น "ผู้ใหญ่จริงๆ" อาจส่งข้อความผ่านใครบางคนลงมา ไม่เป็นที่เปิดเผย

ถ้าเป็นทักษิณคือผู้ใหญ่คนนั้น ก็เป็นไปได้ เพราะ นายกลามปามทักษิณ ที่บอกทักษิณต้องชี้แจงเรื่องธงทักษิณ

จึงถูกทักษิณผู้เป็นนายจ้างตัวจริง สั่งการลงมา...

แต่ก็อย่างที่มติชนวิเคราะห์ ปากแบบสมัคร ปากเสียจนยากที่จะแก้ไข จะอดออมปากคำได้ซักกี่น้ำ

หากยังใช้ปากในท่าทีแบบนี้ต่อไป มันเสี่ยงที่จะเกิดกลียุคเอาง่ายๆ เหมือนสาดน้ำมันเข้ากองไฟ

ซึ่งมิใช่หน้าที่ของผู้ดูแลบ้านเมือง อย่างน้อยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เป็นตำแหน่งที่ประชาชนทั้งประเทศต้องยอมรับ

ถ้ายังมีสำนึกความเป็นนักการเมือง สำนึกของผู้ดูแลบ้านเมือง คงต้องลดดีกรีการยุแยง การดูถูกด๔แคลนคนอื่นลง

เพราะในประเทศนี้คนที่เห็นต่างนายสมัคร มีมากกว่ามาก แถมยังดูเหมือนจริงใจต่อผลประโยชน์ประเทศชาติมากกว่าซะอีก

อย่างน้อย นักวิชาการ ราษฎรอาวุโส หรือแม้แต่ สื่อมวลชนที่ไม่ได้ฝักใฝ่นักการเมืองหรือพรรคการเมือง

เรายังมีผู้คนที่เห็นประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคการเมืองและนักการเมืองอยู่มากมาย

คนที่อยู่กลางๆ ที่คอยตรวจสอบ คอยเสนอแนะรัฐบาลโดยบริสุทธิ์ใจ ยังมีอีกมากมาย

แต่อย่างไรก็ตาม แม้นายสมัคร สุนทรเวช ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนอีกส่วนหนึ่ง

ไม่ใช่ไม่ยอมรับในความรู้ความสามารถ แต่ ไม่ยอมรับในวิถิปฏิบัติของนายสมัครมากกว่า

[THEHERO]

 

ใครจะไปกลาเตือนคนพรรค์นั้น

เดี๋ยวโดนด่าเข้าทั้งโคตร  จะถอยเอาไม่ทัน

ปากมัน  เกิดมาเพื่อสิ่งนี้

[DAWN]

 ผมว่า ลุงหมัก แกเงียบเอง ลองคิดดูพูดทีไรโดนทุกครั้ง ไม่เคยมีใครยอม
แกคงจะหาทางหาวิธีใหม่ๆ ที่จะได้ไม่เพลี่ยงพล้ำ  เอ.... หรือว่าผู้ที่เรามองไม่เห็น หรือยังไม่นึกถึง
ที่ลือกันว่า (กลุ่มธุรกิจ)สามารถชี้ทิศทางการเมืองได้  กลุ่มนั้นจะมีอยู่จริง

[คนบ้า]

ไอ่กะพ้มว่า
พ่อมันนะซี  มาเข้าฝันกระแทกมัน

แต่คนมันชั่วบัวในตม  กลับตีความว่าเป็นร้าย
กลับกลายมาสำรอกใส่ชาวบ้านทั้งที่เขาไม่ได้เข้าฝันมันจั๊กหน่อย


โธ่ ไอ้โรคจิต  แบ่งนิมิตกะความจริงไม่ได้ เลยฟัดดะตั้งกำแพงป้องตัวเองไว้ก่อน
สู้คนที่ไหน  ไพล่ไปเห็นกงจักรเป็นดอกบัว