ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-11-2024, 18:57
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ชายคาพักใจ  |  อยากทราบเกี่ยวกับเทวตำนานเกี่ยวกับพวกเทพ และ ปิศาจ ต่างๆน่ะครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อยากทราบเกี่ยวกับเทวตำนานเกี่ยวกับพวกเทพ และ ปิศาจ ต่างๆน่ะครับ  (อ่าน 15907 ครั้ง)
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« เมื่อ: 11-04-2008, 11:30 »

เท่าที่ผมรู้จักตอนนี้มี แต่ฝ่ายเทพอ่ะครับ เช่น

1. มิคาเอล (Michael)
    สัญลักษณ์
   
2. ราฟาเอล (Raphael)
    สัญลักษณ์
   
3. กาบรีเอล (Gabriel)
    สัญลักษณ์
   
4. อูรีเอล (Uriel)
5. ซารีเอล (Sariel)
    สัญลักษณ์
   
6. เรมีเอล (Remiel)
7. รากูเอล (Raguel)
8. Chamuel
9. Jophiel
10. Zadkiel
11. Reziel
12. Phanuel




ส่วนฝ่ายมาร ก็มี

1. ลูซิเฟอ (Lucifer)
    สัญลักษณ์
   

2. ซาตาน (SATAN) <---- บางทีก็ว่าเป็นคนเดียวกับลูซิเฟอ บางทีก็ว่าเป็นคนละคนกัน
3. เดม่อน (Demon)
4. แมมม่อน (Mammon)
5. เบลเซบับ (Beelzebub)
6. แอสโมดีอุส (Asmodius)
7. ลีเวียร์ธาณ (Leviathan)
8. เบลเฟกอร์ (Belphegor)
9. เบลิอัล (Belial)

คือเรื่องของเรื่อง ผมอยากได้สัญลักณ์ของเทพทั้ง 7 รวมทั้ง พระเจ้าด้วย และ อยากรู้เพิ่มเติมว่า ฝ่ายมาร นอกจากที่กล่าวมาแล้ว มีใครอีกบ้างครับ

หากผิดถูกยังไง ก็ช่วยบอกด้วยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 14:14 โดย Şiłąncē Mőbiuş » บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #1 เมื่อ: 11-04-2008, 11:45 »

http://my.dek-d.com/o_zone/story/view.php?id=224262
http://walkerz.exteen.com/20051007/lucifer

ก็มีหลายตำนานนะครับ คัมภีร์เก่ากับคัมภีร์ใหม่ก็เขียนไม่เหมือนกัน

ถ้าอ่านภาษาอังกฤษจะมีข้อมูลเยอะมากๆ ถ้าขี้เกียจจะเอาแต่ชื่อลองไปดูการ์ตูนเรื่อง satan666 มีชื่อทั้งสองฝ่ายฝ่ายละ 10ชื่อ เอาไปค้นต่อได้สบายๆ

ผมอยากได้ตำนานเทพของกรีก/ไวกิ้ง ผมว่าดูคลาสิกกว่าเทพอินเดีย/อียิป ใครมีบ้างครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 11:55 โดย login not found » บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 11-04-2008, 11:56 »

ไม่รู้ว่าต้องไปหาพระคำภีย์มานั่งอ่านรึเปล่า 

ไปเจออันนี้เพิ่มเติมมา http://my.dek-d.com/Adarin/story/view.php?id=203457
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 11:59 โดย Şiłąncē Mőbiuş » บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 11-04-2008, 12:00 »

ไปๆมาๆ ไปเจอบาป ทั้ง 7 ด้วย

บาปทั้งเจ็ดนั้นได้แก่

PRIDE หรือ ความจองหองอวดตัว ดูหมิ่น และ ประมาทคนอื่นด้วยความคิด วาจา กิจการ ปีศาจที่แทนบาปนี้ได้แก่ ลูซิเฟอร์ (Lucifer)

AVARICH หรือ ความตระหนี่ถี่เหนี่ยว ไม่ทำบุญทำทานเอาแต่ทำงาน มีใจผูกพันแต่ทรัพย์สมบัติของโลกจนลืมพระเป็นเจ้า และลืมความหมายของชีวิต ความรอดของวิญญาณปีศาจที่แทนบาปนี้ได้แก่ แมมม่อน (Mammon)

LUST หรือ อุลามก ปล่อยตัวฟุ้งซ่านตามความสุขสนุกสบายฝ่านเนื้อหนัง ทำอุลามก ดูรูปภาพลามก เที่ยวในสถาณที่ไม่เหมาะสม ปีศาจที่แทนบาปนี้ได้แก่ แอสโมดีอุส (Asmodius)

GLUTTONY หรือ โลภอาหาร กินและจ่ายอย่างฟุ่มเฟือยโดยเห็นแก่ความสนุก ความชอบ หลุ้มหลง มัวเมา เสพติดปีศาจที่แทนบาปนี้ได้แก่ เบลเซบับ (Beelzebub)

ENVY หรือ ความอิจฉา ดีใจเมื่อท่านได้ ร้ายเสียใจเมื่อเขาได้ดีกว่า อิจฉาทรัพย์สมบัติที่คนอื่นมี
บาปนี้นำพาไปสู่การลักขโมย หรือแม้แต่การฆ่าฟันเพื่อได้ของสิ่งนั้นมาปีศาจที่แทนบาปนี้ได้แก่ ลีเวียร์ธาณ ( Leviathan )

ANGER หรือ ความโกรธ/โมโห ปล่อยใจพลุ่งพล่านเดือดดาน เอาแต่ใจตัวเอง เป็นคนเจ้าอารมณ์
ทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ยั้งคิด ไม่มีเหตุผลปีศาจที่แทนบาปนี้ได้แก่ ซาตาน (Satan)

SLOTH หรือ ความเกียจคร้าน ไม่ทำการทำงาน ไม่ทำหน้าที่รับผิดชอบ สัปเพร่า ทำงานขาดตกบกพร่อง เล่นในเวลาทำงาน ขี้เกียจทำงาน หลับในหน้าที่ปีศาจที่แทนบาปนี้ได้แก่ เบลเฟกอร์ (Belphegor)

ได้ชื่อ ปิศาจเพิ่มอีก 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 12:03 โดย Şiłąncē Mőbiuş » บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #4 เมื่อ: 11-04-2008, 12:17 »

สุเทพ วงศ์กำแหง

สุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ สาขา เพลงไทยสากล-ขับร้อง ประจำปี พ.ศ. 2533 เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่ จังหวัดนครราชสีมา และจบการศึกษาจาก โรงเรียนเพาะช่าง เป็นศิลปินนักร้องเพลงไทยสากลที่มีน้ำเสียงเสนาะ จนได้รับฉายาจาก รงค์ วงษ์สวรรค์ว่า " นักร้องเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์ " มีผลงานดีเด่นเป็นเวลาต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี


บุคคลที่มีส่วนให้ท่านได้เป็นนักร้องคือครูไศล ไกรเลิศ ในระยะเวลาดังกล่าว สุเทพ วงศ์กำแหง ได้ร้องเพลงไว้ถึง 3,000 เพลง แบ่งเป็น 3 ยุค เพลงที่ทำให้มีชื่อเสียงคือ เพลง “รักคุณเข้าแล้ว” ซึ่ง สมาน กาญจนะผลิน เป็นผู้ประพันธ์ทำนอง และสุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ เป็นผู้ประพันธ์บทร้อง ทำให้เป็นที่รู้จักของนักฟังเพลงมากขึ้น และเมื่อมีโอกาสได้ร้องเพลงคู่กับ สวลี ผกาพันธุ์ ยิ่งทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ เพลงที่ท่านร้องจะมีความงามในน้ำเสียง นุ่มนวล มีกังวาน มีลีลาเป็นกันเอง ทุกเพลงที่ร้องล้วนกลั่นออกมาด้วยความวิจิตรประณีตยิ่ง


สุเทพ วงศ์กำแหง เป็นศิลปินที่สนใจการเมือง มีส่วนสนับสนุนนักศึกษาให้เรียกร้องประชาธิปไตยสมัย 14 ตุลาคม 2516 เป็นสมาชิกพรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ต่อมาได้ได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรและได้รับเลือกตั้งหลายสมัย มีโอกาสทำงานรับใช้สังคมมากขึ้น นับเป็นศิลปินที่ตั้งใจทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติอย่างสม่ำเสมอตลอดมา

บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #5 เมื่อ: 11-04-2008, 12:25 »

^
555 เอางี้เลยนะท่าน

http://www.pramool.com:443/webboard/view.php3?katoo=K26200&page=1
นี่รวมๆครับเรื่องของเทพอยู่ราวๆหน้า 35 อ่านจนอ๊วกไปเลย
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 11-04-2008, 12:26 »

สุเทพ วงศ์กำแหง

สุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ สาขา เพลงไทยสากล-ขับร้อง ประจำปี พ.ศ. 2533 เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่ จังหวัดนครราชสีมา และจบการศึกษาจาก โรงเรียนเพาะช่าง เป็นศิลปินนักร้องเพลงไทยสากลที่มีน้ำเสียงเสนาะ จนได้รับฉายาจาก รงค์ วงษ์สวรรค์ว่า " นักร้องเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์ " มีผลงานดีเด่นเป็นเวลาต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี


บุคคลที่มีส่วนให้ท่านได้เป็นนักร้องคือครูไศล ไกรเลิศ ในระยะเวลาดังกล่าว สุเทพ วงศ์กำแหง ได้ร้องเพลงไว้ถึง 3,000 เพลง แบ่งเป็น 3 ยุค เพลงที่ทำให้มีชื่อเสียงคือ เพลง “รักคุณเข้าแล้ว” ซึ่ง สมาน กาญจนะผลิน เป็นผู้ประพันธ์ทำนอง และสุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ เป็นผู้ประพันธ์บทร้อง ทำให้เป็นที่รู้จักของนักฟังเพลงมากขึ้น และเมื่อมีโอกาสได้ร้องเพลงคู่กับ สวลี ผกาพันธุ์ ยิ่งทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ เพลงที่ท่านร้องจะมีความงามในน้ำเสียง นุ่มนวล มีกังวาน มีลีลาเป็นกันเอง ทุกเพลงที่ร้องล้วนกลั่นออกมาด้วยความวิจิตรประณีตยิ่ง


สุเทพ วงศ์กำแหง เป็นศิลปินที่สนใจการเมือง มีส่วนสนับสนุนนักศึกษาให้เรียกร้องประชาธิปไตยสมัย 14 ตุลาคม 2516 เป็นสมาชิกพรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ต่อมาได้ได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรและได้รับเลือกตั้งหลายสมัย มีโอกาสทำงานรับใช้สังคมมากขึ้น นับเป็นศิลปินที่ตั้งใจทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติอย่างสม่ำเสมอตลอดมา



แน๊!!! เข้ามาป่วนกระทู้ผมซะงั้น 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 11-04-2008, 13:15 »

สัญลักษณ์ของเทพ ผมได้มาจากที่นี่
http://www.myfortunesign.com/governing-angels.php

แต่อีก 4 ชื่อ มันไม่เหมือนอ่ะ

เลยไม่รู้ว่าอันไหนเป็นของใึคร 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #8 เมื่อ: 11-04-2008, 13:27 »

ประวัติ ตำนานเทพพวกนี้ยิ่งอ่านยิ่งงงครับ
เพราะมันผ่านมานาน คัมภีร์หลายเล่ม ก็เพี้ยนกันมาเรื่อยๆ
ชื้อเพี้ยนไปตามภาษาบ้าง เป็นสมยานามบ้าง เทพองค์นึงเลยมีหลายชื่อ
บางครั้งยังมีเทพที่คนตั้งเอง บางทีคนที่ศึกษาเข้าใจผิดเลยเขียนลงตำราเพี้ยนไปอีก
สัญลักษณ์ที่ยกมาก็เป็นสัญลักษณ์ของดาวทั้ง 7ดวงมาใส่ให้กับเทพไม่ได้แทนตัวจริงๆนะครับ
(ในเว็บยังมั่วๆเลยว่าดาวไหนให้องค์ไหน)

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 13:33 โดย login not found » บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-04-2008, 13:31 »

ประวัติ ตำนานเทพพวกนี้ยิ่งอ่านยิ่งงงครับ
เพราะมันผ่านมานาน คัมภีร์หลายเล่ม ก็เพี้ยนกันมาเรื่อยๆ
ชื้อเพี้ยนไปตามภาษาบ้าง เป็นสมยานามบ้าง เทพองค์นึงเลยมีหลายชื่อ
สัญลักษณ์ที่ยกมาก็เป็นสัญลักษณ์ของดาวทั้ง 7ดวง
มาใส่ให้กับเทพ(ในเว็บยังมั่วๆเลยว่าดาวไหนให้องค์ไหน)

 

นั่นน่ะดิ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเชื่อมันดีหรือเปล่า 

แบบว่าผมอยากได้ และ อยากรุ้จริงๆนะเนี่ย

ผมถามเพื่อนที่เป็นคริสเตียน ก็ไม่ได้อะไรมาก ได้มาแต่ชื่อเทพอ่ะ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #10 เมื่อ: 11-04-2008, 13:33 »

ลองอ่าน ต่วย'ตูนพิเศษ ดูสิครับ

ผมเห็นเขามีตำนานเทพ ในคอลัมต์นึง

บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #11 เมื่อ: 11-04-2008, 13:40 »

นั่นน่ะดิ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเชื่อมันดีหรือเปล่า 

แบบว่าผมอยากได้ และ อยากรุ้จริงๆนะเนี่ย

ผมถามเพื่อนที่เป็นคริสเตียน ก็ไม่ได้อะไรมาก ได้มาแต่ชื่อเทพอ่ะ 

ถ้าจะเอาเรื่องจริงๆต้องไปถามนักเทววิทยาครับ
พวกคริสเตียน,คริสตังก็รู้งูๆปลาๆพอๆกับชาวพุทธรู้จักอัครสาวกนั่นแหละ

ลองอ่าน ต่วย'ตูนพิเศษ ดูสิครับ

ผมเห็นเขามีตำนานเทพ ในคอลัมต์นึง



ในต่วยตูน ใช่ที่เอาเทพมาลงเป็นตอนๆ ทีละองค์หรือเปล่าครับคุ้นๆว่าเคยอ่านผ่านๆมาบ้าง

คอลั่มพวกนี้มักอิงกับหนังสือเล่มใดเล่มนึง แล้วตัดทอนให้เหมาะสมกับรูปเล่ม
บางครั้งก็อิงมาจากเว็บไซด์(ที่เขียนมาผิดๆ) อ่านเอาสนุกพอรู้เรื่องพอรู้จักก็ได้
แต่จะให้รู้ว่าองค์ไหนมีประวัติอย่างไรคงต้องหาจากหนังสือเฉพาะทางครับ
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 11-04-2008, 13:41 »

ลองอ่าน ต่วย'ตูนพิเศษ ดูสิครับ

ผมเห็นเขามีตำนานเทพ ในคอลัมต์นึง



เล่มไหนล่ะคร้าบบ เฮีย

ว่าแต่ว่า อยากถามต่ออีกแล้ว

เราๆ ท่านๆ ล้วนทราบว่าสวรรค์ มี 7 ชั้น มันมีชั้นอะไรบ้างครับ

และ หากสวรรค์มีเป็นชั้นๆ แล้วนรกมีกี่ชั้นครับ ชั้นอะไรบ้าง

เอาแบบคริตส์นะครับ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 11-04-2008, 13:44 »

ถ้าจะเอาเรื่องจริงๆต้องไปถามนักเทววิทยาครับ
พวกคริสเตียน,คริสตังก็รู้งูๆปลาๆพอๆกับชาวพุทธรู้จักอัครสาวกนั่นแหละ


แล้วไอ้พวกนักเทววิทยาเนี่ย หาจากที่ไหนได้ล่ะครับ

แบบว่าอยากรู้จริงๆนะเฮีย 


ปล. หวังว่าคงไม่ต้องไปถาม ศ.ดร.แลงดอน นะครับ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #14 เมื่อ: 11-04-2008, 14:01 »

เล่มไหนล่ะคร้าบบ เฮีย

ว่าแต่ว่า อยากถามต่ออีกแล้ว

เราๆ ท่านๆ ล้วนทราบว่าสวรรค์ มี 7 ชั้น มันมีชั้นอะไรบ้างครับ

และ หากสวรรค์มีเป็นชั้นๆ แล้วนรกมีกี่ชั้นครับ ชั้นอะไรบ้าง

เอาแบบคริตส์นะครับ 
ที่จริงสวรรค์มี6ชั้นครับ

ที่เรียกสวรรค์ชั้น7 นั่นคือการล้อเลียนครับ

ส่วนเรื่องหลังสือ ต่วยตูน ตอนนี้ก็ยังลงอยู่ครับ

แต่ต้องฟังอย่างที่คุณ ล็อคอินบอกครับ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 11-04-2008, 14:02 »

ที่จริงสวรรค์มี6ชั้นครับ

ที่เรียกสวรรค์ชั้น7 นั่นคือการล้อเลียนครับ

ส่วนเรื่องหลังสือ ต่วยตูน ตอนนี้ก็ยังลงอยู่ครับ

แต่ต้องฟังอย่างที่คุณ ล็อคอินบอกครับ

แสดงว่าถ้าอยากอ่านให้จบ ต้องหาย้อนหลังอ่านด้วยซิครับเนี่ย

 

ว่าแต่ว่า พอจะทราบเรื่องนรกบ้างหรือไม่ครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 14:04 โดย Şiłąncē Mőbiuş » บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #16 เมื่อ: 11-04-2008, 14:03 »

ต้องรอแกรวมเล่มนะครับ รู้สึกจะรวมมาแล้วนะ

แต่ถ้าจะศึกษาเรื่อง คริสต์ ผมว่าต้องอ่านไบเบิล แล้วลองเข้าไปถามพวกหลวงพ่อ หรือบราเดอร์ ดูครับ ส่วนมากเขาจะใจดีทุกคน

ตอนนี้ผมศึกษาศาสนาอิสลามอยู่ พอช่วยได้มะ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 14:05 โดย ศักดินา amalit1990 » บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 11-04-2008, 14:04 »

ต้องรอแกรวมเล่มนะครับ รู้สึกจะรวมมาแล้วนะ

แต่ถ้าจะศึกษาเรื่อง คริสต์ ผมว่าต้องอ่านไบเบิล แล้งลองเข้าไปถามพวกหลวงพ่อ หรือบราเดอร์ ดูครับ ส่วนมากเขาจะใจดีทุกคน

อิอิ น่าสนใจครับ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 11-04-2008, 14:15 »

..........

ตอนนี้ผมศึกษาศาสนาอิสลามอยู่ พอช่วยได้มะ 

อิสลาม กับ คริสต์ ต้นตอ มันก็มาจากที่เดียวกันนั่นแหล่ะว๊าาา 


ไปเจอนี่มา แปลกดีครับ http://fantastica.exteen.com/

มีการกล่าวถึง Animation เรื่อง Final Fantasy ภาค Advent Children ด้วยน่ะซิครับ อิอิ

http://fantastica.exteen.com/20051015/f-inal-f-antasy-vii-a-dvent-c-hildren
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2008, 14:18 โดย Şiłąncē Mőbiuş » บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #19 เมื่อ: 11-04-2008, 16:30 »

อาจะเป็นเพราะคนไทยไม่ได้นับถือเทพแต่นับถือผี ส่วนใหญ่จึงแฝงกับผี
นักเทววิทยาของไทยจึงไม่ได้แบ่งอะไรชัดเจน
มักจะเป็นนักมนุษยวิทยาศีกษาในด้านมนุษย์และวัฒนธรรม
มากกว่าความเชื่อในเรื่องเทพ เลยไม่ค่อยมีผู้ชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ
ต้องไปถามดร.แลงดอนแล้วละครับ

นรกสววรค์ไทยมาจากศาสนาพรหมณ์
สวรรค์มี 6 ชั้น นรกมีแบ่งตามโทษทัณฑ์แบ่งเป็น 8+1ขุม
(รายละเอียดยิบย่อยแบ่ง sub sector ไม่ขอพูดถึงเพราะไม่รู้ 55)
http://www.eanic.com/eanic.org/fusion/readarticle.php?article_id=823

ส่วนของฝรั้งรู้สึกจะไม่ได้แบ่งเป็นชั้นๆเป็นวิมานที่อยู่ของใคร
นรกและสวรรค์มีขนาดกว้างใหญ่ประมาณไม่ได้
สวรรค์เป้นที่สำหรับผู้นับถือพระเจ้าและสำนึกในบาปของตัวได้(เกิดมาก็มีบาปแล้วทุกคน)
นรกเป็นที่ของผู้ต่อต้านพระเจ้าและมัวเมาอยู่ในบาป แต่เพราะความไม่ชัดเจนของบาป
บาปจึงเป็นของอ้างของผู้มีอำนาจในการลงโทษใครซักคนอยู่เสมอ


ปล. จะศึกษาไบเบิลขอแนะให้ไปศึกษากับผู้รู้จริงเท่านั้น
การไปถามเนื้อหาไบเบิลกับผู้นับถือ(คลั่ง)บางคนอาจทำให้เข้าใจผิดได้
และต้องเข้าใจก่อนว่า ไบเบิลก็เหมือนพระไตรปิฎก มีการชำระแต่งเติมมาหลายครั้ง
ย่อมมีผิดพลาดและมีกรเมืองของแต่ละสมัยปะปนเข้ามาบิดเบือนข้อความในนั้นได้ในทุกบรรทัด
ปล.2อย่าไปขึ้นสวรรค์คำนวนบุญแบบบางนิกายสอนนะครับไม่งั้นจะตกนรกทั้งเป็น
http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=6970
http://maneetip.diaryis.com/webpage/?w04
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 11-04-2008, 17:03 »

555

ไอ้นิกายอวกาศยาน อีกแล้วเหรอ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #21 เมื่อ: 14-04-2008, 16:10 »

*  เอาเรื่อง... ลัทธิซาตาน ... มาแปะนะ

    ถ้าเข้าใจไม่ผิด  คือ ไพเออรี่  เป็นส่วนหนึ่งของตรงนั้น ( ถ้าผิดขออำภัยด้วย )


      <<  ไพเออรี่  ออฟ ไซออน ( หรือ นักบวชแห่งไซออน สมาคมลับแห่งยุโรป )  สัญลักษณ์จะเป็นรูปดอกไม้
   
    (  น่าจะเกี่ยวโยงไปเรื่อง ....  ดาวินชี  code  )

        << แต่ที่เข้าไปอ่านส่วนใหญ่  .....  เค๊าบอกว่าสัญลักษณ์ซาตาน คือ ดาว  5  แฉก     
   
    เลขที่เป็นเหมือนตัวแทนของ  ซาตาน ก็คือ  666  ( เลขปีศาจ )

    จริง ๆ แล้วเรื่องของ  ลัทธิซาตาน  ค่อนข้างที่จะเป็นอะไรที่ต้องไปหาอ่านมากมายนิดนึง

     คือ  มันจะโยงไปที่สงคราม  ครูเสด  ....  รวมถึงโยงไปนิกายต่าง ๆ ของศาสนาคริสต์

     รวมไปถึงเรื่อง  แม่มด  ในความเชื่อของคนยุคนั้นด้วย


     มาดูรูป   บาโฟเมต  (Baphomet) กันดีกว่า.... เพราะ  บาโฟเมต  เป็นที่เคารพของ  อัศวินนักรบ

     ซึ่งต่อมาโดนคริสต์จักรกล่าวหาว่าเป็น ........ ลัทธินอกรีต  บูชา  ซาตาน รวมถึงมีพิธีกรรมบูชาแบบแปลกประหลาด


        <<  บาโฟเมต  มีศีรษะเป็นแพะที่มีเขางอกออกมา 2 ข้าง
   
    ที่มาที่ไปของสัญลักษณ์พวกนี้  .....  ก่อนนี้  ไม่ได้หมายถึงสิ่งชั่วร้ายหรอก

     หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ด้วยซ้ำ    แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง  .....  ความหมาย  ก็เลยกลับขั้วกัน

     ปล.  ต้องไปอ่าน  ลิงค์  ที่แปะไว้ให้แล้วจะเข้าใจมากขึ้น ...............  จ้า  !!!!


     http://www.electron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=251&Itemid=0

     http://www.mythland.org/html/modules.php?name=Content&pa=printpage&pid=47
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2008, 16:31 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #22 เมื่อ: 15-04-2008, 09:50 »

*  มาต่ออีกนิดนึง ..... ไม่ใช่เทพ  แต่เป็นอีกลัทธิหนึ่งที่มีบนโลก

    ~:  คู  คลักซ์  แคลน   :~

         คลักซ์ แคลน หรือเรียกย่อๆ ว่า  แคลน เป็นขบวนการต่อต้านคนผิวดำที่ทรงอำนาจในอเมริกา  (และของโลก) มีตำนาน
         เก่าแก่ยิ่งกว่ากลุ่มก่อการร้ายของบินลาเดนเสียอีก (คนเขียนเกลียดบินลาเดน)  มันมีจุดกำเนิดปี ค.ศ. 1865  หลังจาก
         สงครามเหนือใต้ในอเมริกาซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายเหนือ ทำให้ทาสคนผิวดำได้รับการปลดปล่อยและเกิดการยอมรับ
         ในสิทธิ์ประชาชนของคนผิวดำว่าเท่าเทียมกับคนผิวขาว แต่อดีตกองทหารฝ่ายใต้ซึ่งไม่พอใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว “ คนผิวดำ
         เป็นทาส คนผิวขาวคือนาย ”

         หลังสิ้นสุดสงคราม จึงได้รวมตัวกันแบบลับๆ ที่เมืองพัลลาสกีในเทนเนสซีขึ้นเพื่อสร้างสังคมซึ่งให้สิทธิ์พิเศษแก่คนผิวขาวขึ้นมา
         อีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคมซึ่งนี่ก็คือจุดเริ่มต้นขององค์การคนผิวขาวล่าผิวดำ คู คลักซ์ แคลน นี่เอง  ไม่เป็นที่แน่ชัดนักว่าที่มา
         ของชื่อดังกล่าวคืออะไร  บางเอกสารบอกว่ามาจากเสียงที่เกิดเมื่อบรรจุกระสุนลงในไรเฟิ่ลรุ่นเก่า   หากที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้น
         กล่าวว่ามาจาก (kuklos-คายคลอส) ในภาษากรีกซึ่งหมายถึง"วงกลม"หรือ"พวกพ้อง"และ clan ในภาษาเกลซึ่งหมายถึง"ชนเผ่า"


         

         ปี 1867 พวกเขาก่อตั้งอาณาจักรล่องหนแห่งเมืองใต้  ในฤดูร้อนที่แนชวิล จำนวนสมาชิกของ คู คลักซ์ แคลน หรือ ก็เพิ่มขึ้น
         อย่างมากมาย ซึ่งที่นี่เองที่ คู คลักซ์ แคลน หรือ ถูกสร้างเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการ และแต่งตั้งตำแหน่งตำแหน่งกลุ่มนักรบ
         แคลน มีศักดิ์เป็นลำดับคือ แกรนด์วิซาร์ด แกรนด์ดรากอน แกรนด์ไทแทนส์ และ แกรนด์ไซคลอปส์ โดยนาธาน เบดฟอร์ด
         ฟอร์เรสต์ อดีตนายพลใต้ เป็นแกนด์วิซาร์ดคนแรก

         คู คลักซ์ แคลน  ในช่วงแรกยังไม่มีการก่อความรุนแรงอะไรมากมาย เป้าหมายเป็นเพียงการแสดงอำนาจให้คนผิวดำเห็นว่า
         ตัวเองเป็นฝ่ายเหนือกว่าเสียมากกว่า คนผิวดำซึ่งเพิ่งได้รับอิสรภาพมาหมาดๆในยุคนั้นยังด้อยความรู้และมีความงมงายอยู่มาก
         การข่มขู่ให้พวกเขาหวาดกลัวจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแต่สมาชิกของ คู คลักซ์ แคลน ใส่ชุดขาวมีหมวกคลุมศีรษะซึ่งเปิดให้เห็น
         แต่ตากับปากแล้วถือคบเพลิงเดินขบวนไปตามถนนในตอนกลางคืน  เท่านี้เหล่าคนผิวดำก็พากันผวานึกว่าเป็นผี และ ไม่กล้า
         ออกจากบ้านไปในยามค่ำคืนแล้ว ( นัยว่าเพื่อข่มขู่คนผิวดำที่ไร้การศึกษาให้ตกใจและปกปิดหน้าตาของตน เพราะผิดกฎหมาย )
         หากในไม่ช้า การเคลื่อนไหวของ คู คลักซ์ แคลน ก็ค่อยๆเพิ่มความรุนแรง โหดขึ้น  มีการรุมทำร้าย  เผาบ้านและปล้นคนผิวสี
         ข่มขื่นสตรี  พวกเขาใส่ชุดขาวเดินสำรวจไปทั่วเมือง  เมื่อพบคนผิวดำออกมาเดินนอกบ้านนอกเวลาที่พวกเขากำหนด  ก็จะลากมา
         เฆี่ยน ทั้งยังทำร้ายคนผิวดำที่ใช้สิทธิ์ของตัวเองหรือแม้แต่คนผิวขาวด้วยกันที่แสดงการสนับสนุนคนผิวดำ ซึ่งในบางครั้งการทำร้าย
         รุนแรงไปจนกลายเป็นการแขวนคอก็มี


         

         ปี 1871 รัฐบาลประกาศให้ คู คลักซ์ แคลน เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายนอกกฏหมายซึ่งมีอันตรายต่อระบอบการปกครอง และ ทำการ
         กวาดล้างให้ คู คลักซ์ แคลน ต้องแยกตัวไป และหายไปจากสังคม หากนั่นก็เป็นเพียงชั่วคราว......แต่สังคมอเมริกายังเหยียดสีผิว
         ไม่เลิก  มีหลายรัฐที่มีกฎหมายที่ต่อต้นคนผิวดำ พวกเขาเป็นพลเมืองชั้นต่ำ ไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ ชาวผิวดำถูกจำกัดที่อยู่
         จำกัดการศึกษา รถเมล์ก็ขึ้นไม่ได้   ครั้งถึงปลายศตวรรษที่สิบเก้า ความกลัวของชนชั้นผิวขาวเริ่มปรากฏ เมื่อมีการอพยพชนผิวสี
         จากทั่วโลกหลายล้านคนมาในอเมริกา เช่น จีน ญี่ปุ่น จาไมก้า แอฟริกา ทำให้ชนผิวขาวเริ่มวิตกว่า พวกเขาจะตกงานและตกต่ำ
         กว่าที่เป็นอยู่  ..........   ทำให้ คู คลักซ์ แคลน ต้องกลับมาอีกครั้ง !

         ปี 1915 ที่แอตแลนต้า  บาทหลวงของศาสนาคริสต์  วิลเลียม เจ. ซิมมอนส์   อ้างว่าได้ยินเสียงพระเจ้าในความฝันให้ฟื้นฟู
         คู คลักซ์ แคลน ขึ้นอีกครั้ง ซิมอนส์ซึ่งเดิมมีแนวคิดนิยมคนผิวขาวอยู่แล้วจึงรวบรวมคน 34 คน  และ ประกาศการก่อตั้งขึ้นใหม่
         แม้จะเป็นองค์กรเล็กๆ  คู คลักซ์ แคลน ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นใหม่นี้ ในความจริงแล้วมีแนวทางที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากเดิมที่เคยหยุด
         อยู่แค่ " การสั่งสอน "  พวกซิมมอนส์ยึดหลักแบ่งชนชาติอย่างรุนแรงและมีเจตนารมณ์จะขจัดคนเชื้อชาติอื่นออกไปจากอเมริกา
         ให้หมด ในขณะนั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 เพิ่งจะจบไป สังคมกำลังอยู่ในสภาวะไม่แน่นอน คนที่ไม่มีที่พึ่งมากมายเข้ามาเอา
         คู คลักซ์ แคลน  เป็นที่ยึดเหนี่ยวทำให้จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  เพราะ การเข้ามาของคนดังในสังคมที่เข้าร่วมกิจการ
         ประชาสัมพันธ์และการหาทุนเข้าองค์กร

         คู คลักซ์ แคลน รุ่น 2 ได้รับการตอบรับดีจากคนผิวขาวอย่างมาก การเป็นคู คลักซ์ แคลน ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว
         ชาวอเมริกัน นักธุรกิจและผู้นำเริ่มเปิดเผยว่าอยู่ในองค์กรนี้ เช่น ฮูโก แอลแบล็ก และมีนักกฎหมายระดับสูงที่ประกาศตนว่าเป็น
         คู คลักซ์ แคลน  ปี 1922 เฉพาะที่เท็กซัสก็มีคดีทำร้ายร่างกายกว่า 100 คดีที่เกี่ยวข้องกับ คู คลักซ์ แคลน


         

         ปี  1923  เกิดคดีรุมทำร้ายที่โอกราโฮม่ากว่า 2300 คดีคู คลักซ์ แคลน จะส่งจดหมายขู่และ " ไล่ที่ "  ไปยังบ้านของคนผิวดำ
         และคนผิวขาวซึ่งสนับสนุนคนผิวดำ  เมื่อไม่ได้รับการปฏิบัติตามก็จะทำการเข้ารุมทำร้าย  ในบรรดาวิธีการรุมทำร้าย  (Lynch)
         เหล่านี้ ที่มีชื่อเสียงได้แก่ " Tar & Feather "  ซึ่งเป็นการเอาผู้เคราะห์ร้ายมาราดน้ำมันดินจนท่วมแล้วจับคลุกขนนกให้ติดทั่วตัว
         ก่อนจะแห่ไปตามถนน  มีการเผาบ้านกันเป็นกิจวัตร  บางครั้งรุนแรงถึงกับใช้น้ำกรดเพื่อประทับสัญลักษณ์ของพวกตนลงบนร่าง
         ของผู้เคราะห์ร้าย  บ้างก็ตัดแขนขา  บ้างก็เอายางรถยนต์ห้อยคอผู้เคราะห์ร้ายแล้วจุดไฟ  บ้างก็จับมัดไปวางให้รถไฟทับ บ้างก็
         จับแขวนคอ .........   สิงหาคม 1925 พวก คู คลักซ์ แคลน เดินขบวนกว่า 40000 คน พวกเขาโบกธงชาติอเมริกัน และ ธงทหาร
         ฝ่ายใต้ แสดงถึงการคลั่งเผ่าพันธุ์   แน่นอนว่าสังคมก็ไม่ได้อยู่เฉย มีการประท้วงความรุนแรงซึ่ง  คู คลักซ์ แคลน  ก่อโดยสื่อมวลชน
         และองค์กรต่าง ๆ  ประกอบกับการแก่งแย่งกันเองภายใน  คู คลักซ์ แคลน  ทำให้ซิมมอนส์ถูกขับออกจากตำแหน่งผู้นำในปี 1923
         เนื่องจากมีข่าวฉาวโฉ่เรื่องข่มขื่นและสังหารเด็กวัยรุ่น และคดียักยอกเงินกว่าหนึ่งล้านดอลล่าร์สหรัฐ คู คลักซ์ แคลน  ก็สูญเสียการ
         สนับสนุนจากประชาชนในที่สุด

         ในปี 1930 การก่อตั้ง  FBI  ทำให้ คู คลักซ์ แคลน  อ่อนแอ  ตกต่ำลงเรื่อยๆ หากองค์กรนี้ก็ไม่หมดลมหายใจไปง่ายๆ ในรัฐอลาบาม่า
         จอร์เจีย   มิสซิสซิปปี้  และอีกหลายรัฐ ยังมีคดีทำร้ายคนผิวดำเกิดขึ้นเป็นระยะ   วันที่ 18 สิงหาคม ปี 1940  พวก คู คลักซ์ แคลน
         ริ่มสมคบการนาซีใหม่ในอเมริกา และเดินขบวนร่วมกัน พวกแคลนร้องเพลงนาซี อย่างสนุกสนาน ปี 1940 อเมริกาเข้าสู่สงครามโลก
         พวกคู คลักซ์ แคลน ถูกมองว่าเป็นพวกไม่รักชาติ ไม่ใช้องค์กรเพื่อชนชาวอเมริกันอีกต่อไป ผู้นำแคลนถึงกับล้มละลายในปี 1944
         เพราะไม่มีเงินจ่ายภาษีจำนวน 17 ล้านบาท


         
         
        ในปี 1957  เกิดภาพประวัติศาสตร์ นักเรียนผิวดำ 3 คน เดินเข้าโรงเรียนลิตเติลร็อก  รัฐอาร์คันซอส์  รัฐบาลส่งกำลังทหารหลายพัน
         นายมาอารักขา ขณะที่ฝูงชนผิวขาวและพวกคู คลักซ์ แคลน ที่ยังเหลือรอดมองด้วยความเคียดแค้น อยากกินไส้ เอามือล้วงตับ 
         ผลคือ เกิดคดี ลักพาตัว วางระเบิด เผาโบสถ์ และโรงเรียนผิวดำ จนถึงการฆาตกรรมในเวลาต่อมา

         ปี 1961 กลุ่ม คู คลักซ์ แคลน รุ่น 3 ถือกำเนิด ภายใต้การสนับสนุนประธานแคลนแห่งอเมริกา โรเบิร์ต เซลตัน เป็นนักการเมืองผู้ว่า
         แห่งรัฐมิสซิปปี้

         ปี 1962 เกิดการจลาจลโดยคนผิวขาว รัฐต้องส่งคนไปปราบ พวกแคลนตาย 2 ถูกจับกุมอีก 200 คน

         ปี 1963 การฆาตกรรมคนผิวดำกลับมาฮิตอีกครั้ง มีหลายคดีมีการล้มมวยคนดู เพราะคณะลูกขุนผิวขาว ยิ่งทำให้พวกคูแคลนอุอาจ
         ย่ามใจ ไม่กลัวผิด

         ปี 1964 ประธานธิปดีจอห์นสันออกพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิพลเรือน มีการจัดกลุ่มคุ้มครองสิทธิพลเรือนโดยอาสาสมัคร
         คนหนุ่มสาวทั่วประเทศ เพื่อชักชวนให้คนอื่นเห็นความเป็นมนุษย์ของคนผิวดำ

         ต่อมาที่เมืองเนโชบา กลุ่มอาสาสมัคร 3 คน ประกอบด้วย มิกกี้ ชเวอร์เนอร์ อายุ 24 ผิวขาว จากนิวยอร์ก แอนดี้ กู๊ดแมน อายุ 20
         ผิวขาวจากมหาวิทยาลัยควีนส์  และ  จิม ชาเนย์ เด็กผิวดำ จับกุมข้อหาขับรถเร็วและเมื่อปล่อยตัวออกจากคุก ทั้งสามก็หายตัวไป
         อย่างไร้ร่องรอย ( แต่พบรถในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ) ..........


         

         รัฐบาลกลางเห็นคดีนี้ซ่อนเงื่อนเพราะตำรวจท้องถิ่นไม่ตั้งใจทำคดีนี้ จึงส่งเอฟบีไอมาช่วย แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจาก
         ประชาชนและตำรวจท้องที่มากนัก พวกเขาต้องใช้เวลาถึง  6 สัปดาห์ จนพบร่างเด็กทั้งสามถูกฝังริมเขื่อนลึกลงไปถึง 16 ฟุต
         ทำให้สมาชิก แคลน 21 คนถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัย นายอำเภอและผู้ช่วยนายอำเภอถูกจับข้อหาร่วมกันฆ่าเด็กทั้งสามประชาชน
         ทั่วประเทศถึงกับตะลึงว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดเสียเอง ...แต่นายอำเภอ และผู้ช่วยนายอำเภอนั่งฟังการพิจารณาคดีแบบสบาย
         อารมณ์เพราะคณะลูกขุนเป็นคนผิวขาวทั้งหมด    จำเลย 21 คน ได้รับการประกันตัวทันที แม้จำเลยคนหนึ่งสารภาพ แต่ผู้พิพากษา
         กลับบอกว่า “คำสารภาพเชื่อถือไม่ได้” แต่รัฐบาลกลางไม่ยอมจบเรื่อง คดีนี้เลยยืดเยื้อจนถึงปี 1967 ศาลประกาศให้ผู้ต้องหา 8 คน
         พ้นผิด สามคนถูกปล่อยเพราะลูกขุนทะเลาะกันเอง.. อีก 7 คนถูกลงโทษ แต่พ้นจากคุกเพราะเงินการประกันตัวคนละ 5000 เหรียญ

         ประธานาธิบดีจอห์นสัน  ถึงขั้นประกาศทำสงครามกับพวกคูแคลน จึงส่งเอฟบีไอ เข้าจัดการ และเป็นฝ่ายชนะ ในปี 1967
         สภาผู้แทนสามารถนำตัวผู้นำเข้าคุกได้ในข้อหาพยายามฆ่าและใช้เงินทุนทำกิจกรรมน่าสงสัย.... ในปี 1972 นายจอร์จ วอลเลซ
         ผุ้ว่าการรัฐอลาบานา ถูกลอบสังหารขณะกล่าวปราศรับ คนยิงเป็นคนผิวขาวที่จงชังวอลเลซที่เป็นพันธมิตรต่อต้าน คูแคลน
         เขาไม่ตายแต่อัมพาตตลอดชีวิต  หลังจากนั้นพวกแคลนก็หายสาบสูญไปจากอเมริกา กลายเป็นองค์กรเล็กๆ ที่สังคมรังเกียจ
         (เฉพาะคนผิวดำ) แต่กระนั้นแม้เป็นองค์กรเล็กๆ แต่ฤทธิ์ไม่ใช่เล่น จนถึงปัจจุบันที่ผ่านมา ยังมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นมากมายกับ
         คนผิวดำอยู่บ่อย ๆ และตำรวจไม่สามารถจับผู้ทำผิดไม่ได้ จนบัดนี้ กลุ่ม คู คลักซ์ แคลน ก็ยังซ่อนตัวอยู่ในสังคมคนผิวขาวและรอ
         เวลาที่จะกลับมาอีกครั้ง


         http://www.thaicybergames.com/webboard/index.php?topic=71454.105
        *  จบแร่วว  ....  ยาวจัด  ในลิงค์มีเรื่อง  ฆาตกรรมต่อเนื่องของฆาตรโรคจิตด้วยนะ   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2008, 10:14 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #23 เมื่อ: 15-04-2008, 10:33 »

http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=4197.msg30244#msg30244
รวบเรียงเรื่องเทพของฮินดูไว้ที่นี่แล้วครับ เชิญทัศนา
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 15-04-2008, 22:44 »

http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=4197.msg30244#msg30244
รวบเรียงเรื่องเทพของฮินดูไว้ที่นี่แล้วครับ เชิญทัศนา

ขอบคุณครับลุง และ ขอขอบคุณพี่เอ้ด้วย 

แต่ลุงครับ ที่ผมสนใจน่ะ มันเทพของศาสนาคริตส์เค้านาาา 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #25 เมื่อ: 16-04-2008, 07:10 »

เอาเว๊ปพวกนอกรีดไปดูด้วยแล้วกัน
http://www.crossroads.wild.net.au/
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #26 เมื่อ: 16-04-2008, 12:07 »

เทพเจ้าสมัยไวกิ้ง ที่รู้จักกันกว้างขวางคือ เทพเจ้าTor ทูร์ หรือโทร์
เทพเจ้าโอเด้นOden และเทพเจ้า Freเฟรเป็นที่มาของวันศุกร์ เวลาไม่เอื้ออำนวย ต้องไปทำงาน
แล้วครับ
จะกลับมาเล่าต่อ ....เอิ้กกกกกก

 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #27 เมื่อ: 16-04-2008, 12:27 »

เทพกรีก http://www.geocities.com/thinkingworld/myth/grecomyth.html
http://sefiroth.exteen.com/20060816/eros
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88:%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%81

บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #28 เมื่อ: 16-04-2008, 14:02 »

เอาเว๊ปพวกนอกรีดไปดูด้วยแล้วกัน
http://www.crossroads.wild.net.au/
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
หน้า: [1]
    กระโดดไป: