ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
30-04-2025, 11:28
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  สิ่งที่นักการเมืองไทยมองข้าม และมันคือสิ่งเดียวที่จะพัฒนาประชาธิปไตย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
สิ่งที่นักการเมืองไทยมองข้าม และมันคือสิ่งเดียวที่จะพัฒนาประชาธิปไตย  (อ่าน 1659 ครั้ง)
h_e_a_t
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


น้ำข้าว อร่อยกว่า ไวน์ เยอะเลยย


« เมื่อ: 27-01-2008, 10:06 »

จะว่าไปแล้ว วงการกีฬา กับวงการเมือง มีบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน คือ การแข่งขัน เพื่อผล แพ้ ชนะ

แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ การนำเอาผล แพ้ชนะ มาสร้างกุศโลบายอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้เป็นผู้ชนะที่ผู้แพ้ ยอมรับจากใจ จริงๆมากกว่า ยอมรับผลการพ่ายแพ้ และรอวันแก้แค้น.

สิ่งที่นักการเมืองไทยโดยเฉพาะในปัจจุบัน และลุกลาม ไปยังหมู่ประชาชนที่ชมชอบแนวทางของพรรคการเมืองแต่ละขั้วนั้น  มองข้ามไป คือ การชนะใจผู้แพ้


การชนะใจผู้แพ้ นั้น ถือเป็นชัยชนะที่อาจกล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดก็ว่าได้  และอาจจะใหญ่กว่าการเอาชนะใจตนเองเสียด้วยซ้ำไป

การชนะใจผู้แพ้ คือ การปรับทรรศนะ แนวคิด พฤติกรรม ของทั้งสองฝ่าย คือ ผู้ชนะ และผู้แพ้ ให้มีความเข้าใจกันและกัน มากขึ้น

มันคือการทำให้ผู้ที่แพ้ ยอมรับอย่างมีเหตุผล  ยอมรับผลด้วยใจที่ไร้ความรู้สึกว่า ฉันจะรอวันแก้แค้น  แต่จะทำให้ผู้แพ้นั้นเกิดความยอมรับในแนวคิดและการกระทำ จนยอมเข้าร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งความคิดและการกระทำ

แต่ไม่ใช่ด้วยการบังคับ หรือ อามิสสินจ้าง

การจะทำให้ผู้ชนะ ชนะอย่างแท้จริงได้นั้น หลักใหญ่ น่าจะต้องมีคำว่า เมตตาธรรม และ กุศลจิต ต่อผู้แพ้ เสียก่อน  หากไร้สองสิ่งนี้แล้ว ชัยชนะไม่ว่าจะได้มามากน้อยเท่าใด มันก็เป็นเพียงชัยชนะภาพลวงตา


.......................ชัยชนะในสงครามใดๆก็ตาม ไม่ใช่ชัยชนะที่เด็ดขาด  หากผู้ชนะในสงครามนั้นๆ ไม่เข้าใจผู้แพ้ และไม่สามารถโน้มน้าวให้ผู้แพ้ เข้ามาร่วมเป็นส่วนเดียวกับตนได้

สงครามกลางเมืองในหลายประเทศ ก่อกำเนิดมาจากแนวคิดที่ต่างกันคนละขั้วและไม่สามารถประสานกันได้ ทั้งสิ้น
และในสงครามกลางเมืองนั้นๆ นั่นเอง ที่สงบลงและมีสันติภาพอันยั่งยืน  กลับมาจาก การสร้างความเข้าใจอันเริ่มมาจากผู้ชนะต่อผู้พ่ายแพ้  การโน้มน้าวและดำเนินการสร้างความเข้าใจในความคิด ให้อีกฝ่ายเอนเอียงและยอมรับ จนในที่สุดก็สามารถประสานกันได้เป็นหนึ่งเดียวกัน


เป็นเรื่องยากมากกว่า สำหรับผู้แพ้ในสงครามใดๆก็ตาม จะพยายามเข้าใจ ฝ่ายชนะ
แต่เป็นเรื่องที่ง่ายกว่ามาก สำหรับผู้ชนะ ที่จะสร้างความเข้าใจต่อผู้แพ้ เพราะผู้ชนะย่อมอยู่ในสถานภาพที่เหนือกว่าอันเป็นปกติอยู่แล้ว


"ผู้ที่สูงกว่า หากรู้จักก้มตัวลงหาผู้ที่ต่ำกว่า ย่อมได้รับการยอมรับ มากกว่า ผู้ที่สูงกว่า แต่เหยียบย่ำผู้ที่ต่ำกว่า"
สิ่งนี้เป็นสัจจธรรม ที่มีค่ายิ่งนัก โดยเฉพาะนักการเมืองไทย
บันทึกการเข้า

โลกนี้ ไม่มีใครสูงกว่าใคร  แต่ที่เรามองเห็นคนอื่นสูงกว่า ก็เพราะเราไปคุกเข่าให้เขาเอง
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #1 เมื่อ: 27-01-2008, 12:33 »

เห็นด้วยครับ

แต่คงเป็นไปได้ยากส์




กติกาที่มีอยู่ยังหาช่องหามุมเล่นตุกติกเอาเปรียบกันแบบไม่รู้จักอาย

จะหวังให้มีน้ำใจนักกีฬาคงลำบากหน่อย Lips are sealed Money in mouth

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Familie
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369



« ตอบ #2 เมื่อ: 27-01-2008, 16:16 »

ผมว่าเขาไม่ได้มองข้ามหรอกครับ
แต่มันไม่มีเอาเสียเลยในจิตใจของนักการเมืองไทย
ผมเห็นด้วยกับ จขกท. ครับ
แต่เหมือนกับงมเข็มในทะเลจริงๆ
บันทึกการเข้า


บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ      ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า
เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา           หน้าที่เรา รักษา สืบไป
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า      จะได้มี พสุธา อาศัย
อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย       มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #3 เมื่อ: 27-01-2008, 19:36 »

เรื่องนี้ผมเห็นว่ามันหลงประเด็นตั้งแต่ที่ว่าเรื่องการเมืองมีไว้เพื่อจะมาเอาชนะกันแล้ว ...ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องผู้ชนะเหยียบย่ำผู้แพ้เลย

การเมือง การบริหารกลุ่มคน สังคม ประเทศชาติ มันควรจะมุ่งไปเพื่อการต่อรองและจัดสรรผลประโยชน์ เพื่อการดูแลความเป็นอยู่ เพื่อคุ้มครองสิทธิทั้งหลายอันพึงมีในฐานะคนและในฐานะของสมาชิกในสังคมนั้นๆ...

โดยให้บรรลุผลคือเกิดความพอใจกับทุกฝ่ายอย่างลงตัวที่สุด ไม่ใช่หรือ?


บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #4 เมื่อ: 27-01-2008, 19:45 »

เรื่องนี้ผมเห็นว่ามันหลงประเด็นตั้งแต่ที่ว่าเรื่องการเมืองมีไว้เพื่อจะมาเอาชนะกันแล้ว ...ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องผู้ชนะเหยียบย่ำผู้แพ้เลย

การเมือง การบริหารกลุ่มคน สังคม ประเทศชาติ มันควรจะมุ่งไปเพื่อการต่อรองและจัดสรรผลประโยชน์ เพื่อการดูแลความเป็นอยู่ เพื่อคุ้มครองสิทธิทั้งหลายอันพึงมีในฐานะคนและในฐานะของสมาชิกในสังคมนั้นๆ...

โดยให้บรรลุผลคือเกิดความพอใจกับทุกฝ่ายอย่างลงตัวที่สุด ไม่ใช่หรือ?




เมื่อมีการแข่งขันก็ต้องมีแพ้ชนะนะครับ
แต่ต้องมีน้ำใจนักกีฬา รู้มารยาท มีศักดิ์ศรีที่จะสู้กันแบบยุติธรรม

ไม่ใช่เล่นกันทุกท่า ไม่ว่าจะสกปรกขนาดไหน
แบบนั้นมันเหมือนหมากัดกันมากกว่ามนุษย์ที่มีอารยธรรม Confused



บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #5 เมื่อ: 27-01-2008, 20:06 »

เมื่อมีการแข่งขันก็ต้องมีแพ้ชนะนะครับ
แต่ต้องมีน้ำใจนักกีฬา รู้มารยาท มีศักดิ์ศรีที่จะสู้กันแบบยุติธรรม

ไม่ใช่เล่นกันทุกท่า ไม่ว่าจะสกปรกขนาดไหน
แบบนั้นมันเหมือนหมากัดกันมากกว่ามนุษย์ที่มีอารยธรรม Confused





อันนี้ผมเข้าใจครับ

แต่มันก็มีความแตกต่างกันอยู่ ระหว่างการออกไปทำงานกับคนอื่นๆ ในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขัน แล้วเกิดผู้ชนะ-ผู้แพ้ คนเก่ง-คนบ๊วย ขึ้นมาในสนามตามธรรมชาติของมัน

...กับการถือดาบเงื้อง่าวิ่งออกจากบ้านไปด้วยความคิดที่ว่า กรูจะไปข่มขี่คนอื่นๆ ให้พวกมันยอมสยบอยู่ใต้บาทากรูให้จงได้

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 27-01-2008, 22:05 »

นักการเมืองไทย คือผู้ที่เข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์จากอำนาจรัฐ
ดังนั้นนักการเมืองจึงไม่เคยมองข้ามการพัฒนาประชาธิปไตย แต่จะเมินเฉยและขัดขวางเสียมากกว่า
เพราะประชาธิปไตยยิ่งพัฒนามากขึ้น การกอบโกยผลประโยชน์ก็ยิ่งทำได้ยากลำบากมากขึ้นตามไปด้วย
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
หน้า: [1]
    กระโดดไป: