ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
05-12-2024, 07:19
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง จริงล่ะหรือ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง จริงล่ะหรือ  (อ่าน 3696 ครั้ง)
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« เมื่อ: 25-05-2006, 16:15 »




น้ำท่วม
ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย ต้องใช้ เรือท้องแบนขนตู้เสื้อผ้าและข้าวของอื่น ๆ หนีน้ำท่วมไว้ยังริมถนนหลวง
บันทึกการเข้า
In The Name Of Justice.
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


-_-;


« ตอบ #1 เมื่อ: 25-05-2006, 16:26 »

เห็นว่าบางหมู่บ้าน ดูละครจนถึงนาทีสุดท้ายเลยนิครับ...

แถมการสื่อสารก็ไม่ได้เรื่องอีก เฮ้อ...
บันทึกการเข้า

"มนุษย์มักต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มี..."

"I Fight In The Name Of Justice."
ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 25-05-2006, 16:35 »

ขึ้นชื่อว่า ภัยพิบัติ ก็พอกัน ....
บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
ลูกไทย หลานไทย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,196


วันนี้วันดี วันที่เป็นไท


« ตอบ #3 เมื่อ: 25-05-2006, 17:01 »

เห็นว่าบางหมู่บ้าน ดูละครจนถึงนาทีสุดท้ายเลยนิครับ...

แถมการสื่อสารก็ไม่ได้เรื่องอีก เฮ้อ...

 Shocked ใจเย็นขนาดนั้น อู้ฮูนับถือ
บันทึกการเข้า

Ŋēmŏ mē ĩmρưŋē ĺдċęşšįҐ
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #4 เมื่อ: 25-05-2006, 17:53 »

เมื่อเช้าอาจารย์เดินมาถาม น้ำท่วมเป็นไงบ้าง

ตอบไปว่า ตอนนี้กำลังแก้ปัญหากันอยู่ค่ะ คงจะทะยอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยุ่

 Very Happy
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #5 เมื่อ: 26-05-2006, 02:17 »


ดูข่าว ตปท แล้วหดหู่ใจมากๆ
หนังสือพิมพ์ในสแกนฯลงข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นร้อย
ตอนแรกก็ติดตามข่าวจากสื่อไทยฯ เห็นว่ามีผู้เสียชีวิต
แค่ 10 กว่าคน ก็คิดว่าพวกฝรั่งมันเวอร์
  แต่ข่าวล่าสุดรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเกินครึ่งร้อย
สูญหายไปอีกครึ่งร้อย ก็เลยต้องเชื่อว่าฝรั่งมันไม่ได้
เขียนข่าวมั่วๆ



 
 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
พริกขี้หนู
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 93


« ตอบ #6 เมื่อ: 26-05-2006, 05:23 »

สงสารคนที่ถูกน้ำท่วม อยากให้สร้างแก่งเสือเต้นค่ะ
บันทึกการเข้า
In The Name Of Justice.
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


-_-;


« ตอบ #7 เมื่อ: 26-05-2006, 13:45 »

สงสารคนที่ถูกน้ำท่วม อยากให้สร้างแก่งเสือเต้นค่ะ

ยากครับ พวก NGO มันค้านตลอด

เรื่องดีๆก็ค้าน เรื่องเน่าๆเหม็นๆไม่ทำงานกัน
บันทึกการเข้า

"มนุษย์มักต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มี..."

"I Fight In The Name Of Justice."
(ก้อนหิน) ละเมอ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 28-05-2006, 22:43 »

สงสารคนที่ถูกน้ำท่วม อยากให้สร้างแก่งเสือเต้นค่ะ

ยากครับ พวก NGO มันค้านตลอด

เรื่องดีๆก็ค้าน เรื่องเน่าๆเหม็นๆไม่ทำงานกัน

แต่ผมไม่เห็นด้วยในการสร้างเขื่อนแฮะ... เพราะว่ามันพิกลๆ ในการวางแผนสร้าง คล้ายๆ กับ แปรรูป กฟผ. นั่นแหละ...
แล้วอีกอย่าง ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ถ้ามีเขื่อนแล้ว น้ำจะไม่ท่วม
บันทึกการเข้า

เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #9 เมื่อ: 29-05-2006, 09:02 »

สงสารคนที่ถูกน้ำท่วม อยากให้สร้างแก่งเสือเต้นค่ะ

ยากครับ พวก NGO มันค้านตลอด

เรื่องดีๆก็ค้าน เรื่องเน่าๆเหม็นๆไม่ทำงานกัน

การสร้างเขือนแก่งเสือเต้น
มีปัญหาที่ยังตอบคำถามไม่ได้ชัดเจนจนป่านนี้

1.ให้คำตอบไม่ได้ว่า เมื่อสร้างเขื่อนแล้วจะป้องกันน้ำท่วมได้มากน้อยแค่ไหน
หรือเปอร์เซนต์ที่ได้ประโยชน์นั้น
จะคุ้มค่ากับการสูญเสียอุทยานป่าไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดซึ่งจะต้องถูกน้ำท่วม
รวมทั้งหมู่บ้านอีกหลายหมู่บ้านซึ่งอยู่อาศัยมาหลายชั่วคน
ที่จะต้องอพยพไปเริ่มต้นวางรกรากใหม่

ที่สำคัญคือผลประโยชน์จากไม้ในอุทยานนั้นจะเป็นไปอย่างไร
ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จึงทำให้ ngo ออกมาค้าน

2. สำหรับการหาที่อยู่แห่งใหม่ให้หมู่บ้านที่จะต้องอพยพก็มีปัญหา
เนื่องจาก เมื่อข่าวแพร่ออกไปว่าหมู่บ้านจะย้ายไปอยู่จุดไหน
ก้จะมีนายทุนไปกว้านซื้อที่ดินตัดหน้าไว้ก่อน
ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นจนเกินงบประมาณที่ราชการเตรียมไว้

ครั้นจะเก็บเป็นความลับ ชาวบ้านก็ไม่มั่นใจว่าจะให้เขาอพยพไปอยุ่ตรงไหน อย่างไร

ข้อมูลเหล่านี้ป้าเสลาได้รับทราบมาจากทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในเขตนั้น
และจากหนังสือที่ กลุ่มผู้รักเมืองแพร่ พิมพ์ออกมาตั้งคำถาม

และป้าเสลาก็ยังไม่ได้ยินข่าวคำตอบจนถึงบัดนี้
โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นก็คล้ายจะเลือนๆไป
เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งหนึ่ง
หัวข้อ เขื่อนแก่งเสือเต้นก็จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดเสียทีหนึ่ง
จากนั้นก็เงียบไปทุกครั้ง


*************

อุทยานแห่งชาติแม่ยม(แก่งเสือเต้น หล่มด้ง)/ Mae Yom National Park

ข้อมูลทั่วไป
อุทยานแห่งชาติแม่ยม พื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง
และอำเภอสอง จังหวัดแพร่ มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์
เต็มไปด้วยป่าสักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างหนาแน่น ซึ่งมีขนาดสูงใหญ่งดงามมาก
นับได้ว่าเป็นตัวแทนป่าไม้สักของภาคเหนือได้อย่างดียิ่ง
รวมทั้งไม้ที่มีค่าต่างๆ จำนวนมาก และทิวทัศน์ที่สวยงาม
มีเนื้อที่ประมาณ 284,218.75 ไร่ หรือ 454. 75 ตารางกิโลเมตร


อุทยานแห่งชาติแม่ยม (Mae Yom National Park)

ในปลายปี พ.ศ. 2525 กรมป่าไม้ทำการสำรวจป่าสงวนแห่งชาติแม่ปุง-แม่เป้า จังหวัดแพร่
ซึ่งมีไม้สักที่อุดมสมบูรณ์ขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างหนาแน่น
และมีทิวทัศน์ธรรมชาติอื่นๆ ที่สวยงามหลายแห่ง
ให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติ
กรมป่าไม้ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจเบื้องต้นปรากฏว่า
บริเวณป่าแม่ปุงและป่าน้ำงาว น้ำสวด มีป่าสักที่สมบูรณ์ยิ่งในภาคเหนือ
สภาพป่าโดยทั่วไปสมบูรณ์ดี เป็นป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำยม
ทั้งยังมีทิวทัศน์ และเอกลักษณ์ทาง ธรรมชาติที่สวยงาม
เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ

กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ
ซึ่งได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2527 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2527
เห็นสมควรให้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ
โดยใช้ชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติแม่ปุง”
ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อุทยานแห่งชาติแม่ยม”
เพื่อให้เหมาะสมตามลักษณะของพื้นที่ซึ่งมีแม่น้ำยมไหลผ่าน
และลักษณะเด่นที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติแม่ยมแห่งนี้เกิดจากแม่น้ำยม
โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่บริเวณที่ดินป่าแม่ปุง
ป่าแม่เป้าและป่าแม่สอง ในท้องที่ตำบลเตาปูน ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
และป่าแม่งาวฝั่งซ้าย ในท้องที่ตำบลแม่ตีบ อำเภองาว จังหวัดลำปาง
ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม 103 ตอนที่ 34 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2529 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 51 ของประเทศ


ลักษณะภูมิประเทศ

ลักษณะภูมิประเทศอุทยานแห่งชาติแม่ยมโดยทั่วไป
จะมีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทั้งด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของพื้นที่
ลาดลงมายังฝั่งแม่ยมซึ่งไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่
เทือกเขาเหล่านี้ เช่น ดอยหลวง ดอยยาว ดอยขุนห้วยแปะ และดอยโตน เป็นต้น
ซึ่งเทือกเขาสูงดังกล่าวนี้เป็นต้นกำเนิดที่สำคัญของแม่น้ำ
และลำห้วยต่างๆ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำยม อาทิ น้ำแม่ปุง น้ำแม่ลำ น้ำแม่เต้น
น้ำแม่สะกึ๋น น้ำแม่เป๋า ห้วยผาลาด ห้วยแม่ปง ห้วยแม่พุง ห้วยแม่แปง
ห้วยเค็ด ห้วยปุย ห้วยเลิม และห้วยแม่ปุ๊ เป็นต้น

บริเวณที่ราบซึ่งมีความลาดเอียงจากแนวทิศเหนือไปทิศใต้โดยประมาณ
มีระดับความสูงประมาณ 180 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่บริเวณอำเภอสอง
แล้วลดความสูงมาเป็นประมาณ 157 เมตร
ส่วนทางด้านแนวทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้น
พื้นที่ลาดเอียงสู่แม่น้ำยมทั้งสองด้าน ส่วนใหญ่เป็นดินลูกรังและดินร่วนปนทราย
ชนิดหินเป็นหินชั้นและหินเชล และพื้นที่จะอยู่ในชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1, 2, 3, 4 และ 5

พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าค่อนข้างสมบูรณ์ ประกอบด้วยชนิดป่าชนิดต่างๆ ได้แก่

ป่าเบญจพรรณ พบทั่วไปในเขตอุทยานแห่งชาติ
โดยเฉพาะตั้งแต่บริเวณเหนือเขื่อนขึ้นไปทางทิศตะวันตกของลำน้ำยม
ชนิดไม้ที่สำคัญ ได้แก่ สัก มะค่าโมง แดง ประดู่ ตะแบก ฯลฯ

ป่าเต็งรัง ขึ้นอยู่ทางตอนเหนือของพื้นที่ และกระจายเป็นหย่อมๆ
ในบริเวณดินที่มีความแห้งแล้ง เป็นดินลูกรัง
ชนิดไม้ที่สำคัญได้แก่ เต็ง รัง พลวง รัก มะเกิ้ม ชิงชัน ฯลฯ

ป่าดิบแล้ง ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นทางทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ
และตามบริเวณริมห้วยที่สำคัญ มีความเขียวชอุ่มตลอดปี
พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ ตะเคียนทอง กระบาก มะหาด ยาง ยมหอม ก่อ ฯลฯ

ป่าสนเขา มีขึ้นอยู่ตามยอดเขาทางทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ
มีความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้จะเป็นพวกไม้สน และไม้ก่อ
เช่น สนสามใบ ก่อเดือย ก่อตาหนู เป็นต้น


จากการสำรวจสัตว์ป่า พบ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 39 ชนิด
นก 135 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 28 ชนิด และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 14 ชนิด
ในจำนวนนี้มีสัตว์ที่มีสถานภาพที่น่าเป็นห่วง 4 ชนิด
ได้แก่ สุนัขจิ้งจอก กระรอกบินเล็กแก้มขาว แมวป่า และนกยูง
มีสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ 1 ชนิด คือ เสือปลา

นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าสงวนซึ่งมีสภาพใกล้สูญพันธุ์ตามสมุดปกแดงของ IUCN
คือ เลียงผา
สัตว์ป่าชนิดอื่นที่พบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่ เก้ง หมีควาย หมูป่า กระต่ายป่า
นางอาย เม่นหางพวง นากเล็กเล็บสั้น อ้นเล็ก กระเล็นขนปลายหูสั้น
ค้างคาวขอบหูขาวกลาง ค้างคาวมงกุฎมลายู หนูท้องขาว ไก่ป่า
นกเขาเปล้าธรรมดา นกหกเล็กปากแดง นกกระปูดใหญ่ นกเค้าโมง
นกตบยุงหางยาว นกตะขาบทุ่ง นกตั้งล้อ นกโพระดกคอสีฟ้า นกหัวขวานด่างแคระ
นกแอ่นตะโพกขาวหางแฉก นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ นกกินแมลงอกเหลือง
นกพงคิ้วดำ นกเด้าลมหลังเทา นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ นกจับแมลงหัวเทา
นกกินปลีอกเหลือง เต่าเหลือง ตะพาบน้ำ กิ้งก่าสวน แย้ขีด
จิ้งเหลนเรียวท้องเหลือง จิ้งจกหางหนาม งูหลาม งูสามเหลี่ยม
อึ่งขาดำ กบหนอง เขียดบัว และคางคกบ้าน เป็นต้น




