เซี่ยถิงฟง สามีจางป๋อจือ ไล่ต่อย เฉินกวนซีโลกมันกลมเหลือเชื่อ! ''เฉินกวนซี'' สะดุ้งโหยง จ๊ะเอ๋โจทก์เก่า ''จางป๋อจือ-เซี่ยถิงฟง'' กลางโรงแรม โฟร์ ซีซั่นส์ อย่างจังๆ หลังดันทะลึ่งมาเช็กอินโรงแรมเดียวกัน เผย ''อาเซี่ย'' แค้นสุดขีดถ่ายรูปสยิวเมียรักเล่นเสียวลีลาโปลิศจับขโมยภาคพิสดาร ถลาเข้าใส่หวังต่อยหน้า ''อาเฉิน'' ให้เต็มเหนี่ยว นางเอกหน้าหวาน สุดกลั้นปล่อยโฮโผเข้ากอดเอวห้ามปรามผัวเลิฟเป็นพัลวัน
ข่าวความคืบหน้ากรณี เฉินกวนซี (เอดิสัน เฉิน) พระเอกคาสโนวาตำรับฮ่องกง ศูนย์กลางของภาพหลุดสุดสยิวที่กำลังเขย่าวงการบันเทิงฮ่องกงอยู่ในเวลานี้ ยังคงมีสีสันให้ฮือฮาตามมาเป็นระลอกๆ แม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษทุกฝ่าย ตลอดจนประกาศอำลาวงการบันเทิงฮ่องกงไปแล้วก็ตาม เมื่อล่าสุดสื่อฮ่องกงและจีนพร้อมใจกันตีข่าวว่า ''อาเฉิน'' เปิดศึกโชว์คิวบู๊นอกจอกับ เซี่ยถิงฟง (นิโคลัส เซี่ย) ดาราหนุ่มมาดเซอร์ สามีของ จางป๋อจือ (เซซิเลีย จาง) นางเอกสาวหน้าหวาน กลางโรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ เลยทีเดียว หลังจากที่ 2 ชาย 1 หญิง โคจรมาจ๊ะเอ๋กันโดยบังเอิญ
เฉินกวนซี - เซี่ยถิงฟง
ผัว''จางป๋อจือ''แค้นจัดสาวหมัดใส่''เฉิน''
''ซิง เต๋า เดลี่'' หนังสือพิมพ์รายวันฮ่องกง, เว็บไซต์ข่าวภาษาจีน chinanews.com และ ifeng.com พร้อมใจกันรายงานข่าวสุดระทึกใจครั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า เซี่ยถิงฟง กับ จางป๋อจือ ที่หลบลี้หนีหน้าผู้คนนับตั้งแต่ภาพฉาวของนางเอกสาวในชุดตำรวจที่เล่นเกมโปลิศจับขโมยสุดหวาดเสียวพิสดารกับ เฉินกว้านซี โผล่ออกมาทางอินเทอร์เน็ตเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น แท้ที่จริงแล้วได้แอบหลบกองทัพนักข่าวและตากล้องปาปาราซซี่ มาเข้าพักที่โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ นั่นเอง ก่อนที่จะมาพบหน้า ''อาเฉิน'' อย่างไม่คาดฝัน!
รายงานระบุว่า เฉินกวนซี ซึ่งกลับมาฮ่องกงพร้อมให้ปากคำตำรวจและเปิดแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โชคร้ายเหลือเชื่อเมื่อดันมาเช็กอินเข้าพักที่โรงแรมเดียวกันกับคู่รักดาราดัง โดยหลังจากที่จ๊ะเอ๋กันจังๆ อย่างบังเอิญ ''อาเซี่ย'' ถึงกับฟิวส์ขาด กำหมัดวิ่งเข้าใส่ ''อาเฉิน'' อดีตเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดทันที ทำเอา จางป๋อจือ ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ รีบโผเข้ากอดเอวห้ามปรามสามี พลางร้องตะโกนว่า ''อย่าทำอย่างนี้เลย ได้โปรดเถอะ!''
สุดสลด! ''จางป๋อจือ''ปล่อยโฮขวางผัวหลังจากนั้น นางเอกสาวหน้าหวานก็ดูเหมือนจะควบคุมสารพัดอารมณ์ที่ประเดประดังกันเข้ามารุมเร้าอย่างเฉียบพลันไม่ไหว โดยถึงกับทรุดตัวลงกับพื้นนั่งร้องไห้โฮอย่างหมดอาลัยตายอยาก พอได้เห็นน้ำตาเมียรัก ''อาเซี่ย'' ดูเหมือนจะได้สติ ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเข้าไปชกหน้าอดีตเพื่อนตัวแสบไปโดยปริยาย ขณะที่บอดี้การ์ดหรือองครักษ์ 6 นายของ ''อาเฉิน'' ก็ช่วยกันรั้งตัวเจ้านายเอาไว้ ก่อนที่คิวบู๊นอกจอแบบสุดเซอร์ไพรส์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะยุติลงในเวลาเพียง 3 นาทีเศษๆ เท่านั้น
เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันยุติลงแล้ว เหล่าบอดี้การ์ดก็ดึงตัว ''อาเฉิน'' ไปเข้าห้องพักอย่างรวดเร็ว ขณะที่สองผัวเมียดาราดังตัดสินใจไม่รอให้ถึงรุ่งเช้า รีบรุดเก็บกระเป๋าเช็กเอาต์ออกไปจากโรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ ทันที
แฉ ''เฉิน-เซี่ย'' เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของจริง''อาเฉิน'' กับ ''อาเซี่ย'' เป็นคนหนุ่มรุ่นเดียวกันเกิดเมื่อปี 1980 เหมือนๆ กัน และต่างก็รู้จักกันดีตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อต่างก็เติบโตมาด้วยกันที่นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา แถมยังเคยเล่าเรียนชั้นเดียวกันในสมัยมัธยมปลาย และเข้ามาเป็นดารานักร้องในสังกัด เอ็มเพอเรอร์ เอนเทอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป (อีอีจี) ด้วยกันอีกต่างหาก
สองดาราหนุ่มเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปี ก่อนที่จะมาแตกคอกันไปเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน โดยเฉพาะนิสัยที่ชอบชิงดีชิงเด่นไม่เห็นหัวใครแม้กระทั่งเพื่อนซี้ของ เฉินกวนซี แถมยังมายิ่งบาดหมางมากขึ้นไปอีก เมื่อมาพัวพันเชิงชู้สาวกับ จางป๋อจือ เหมือนๆ กัน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเลือกแต่งงานกับ ''อาเซี่ย'' และคาดว่าความสัมพันธ์กว่า 20 ปีระหว่างสองดาราหนุ่มย่อมจะขาดสะบั้นอย่างสิ้นเชิงไปแล้ว ด้วยเพราะภาพสยิวของ จางป๋อจือ นั่นเอง
เซี่ยถิงฟง - จางป๋อจือสื่อระบุ ''อาเซี่ย'' ถอดแหวนแต่งงานสำหรับกรณีชีวิตสมรสของ เซี่ยถิงฟง กับ จางป๋อจือ ที่มีข่าวสับสนรักๆ เลิกๆ มาตลอดนับตั้งแต่เกิดกรณีภาพฉาวนั้น ล่าสุด ''อาเซี่ย'' ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกแล้ว ด้วยการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ของ ''XTEP'' บริษัทรองเท้ากีฬาในเมืองจีน ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ ร่วมกับเพื่อนร่วมสังกัด อีอีจี ด้วยกัน คือวงทวินส์ ที่ประกอบด้วย อาเจียว (จงซินถง หรือ จิลเลี่ยน ชุง) อดีตกิ๊กเก่า ''อาเฉิน'' ที่มีรูปออกกำลังกามร่วมกันบนเตียงด้วยกัน และอาซา (ไช่จั๋วเหยียน หรือ ชาร์ลีน ชอย) โดยทั้งสองสาวได้เดินทางล่วงหน้ามาก่อนแล้ว
''ซิง เต๋า เดลี่'' รายงานว่า ''อาเซี่ย'' ซึ่งสวมแว่นดำ และสวมหมวก แต่เดิมมีกำหนดการมาเยือนกรุงปักกิ่งตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ได้เลื่อนการเดินทางมาเป็น 1 วันให้หลังนั้น มาถึงสนามบินกรุงปักกิ่งพร้อมด้วยผู้ช่วย 4 คน แต่ไม่ได้ตอบข้อซักถามจากผู้สื่อข่าวจีนกว่า 20 คนที่มารอทำข่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวตาดีแอบเห็นว่านิ้วมือข้างซ้ายของดาราหนุ่มว่างเปล่าปราศจากแหวนแต่งงาน ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่าชีวิตคู่ของสองดาราดังฮ่องกงอาจถึงคราวอับปางเสียแล้วก็เป็นได้
รายงานระบุว่า เซี่ยถิงฟง ซึ่งตอนแรกเก็บไม้เก็บมือมิดชิดด้วยการล้วงกระเป๋าเสื้อแจ็กเกตสีขาวนั้น เอาแต่ยิ้มที่มุมปากเมื่อเจอคำถามหนักๆ อาทิ เห็นรูปโป๊ของ จางป๋อจือ แล้วหรือไม่, หย่ากับภรรยาตามที่เป็นข่าวเล่าลือกันแล้วหรือยัง ฯลฯ ก่อนที่จะโบกไม้โบกมือให้กับนักข่าวขณะที่กำลังจะออกไปจากสนามบิน ซึ่งทำให้นักข่าวแลเห็นว่ามือซ้ายปราศจากแหวนแต่งงานอย่างถนัดชัดเจน
''เซี่ยถิงฟง''เปิดปากยันสัมพันธ์รักยังดีอยู่เวลาต่อมา เซี่ยถิงฟง ได้ไปร่วมงานประชาสัมพันธ์ แต่ก็หนีกองทัพนักข่าวไม่รอด เมื่อถูกถามย้ำอีกครั้งจนได้ว่าข่าวลือที่ว่าหย่าขาดกับ จางป๋อจือ แล้วนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดย ''อาเซี่ย'' ตอบสั้นๆ ว่าตนกับภรรยายังคงรักกันดีอยู่ พร้อมกับออกปากขอบคุณสาธารณชนที่ยังคงสนใจในเรื่องชีวิตสมรสของตนกับภรรยา
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าขณะที่พำนักอยู่ในโรงแรม โฟร์ ซีซั่นส์ นั้น เซี่ยถิงฟง กับ จางป๋อจือ ได้แยกห้องกันนอน โดยเข้าพักที่ห้องสวีตที่มี 2 ห้องนอน
สำหรับงานโปรโมตสินค้าดังกล่าวนั้น อาเจียว กับ อาซา ต่างก็มาปรากฏตัวด้วยการร้องเพลงบนเวที ในขณะที่แฟนๆ พากันชูป้ายให้กำลังใจ อาเจียว โดยมีข้อความว่า ''สนับสนุนเธอตลอดไป'' อย่างไรก็ตาม กิ๊กเก่าของ ''อาเฉิน'' ยังคงไม่ยอมปริปากแสดงความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากที่ถูกนักข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรกับคำขอโทษจากคาสโนวาตำรับฮ่องกงในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
''เฉิน'' เก็บตัวเงียบเบี้ยวโฆษณาเป๊ปซี่ด้านความเคลื่อนไหวของ ''อาเฉิน'' นั้น มีรายงานว่าไม่ได้ไปร่วมถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของ ''เป๊ปซี่'' เครื่องดื่มชื่อดัง ตามกำหนดนัดหมายแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่ากำลังอยู่ในระหว่างการให้ปากคำกับตำรวจ ทำให้มีเพียงดาราดังอย่าง อี จุน กิ พระเอกเกาหลี, หลุยส์ กู่ (กู่เทียนเล่อ) ดาราจีน และ อลัน หลอ (หลอจื้อเสียง) ดารานักร้องไต้หวัน ที่มาร่วมถ่ายทำเท่านั้น ซึ่งจะมีการแพร่ภาพทั่วเอเชียในเร็วๆ นี้