วิหค อัสนี
|
 |
« เมื่อ: 29-11-2007, 21:19 » |
|
ประกาศลาบวช
ด้วยกระผมกำลังจะบวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ในระหว่างวันที่ 3 ถึง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นี้ ที่จิตตภาวันวิทยาลัย จ.ชลบุรี
จึงจะขอประกาศลาบวช และขอเชิญทุกท่านร่วมอนุโมทนา
สำหรับผู้ใดก็ตามที่ได้เคยล่วงละเมิดด้วยประการใดๆ ต่อกระผมไว้ กระผมอโหสิกรรมให้ทั้งหมดแล้ว ไม่ประสงค์จะจองเวรใดๆ ต่อไปอีก
และกรรมใดที่กระผมเคยล่วงละเมิดต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ ไม่ว่าจะโดยเจตนา ไม่เจตนา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ว่าระลึกได้หรือระลึกไม่ได้ก็ตาม กระผมก็ขออโหสิกรรมมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยเช่นกัน ฯ

|
|
|
บันทึกการเข้า
|
_______ดังนี้แล __เปลวไฟจักลุกโชน ___หามีวันดับลงได้ _ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
|
|
|
soco
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 29-11-2007, 21:28 » |
|
อโหสิ ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งปวง บวชน้อย ขอให้เคร่งในศีล ในธรรม และขอให้รักษาศีล ให้ครบทุกข้อ  สาธุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 29-11-2007, 21:36 » |
|
ร่วมอนุโมทนา ครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Suraphan07
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 29-11-2007, 21:44 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 29-11-2007, 21:53 » |
|
ขออโหสิกรรม ทุกๆอย่างที่แล้วๆมา ขออนูโมทนาสาธุ ครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 29-11-2007, 22:17 » |
|
อนุโททนา สาธุครับ
ไม่มีบุญใดยิ่งใหญ่เท่าการบวช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
สมปอง
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 29-11-2007, 22:18 » |
|
สมปองไม่เคยถือโทษโกรธเคืองแค้นผู้ใดอยู่แล้วครับ ไม่ว่าคนนั้น หรือสิ่งนั้นจะเคยล่วงเกินสมปองหรือไม่ก็ตาม สมปองขออนุโมทนาด้วยนะครับ ขอให้บรรลุธรรม สำเร็จธรรมขั้นสูงสุด สาธุ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่ ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้ ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน
|
|
|
ลูกหินฮะ๛
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 30-11-2007, 00:33 » |
|
"The force will be with you, always"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 30-11-2007, 00:36 » |
|
ขออนุโมทนาด้วยค่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
Scorpio6
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 30-11-2007, 11:08 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อนบล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง* http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 30-11-2007, 12:31 » |
|
ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
ริวเซย์
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 30-11-2007, 17:41 » |
|
ขออนุโมทนาสาธุการด้วยนะครับที่เข้าสู่ร่มกาสาวภักตร์ กรรมใดที่เคยล่วงเกิน ไม่ว่า กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ขอโปรดอภัยให้แก่กันและกัน  ขอให้โชคดีในการบวชนะครับ ไปถึงจุดสูงสุดของพระสงฆ์คือธงชัยแห่งอรหันต์ในที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^  
|
|
|
ปุถุชน
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 30-11-2007, 21:57 » |
|
..อนุโมทนาค่ะ 
 อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 01-12-2007, 12:48 » |
|
อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ
มาขอ อนุโมทนา สาธุ ด้วยคนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 01-12-2007, 19:04 » |
|
ขอให้จิตสว่าง...ในรสพระธรรม
สาธุ...ด้วยค่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
วิหค อัสนี
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 11-12-2007, 09:40 » |
|
มารายงานตัว ลาสิกขากลับมาแล้วครับ  ไว้ว่างๆ จะมาบอกเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันอีกที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
_______ดังนี้แล __เปลวไฟจักลุกโชน ___หามีวันดับลงได้ _ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 11-12-2007, 22:31 » |
|
มารายงานตัว ลาสิกขากลับมาแล้วครับ  ไว้ว่างๆ จะมาบอกเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันอีกที บวชพระสึกมาแล้ว จะเบียดบอกกล่าวกันบ้างนะครับ
ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะได้ไปร่วมแสดงความยินดีครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
วิหค อัสนี
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 12-12-2007, 22:57 » |
|
บอกเล่าประสบการณ์บวช
จากที่ผมได้ไปเข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ 80 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีเมืองพัทยาเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 3-10 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา ก็จะมาเล่าให้ฟังกันคร่าวๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
วันที่ 3 เป็นวันโกนผมบวชนาคที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยญาติพี่น้องก็มาตั้งแถวกันตัดผมนาคเอาฤกษ์เอาชัยมากมายทีเดียว ก่อนที่พระพี่เลี้ยงจะช่วยโกนจนเกลี้ยง ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด เข้าสู่พิธีรับผ้าไตร แล้วไปขึ้นรถแห่นาครอบเมืองพัทยา จนไปเข้าพักที่จิตภาวันวิทยาลัยเป็นคืนแรก
วันที่ 4 พวกเราบรรพชาเป็นสามเณรที่จิตภาวันฯ แล้วแยกย้ายกันไปตามวัดต่างๆ ที่พระอุปัชฌาย์อยู่ สายผมไปวัดหนองเกตุน้อย มีท่านพระครูโสภณประภาธร (ปภาธโร) เป็นอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาที่จิตภาวันฯ
หลังจากนั้นพวกเราได้ฝึกอบรมปฏิบัติธรรม ภายใต้การดูแลของพระครูบุญประภากร เจ้าอาวาสวัดโพนงาม โดยแขวนกลดปูเสื่ออยู่กันในป่าประดู่ริมทะเลจนถึงวันที่ 10 มีเต็นท์ใหญ่อยู่ตรงนั้นไว้ทำกิจกรรมฝึกอบรมต่างๆ และก็ฉันอาหาร-ฉันน้ำปานะ-อาบน้ำ-เข้าห้องน้ำ กันในบริเวณแถวๆ นั้นนั่นแหละ
คืน 2 คืนแรกผมแขวนกลดไว้ใกล้เต็นท์ แต่หลังจากนั้นผมย้ายไปอยู่ตรงเหนือเขื่อนติดชายทะเลซึ่งสงบวิเวกมากกว่า มีสหายพระอยู่กัน 4-5 รูป
ในแต่ละวัน เราก็จะตื่นขึ้นมาด้วยเสียงระฆังปลุกตอนตี 4 เพื่อทำกิจส่วนตัว แล้วห่มครองจีวรเรียบร้อยเข้าไปรวมกันในเต็นท์เพื่อทำวัตรเช้า
จากนั้นก็ได้เวลาฉันกาแฟ/โอวัลติน พร้อมปาท่องโก๋เป็นการรองท้อง ก่อนจะเข้าปฏิบัติธรรมภาคเช้า
หลังจากนั้น ตอนสายๆ แดดเริ่มส่องแรง ญาติโยมมาจัดสำรับตั้งบนโต๊ะกันแล้ว ก็เป็นเวลาฉันอาหาร โดยอุ้มบาตรเดินเรียงแถวออกไป แล้วก็ตักกับข้าวที่เรียงอยู่บนโต๊ะยาวมาใส่บาตรตามสมควร แล้วกลับเข้ามานั่งพิจารณาพร้อมกันในเต็นท์ ซึ่งฉันในบาตรวันละมื้อเดียว (จริงๆ แล้วถ้านับปาท่องโก๋รอบเช้า แถมข้าวต้มในบางวันด้วยก็เป็น 2 มื้อ)
จากนั้นก็เป็นเวลาพักตามอัธยาศัย จนเข้าช่วงบ่าย ก็จะปฏิบัติธรรมต่ออีกรอบ ตามด้วยพักฉันน้ำปานะ
เสร็จแล้วในช่วงบ่ายแก่ๆ 4-5 โมง ก็บำเพ็ญประโยชน์เช่นเก็บกวาดบริเวณที่พักอาศัย และทำกิจส่วนตัว สรงน้ำ
จนเสร็จสรรพช่วง 6 โมงเย็น เป็นเวลารวมกันอีกครั้งเพื่อทำวัตรเย็น และในบางวันจะมีการรวมกำลังกันเจริญพระพุทธมนต์ให้ในหลวงท่านเป็นพิเศษ ด้วยธัมมจักกัปปวัฒนสูตรและบทสวดอื่นๆ
หลังจากทำวัตรเย็นเสร็จ จะเป็นการฟังบรรยายธรรมจากพระวิทยากรรับเชิญในช่วงค่ำ ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะเหลือเวลาอีกช่วงหนึ่งก่อนเข้านอนหลัง 2-3 ทุ่ม
วันอาทิตย์ที่ 9 ช่วงสายหลังจากฉันแล้ว เราเดินธุดงค์เลียบชายหาดไปถึง "บ้านสุขาวดี" ซึ่งกำลังจัดงานพุทธบารมี 2 แผ่นดิน เพื่อไปกราบนมัสการ และปฏิบัติธรรมต่อหน้าองค์พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศจีน
สรุปแล้วคนที่มาบวชในครั้งนี้ มีตั้งแต่หนุ่มๆ 20 ต้นๆ ไปจนถึงวัยเกษียณ ฐานะ ความเป็นมา การงานก็หลากหลาย ส่วนใหญ่จะทำงานอยู่แถวพัทยาโดยเฉพาะในวงการศึกษาและข้าราชการ (มีผมและอีกบางคนที่ไปจาก กทม.)
เรื่องศีล พวกเราแต่ละรูปมาบวชในครั้งนี้ก็ตั้งใจทำความดีถวายในหลวง ก็พยายามรักษาศีลกันอยู่แล้ว แต่ก็ตามประสาพระบ้านและพระบวชใหม่ล่ะครับ มีปลงอาบัติกันเป็นประจำวัน ยิ่งบวชหมู่คราวนี้มีญาติโยมที่ศรัทธาแห่มาเยี่ยม พบปะพูดคุย มาถวายของและปัจจัยมากมาย และรอใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้งกันทั่วเมืองพัทยาในเช้าวันที่ 8-9 อีกด้วย ผมก็พยายามสำรวมระวังเท่าที่ทำได้ให้มากที่สุด
ส่วนการปฏิบัติ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเดินจงกรม มีเน้นสมาธิภาวนาในวันแรกๆ โดยส่วนตัวผมใช้เวลาที่ว่างๆ ในการปฏิบัติในหลายอิริยาบถ ที่รู้สึกว่าทำได้ผลดีก็ตอนยืนสมาธิกับเดินสมาธิ/เดินจงกรมนั่นแหละครับ เพราะในระหว่างวันที่นั่งทำวัตรเช้า-ทำวัตรเย็นและฝึกอบรมในเต็นท์เป็นเวลานาน ทำให้เข่าล้ามาก พอจะมานั่งสมาธิเอง งอเข่าได้ไม่นานก็ปวดแล้ว ส่วนเวลานอนก็พยายามกำหนดลมหายใจไปจนกว่าจะหลับ แต่ก็ยังฝันเรื่อยเปื่อยอยู่พอสมควร
ปรากฎการณ์เร้นลับแปลกๆ อันนี้ก็เจอกันมาบ้างเหมือนกันพอได้เปิดหูเปิดตา ไม่ถึงกับสติแตกวิ่งจีวรปลิวกันแต่อย่างใด
ในวันสุดท้ายคือวันที่ 10 เราลุกขึ้นมาเก็บข้าวของทุกอย่างกลับมารวบรวมไว้กองกลางแต่เช้า และตอนสายๆ หลังจากฉันอาหารและขึ้นรถเดินสายไปกราบลา ขอขมาโทษพระอุปัชฌาย์แต่ละกลุ่มเรียบร้อยแล้ว เราก็กลับมาทำพิธีลาสิกขาในเวลาประมาณ 10 โมงครึ่งกว่า กลับมาเข้าพิธีรับวุฒิบัตรจากพระอาจารย์ แล้วยังอยู่ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณห้องน้ำวัดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ญาติๆ จะทยอยมารับตัวกลับกันไป
ทั้งนี้ ยังมีพระอีกหลายรูปที่ยังไม่ลาสิกขาตามกำหนด และคงจะติดตามพระอาจารย์ คือพระครูบุญประภากร ไปที่ จ.เลย แล้วตอนนี้
โดยสรุป สิ่งที่ผมได้จากการบวชครั้งนี้อย่างชัดๆ ก็มี - ได้ร่วมกันกับคนนับร้อย เพื่อสร้างความดีสักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อตนเอง พ่อแม่ผู้มีพระคุณ ในหลวงและพระราชวงศ์ในโอกาสที่เป็นปีมงคลของท่าน ตลอดจนญาติพี่น้องเพื่อนฝูง และสรรพสัตว์ทั่วไป - มีความเคยชิน จับหลักในการทำสมาธิได้มากขึ้น - รู้จักมีสติอยู่กับตัวในแต่ละอิริยาบถมากขึ้น ฟุ้งซ่านน้อยลง - ได้ฝึกความอดทน และมีกำลังใจในการทำความเพียรในเรื่องต่างๆ มากขึ้น - ได้ยินได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ในทางศาสนาและวงการสงฆ์มากขึ้น - มีความคุ้นเคยกับภาษาบาลีมากขึ้น เมื่อสวดมนต์แต่ละบท พอจะจับใจความได้ว่ากล่าวถึงอะไร
จบแล้วครับ ก็หวังว่าในโอกาสหน้าที่ผมได้บวช ก็จะได้มาเล่าให้ฟังกันแบบนี้อีก 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
_______ดังนี้แล __เปลวไฟจักลุกโชน ___หามีวันดับลงได้ _ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
|
|
|
aoporadio
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 14-12-2007, 20:54 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นทร์
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: 14-12-2007, 23:30 » |
|
* บรรยายได้เห็นภาพ เขียนได้ดี อ่านง่ายดี 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 16-12-2007, 19:58 » |
|
ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
|