|
Wadoiji
|
 |
« เมื่อ: 24-05-2006, 16:39 » |
|
ประชาธิปัตย์ กทม. พร้อมใจ จัดทีมช่วยเหลือพี่น้องภาคเหนือ ทุกรูปแบบ
พรรคประชาธิปัตย์ จับมือ กรุงเทพมหานคร ระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ภาคเหนือทุกรูปแบบ ทั้ง ข้าวสาร อาหารแห้ง แพทย์ พยาบาล รถทำความสะอาด ระบุ หากพื้นที่ใดต้องการความช่วยเหลือให้ประสานงานได้ที่พรรคประชาธิปัตย์
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 จังหวัดภาคเหนือ (อุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย) ว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดระดมของบริจาค อาทิ ข้าวสาร น้ำ อาหารแห้ง รวมทั้งสิ่งอุปโภคบริโภคที่สำคัญ โดยวันนี้(24 พ.ค.49) จะมีการจัดสิ่งของต่างๆส่งไปยังจังหวัดแพร่
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.49) นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ พร้อมด้วยบรรทัดฐาน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายวิทยา แก้วภราดัย จะนำสิ่งของต่างๆไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์นั้นขณะนี้ได้ทราบจากสาขาพรรคจังหวัดว่ามีความยากลำบากมากในการเข้าถึงพื้นที่ จึงคิดว่า หากทางรถไม่สามารถเข้าไปได้ก็จะมีการประสานขอเฮลิคอป์เตอร์จากกองทัพบก เพื่อเข้าไปช่วยเหลือให้ได้ทุกจุดที่ประสบภัย สำหรับวันที่ 28 พ.ค.49 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปเยี่ยมตั้งแต่อุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย และพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด
นอกจากนี้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความเป็นห่วงพี่น้องภาคเหนือ โดยได้จัดรถเครนจำนวน 4-5 คันเพื่อเตรียมไปยกสิ่งกีดขวาง รถทำความสะอาดบ้าน นอกจากนี้จะมีการจัดแพทย์ พยาบาลอีก 2 คันรถ เพื่อบรรเทาทุกข์ ซึ่งหากพี่น้องประชาชนคนใดมีความประสงค์ให้เราไปบริการล้างบ้าน ดูดเลน ยกสิ่งกีดขวางทั้งต้นไม้ หรือของหนัก รวมทั้งผู้สนใจให้แพทย์หรือพยาบาลไปรักษาหรือดูแลผู้ป่วยก็ขอให้ประสานงานมา ก็ขอให้ประสานงานมาที่พรรคประชาธิปัตย์จังหวัดแพร่ ที่เบอร์ 054-511563 , 054-523689 หรือประสานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ศูนย์ประสานงานของพรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งผู้สมัครทุกคน เทศบาในแต่ละจังหวัด ซึ่งเราจะใช้การประสานงานโดยผ่านกรุงเทพมหานครและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้ส่งทีมช่วยเหลือลงไป
ทั้งหมดนี้คือความห่วงใยของพวกเราชาวประชาธิปัตย์ที่จะไปแวะเยี่ยมพี่น้องประชาชน ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ คือความห่วงใยของพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งของที่เราจะไปมอบให้ขณะนี้เรากำลังระดมกันอย่างหนัก ทั้งผู้บริจาก และที่เราเตรียมไว้แล้ว รวมทื้งพี่น้องชาวกรุงเทพก็ได้บริจาคของมาเป็นจำนวนมาก ขอให้พี่น้องชาวภาคเหนือที่ประสบอุทกภัย ให้ความมั่นใจพวกเราชาวประชาธิปัตย์เป็นห่วงท่านและพร้อมให้ความช่วยเหลือท่านทุกรูปแบบ นางศิริวรรณกล่าว
อภิสิทธิ์ ลุยขอนแก่นสอบโครงการ 30 บาท-ชี้ปัญหาใหญ่หนี้สะสม/เตรียมแก้เป็นนโยบาย ปชป.
ผู้จัดการออนไลน์ - 24/5/2549
ข่าวพรรค/การเมือง หน้าที่ :: 1 ของ 1
อภิสิทธิ์พร้อมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำทีม ตรวจสอบสภาพปัญหาการให้บริการหลักประกันสุขภาพ 30 บาท รักษาทุกโรค ที่โรงพยาบาล 2 แห่งในขอนแก่น เผยพบปัญหาหนี้สินสะสม เป็นปัญหาใหญ่และอันตราย เตรียมแก้ไขเพื่อเสนอเป็นนโยบายของพรรค
เมื่อเช้าวานนี้ (23 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคฯ นายกรณ์ จาติกณิชย์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคฯ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และนายแพทย์วัลลพ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสมาชิกพรรคฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และสภาพปัญหาการบริหารจัดการ โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท รักษาทุกโรค ที่โรงพยาบาลเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
ทันทีที่ไปถึงนายแพทย์จักรพบ ป้อมนภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง และคณะแพทย์ พยาบาล ให้การต้อนรับและร่วมประชุม พร้อมเปิดเผยข้อมูลการบริหารจัดการโครงการของโรงพยาบาล ซึ่งได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพก่อนการประชุม จากนั้นได้ขอประชุมเป็นการภายในเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุมนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า ต้องการมาดูสภาพปัญหาและสถานการณ์การให้บริการ ซึ่งโครงการหลักประกันสุขภาพ ถือเป็นนโยบายเป้าหมายของทุกพรรคอยู่แล้ว แต่พรรคไทยรักไทยเป็นผู้นำมาใช้ก่อน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า จากการทำงานของโรงพยาบาลทั่วประเทศมีปัญหาคล้ายกัน คือ บุคลากรไม่เพียงพอ อีกทั้งมีปัญหาใหญ่ ที่สร้างความกังวลใจและถือว่าอันตรายที่สุด คือ ปัญหาหนี้สินคงค้าง เนื่องจากโครงการมีเงินบำรุงน้อย กลไกที่จะทำให้เกิดความคล่องตัวยาก ซึ่งบางจังหวัด มีโรงพยาบาลใหญ่ช่วยรองรับ แต่ที่ จ.ขอนแก่นไม่มี จึงลงมาศึกษาปัญหาที่นี่ และถือเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นนโยบายที่พรรคจะนำเสนอต่อไป
ทำทีเดียวสองเรื่องเลย... อภิสิทธิ์เริ่มเดินหน้าแก้ไข30บาทตามนโยบายวาระประชาชนแล้ว
ข่าวจากเวบพรรค ปชป.ค่ะ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 24-05-2006, 16:51 » |
|
อืม ปชป ต้องขยันทำคะแนนบ้าง แล้วก็ประชาสัมพันธ์มากขึ้นด้วย
ตอน สึนามิ ถึงจะทำ แต่ก็เงียบฉี่ คนเขาก็นึกว่า ปชป ไม่ทำอะไรเลย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Wadoiji
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 24-05-2006, 17:19 » |
|
ตอนเช้า...
ส.ก.ทรท.เปิดอภิปราย หล่อเล็ก ตั้ง 4 ข้อหาใหญ่ชำแหละวันนี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2549 10:15 น.
สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พรรคไทยรักไทย ลับมีดเตรียมเชือด อภิรักษ์ ในการเปิดสภา กทม.เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ ตั้ง 4 ข้อหาใหญ่กะเอาให้อยู่หมัด นำร่องด้วยอภิมหาฮั้ว 16 โครงการ ตามด้วยโครงการในตระกูลอัจฉริยะ การจัดซื้อรถดับเพลิง และการบริหารส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าตากสิน
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) สังกัดพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ เวลา 10.00 น.สภา กทม.จะมีการประชุมสมัยวิสามัญเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามที่ ส.ก.พรรคไทยรักไทย 25 คน เข้าชื่อเสนอขอเปิดอภิปราย โดยถือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจผู้ว่าฯ กทม.ครั้งแรกในรอบ 34 ปี
สำหรับเนื้อหาการอภิปรายจะมุ่งไปที่การบริหารงานของ นายอภิรักษ์ กรณีการสมยอมราคาประมูล (ฮั้ว) 16 โครงการ การจัดซื้อรถดับเพลิงที่ดำเนินการสมบูรณ์ในสมัย นายอภิรักษ์ และโครงการในตระกูลอัจฉริยะต่างๆ ซึ่งเอื้อเอกชนและประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จริง
รวมทั้งจะมีการเปิดประเด็นใหม่ คือ การบริหารโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าจากสะพานตากสิน ถึงถนนตากสิน ที่มีการว่าจ้างเอกชนในราคาแพง และโยกย้ายข้าราชการเพื่อเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมาย
**************************
ตกเย็น...
ทรท.เตรียมถล่ม อภิรักษ์ ผ่านถ่ายทอดสดช่อง 11
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2549 16:24 น.
ทรท.เงื้อค้าง ถ่ายทอดสดอภิปรายการทำงานของ อภิรักษ์ ผ่านช่อง 11 ยังเหลว เหตุ ปชป.เตรียมรับมือมาดี ระบุ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา กทม.ที่มีนายอภิรักษ์นั่งตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนกระทั่งขณะนี้การอภิปรายญัตติร่างข้อบัญญัติ กทม.เรื่องการเลือกตั้ง ส.ข.(ฉบับที่...) พ.ศ. .... ยังเป็นที่อภิปรายกันอย่างกว้างขวางในสภา กทม.จึงทำให้ ส.ก. พรรคไทยรักไทย ยังไม่สามารถอภิปรายการทำงานที่ผ่านมาของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.ได้ แม้ญัตติดังกล่าวจะถูกบรรจุไว้เป็นระเบียบวาระที่ 3 ของการประชุมสภา กทม. สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่ 1 (ครั้งที่ 1) ประจำปี 2549
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ไม่สามารถอภิปรายญัตติดังกล่าวได้นั้น เนื่องจากทราบว่าประชุมสภาสมัยวิสามัญ ครั้งที่ 1 นี้ เป็นเกมการเมืองที่แกนนำพรรคไทยรักไทยได้กำหนดให้ส.ก.ในสังกัดดำเนินการอภิปรายซักฟอกนายอภิรักษ์ ผู้ว่าฯ กทม.ที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ตลอดการประชุม จากที่ปกติช่อง 11 จะนำแต่เพียงเทปที่บันทึกไว้ไปออกอากาศไม่เคยถ่ายทอดสด ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นในรอบกว่า 1 ปี ตั้งแต่นายอภิรักษ์ เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ที่มีการถ่ายทอดสดการประชุม
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เหตุที่ช่อง 11 ออกมาถ่ายทอดสดในครั้งนี้ เนื่องจากมีแกนนำจากพรรคไทยรักไทย ที่ควบคุมกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ได้สั่งการไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ให้ถ่ายทอดสด เพื่อหวังลดคะแนนนิยมและความน่าเชื่อถือผู้ว่าฯ กทม.และพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก แต่การอภิปรายไม่สัมฤทธิ์ผล เนื่องจากการประชุม ส.ก.ของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีคณะผู้บริหาร กทม.ฝ่ายการเมือง ได้เตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้าจนทำให้ ส.ก.พรรคไทยรักไทย ไม่สามารถอภิปรายนายอภิรักษ์ได้จนถึงขณะนี้
ข่าวจากเวบผู้จัดการ คงต้องพิจารณาเนื้อความกันดีๆ....
แต่แอบสะใจ ^^ ขอลงรวมเป็นกระทู้เดียวกันละกัน...
อภิรักษ์พยายามเข้า!!!
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
snowflake
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 24-05-2006, 17:58 » |
|
ดูบางช่วงค่ะ ประธานฯ รับมือได้ดี ไม่เหมือนของประเทศเช็ก ที่วางมวยกันอุตลุด ต่อหน้าผู้สื่อข่าวเต็มห้อง และออกทีวี  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
|
ลับ ลวง พราง
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 24-05-2006, 18:04 » |
|
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.49) นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ พร้อมด้วยบรรทัดฐาน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายวิทยา แก้วภราดัย จะนำสิ่งของต่างๆไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์นั้นขณะนี้ได้ทราบจากสาขาพรรคจังหวัดว่ามีความยากลำบากมากในการเข้าถึงพื้นที่ จึงคิดว่า หากทางรถไม่สามารถเข้าไปได้ก็จะมีการประสานขอเฮลิคอป์เตอร์จากกองทัพบก เพื่อเข้าไปช่วยเหลือให้ได้ทุกจุดที่ประสบภัย สำหรับวันที่ 28 พ.ค.49 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปเยี่ยมตั้งแต่อุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย และพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด
น้าหยัดแกเปลี่ยนนามสกุล ตั้งแต่เมื่อไหร่เนียะ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ"
|
|
|
|
ผู้ทำลาย
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 24-05-2006, 18:10 » |
|
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.49) นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ พร้อมด้วยบรรทัดฐาน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายวิทยา แก้วภราดัย จะนำสิ่งของต่างๆไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์นั้นขณะนี้ได้ทราบจากสาขาพรรคจังหวัดว่ามีความยากลำบากมากในการเข้าถึงพื้นที่ จึงคิดว่า หากทางรถไม่สามารถเข้าไปได้ก็จะมีการประสานขอเฮลิคอป์เตอร์จากกองทัพบก เพื่อเข้าไปช่วยเหลือให้ได้ทุกจุดที่ประสบภัย สำหรับวันที่ 28 พ.ค.49 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปเยี่ยมตั้งแต่อุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย และพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด
น้าหยัดแกเปลี่ยนนามสกุล ตั้งแต่เมื่อไหร่เนียะ
เปลี่ยนเอง รึใครเปลี่ยนให้อ่ะ ?  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน |
|
|
|
snowflake
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 24-05-2006, 18:11 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Even the smallest person can change the course of the future.
|
|
|
|
Wadoiji
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 24-05-2006, 18:22 » |
|
อ๊ะ ... เห็นแล้วล่ะ แต่ลืมแก้ให้ ^^"
มันผิดมาตั้งกะในเวบนา >< แง้!!!
เสริมให้อีกข่าว จาตุรนต์น่าสงสารจริงๆ
ช่วงที่เกิดปัญหาเอเน็ตโอเน็ต มีข่าวว่าจตุรนต์ ฉายแสง ไม่รอให้มีรัฐบาล... เดินหน้าซื้อคอม2.5แสนเครื่อง เพื่อนำมาใช้ในการสอบเอนท์ครั้งต่อไป..
แต่แล้ว...วันนี้ผลออกมาเป็นเช่นนี้...
จาตุรนต์บ่น เซ็ง เพิ่งรู้รัฐไม่มีเงินให้ซื้อคอมพ์ 2.5 แสนเครื่อง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2549 15:44 น.
จาตุรนต์ เต้นหลัง ทักษิณ ไม่เซ็นจ่ายกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา 3 พันล้าน เดินหน้าเจรจากระทรวงการคลังหาทางออก พร้อมดิ้นนำงบปกติ 500 ล้านซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ 8,000 เครื่องหลังครมไม่ผ่านเมกะโปรเจ็กต์ 2.5 แสนเครื่อง บ่นอุบเพิ่งรู้ ไม่มีเงิน
หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ไม่อนุมัติการขอเงินกู้เพิ่มเติม 3,000 ล้านบาทให้กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เพื่อมาดำเนินการให้นักศึกษา ปวส.ปี 1 และนักศึกษาปี 1 กู้เป็นค่าเทอมตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมให้คำแนะนำโดยให้ไปติดต่อสถาบันการเงิน อย่างธนาคารออมสิน เพื่อขอกู้เงินจำนวนมาดำเนินการ แล้วให้ กรอ.ดูแลบริหารรับผิดชอบจำนวนเงินดังกล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้นายกิตติ ลิ่มสกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ผช.ศธ.) ไปหารือเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงการคลังแล้ว
ด้านนายกิตติให้สัมภาษณ์หลังจากที่ได้หารือกับกระทรวงการคลังว่า เงินงบประมาณในการให้กู้ยืมของกองทุนไอซีแอลที่ขาดกว่า 3,000 ล้านบาทนั้น คงต้องให้ทางกองทุนไปหารือกับสถาบันการเงินในการขอกู้เงินจำนวนนี้ไปก่อน เพื่อนำมาใช้ในปีการศึกษา 2549 ให้ทันต่อความต้องการของนักศึกษา สำหรับส่วนต่างที่ต้องจ่ายเป็นดอกเบี้ยจากการกู้ รัฐบาลจะดูแลส่วนต่างนี้ให้ก่อน ส่วนในปีการศึกษา 2550 จะของบที่จะปล่อยกู้จากรัฐบาลเพิ่มจากที่ให้จัดสรรงบให้ตามปกติ เพราะจะต้องคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินด้วย
ทั้งนี้ การให้กู้ กรอ. คงต้องขอร้องนักศึกษาที่มีเงินทุนในการเรียนอยู่แล้ว อย่าเพิ่งทำเรื่องขอกู้ อยากให้นักศึกษาที่ขัดสนเงินมีโอกาสกู้เงินเรียนก่อน หรืออีกทางเลือกหนึ่ง อาจจะปรับลดอัตราเพดานให้กู้สำหรับพวกที่เรียนในภาคพิเศษ เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษ (อินเตอร์) ซึ่งต้องใช้งบเงินกู้สูงมาก มาเกลี่ยให้นักศึกษา ทั้งนี้ นักศึกษาที่ขอกู้จะได้เงินจากกองทุนกันอย่างทั่วถึง
ผช.ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับในปีถัดไป หากทางกองทุนมีความพร้อมแล้ว ก็อาจจะทำเป็นองค์การมหาชนซึ่งมีความอิสระในการจัดสรรงบประมาณเอง หาเงินทุนมาให้กู้ยืมได้เอง ถ้าหากยังเอางบประมาณแผ่นที่ให้เปล่ามาใช้ก่อนอย่างนี้ก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร แถมถ้ารวมเอาเงินต้นมาทบกันแบบนี้ทุกปีเรื่อยไป จำนวนเงินก็อาจมากกว่างบประมาณของชาติเสียอีก
ส่วนขั้นต้นจะนำเงินจากกองทุน กยศ. ที่สมทบในกองทุนไอซีแอลเพิ่มเติม เนื่องจาก กยศ.กำลังจะลดบทบาทในการปล่อยกู้ให้นักเรียน แล้วจะเริ่มเรียกเก็บเงินคืนจากนักศึกษาที่มาขอกู้และเรียนจบมีงานทำมาใช้เงินคืน กยศ. และทางไอซีแอลก็จะไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินในการนำเงินมาหมุนเพื่อปล่อยกู้
อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกของการดำเนินการรัฐจะเข้ามาอุ้มในส่วนต่างของดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ ก่อน จนกว่ากองทุน กรอ. เข้มแข็ง ก็จะปล่อยให้ดำเนินการเองทั้งหมด
ส่วนกรณีโครงการเมกะโปรเจ็กต์เพื่อซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวน 2.5 แสนเครื่องที่รัฐบาลไม่อนุมัติงบประมาณเช่นกันนั้น นายจาตุรนต์กล่าวว่ากระทรวงศึกษาธิการ จะไม่ทิ้งเรื่องนี้ และจะเสนอเรื่องไว้ให้ ครม.พิจารณาในสมัยหน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ศธ. มีงบประมาณในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นงบปกติจำนวน 552.8 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ ได้แบ่งไปทำโครงการ Mock up จำนวน 72.87 ล้านบาท ดังนั้นจึงได้เสนอ ครม.ไปว่าจะดำเนินการซื้อคอมพิวเตอร์ไปก่อนโดยนำงบประมาณในส่วนที่เหลือ 489.93 ล้านบาท มาจัดซื้อคอมพิวเตอร์จำนวน 8,000 เครื่อง และจัดสรรให้โรงเรียน 1,500 โรง และเพื่อให้มีการจัดซื้อคอมพ์ให้เร็วที่สุด จึงให้คณะอนุกรรมการจัดซื้อจัดจ้างไปขอเสปกของเครื่องคอมพ์จากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อมาดำเนินการ และเตรียมแผนอบรมในการพัฒนาครู และสื่อการเรียนการสอนควบคู่ไปพร้อมกัน
เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่ารัฐบาลไม่มีเงินให้ ทั้งที่ผ่านมา ผมก็เข้าใจมาตลอดว่าได้มีการเตรียมงบจัดซื้อคอมพ์ 2.5 แสนเครื่องไว้ให้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากและเป็นความหวังหนึ่งของครู หากมีคอมพ์สามารถช่วยพัฒนาความรู้ความสามารถของนักเรียนได้ โดยเฉพาะวิชาที่ครูขาดแคลน อย่างคณิต วิทย์ อังกฤษนายจาตุรนต์กล่าว
ตอนที่ว่าจะสั่งซื้อนั้น รู้สึกดีขึ้นมากกับท่านจาตุรนต์... แต่พอข่าวเป็นแบบนี้... เอ่อ... แล้วจะทำไงดีล่ะท่าน = ="
8000เครื่องกับ2.5แสนเครื่องนี่ต่างกันมากนะ...
เอามาจากผู้จัดการอีกแล้ว แม้การนำเสนอจะเอียงๆบ้าง แต่ข่าวเร็วและเยอะดี^^ เลยใช้บริการที่นี่บ่อย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
นู๋เจ๋ง
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 24-05-2006, 18:33 » |
|
ดีจัง แข่งกันทำความดี แข่งกันหาเสียงล่วงหน้าตอนนี้ไม่มีผิด อิอิ แจกของ แจก เงิน ไปเลยค่ะ แจกเยอะๆ กันทุกฝ่าย ดูแลผู้เดือดร้อน ให้ทั่วถึงเลยน๊า ผลดีเกิดกับพี่น้องประชาชนทั้งนั้น รีบๆฉวยโอกาส เลยค่ะ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
|
|
|
|
porameto009
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 24-05-2006, 19:24 » |
|
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.49) นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ พร้อมด้วยบรรทัดฐาน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายวิทยา แก้วภราดัย จะนำสิ่งของต่างๆไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย ซึ่งในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์นั้นขณะนี้ได้ทราบจากสาขาพรรคจังหวัดว่ามีความยากลำบากมากในการเข้าถึงพื้นที่ จึงคิดว่า หากทางรถไม่สามารถเข้าไปได้ก็จะมีการประสานขอเฮลิคอป์เตอร์จากกองทัพบก เพื่อเข้าไปช่วยเหลือให้ได้ทุกจุดที่ประสบภัย สำหรับวันที่ 28 พ.ค.49 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปเยี่ยมตั้งแต่อุตรดิตถ์ แพร่ และ สุโขทัย และพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด
น้าหยัดแกเปลี่ยนนามสกุล ตั้งแต่เมื่อไหร่เนียะ
55555 ตกลงตาหยัดแกเปลี่ยนนามสกุลตอนไหน (ฮา) อ๊ะ ... เห็นแล้วล่ะ แต่ลืมแก้ให้ ^^"
มันผิดมาตั้งกะในเวบนา >< แง้!!!
เสริมให้อีกข่าว จาตุรนต์น่าสงสารจริงๆ
ช่วงที่เกิดปัญหาเอเน็ตโอเน็ต มีข่าวว่าจตุรนต์ ฉายแสง ไม่รอให้มีรัฐบาล... เดินหน้าซื้อคอม2.5แสนเครื่อง เพื่อนำมาใช้ในการสอบเอนท์ครั้งต่อไป..
แต่แล้ว...วันนี้ผลออกมาเป็นเช่นนี้...
จาตุรนต์บ่น เซ็ง เพิ่งรู้รัฐไม่มีเงินให้ซื้อคอมพ์ 2.5 แสนเครื่อง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2549 15:44 น.
จาตุรนต์ เต้นหลัง ทักษิณ ไม่เซ็นจ่ายกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา 3 พันล้าน เดินหน้าเจรจากระทรวงการคลังหาทางออก พร้อมดิ้นนำงบปกติ 500 ล้านซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ 8,000 เครื่องหลังครมไม่ผ่านเมกะโปรเจ็กต์ 2.5 แสนเครื่อง บ่นอุบเพิ่งรู้ ไม่มีเงิน
หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ไม่อนุมัติการขอเงินกู้เพิ่มเติม 3,000 ล้านบาทให้กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เพื่อมาดำเนินการให้นักศึกษา ปวส.ปี 1 และนักศึกษาปี 1 กู้เป็นค่าเทอมตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมให้คำแนะนำโดยให้ไปติดต่อสถาบันการเงิน อย่างธนาคารออมสิน เพื่อขอกู้เงินจำนวนมาดำเนินการ แล้วให้ กรอ.ดูแลบริหารรับผิดชอบจำนวนเงินดังกล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้นายกิตติ ลิ่มสกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ผช.ศธ.) ไปหารือเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงการคลังแล้ว
ด้านนายกิตติให้สัมภาษณ์หลังจากที่ได้หารือกับกระทรวงการคลังว่า เงินงบประมาณในการให้กู้ยืมของกองทุนไอซีแอลที่ขาดกว่า 3,000 ล้านบาทนั้น คงต้องให้ทางกองทุนไปหารือกับสถาบันการเงินในการขอกู้เงินจำนวนนี้ไปก่อน เพื่อนำมาใช้ในปีการศึกษา 2549 ให้ทันต่อความต้องการของนักศึกษา สำหรับส่วนต่างที่ต้องจ่ายเป็นดอกเบี้ยจากการกู้ รัฐบาลจะดูแลส่วนต่างนี้ให้ก่อน ส่วนในปีการศึกษา 2550 จะของบที่จะปล่อยกู้จากรัฐบาลเพิ่มจากที่ให้จัดสรรงบให้ตามปกติ เพราะจะต้องคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินด้วย
ทั้งนี้ การให้กู้ กรอ. คงต้องขอร้องนักศึกษาที่มีเงินทุนในการเรียนอยู่แล้ว อย่าเพิ่งทำเรื่องขอกู้ อยากให้นักศึกษาที่ขัดสนเงินมีโอกาสกู้เงินเรียนก่อน หรืออีกทางเลือกหนึ่ง อาจจะปรับลดอัตราเพดานให้กู้สำหรับพวกที่เรียนในภาคพิเศษ เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษ (อินเตอร์) ซึ่งต้องใช้งบเงินกู้สูงมาก มาเกลี่ยให้นักศึกษา ทั้งนี้ นักศึกษาที่ขอกู้จะได้เงินจากกองทุนกันอย่างทั่วถึง
ผช.ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับในปีถัดไป หากทางกองทุนมีความพร้อมแล้ว ก็อาจจะทำเป็นองค์การมหาชนซึ่งมีความอิสระในการจัดสรรงบประมาณเอง หาเงินทุนมาให้กู้ยืมได้เอง ถ้าหากยังเอางบประมาณแผ่นที่ให้เปล่ามาใช้ก่อนอย่างนี้ก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร แถมถ้ารวมเอาเงินต้นมาทบกันแบบนี้ทุกปีเรื่อยไป จำนวนเงินก็อาจมากกว่างบประมาณของชาติเสียอีก
ส่วนขั้นต้นจะนำเงินจากกองทุน กยศ. ที่สมทบในกองทุนไอซีแอลเพิ่มเติม เนื่องจาก กยศ.กำลังจะลดบทบาทในการปล่อยกู้ให้นักเรียน แล้วจะเริ่มเรียกเก็บเงินคืนจากนักศึกษาที่มาขอกู้และเรียนจบมีงานทำมาใช้เงินคืน กยศ. และทางไอซีแอลก็จะไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินในการนำเงินมาหมุนเพื่อปล่อยกู้
อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกของการดำเนินการรัฐจะเข้ามาอุ้มในส่วนต่างของดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ ก่อน จนกว่ากองทุน กรอ. เข้มแข็ง ก็จะปล่อยให้ดำเนินการเองทั้งหมด
ส่วนกรณีโครงการเมกะโปรเจ็กต์เพื่อซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวน 2.5 แสนเครื่องที่รัฐบาลไม่อนุมัติงบประมาณเช่นกันนั้น นายจาตุรนต์กล่าวว่ากระทรวงศึกษาธิการ จะไม่ทิ้งเรื่องนี้ และจะเสนอเรื่องไว้ให้ ครม.พิจารณาในสมัยหน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ศธ. มีงบประมาณในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นงบปกติจำนวน 552.8 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ ได้แบ่งไปทำโครงการ Mock up จำนวน 72.87 ล้านบาท ดังนั้นจึงได้เสนอ ครม.ไปว่าจะดำเนินการซื้อคอมพิวเตอร์ไปก่อนโดยนำงบประมาณในส่วนที่เหลือ 489.93 ล้านบาท มาจัดซื้อคอมพิวเตอร์จำนวน 8,000 เครื่อง และจัดสรรให้โรงเรียน 1,500 โรง และเพื่อให้มีการจัดซื้อคอมพ์ให้เร็วที่สุด จึงให้คณะอนุกรรมการจัดซื้อจัดจ้างไปขอเสปกของเครื่องคอมพ์จากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อมาดำเนินการ และเตรียมแผนอบรมในการพัฒนาครู และสื่อการเรียนการสอนควบคู่ไปพร้อมกัน
เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่ารัฐบาลไม่มีเงินให้ ทั้งที่ผ่านมา ผมก็เข้าใจมาตลอดว่าได้มีการเตรียมงบจัดซื้อคอมพ์ 2.5 แสนเครื่องไว้ให้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากและเป็นความหวังหนึ่งของครู หากมีคอมพ์สามารถช่วยพัฒนาความรู้ความสามารถของนักเรียนได้ โดยเฉพาะวิชาที่ครูขาดแคลน อย่างคณิต วิทย์ อังกฤษนายจาตุรนต์กล่าว
ตอนที่ว่าจะสั่งซื้อนั้น รู้สึกดีขึ้นมากกับท่านจาตุรนต์... แต่พอข่าวเป็นแบบนี้... เอ่อ... แล้วจะทำไงดีล่ะท่าน = ="
8000เครื่องกับ2.5แสนเครื่องนี่ต่างกันมากนะ...
เอามาจากผู้จัดการอีกแล้ว แม้การนำเสนอจะเอียงๆบ้าง แต่ข่าวเร็วและเยอะดี^^ เลยใช้บริการที่นี่บ่อย
น่าแปลกเนอกระทรวงศึกษาธิการได้งบประมาณไม่น้อยเลยครับ 200000 กว่าล้านบาทจากงบประมาณปี 2549 ทำไมบอกไม่มีแจกล่ะครับ 55 |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Jupiter
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 24-05-2006, 19:41 » |
|
อ้ากกก ผู้นำปชป.จะมาภาคเหนือจริงๆหรอคะ...  ขอรายละเอียดหน่อยสิ เอิ้ก.. จิงๆนะเนี่ย.. ส่วนเรื่องของการศึกษานั้น ไม่อยากคอมเม้นต์แล้วอ่ะค่ะ - - " เบื่ออ่ะ ทำร้ายจิตใจพี่ๆเค้ากันขนาดนี้แล้ว มันกู้คืนยากนะคะ.. แต่ถึงยังไง ก็ลองดูละกาน... อย่าให้รุ่นต่อๆไปเป็นแบบนี้อีกล่ะ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ไม่มีใครตาบอด เท่ากับคนไม่เปิดตามอง"  "ถึงเสียเปรียบก็สู้!!!" |
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 25-05-2006, 01:23 » |
|
ทั้งนี้ การให้กู้ กรอ. คงต้องขอร้องนักศึกษาที่มีเงินทุนในการเรียนอยู่แล้ว อย่าเพิ่งทำเรื่องขอกู้ อยากให้นักศึกษาที่ขัดสนเงินมีโอกาสกู้เงินเรียนก่อน หรืออีกทางเลือกหนึ่ง อาจจะปรับลดอัตราเพดานให้กู้สำหรับพวกที่เรียนในภาคพิเศษ เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษ (อินเตอร์) ซึ่งต้องใช้งบเงินกู้สูงมาก มาเกลี่ยให้นักศึกษา ทั้งนี้ นักศึกษาที่ขอกู้จะได้เงินจากกองทุนกันอย่างทั่วถึง
ข้อความโดย: Wadoiji
ผมเห็นด้วยอย่างมาก........
1. กองทุนฯให้กู้สำหรับคนที่ไม่มีเงินเล่าเรียน พวกที่มีเงินทุนในการเรียนอยู่แล้ว ไม่ควรแสวงประโยชน์จากกองทุนฯ นี้.........
2. นักเรียนภาคภาษาไทย ปกติยังช่วยเหลือไม่ครบถ้วน ทำไมต้องไปช่วยนักเรียนภาคพิเศษที่เรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ......?
ปล. ผมหวังว่า ในอนาคตกองทุนฯ จะไม่คิดไกลให้กู้เงินสำหรับไปเรียนต่างประเทศ ตราบที่นักเรียนที่ขาดแคลนฯ ยังกู้ได้ไม่ทั่วถึง......
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
Wadoiji
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 25-05-2006, 16:26 » |
|
'อภิสิทธิ์' ร่วมเสวนาปัญหาสุขภาพ ระบุ 30 บาทฯ ยังขาดประสิทธิภาพ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ - 25/5/2549
วันนี้(25 พ.ค.49) เวลา 09.00น. ที่โรงพยาบาลกลาง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ได้ประชุมร่วมกับ ดร.อัมมาร สยามวาลา และนักวิชาการที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาด้านสุขภาพในปัจจุบัน
หลังจากนั้นเวลา 12.00น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า การประชุมวันนี้ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ทั้งบุคคลที่ทำงานในเรื่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ผู้ที่ทำงานเรื่องการดูแลสวัสดิการของข้าราชการ ผู้ดูแลเรื่องการประกันสังคม ตลอดทั้งผู้ที่ได้ศึกษาติดตามปัญหาในเรื่องการเงินการคลังมาหารือ เพราะปัญหาการรักษาพยาบาลยังเป็นปัญหาอยู่ สืบเนื่องมาจากการขาดแคลน และการบริหารจัดการในเรื่องของงบประมาณในระบบประกันสุขภาพทั้งหมด
หลายฝ่ายมีความกังวลอยู่มาก เพราะว่าถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ ในที่สุดแล้วความหวังในเรื่องประกันสุขภาพมันไม่เกิดขึ้น จะเกิดปัญหาเรื่องระบบ 2 มาตรฐานที่รุนแรงขึ้น จะเกิดปัญหาความกังวลของประชาชนที่จะเข้ารับการรักษาพยาบาลรับบริการต่าง ๆ และโดยเฉพาะการมองไปข้างหน้า ปัญหาของคนไทยในเรื่องของโรครื้อรัง ค่าใช้จ่ายสูง ประชากรสูงอายุขึ้นก็จะรุนแรง สิ่งที่น่าห่วงใยมากที่สุดคือเรื่องนโยบายทางด้านนี้อาจถูกมองว่านักการเมืองไม่สนใจแล้วก็ได้ เพราะถือว่าการทำในช่วงแรกที่จะได้คะแนนเสียงแต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่มากตนก็ได้คาดการณ์ปัญหานี้มาแต่ต้นได้เคยอภิปรายเพราะเคยเป็นห่วงปัญหาเรื่องนี้จึงได้มาแลกเปลี่ยนในเรื่องของแนวทางในการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว นายอภิสิทธิ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาต้องประกอบไปด้วยหลายส่วน ซึ่งพรรคจะนำเสนอในเรื่องนโยบายที่สมบูรณ์ต่อไป แต่เบื้องต้นในแง่ของการขยายสิทธิในการใช้ประกันสังคมการเพิ่มความคล่องตัวของระบบบริหารจัดการ ของโรงพยาบาลของรัฐเรื่องของการจัดการที่จะให้มีการใช้ระบบข้อมูลซึ่งมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะจัดสรรทรัพยากรให้มีประสิทธาภพมากขึ้นก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นแนวทางสพคัญทั้งสิ้น และเป็นประโยชน์มากในการได้ข้อมูลจากทุกด้าน เพราะว่าการแก้ไขปัญหาต้องไปกระทบหรือเกี่ยวพันกันหลายส่วน ซึ่งขณะนี้อาจจะยังไม่มีแนวทางที่ตรงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายเรื่องสุขภาพค่อนข้างมีความบกพร่อง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าอย่างที่ตนเคยย้ำว่า การประกาศหรือความตั้งใจเรื่องหลักประกันสุขภาพเป็นเรื่องที่ดี และนโยบาย 30 บาทก็ทำให้คนมาเข้าถึงบริการได้มากขึ้น แต่ว่าระบบการบริหารจัดการมีปัญหาตั้งแต่ต้น ทั้งเรื่องบริหารจัดการและเรื่องงบประมาณ ตลอดทั้งวิธีการจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่ระบบการบริหารจัดการยังจะปรับตัวไม่ได้ ทีนี้ในเรื่องคุณภาพก็มีผลกระทบมากขึ้นๆ ในแง่ของความรู้สึกของประชาชนก็จะเห็นได้ชัดว่า ขาดความมั่นใจในบางเรื่อง เช่นเรื่องของคุณภาพยา หรือที่น่าห่วงกว่านั้นก็คือ ตัวชี้วัดด้านสุขภาพบางด้านก็บ่งบอกถึงปัญหาที่จะไปกระทบกลับแย่ลง นี่ก็เป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายรวมถึงฝ่ายการเมืองต้องให้ความสำคัญ ไม่ใช่มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ประเด็นเพราะไม่ใช้ในการหาเสียง
เมื่อถามว่าทางพรรคจะชูเรื่องตัวเลข 30 บาทหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องของตัวเลขถือว่ามีความสำคัญน้อยมาก พรรคคิดว่าจะสามารถทำให้คุณภาพการบริหาร การรักษาพยาบาลดีขึ้น และไม่ต้องเก็บเงินเพิ่ม สำหรับเกณฑ์การรักษานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้การใช้ระบบและการจัดการทรัพยากร ซึ่งหากแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ ตัวเลข 30 บาทที่พูดถึงจะกลายเป็นเรื่องที่เล็กมาก เพราะขณะนี้เรากำลังพูดว่ามีการใช้เงินในโครงการ 30 บาทปีละเกือบแสนล้าน แต่ตัวเลขที่ได้จากโครงการ 30 บาทมีเพียง 1-2 พันล้านเท่านั้น
ปัญหาหลักตอนนี้คือการบริหารจัดการ อย่างที่ผมบอกตอนนี้คือเรามีช่องทาง เรากำลังพูดถึงการขยายช่องทางสิทธิประกันสังคม ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะลดภาระในส่วน 30 บาทได้ แต่ว่าต้องทำด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงสิทธิของคนที่อยู่ในระบบนั้น จริงๆแล้วรัฐบาลก็มีความคิดหรือการเดินอยู่กลายๆ จากความพยายามที่บอกว่าจะไปดึงแรงงานนอกระบบขึ้นมา แต่ความเป็นจริงแล้วเรื่องเหล่านี้ยังทำไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือทำไมไม่มองระบบประกันสังคมให้ไปเทียบเคียงกับระบบราชการ ในเรื่องการดูแลครอบครัว ส่วนในแง่รายละเอียดทางการเงิน ส่วนหนึ่งกองทุนประกันสังคมก็จะรับได้ แต่อีกส่วนในหนึ่งก็ต้องมีการชดเชยหรือสมทบจากรัฐบาล แต่ว่าที่จะลดภาระจาก 30 บาทได้น่าจะคุ้มค่ากว่า นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากยึดตามเกณฑ์นี้ประชาชนที่ไม่มีประกันสังแต่มีสิทธิในโครงการ 30 จะถูกลดสิทธิ์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าจะไม่มีการปรับลดสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่แนวทางนี้จะเป็นการลดภาระหนี้จากโครงการ 30 บาท เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะประกาศเป็นนโยบายได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้พรรคมีความพร้อมแล้ว แต่ด้านสาธารณสุขไม่ได้มีปัญหาเฉพาะโครงการ 30 บาทเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นปัญหา ดังนั้นเรื่องนโยบายจะต้องดูกันต่อไป
ต่อข้อซักถามว่านักวิชาการที่เข้าร่วมการประชุมเห็นด้วยกับแนวทางที่พรรคเสนอหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนคิดว่าแนวทางของพรรคมีเหตุและผลในตัวเอง ซึ่งทุกฝ่ายน่าจะเห็นเหตุผลและยอมรับได้มากกว่าที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยคิดกันง่ายๆว่า เอาเงินที่ประชาชนสะสมมารวมกันแล้วเอาไปแก้ปัญหา ซึ่งโดยหลักแล้วเป็นเรื่องไม่ถูกต้องสำหรับคนในหลักประกันสังคม เราต้องมองถึงคนในครอบครัวด้วย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Killer
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 25-05-2006, 16:38 » |
|
หัดทำบุญ ทำทาน เสียบ้างก็ดีแล้วนี่
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 25-05-2006, 19:04 » |
|
หัดทำบุญ ทำทาน เสียบ้างก็ดีแล้วนี่
มือไม่พาย อย่าเอาทาราน้ำ...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า[/color ]
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
|
|
|
|
Wadoiji
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 25-05-2006, 19:30 » |
|
้เป็นห่วงกลัวธรณีจะสูบเอาสิ... =_="""" ไม่กลัวค่ะ เพราะสัญลักษณ์ของพรรคคือ "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" (บิดหรือบีบนะ =_="?) |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
porameto009
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 25-05-2006, 22:41 » |
|
้เป็นห่วงกลัวธรณีจะสูบเอาสิ... =_="""" ไม่กลัวค่ะ เพราะสัญลักษณ์ของพรรคคือ "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" (บิดหรือบีบนะ =_="?) 5555 คุณ wadouji ไม่ต้องไปโต้มัน สงสัยมันสะกดคำว่า "น้ำใจ" ไม่เป็น รู้จักแต่ว่า พรรคแม้วจะฉวยโอกาสหว่านเงินภาษีประชาชนหาเสียงตอนไหน มากกว่า |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
