ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-01-2025, 16:19
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คุณเตรียมป้องกันตัวเองจาก ->วิกฤติเงินบาทรอบใหม่<- มานานเท่าไรแล้ว (เตือนภัย) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คุณเตรียมป้องกันตัวเองจาก ->วิกฤติเงินบาทรอบใหม่<- มานานเท่าไรแล้ว (เตือนภัย)  (อ่าน 1553 ครั้ง)
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 22-05-2006, 20:02 »

นี่คือ สิ่งที่ผมเขียนไว้ใน blog ส่วนตัว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา (อาจผิดๆถูกๆ เพราะใช้ประสบการณ์จากปี 40 การติดตาม สะสมข่าวสาร และการอ่านตำราเอง)

ทักษิณโกหกคำโตเกี่ยวกับทุนสำรองฯประเทศ
http://thaitruth.blogspot.com/


และนี่คือสิ่งที่ เว็บไซต์ผู้จัดการ ตั้ง "ข้อสังเกต" เอาไว้วันนี้

ระวังการโจมตีค่าเงินบาทครั้งใหม่!

โดย หมายเหตุผู้จัดการ 22 พฤษภาคม 2549 16:02 น.

จำได้ว่าเมื่อร่วม 2 ปีมาแล้ว คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้นำเสนอในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ว่าราคาน้ำมันอาจจะขึ้นไปถึง 60 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งในขณะนั้นราคาอยู่ที่ระดับ 30 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเล็กน้อยเท่านั้น

การนำเสนอครั้งนั้นทั้งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และสำนักพิมพ์ผู้จัดการถูกบรรดาผู้คนที่อ้างตนเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องพลังงานรุมกันตีกระหน่ำว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ หรือไม่ก็ว่าเป็นเรื่องสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ

แล้วต่อมาความจริงก็เป็นดังที่เราได้นำเสนอไว้นั้น ไอ้พวกผู้เชี่ยวชาญขี้หมาเหล่านั้นไม่มีหน้าไหนสักคนเดียวที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบในความผิดพลาดในการบริหารจัดการเรื่องพลังงาน

ทำให้ประเทศไทยต้องเสียหาย ใช้เงินกองทุนน้ำมันไปกว่า 100,000 ล้านบาท แล้วเป็นภาระตกทอดมาถึงทุกวันนี้ ทำให้คนไทยต้องซื้อน้ำมันแพงกว่าชาวโลกและเสียเปรียบในการแข่งขัน

ในขณะที่ ปตท. ซึ่งถูกแปรรูปไปเป็นของนักการเมืองโกงชาติได้กำไรมหาศาล ปีละกว่า 100,000 ล้านบาท เป็นกำไรบนความฉิบหายวายวอดของคนไทยและประเทศไทยดังที่รู้ ๆกันอยู่

เรากล่าวเรื่องนี้ไม่ใช่เพื่อฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เพื่อจะบอกเตือนคนไทยว่าไอ้พวกที่คนไทยหลงว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญนั้น บางครั้งก็เชื่อไม่ได้ เพราะมีอะไรแอบแฝงแล้วทำให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขี้หมาไปอย่างคาดไม่ถึง

เราต้องกล่าวเรื่องนี้ก็เพื่อนำมาสู่การกล่าวเรื่องใหญ่เพื่อเตือนคนไทยทั้งประเทศอีกครั้งหนึ่งว่า

ให้ระวังประเทศไทยจะถูกโจมตีค่าเงินบาทครั้งใหม่ และจะสร้างความฉิบหายวายวอดครั้งใหม่อีกครั้งหนึ่ง

เรากล่าวเตือนเช่นนี้เพราะเรามีเหตุผลบางประการที่สำคัญคือ

ประการแรก คณะบุคคลที่เคยสมคบปล้นค่าเงินบาทของประเทศไทยในปี 2540 ไม่ได้สูญหายไปไหน หากยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครบถ้วนกระบวนความ และในตำแหน่งคล้ายคลึงกันกับที่เคยเป็นมาเมื่อปี 2540

ดังนั้นจึงมีโอกาสและมีวิสัยที่จะเป็นไปได้ว่าคนกลุ่มนี้กำลังดำเนินกลวิธีเดิมเพื่อปล้นประเทศชาติ ปล้นประชาชนและภาคธุรกิจไทย โดยสมคบกับกองทุนต่างชาติเหมือนที่เคยทำมาครั้งหนึ่งแล้วในปี 2540

โจรที่เคยปล้นบ้านแล้วเข้ามาอยู่ในบ้านจึงวางใจไม่ได้ และต้องระมัดระวังอย่างสูง ฉันใดก็ฉันนั้น

ประการที่สอง ระบบเศรษฐกิจไทยในวันนี้ความจริงพินาศย่อยยับไปแล้ว เพราะเต็มไปด้วยการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง ทรัพย์สมบัติของชาติถูกขาย ถูกปล้น ถูกโกง จนเม็ดเงินในมือนักธุรกิจและประชาชนเหลือน้อยกว่าน้อยนัก แต่กลับไปรวมกระจุกอยู่ที่นักการเมืองโกงชาติไม่กี่คนเท่านั้น

อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและผลได้จาก เอฟทีเอ. ตกอยู่กับคนเพียงไม่ถึง 10 ครอบครัว ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่พินาศย่อยยับ

นักธุรกิจและคนไทยส่วนใหญ่เต็มไปด้วยภาระหนี้สินที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อครั้ง 2540 ภาระหนี้ส่วนใหญ่จำกัดอยู่ในภาคธุรกิจ แต่มาครั้งนี้กินลึกลงไปถึงครัวเรือน ดังที่ปรากฏยอดหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวแล้ว และเลยขีดความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ไปมากแล้ว

บรรดาเงินทองในท้องพระคลังก็ดี ในสถาบันการเงินและธนาคารของรัฐก็ดี ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคตถูกนำออกมาใช้จนเกินตัวไปมากแล้ว

กำลังใกล้ถึงจุดที่จะพังทลายซึ่งจะเกิดปรากฏการณ์ให้เห็นจากการชักดาบของลูกหนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างถล่มทลายในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้แล้ว

สภาพพังทลายถูกปิดบังไว้ด้วยการแข็งค่าของเงินบาทเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

โดยเปรียบเทียบ เงินบาทย่อมแข็งค่าได้เมื่อเงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่นั่นก็ไม่มากเท่าใดนัก แต่การที่เงินบาทแข็งค่าจนผิดปกตินี่สิมันมีอะไรแอบแฝงอยู่ข้างหลัง

การที่กระแสเงินไหลเข้ามาประเทศไทยอย่างผิดปกติจำนวนมากคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า มันไหลเข้ามากันทำไม มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือ

อ้างกันว่าเพราะเศรษฐกิจอเมริกากำลังแย่ เงินจึงไหลมาประเทศไทย เหตุผลนี้ไปหลอกเด็กอมมือเถิด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ย่อมไหลไปจีน เวียดนาม และยุโรปย่อมดีกว่าแน่

มันจึงเป็นได้แค่กรรมวิธีในการเคลื่อนย้ายเงินจากการฉ้อราษฎร์บังหลวงให้มีผลกำไรมากขึ้น เพราะเมื่อเงินบาทแข็งก็โอนเงินบาทไปถือเงินตราต่างประเทศได้มากขึ้นเป็นกำไรมากขึ้น

หรือไม่ก็โอนเข้ามาเก็งกำไรเพื่อรอจังหวะและเป็นส่วนหนึ่งของการทุบค่าเงินบาท

เราอาจสังเกตได้จากการแทรกแซงค่าเงินบาทในหลายครั้ง ทั้งๆ ที่การแทรกแซงนั้นเคยถูกใช้เป็นเหตุผลในการฟ้องอดีตผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยมาแล้ว

เพราะค่าเงินบาทแข็งจึงทำให้ค่าน้ำมันยังพอลดลงมาได้บ้าง จึงทำให้สภาพพังทลายถูกปิดงำเอาไว้ แต่มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือมีเงื่อนงำที่ซับซ้อนกันแน่

เราฟันธงว่ากำลังมีกระบวนการที่ลากเงินบาทให้แข็งค่าขึ้นจนเกินจริง

เมื่อถึงวันหนึ่งก็ทุบได้ถนัดมือ ทุบได้สนั่นและทุบได้ผลกำไรมหาศาล เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2540 เป็นแต่กรรมวิธีอาจจะซับซ้อนมากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

เราจึงต้องหมายเหตุเตือนภาคธุรกิจไทยและพี่น้องร่วมชาติทั้งหลายให้สังวรตระหนักว่าพญามารกำลังจ้องจะฮุบประเทศไทยด้วยการโจมตีค่าเงินบาทครั้งใหม่ในอนาคตอันไม่ไกลเท่าใดนัก

นี่คือหน้าที่ของเรา ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ.

http://www.manager.co.th/asp-bin/PrintNews.aspx?NewsID=9490000066499


ผมอาจจะสอนหนังสือสังฆราชก็ได้ และเชื่อว่ามีผู้รู้มากกว่าผมแน่นอนในเว็บบอร์ดแห่งนี้

ผมอยากเห็นเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ที่รักชาติ รักแผ่นดินจากจิตใต้สำนึก ร่วมอุดมการณ์เราอยู่รอดปลอดภัยทุกคน หากวิกฤติเกิดขึ้น และช่วยกันบอกบุญไปยังผู้ที่ยังไม่รู้

ส่วนผู้ที่ดื้อด้าน หลงใหล ยังคงคิดว่า หน้าเหลี่ยมจะบันดาลให้มันหายจน หรือรวยเหมือนหน้าเหลี่ยม ก็ปล่อยให้มันพินาศฉิบหายไปกับมัน และจะได้กลับไปหัวเราะเยาะทับถมมัน ไปสำทับมัน เยาะเย้ยมัน

ผมได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่ผมเองคิดไว้ เป็นแค่ความตื่นตระหนก และตนเอง "หน้าแหก" ครับ ยินดีหน้าแหกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2006, 20:07 โดย thaitruth » บันทึกการเข้า

เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #1 เมื่อ: 22-05-2006, 20:32 »

อ่านแล้วน่ากลัวครับ
ถ้าเป็นตามที่ว่า  รอบนี้เงินบาทจะลงไปสุดที่เท่าไร
50-60หรือ70บาทต่อ1ดอลร์ล่า
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
ปฐม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 398



« ตอบ #2 เมื่อ: 22-05-2006, 20:34 »

ก็เตรียม ๆ ไว้เหมือนกันล่ะครับ  แต่ก็ภาวนาในใจนะครับ  ว่า  "อย่าเกิดเลย"
บันทึกการเข้า

ถ้าจะอยู่  ก็ขออยู่อย่าง  เย้ยฟ้าท้าดิน
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 22-05-2006, 20:41 »



"เอกยุทธ อัญชันบุตร" ได้วิเคราะห์ไว้ว่า ถ้าไอ้เหลี่ยมจะไป มันน่าจะไปภายใน 1 ปี แต่ไม่ได้ไปเพราะการต่อต้านจากพันธมิตรหรือว่าอะไร แต่มันจะไปเมื่อยักย้ายถ่ายเททุกอย่างเสร็จแล้ว จะได้เตรียมไปใช้เงินอยู่เมืองนอก

ผมคาดไว้เสมอว่า ไอ้เหลี่ยม ยิงกระสุน 1 นัด จะต้องได้นก 5 ตัวเป็นอย่างน้อย และไปทั้งทีจะต้องมีการทำลายทุกอย่างให้ย่อยยับ (ตามหลัก "กรูไม่ได้แด๊ก มรึงก็อย่าได้แด๊กด้วย") ดังนั้นไปทั้งที มันจะต้องขอ "ทำกำไร" สั่งลาซะหน่อย (อันนี้หมายถึงกรณีว่ามันตัดสินใจจะไปนะ)
บันทึกการเข้า

แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 22-05-2006, 20:57 »

ผู้เขียนบทความไม่ได้มีความรู้ในเรื่องปริวรรตเงินตราค่ะ แอนบอกได้เลยว่า เดาและมั่ว

การปรับตัวของค่าเงินผิดปกติ จริงค่ะ แต่ไม่ใช่ลากเพื่อทุบ
ช่วงนี้ค่าเงินแกว่งตัวผันผวน เป็นเรื่องของดีมานด์ซัพพลาย
อย่างแรกคือ ดีมานด์เงินบาทมีมากขึ้น อันเนื่องมาจากการแข่งขันกันดึงเงินบาทของแบงค์ไทย
อย่างที่สอง มีดีมานดืเงินบาทจากต่างประเทศจริง และกระจายไปในภูมิภาคจริง และมีการเก็งกำไรบ้าง จริงค่ะ

เหตุผลที่ไม่ไหลเข้าจีน เพราะ จีนผูกค่าเงินกับดอลล่าร์
เหตุผลที่ทำไม่ไม่เก็งเงินเหรียญฮ่องกง เหตุเดียวกันจีน

เพราะงั้นเงินสกุลต่างประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่แพคไว้กับดอลล่าร์จะเก็งกำไรลำบาก
ส่วนหนึ่งจึงไหลไปเก็งกำไรในเงินวอนของเกาหลี และส่วนหนึ่งไหลมาที่เงินบาทไทย

ประจวบเหมาะกับช่วงแรกการขายหุ้นชินทำให้ความต้องการเงินบาทแข็งขึ้นจนมาถึง 39 บาท
ต่อเนื่องจากนั้น คือ ดีมานด์ในประเทศ และต่างประเทศรวมกันอีกเล็กน้อย ทำให้แข็งถึง 37.5 บาท

ตอนนี้เริ่มอ่อนลงมาใหม่แล้วค่ะ คิดว่า น่าจะอ่อนไปจนถึงระดับ 39 บาท
ด้วยระบบเศรษฐกิจของเราตอนนี้ จากการประมาณการส่วนตัว คิดว่าระดับ 38-40 บาทเป็นช่วงที่เหมาะสม

อย่าตื่นตูมนะจ๊ะ  Mr. Green
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Lotus under water
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #5 เมื่อ: 22-05-2006, 21:33 »

55555 ปรากฎการณ์...โชว์โง่ของจขกท.

วิเคราะห์ซะยังกะพวก...ฟอร์เวิดเมลล์ 55555

หน้ำซ้ำยังมาอ้างอิงถึงไอ้ห่าเอกยุทธอีก...จ้าดง่าวเอ้ย

เอาแค่ถ้าทักษินได้สานงานต่อ...เฉพาะเมคก้าโปรเจคหลายแสนล้าน ค่าเงินบาทคุณว่าจะไหลขึ้นหรือไหลลง ไหลเข้าหรือไหลออก...พวกเองมันคิดถึงแต่สถานการณ์ที่จะเกิดโดยไม่มองปัจจัยเวลา...และวิธีแก้ปัญหา

เกิดมาเพื่อจับผิดกับ ติ ติ ติ...โตเพราะกินขี้จริงๆ Laughing
บันทึกการเข้า


เบียร์ที่ดีที่สุด...คือเบียร์ที่เย็นเป็นวุ้น...
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 22-05-2006, 21:39 »

ที่แอนตอบหมายถึงหมายเหตุผู้จัดการนะคะ ส่วนในบ๊อคยังไม่ได้อ่าน  Mr. Green
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Yodyood
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 528



« ตอบ #7 เมื่อ: 22-05-2006, 21:43 »

55555 ปรากฎการณ์...โชว์โง่ของจขกท.

วิเคราะห์ซะยังกะพวก...ฟอร์เวิดเมลล์ 55555

หน้ำซ้ำยังมาอ้างอิงถึงไอ้ห่าเอกยุทธอีก...จ้าดง่าวเอ้ย

เอาแค่ถ้าทักษินได้สานงานต่อ...เฉพาะเมคก้าโปรเจคหลายแสนล้าน ค่าเงินบาทคุณว่าจะไหลขึ้นหรือไหลลง ไหลเข้าหรือไหลออก...พวกเองมันคิดถึงแต่สถานการณ์ที่จะเกิดโดยไม่มองปัจจัยเวลา...และวิธีแก้ปัญหา

เกิดมาเพื่อจับผิดกับ ติ ติ ติ...โตเพราะกินขี้จริงๆ Laughing


ถึงเรื่องวิเคราะห์ค่าเงินขั้นต้นของเจ้าของกระทู้ถึงจะไม่ถูกต้องนัก
แต่ที่คุณพ่นออกมาก็เลวร้ายไม่น้อยกว่าคนที่คุณดูหมิ่นอยู่หรอกครับ
เมกะโปรเจคหลายแสนล้านมีเงินไหลเข้ามาจริง แต่หนี้ของประเทศที่เราต้องแบกรับจากการกู้ยืมก็จะมีไม่น้อยเช่นกัน
คิดว่าสภาพเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มซบเซา คุณคิดว่าการวางแผนลงทุนอย่างบ้าคลั่งนี่มันดีเหรอ????
บันทึกการเข้า

~ You will never know the truth if you dare not to face it. ~
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 22-05-2006, 21:50 »

ติงนิดนึ่งเรื่องบทความที่วิเคราะห์นะคะ ตัวเลขไม่น่าจะสมมุติเลยค่ะ เพราะในบทความสมมุติเอาหมดเลย หรือไม่ก็จำได้ว่า
ตัวเลขพวกนี้หาได้ค่ะ ถ้าจะวิเคราะห์จริงๆ น่าจะเอาตัวเลขจริงมาดีกว่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการไหลเข้าของเงิน หาดูได้ ในเวปแบงค์ชาติมีเยอะแยะ
อ้อ ดุลบัญชีเดินสะพัด = ดุลการค้า + ดุลการชำระเงิน
ส่วนดุลบัญชีเคลื่อนย้ายของเงิน เป็นอีกบัญชีนึงอ่ะ อันนั้นถ้าจะดูลึกๆ ต้องไปดูเงินเคลื่อนย้ายว่าลงมาที่การลงทุนโดยตรง หรือว่าโดยอ้อม
ถ้าเป็นการลงทุนโดยตรง การเคลื่อนย้ายเงินทำได้ไม่ง่ายนัก บทความชิ้นที่เขียน เขียนแบบงานหนังสือพิมพ์เกินไปค่ะ
สมมุติไปหมด งานวิเคราะห์แบบนี้ไม่ควรสมมุติค่ะ เพราะทำให้การวิเคราะห์ผิดทาง ปราศจากพื้นฐานจากข้อเท็จจริง

ความน่าเชื่อถือก็จะน้อยลงด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Ziggy Stardust
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 321


สมาชิกขบวนการหมายเลข 354


« ตอบ #9 เมื่อ: 22-05-2006, 22:01 »

55555 ปรากฎการณ์...โชว์โง่ของจขกท.

วิเคราะห์ซะยังกะพวก...ฟอร์เวิดเมลล์ 55555

หน้ำซ้ำยังมาอ้างอิงถึงไอ้ห่าเอกยุทธอีก...จ้าดง่าวเอ้ย

เอาแค่ถ้าทักษินได้สานงานต่อ...เฉพาะเมคก้าโปรเจคหลายแสนล้าน ค่าเงินบาทคุณว่าจะไหลขึ้นหรือไหลลง ไหลเข้าหรือไหลออก...พวกเองมันคิดถึงแต่สถานการณ์ที่จะเกิดโดยไม่มองปัจจัยเวลา...และวิธีแก้ปัญหา

เกิดมาเพื่อจับผิดกับ ติ ติ ติ...โตเพราะกินขี้จริงๆ Laughing


ไม่รู้คุณเป็นคนเดียวกับ silent power อ่ะป่าว

ถ้าใช่ผมเป็นแฟน silent นะ ถ้าพี่รักษา้ระดับความรุนแรงได้แบบ silent จะน่ารักมากๆเลยพี่ เพราะมีพี่ คิล คนเดียวก็มึนแล้วอ่ะ

ถ้าไม่ใช่ก็ขออำภัย
บันทึกการเข้า

A tiger can smile
A snake will say it loves you
Lies make us evil
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 22-05-2006, 22:06 »

ติงนิดนึ่งเรื่องบทความที่วิเคราะห์นะคะ ตัวเลขไม่น่าจะสมมุติเลยค่ะ เพราะในบทความสมมุติเอาหมดเลย หรือไม่ก็จำได้ว่า
ตัวเลขพวกนี้หาได้ค่ะ ถ้าจะวิเคราะห์จริงๆ น่าจะเอาตัวเลขจริงมาดีกว่า
น้อมรับครับ ผมมองแบบคนไม่เคยเรียนเศรษฐศาสตร์ครับ แต่ผมไม่อยากเจอประสบการณ์ร้ายๆแบบปี 40 อีกครับ และที่สำคัญคือ ความเห็นของคุณโฆสิต และอ.สมภพ ครับ ที่ทำให้ผมติดใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการไหลเข้าของเงิน หาดูได้ ในเวปแบงค์ชาติมีเยอะแยะ
อ้อ ดุลบัญชีเดินสะพัด = ดุลการค้า + ดุลการชำระเงิน
ส่วนดุลบัญชีเคลื่อนย้ายของเงิน เป็นอีกบัญชีนึงอ่ะ อันนั้นถ้าจะดูลึกๆ ต้องไปดูเงินเคลื่อนย้ายว่าลงมาที่การลงทุนโดยตรง หรือว่าโดยอ้อม
ในเว็บแบงค์ชาติ มีบอกเงินลงทุนโดยตรง และโดยอ้อมครับ แต่เขาไม่ได้แจกแจงว่า เงินลงทุนโดยตรงนั้น มาแบบไหน มาลักษณะตั้งกิจการ หรือมาซื้อกิจการที่มีอยู่แล้ว อะครับ

ถ้าเป็นการลงทุนโดยตรง การเคลื่อนย้ายเงินทำได้ไม่ง่ายนัก บทความชิ้นที่เขียน เขียนแบบงานหนังสือพิมพ์เกินไปค่ะ
สมมุติไปหมด งานวิเคราะห์แบบนี้ไม่ควรสมมุติค่ะ เพราะทำให้การวิเคราะห์ผิดทาง ปราศจากพื้นฐานจากข้อเท็จจริง
ความน่าเชื่อถือก็จะน้อยลงด้วยค่ะ
น้อมรับครับ
บันทึกการเข้า

ข้าวมันไก่
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18


อร่อย


« ตอบ #11 เมื่อ: 23-05-2006, 09:30 »

เห็นด้วยกับผู้ตั้งกระทู้คับ ระวังไว้ก่อนไม่เสียหาย

จะวิเคราะห์เมืองไทยเช่น ตลาดหุ้น ตลาดเงิน อิงวิชาการมากไปไม่ได้หรอกคับ

ก่อนเกิดวิกฤต 10ปีก่อนมีใครจำชื่อนักวิชาการที่ออกมาเตือนได้บ้างคับ

คนที่โกงเงินไปทำกันเป็นทีม

เพื่อซ่อนเร้น ก็เอาข้อมูลวิชาการที่ฟังแล้วมีหลักการมาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น

ฝรั่งมันก็เอาข้อมูลคนไทยเก็บไปวิเคราะห์ ก็ถูกต้มเหมือนกัน

หรือไม่ก็สมคบกับคนไทยบางกลุ่มปล้นเสียเอง

ของพวกนี้อยู่เหนือกฎเกณฑ์ทางเศรษฐศาสตร์ทั้งนั้น
บันทึกการเข้า

อยู่เพื่อกิน
ลูกไทย หลานไทย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,196


วันนี้วันดี วันที่เป็นไท


« ตอบ #12 เมื่อ: 23-05-2006, 09:44 »

ถ้าอ่านกระทู้นี้ด้วยใจสงบๆ จะเห็นว่าเป็นกระทู้ที่ดีนะครับ คุณเจ้าของกระทู้เสนอความเป็นห่วงมา คุณแอ่นแอ๊นก็เสนอความเห็นมา

กองเชียร์ก็เฮกันไปตามกลุ่มที่ชื่นชอบ  Mr. Green

ขอบคุณคุณเจ้าของกระทู้ กับคุณแอ่นแอ๊นครับ ตัวผมเองไม่รู้เรื่องพวกนี้มากนัก จึงอ่านทั้งสองแง่มุมครับ (แทงกั๊ก กันพลาด)
บันทึกการเข้า

Ŋēmŏ mē ĩmρưŋē ĺдċęşšįҐ
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 23-05-2006, 10:53 »

เห็นด้วยกับผู้ตั้งกระทู้คับ ระวังไว้ก่อนไม่เสียหาย

จะวิเคราะห์เมืองไทยเช่น ตลาดหุ้น ตลาดเงิน อิงวิชาการมากไปไม่ได้หรอกคับ

ก่อนเกิดวิกฤต 10ปีก่อนมีใครจำชื่อนักวิชาการที่ออกมาเตือนได้บ้างคับ

คนที่โกงเงินไปทำกันเป็นทีม


นักวิชาการที่เตือนคือ นักวิชาการทางเศรษฐศาสตร์ค่ะ เตือนล่วงหน้าเป็นปี กลุ่มแรกคือ TDRI

ถ้าอ่านกระทู้นี้ด้วยใจสงบๆ จะเห็นว่าเป็นกระทู้ที่ดีนะครับ คุณเจ้าของกระทู้เสนอความเป็นห่วงมา คุณแอ่นแอ๊นก็เสนอความเห็นมา

กองเชียร์ก็เฮกันไปตามกลุ่มที่ชื่นชอบ  Mr. Green

ขอบคุณคุณเจ้าของกระทู้ กับคุณแอ่นแอ๊นครับ ตัวผมเองไม่รู้เรื่องพวกนี้มากนัก จึงอ่านทั้งสองแง่มุมครับ (แทงกั๊ก กันพลาด)

ตอบในฐานะที่เรียนเศรษฐศาสตร์มาบ้าง ไม่อยากให้ตื่นตูมโดยไม่อิงข้อเท็จจริงนะคะ ถ้าอ่านข้อมูลทางเศรษฐกิจจะพอเห็นภาพบ้าง แต่ต้องทำการบ้านมากๆ บางตัวเลขหลอกเหมือนกันค่ะ แต่อันนั้นต้องอ่านรายงานหลายฉบับมากๆ เพราะบางครั้งก็มีการแต่งบัญชีเหมือนกัน
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #14 เมื่อ: 23-05-2006, 11:06 »

ผมเชื่อว่า ต่อให้เกิดการโจมตีค่าเงินบาทจริง
ยังไงก็ไม่กระทบเศรษฐกิจรุนแรงเท่าปี 40 หรอกครับ
ยุคนั้น สถาบันการเงินมันเน่าเยอะ เพราะให้กู้ง่าย จนหนี้เน่าเต็มไปหมด
เฉพาะ BBC มีหนี้เน่า แสนกว่าล้าน
ต่างจากปัจจุบัน ที่เข้มงวดกับการปล่อยกู้มาก
บันทึกการเข้า

ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 23-05-2006, 11:11 »

ไม่ว่าความเห็นของ จขกท จะจริงหรือไม่

แต่ความจริงคือ ตอนนี้เราต้องประหยัดกันจริงๆแล้วล่ะครับ

ประเทศเราไม่ได้ร่ำรวย สังคมบ้านเรามันก็ฟอนเฟะ
บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #16 เมื่อ: 23-05-2006, 11:26 »

55555 ปรากฎการณ์...โชว์โง่ของจขกท.