ดงสักงาม

มีลักษณะเป็นกลุ่มของไม้สักที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นตามริมฝั่งแม่น้ำยม
ตลอดแนวยาวประมาณ 12 กิโลเมตร ไม้สักที่ขึ้นอยู่นี้มีลักษณะสูงใหญ่
ปลายตรง งดงามมาก คล้ายกับไม้สักที่ปลูกในสวนป่า
และหากได้เข้าไปในเดือนสิงหาคม-กันยายน
จะพบกับความร่มรื่นและดอกสักที่เหลืองอร่ามไปหมด
บริเวณดงสักงามนี้มีเนื้อที่ประมาณ 20,000 ไร่ หรือ 32 ตารางกิโลเมตร
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยมประมาณ 6 กิโลเมตร
การเดินทางไปยังจุดนี้ต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้น




แก่งเสือเต้น
เป็นเกาะแก่งธรรมชาติในแม่น้ำยม มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร
อยู่หน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ชื่อของแก่งเสือเต้นนี้มีความเป็นมาจากลักษณะของหินธรรมชาติก้อนหนึ่งในแก่งแห่งนี้
มีลักษณะคล้ายรอยเท้าเสือปรากฏอยู่
ตามริมแม่น้ำยมในช่วงที่เป็นแก่งเสือเต้นนั้นจะมีหาดทรายปรากฏอยู่โดยทั่วไป
เหมาะสำหรับกางเต็นท์พักแรมและล่องแก่งเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่งดงาม
โดยมีเสียงน้ำไหลผ่านเกาะแก่งเป็นส่วนประกอบ




หล่มด้ง

เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 100 เมตร
ปรากฏอยู่บนยอดเขาสูง มีน้ำขังตลอดปี สันนิษฐานว่า
แหล่งน้ำนี้เกิดจากการยุบตัวของดินในบริเวณดังกล่าว
ทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่และมีน้ำขังอยู่
กลายเป็นแหล่งน้ำสำหรับสัตว์ป่าในบริเวณนั้น
ที่นี่ยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ของดงสักงามได้อย่างชัดเจน
รวมทั้งชมทิวทัศน์ยามดวงอาทิตย์ขึ้นละตกด้วย
หล่มด้ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยมประมาณ 14 กิโลเมตร
และห่างจากจุดชมทะเลภูเขา 1 กิโลเมตร
ใกล้กับหล่มด้งนี้จะมีเหมืองแร่เก่าซึ่งผ่านการทำแร่แบไรต์มาแล้ว
มีลานสำหรับกางเต็นท์พักแรม




จุดชมทะเลหมอก

เป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นทิวเขาที่สลับซับซ้อน
มองเห็นความงามของดงสักงามทางทิศตะวันออก
ในช่วงฤดูหนาวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็นและเห็นทะเลหมอกในยามเช้า
จุดชมทะเลภูเขานี้ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยม ประมาณ 13 กิโลเมตร
กิจกรรม -ชมทิวทัศน์



ผาลาด

บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มย.5 (ผาลาด) ซึ่งมีสภาพเป็นป่าเบญจพรรณ
โดยบริเวณห้วยผาลาดจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกยูง จำนวนมาก
จากการสำรวจนกยูงบริเวณดังกล่าวเป็นนกยูงสายพันธุ์ไทย
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 52 กิโลเมตร


ต้นมะค่าใหญ่

ขึ้นในบริเวณขุนห้วยแม่ปุง ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
มีขนาดความโตวัดโดยรอบได้ 7.40 เมตร ความสูง 35 เมตร
ต้องใช้คนประมาณ 6 คน จึงจะโอบได้รอบลำต้น
ลักษณะกิ่งก้านสาขาแตกออกเป็น 2 นาง และแต่ละนางแตกออกเป็น 4 แขนง
การแตกของนางแรกอยู่สูงจากพื้นดิน 3.22 เมตร
พบอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มย.4 (บ่อต้นสัก) ประมาณ 8 กิโลเมตร

********************


ประสิทธิพร กาฬอ่อนศรี
ศูนย์ฝึกอบรมสิ่งแวดล้อม กลุ่มเพื่อนประชาชน
สรุปไว้ในบทความ"แก่งเสือเต้น กับ ทางออกที่ยั่งยืน "
ว่า "ทางเลือก และทางออก ที่ไม่ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้นมีอยู่แล้ว
หากพิจารณาด้วยเหตุและผลแล้ว จะเห็นได้ว่าเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น
ไม่ได้มีความจำเป็น ดังที่ฝ่ายการเมืองต้องการเลย
นอกจากผลประโยชน์ในงบประมาณการก่อสร้าง
กว่า 12,000 ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาท)
ที่เป็นตัวกระตุ้นให้นักการเมืองทุกยุคทุกสมัย
หยิบยกโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาผลักดัน
อีกทั้งป่าสักทองธรรมชาติ กว่า 20,000 ไร่ (สองหมื่นไร่)
ที่เป็นผลประโยชน์ล่อตาล่อใจ ทั้งนักการเมืองระดับชาติ
นักการเมืองท้องถิ่น นายทุนที่หวังผลประโยชน์จากการสัมปทานไม้
รับเหมาก่อสร้างเขื่อน รับเหมาก่อสร้างถนน
รับเหมาก่อสร้างบ้านพักเจ้าหน้าที่ และสนามกอล์ฟ"




ดูข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการวิเคราะห์ได้จาก
http://www.searin.org/Th/KSTD/KstdA4.htm
http://www.searin.org/Th/KSTD.htm

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2006, 09:53 โดย เสลา » บันทึกการเข้า

ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #10 เมื่อ: 29-05-2006, 09:34 »

เรื่องการตัดไม้มีค่าหรือไม้ใหญ่ทีว่าน่ากลัวแล้ว
ที่น่ากลัวกว่าคือเรื่องการ "บุกรุกป่า"
การตัดต้นไม้ใหญ่ ตัดไปก็จะมีลูกไม้หรือไม้เล็กมาทดแทน
ไม้เล็กจะโตเร็ว เพราะไม่มีไม้ใหญ่มาแย่งแสงแดดหรืออาหาร
ในอนาคตอีกหลายปี ก็ยังมีหวังว่าป่าจะฟื้นตัวได้

อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงเลย(บุกรุกป่า)
ชาวบ้านจะเข้าไปเอาไฟสุมโคนต้นไม้
ปล่อยเป็นเวลาหลายวัน จนต้นไม้แห้งตายสนิท
เวลาตัดจะบอกว่าตัด "ต้นไม้ตายแล้ว" มาใช้งาน
การบุกรุกถางที่  เขาจะตัดและถางต้นไม้ทั้งหมด
เป็นที่ดินว่างแล้วปลูกมันสำปะหลัง ปอ อื่นๆ
ดังนั้นพันธุ์ไม้หายากหรือป่าจึงหายไปโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นการที่จะอนุรักษ์ป่าไม้ต้นน้ำลำธาร
ควรมองในภาพรวม ทั้งการปราบไม้เถื่อน  การบุกรุกป่า
การปลูกป่าทดแทน  การมอบที่ทำกินให้ชาวบ้าน
ยึดหลักสร้างสมดุลย์ให้เกิดระหว่างคนกับป่า
"คนกับป่า เราอยู่ร่วมกันได้"
บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
achiteer
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 285



« ตอบ #11 เมื่อ: 29-05-2006, 10:45 »

ถ้าไม่สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น...ก็ขอให้ช่วยทำฝาย
หรือแก้มลิง หรือช่วยกันลอกคลองกับแม่น้ำก็ได้คะ....
เพราะตอนนี้แม่น้ำทุกสายในภาคเหนือ...มีเขื่อนรองรับน้ำกันหมด...
ยกเว้นแม่น้ำยมที่บ้านนี่แหละค่ะ
ไม่ใช่ว่าน้ำท่วมในแต่ละครั้ง...ก็หยิบยกเรื่องการสร้างเขื่อนขึ้นมาพูด...
แต่สุดท้าย...ทางรัฐบาลไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย...
ตอนนี้หาเงินมาได้เท่าไร...ก็หมดไปกับการบูรณะ ซ่อมแซมบ้านคะ
เงินเก็บ...แทบจะไม่เหลือเลย....  Cry
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: