กาแฟดำทำไมกกต.จึงออกได้แต่'ใบแดง'หรือ'ใบขาว'(ไม่มี'ใบเหลือง')กรณียงยุทธ?
11 มกราคม พ.ศ. 2551 00:00:00
คุณสดศรี สัตยธรรม อธิบายว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดกติกาเรื่อง "ส.ส.สัดส่วน" ตามแบบเยอรมนี ซึ่งเป็นระบบใหม่สำหรับประเทศไทย (ก่อนหน้านี้ มีระบบ "partylist") ต่างกันตรงที่แบบเดิม ไม่ต้องหาเสียง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : แต่ในรูปแบบใหม่นี้ต้องมีการหาเสียงกับผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงด้วย
เพราะเป็นเรื่องใหม่และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ก็ยอมรับว่ามีช่องว่างของการตีความและการปฏิบัติ
เช่น ประเด็นที่ว่าถ้า ส.ส.สัดส่วนคนใดคนหนึ่งเกิดปัญหาขึ้นอย่างกรณียงยุทธ ติยะไพรัช แห่งพรรคพลังประชาชน ถูกร้องเรียน และ กกต. สอบสวนอยู่ "ส.ส.สัดส่วนของทุกพรรคการเมืองในเขตนั้นๆ จะต้องหยุดประกาศหมดหรือไม่"
คุณสดศรี บอกว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ชัดในกรณีเกิดปัญหานี้ หรืออาจจะเป็นเพราะตอนที่ร่างรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะเกิดปัญหาในทางปฏิบัติอย่างนี้
ปัญหาต่อมา ก็คือว่าถ้ากกต. ออก "ใบเหลือง" ให้ว่าที่ ส.ส. สัดส่วนคนใดคนหนึ่ง จะมีผลถึงพรรคการเมืองที่ถูกใบเหลืองทั้งหมดหรือไม่ คำถามนี้ไม่มีคำตอบในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กกต. จึงบอกว่านี่เป็น "ช่องว่าง" ของกฎหมายที่สร้างความหนักใจให้กับ กกต. เพราะในกติกาใหม่นี้ ส.ส.สัดส่วนไม่อาจจะเลือกตั้งใหม่ได้ จึงออกใบเหลืองไม่ได้ เพราะตามกฎหมายที่เขียนเอาไว้ เมื่อมีว่าที่ ส.ส. สัดส่วนคนไหนมีปัญหา ต้องออกจากตำแหน่ง ต้องเลื่อนบัญชีรายชื่อจากคนที่ได้คะแนนรองลงไปขึ้นมาตามลำดับ
จึงกลายเป็นเรื่องที่ กกต. ต้องใช้ดุลยพินิจเอง และหนีไม่พ้นว่าจะต้องโดนฝ่ายที่ถูกร้องเรียนและถูกสอบสวนโวยวายว่า เป็นการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมกับตนเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ ในกรณีที่ว่าที่ ส.ส.สัดส่วนโดนกกต.สอบสวนว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก็มีอยู่แค่สองทาง คือออกใบแดง หรือใบขาว ใบแดงคือออกจากการเป็น ส.ส. และใบขาวแปลว่ายกคำร้องนั้นเสีย ...ออกใบเหลืองเหมือนกรณีของ ส.ส. แบบแบ่งเขตไม่ได้ เพราะไม่มีข้อกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่สำหรับ ส.ส. แบบสัดส่วน
คำถามต่อไป ก็คือว่าถ้า กกต.ตัดสินตัดสิทธิคุณยงยุทธตามคำร้อง จะทำอย่างไรกับรายชื่อของ ส.ส.สัดส่วนที่เหลือ...ใครจะขึ้นมาแทน? จะเลื่อนรายชื่อของทั้งพรรคขึ้นมาแทน หรือจะเกลี่ยคะแนนที่เหลือให้พรรคอื่นที่เหลือหรือไม่
แน่นอนว่า กกต. จะต้องหนักใจในประเด็นนี้ไม่น้อย เพราะต้องตีความกฎหมายด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดความเป็นกลางอย่างแท้จริง ไม่ให้ฝ่ายใดวิจารณ์ว่ามีความลำเอียงต่อพรรคใดพรรคหนึ่ง เท่าที่ผมฟังทั้งประธาน กกต. อภิชาต สุขัคคานนท์ และ กกต. สดศรี อธิบายเรื่องนี้ในสองสามวันที่ผ่านมา ก็พอจะเห็นความหนักใจของ "ช่องโหว่ในรัฐธรรมนูญ" ในเรื่องนี้ แต่ไม่ตัดสินก็ไม่ได้ จะโยนกลับไปให้คนร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้อีกเช่นกัน
หนีไม่พ้นว่าก็จะต้องมีคำถามว่า เหตุไฉน กกต.จึงเร่งร้อนประกาศรับรอง ส.ส. สัดส่วน ไม่ได้คาดการณ์หรือว่าจะเกิดปัญหาอย่างที่เผชิญอยู่ขณะนี้
คุณสดศรี ย้อนนักข่าวว่า "ในกรณี ส.ส.สัดส่วนนั้น ถ้าเราไม่ประกาศเลย รอสอบสวนเฉพาะคนที่ถูกร้องเรียนให้เสร็จเสียก่อน จะเป็นธรรมกับว่าที่ ส.ส.สัดส่วนคนอื่นที่ไม่อยู่ในข่ายต้องสงสัยหรือเปล่า การที่เราจะชะลอรายชื่อ ส.ส.สัดส่วนของผู้ที่ไม่ถูกร้องเรียนย่อมเป็นไปไม่ได้...อีกทั้งกฎหมายไม่ได้เขียนว่าห้ามไม่ให้ประกาศเลย และไม่ได้ระบุว่า หาก ส.ส.สัดส่วนคนใดถูกร้องเรียน ส.ส.สัดส่วนคนอื่นหรือของพรรคอื่นจะประกาศรับรองไม่ได้...ไม่มีการกำหนดเช่นนั้นเอาไว้แน่นอน"
แปลว่าถ้าคนใดคนหนึ่งทำเรื่องหรือถูกสอบสวน และให้ว่าที่ ส.ส.สัดส่วนคนอื่นพลอย "รับเคราะห์" ด้วยนั้น คุณสดศรี บอกว่า เช่นนั้นย่อมไม่เป็นธรรม
อีกประเด็นหนึ่งที่ถามกันมากคือ...ถ้า ส.ส.สัดส่วนของพรรคใดพรรคหนึ่ง "หลุด" หรือถูก "สอย" จะมีผลทำให้ ส.ส.สัดส่วนคนอื่นของพรรคเดียวกันพลอยหลุดไปด้วยหรือไม่
คุณสดศรีบอกว่า "เป็นไปไม่ได้...เพราะอย่างนั้นก็ไม่เป็นธรรมสำหรับคนที่ไม่ถูกร้องอีกเช่นกัน"
แต่ประเด็นร้อนจริงๆ ก็คือว่าหาก ส.ส.สัดส่วนคนที่ถูกสอบ และ กกต. พบว่ามีความผิดจริงถึงขั้นออกใบแดงให้เป็นถึงกรรมการบริหารของพรรคด้วย จะมีผลถึงพรรคการเมืองนั้นหรือไม่
ประธานกกต. อภิชาต บอกนักข่าววันก่อนว่า กรณีสอบสวนคุณยงยุทธนั้น กกต.จะพิจารณาไปพร้อมกันในเรื่องความผิดส่วนบุคคล และความผิดที่อาจเชื่อมถึงพรรคพลังประชาชนในฐานะที่คุณยงยุทธ เป็นรองหัวหน้าพรรค "ซึ่งอาจส่งผลถึงการยุบพรรค" นักข่าวตั้งข้อสังเกตว่าประธาน กกต. พูดเสริมประเด็นนี้ด้วยว่า "...เรื่องนี้ถูกรายงานเข้ามานานแล้ว พอมองเห็นว่าอะไรเป็นอะไร และเชื่อมโยงไปถึงไหน...และเรื่องนี้ก็ผ่านการพิจารณามาหลายครั้งแล้วเช่นกัน..."
วันนี้จะได้รู้กันแหละครับว่าที่คุณยงยุทธบอกว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้ง มีกลุ่มคนสร้างเรื่องใส่ร้ายเขา และมีการ "ล่อซื้อ" กันอย่างเป็นระบบจากศัตรูทางการเมืองของเขานั้น กกต.จะรับฟังแค่ไหน...และจะมีผลต่อการตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชาชนมากน้อยแค่ไหน จะได้ "รู้แดงรู้ขาว" กันคราวนี้แหละ
http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/11/WW12_1238_news.php?newsid=219204 วันนี้จะได้รู้กันแหละครับว่าที่คุณยงยุทธบอกว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้ง มีกลุ่มคนสร้างเรื่องใส่ร้ายเขา และมีการ "ล่อซื้อ" กันอย่างเป็นระบบจากศัตรูทางการเมืองของเขานั้น กกต.จะรับฟังแค่ไหน ...และจะมีผลต่อการตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชาชนมากน้อยแค่ไหน..... การอ้างว่า'หลงกล'การล่อซื้อของผู้สมัครพรรคชาติไทย ไม่น่าจะเป็นคำพูดหรือความคิดเห็นของแกนนำพรรคฯระดับ 'ยุทธ์ ตู้เย็น' เสือสิงห์กระทิงแรดของวงการเมืองไทยเรียกว่า'พี่'เลย..........
พูดแล้วไม่อับอาย...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า