วิเคราะห์ซะยังกะพวก...ฟอร์เวิดเมลล์ 55555

หน้ำซ้ำยังมาอ้างอิงถึงไอ้ห่าเอกยุทธอีก...จ้าดง่าวเอ้ย

เอาแค่ถ้าทักษินได้สานงานต่อ...เฉพาะเมคก้าโปรเจคหลายแสนล้าน ค่าเงินบาทคุณว่าจะไหลขึ้นหรือไหลลง ไหลเข้าหรือไหลออก...พวกเองมันคิดถึงแต่สถานการณ์ที่จะเกิดโดยไม่มองปัจจัยเวลา...และวิธีแก้ปัญหา

เกิดมาเพื่อจับผิดกับ ติ ติ ติ...โตเพราะกินขี้จริงๆ Laughing

อย่าให้เกิดเหตุการณ์ถล่มเงินบาทอีกเลยครับ....เพราะรอบที่แล้วผมเดี้ยงไป 2 ปี

การทำเมคก้าโปรเจค ของรัฐบาล ผมว่าฝันยากครับว่าเงินจะไหลเข้าอย่างมหาศาลอย่างที่ว่า........เพราะถ้าเป็นผู้รับเหมาจากต่างประเทศ เค้าคงนำอุปกรณ์ต่าง ๆ และเทคโนโลยี่เข้ามาเอง เนื่องวัตถุดิบส่วนใหญ่เราไม่มีในประเทศ....อาจจะมีเงินไหลเข้ามาบ้างจริงก็คงไม่น่าจะเป็นแสนแสนล้าน ..........แต่ตอนที่เค้าขนอออกไปหลังจากบริหารจนกำไรนี่ซิครับ เต็ม ๆ ครับ
ถ้าเปรียบไปก็เหมือนกับการซื้อสินค้านำเข้าแล้วผ่อนจ่ายที่หลังครับ.....รวมทั้งดอกเบี้ย ก็คือผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจ
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #17 เมื่อ: 23-05-2006, 15:01 »

ปตท. ซึ่งถูกแปรรูปไปเป็นของนักการเมืองโกงชาติได้กำไรมหาศาล ปีละกว่า 100,000 ล้านบาท



ไปหลอกวัวหลอกควายลิงค่างบ่างชะนี ที่ไหนก็ไปเหอะ....
  Mr. Green Mr. Green Mr. Green
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 23-05-2006, 16:30 »

ปตท. ซึ่งถูกแปรรูปไปเป็นของนักการเมืองโกงชาติได้กำไรมหาศาล ปีละกว่า 100,000 ล้านบาท
แล้ว Killer ล่ะได้สักกี่บาทละจ๊ะ ถูกมันเอาไปเท่าไรต่อเดือน แล้วแจกคืนให้ไม่กี่ร้อย เคยคำนวณบ้างหรือเปล่า


ไปหลอกวัวหลอกควายลิงค่างบ่างชะนี ที่ไหนก็ไปเหอะ....
  Mr. Green Mr. Green Mr. Green
ก็จริงของมัน เป็นหน้าเหลี่ยมนี่ดีจัง รับเน้นๆเป็นหมื่นๆล้าน แล้วโปรยเศษเงินให้วัวให้ควายไม่กี่บาท เหล่าวัวควายก็พร้อมตายแทนได้แล้วหรือ ถ้าเจ้า lucky ที่บ้านเป็นได้อย่าง Killer ก็ดีอะดิ  Laughing Laughing
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2006, 16:33 โดย thaitruth » บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: