เปลวสีเงิน
บทสรรเสริญคุณ'ทักษิณ'คืนเมือง
28 กุมภาพันธ์ 2551 กองบรรณาธิการ
คิดว่าท้องฟ้าเหนือท่าอากาศยาน "สุวรรณภูมิ" ของเช้าวันพฤหัสบดี ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ต้องเป็นท้องฟ้าสีครามสดใส เพราะเป็นวันที่เครื่องบินไทย TG603 จะนำ
"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" กลับประเทศไทย หลังถูกปฏิวัติ ๑๙ กันยา
ดีใจด้วยครับที่ได้กลับบ้าน เรื่องผิด-เรื่องถูก เป็นเรื่องปลีกย่อยที่ต้องว่ากันไป แต่เรื่องใหญ่ ไม่ว่าลูกของแผ่นดินไหน เมื่อพลัดพรายไปอยู่ที่แห่งอื่นใด
ไม่มีสุขไหนเทียบได้เท่าคืนสู่อ้อมอก "แผ่นดินแม่" หรอกครับ!
ถึงตายก็เถอะ..ขอได้ตายอยู่ใต้เงาร่างแม่ชะโงก ถึงโศกสุดโศก ปรโลก..ก็สุข
แต่ผมเดาใจ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ถูกหรอกว่า แค่ไหนคือความหมาย "แผ่นดินแม่" ในใจของเขา
"แผ่นดินแม่" มีไว้เหยียบด้วยกิริยาหยาม? หรือมีไว้เพื่อการใด ผมมองผ่านการเคลื่อนไหวจากบรรดา "ทักษิณสวามิภักดิ์" แล้ว พิพักพิพ่วนด้วยสับสนครับ
คนระดับทักษิณ ย่อมรู้ทุกอย่าง จากล่างสู่บน จากบนสู่ล่าง
ฉะนั้น ควรจะใส่ใจว่า "ร้อยวาจา" ไม่บ่งบอกความหมายเท่าหนึ่งใน "ความเคลื่อนไหว" คน
ผมขอละความนัยไว้ในฐานที่เข้าใจแค่นี้นะครับ!?
ขอย้ำ กลับมาไม่เป็นไร เรา-คนไทยด้วยกัน..ดีใจกลับบ้าน
แต่อย่ากลับมาด้วยลีลา "พระราชาคืนเมือง" นี่คือเรื่องสำนึกตระหนัก!
กล้วยนั้น ต้นตายเพราะลูก เผือก-มัน ก็ตายเพราะหัว แม้แต่ต้นข้าวก็ยังต้องถูกเคียวเกี่ยวคอเพราะเม็ดรวง
นี่ไม่ใช่ม่านบังตา แต่เป็นสัจจะ-ธรรมชาติว่า "เป็น-ตาย" ของนาย มีความหมายขึ้นอยู่กับ "การกระทำ" ของขี้ข้าด้วย!?
ผมย้ำถึง "การกระทำ" มากกว่า "คำพูด" เพราะอะไร ขอโทษ..ไม่ได้ดูถูกท่าน และทั้งมิกล้าบังอาจด้วย แต่จะบอกว่า วาจาท่านเชื่อถืออะไรไม่ได้หรอกครับ และไม่มีใครเชื่อถือด้วย!
เพราะพิสูจน์แล้ว ท่านจะทำในสิ่งตรงข้ามกับที่พูด และท่านจะพูดในสิ่งที่เป็นจริงอีกด้านเสมอ
"เลิกแล้วการเมือง!" ท่านพูดมาตลอดทั้งปี
แต่ก็ทั้งปี..ท่านชักใยการเมืองมาตลอด!
ท่านบอกว่า "เราหยุดแล้ว..พอแล้ว" แต่ปรากฏเป็นการกระทำตลอดว่า
ทุกวัน-คืนท่านเดิน และท่านไม่เคยพอ!
ท่านบอกว่าได้เงินจากเทมาเส็ก ๗๓,๐๐๐ ล้าน จะตั้งมูลนิธิเพื่อสังคม แต่สิ่งที่ปรากฏตรงข้ามคือ
ท่านเอาเงินในแผ่นดินไปซื้อ "แมนฯ ซิตี" ที่อังกฤษ..นี่น่ะหรือมูลนิธิเพื่อสังคมไทย? ก่อนเลือกตั้ง ท่านส่งฝรั่งขี้ข้าท่านมาใช้ลูกเล่นการตลาด พร้อมเสี่ยโอ๊ค เช่าโรงแรมกลางกรุง "ตดให้หมาดม" หวังสร้างกระแสเสริมพรรค ทำพิธีคัดเลือกนักเตะไทย ๓ คน สุรีย์ สุขะ - เกียรติประวุฒิ สายแวว - ธีรศิลป์ แดงดา
โกอินเตอร์สโมสรแม้ว "ทำบุญ-ทำงาน" ให้นักเตะไทยไปเล่นในทีมแมนฯ ซิตี ที่อังกฤษ!
จนบัดป่านนี้ ๓ นักเตะไทยกลายเป็น "นักเตะสัมภเวสี" อ้างไม่มีเวิร์กเพอร์มิต แล้วก็ตีตั๋ว-ทำวีซ่าให้หิ้วไส้ลอยไปลอยมา จนวันนี้ยังเป็นผีหาป่าช้าไม่เจอ
ซ้ำร้ายกว่านั้น มีข่าวมาตลอดด้วยว่า "ค่าจ้างตามสัญญา" ยังไม่รู้จะไปรับที่ใคร? ท่านย้ำคำสุดท้ายล่าสุด "เลิกแล้ว..การเมือง" แต่ท่านก็เล่นการเมืองตั้งแต่ตัวยังไม่ถึงเมืองไทยด้วยซ้ำ ผมอยากถามว่า กลยุทธ์ที่โทร.จองโรงแรมเพนนินซูล่า และอีกหลายๆ โรงแรม อ้างว่ากลับบ้านจันทร์ส่องหล้ากลัวไม่ปลอดภัย นั้น
ถ้าจริงตามข่าว มันการเมืองเรื่องสร้างภาพมายาชัดๆ ใช่ไหม?
ถ้าเมืองไทยไม่ปลอดภัยสำหรับคนชื่อทักษิณ ท่านคงไม่มีชีวิตโตมาได้ขนาดนี้หรอก และตอนนี้ นอมินีการเมืองของท่าน "ยึดอำนาจเมือง" กลับไปไว้ในกำมือได้หมดแล้ว
ถ้ายังบอกว่า "กลัวความปลอดภัย"!
ก็อยากถามว่า "ยังต้องการอำนาจเพิ่มถึงระดับไหน ท่านจึงจะมั่นใจในความปลอดภัยสำหรับท่าน?"
เช่าโรงแรมนอน ไม่กลับบ้าน อ้างภัยให้คล้ายปากีสถาน ก็แค่สร้างสีสันการตลาดย่ำประเทศ เพื่อยึด "พื้นที่ข่าว" ดึงดูดสื่อทั้งในและนอกประเทศ ประโคมความยิ่งใหญ่เสริมบารมี "ชายชี่อทักษิณ"
ให้เฟื่องระบิลต่อเนื่อง ตามจินตนาการซับซ้อนของท่านเท่านั้น!?
ท่านทำตัวเหมือนพระอาทิตย์เที่ยงวัน กราดแสงกล้าจนแสบหู-แสบตากันทั้งเมือง จะเจตนาบ่งความนัย หรือไม่เจตนาก็ตาม แต่ความจริงก็คือว่า
ขณะนี้ประเทศไทยเหมือนมี "นายกรัฐมนตรี ๒ คน"
นายกรัฐมนตรีหัวเดียวกระเทียมลีบที่ชื่อ "นายสมัคร สุนทรเวช"
และอภินายกรัฐมนตรีผู้เหนือนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
"พรรคไทยรักไทย" ในคราบ "พลังประชาชน" ดูจะกระตือรือร้นออกนอกหน้า จนนายกฯ สมัครต้องปรามให้รักษามรรยาท
นั่นแสดงว่าเมื่อ "ทักษิณ-หัวหน้าตัวจริง" กลับมาแล้ว "สมัคร-หัวหน้านอมินี" ก็จะคืนสภาพดาวเคราะห์
มืดมิดอับแสง จะโคจรไปทางไหนก็ต้องอาศัย "แสงทักษิณ" นำ
๒ อำนาจ ๒ นาย ๒ คำสั่ง ๒ นโยบาย ๒ ใต้โต๊ะ
แต่ ๑ ประเทศ!
จะว่าเหมือนสิงคโปร์ที่เหนือนายกฯ แล้วยังต้องมี "ประธานรัฐบาล" ที่ชื่อ ลีกวนยู ค้ำหัว..ก็ไม่ใช่
จะว่าเหมือนเขมรเมื่อครั้ง ๑ รัฐบาล ๒ นายกฯ คือนายกฯ สมเด็จฮุน เซน และนายกฯ เจ้ารณฤทธิ์..ก็ยังไม่เชิง?
คิดแล้วหนักใจ และอึดใจแทนนายกฯ สมัครที่เปรียบตัวเองเป็น "หัวเดียวกระเทียมลีบ" แต่ผมว่ามีกลีบ ๒ กลีบใหญ่ คือ
กลีบรองนายกฯ สหัส บัณฑิตกุล ที่ดูแลงานกระทรวงคมนาคม กับกลีบเลขาธิการนายกฯ ธีรพล นพรัมภา ซึ่งทั้งสองท่านนายกฯ หอบหิ้วมาจาก กทม. ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่นโยบายรถไฟ ๙ สาย ด้วยงบนับล้านล้าน
ท่านรัฐมนตรี "สันติ พร้อมพัฒน์" จะฟังใคร และยึดคำสั่งชี้ขาดใครเป็นแนวปฏิบัติระหว่าง
๙ สาย ตามบัญชานายกฯ สมัคร หรือ
๙ สาย ตามบัญชาอภินายกฯ ทักษิณ?
และก็ไม่ต้องคิดอะไรให้ไกลกับรถไฟฟ้า ๙ สาย ใน ๙ ชาติ เอากันแค่เรื่องใกล้ๆ ในเดือนหน้า-เดือนถัดไปนี่ก็พอ
แต่งตั้ง-โยกย้ายนายทหารกลางปี "เดือนเมษา" จะยึดโผรัฐมนตรีกลาโหมสมัคร หรือนายกฯ สมัคร จะยอมเป็นร่างทรงให้อภิรัฐมนตรีกลาโหมทักษิณ "กั้นม่าน-ชักใย"
เอาใครต่อใคร "เพื่อนรุ่น ๑๐" ที่กระจัดกระจาย กลับมาใหญ่คุมในหน่วยกำลังหลัก?
นายกฯ สมัครนี่น่ะ เพียงแต่ไม่มียศพลเอก ไม่มีเครื่องแบบสวมเท่านั้น แต่ความชำนาญ ด้วยด้านคลุกคลีเชิงบริหารอำนาจทหาร ผมว่าทักษิณไม่ได้ครึ่งสมัครหรอก จะบอกให้!
๓๐ กว่าปีที่แล้ว ทักษิณอยู่ที่ไหน?
แต่สมัครคลุกอยู่ในกลไกกองทัพ "ภาคปฏิบัติ" แล้วครับ!!
เรื่องกองทัพ ผมสังเกตว่า "นายกฯ สมัคร" ฉลาดเล่น และรู้เล่นกว่า "อภินายกฯ ทักษิณ"
เดือน-สองเดือนนี่ก็จะรู้กันแหละว่า บ้านเมือง ๒ นายกฯ มันจะมีปัญหา หรือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ "สิ้นตัณหา"
ลาการเมืองจนเป็น ๑ รัฐบาลพลังประชาชน ๑ นายกฯ สมัครจริงๆ?
ดูครับ..ผมต้องการดู และขอตีตั๋วดูต่อกับอีกองก์หนึ่งของมหาอุปรากรเรื่อง "เศียรแห่งอำนาจ ๒" ผมอยากบอกไว้นิดหนึ่ง มรรยาทที่สำคัญในโรงละครคือ นั่งนิ่งๆ อย่ากระแอมกระไอ อย่าส่งเสียง หรือเคลื่อนไหว เมื่อไฟในโรงละครหรี่-ม่านบนเวทีชัก องก์นี้มีเวลา ๒ เดือนในการแสดงครับ.
-----------------------------ด้วยความคารวะ ลุงเปลว ------------

พุดกับเพื่อนว่า ปากมันบอก รักแผ่นดินแม่ แต่กริยาวาจาที่มันทำนะ ดูถูกเหยียดหยาม..............
จะส่งบทความนี้ต่อ ให้พรรคพวกเพื่อนพ้องร่วม ๆ อย่างน้อย ร้อยกว่าชีวิต และให้ต่อ ๆ กัน
------------------ พูดไว้แล้ว ว่า ดูละครเฮี้ย กัน ดูไปแล้ว ก็เอาไม้ตีเฮี้ย ไป ทำอย่างลุงเปลว
ก้เรามัน ปชช ตาดำ ๆๆๆ ทำงาน เสียภาษี ให้ไอ้พวกนี้ มันโกงๆๆๆๆๆๆๆ
