ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
01-02-2025, 03:45
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ศาล ปค.ถอนคำตัดสินอนุญาโตตุลาการ สั่งไอทีวีจ่ายค่าต๋งเพิ่ม 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ศาล ปค.ถอนคำตัดสินอนุญาโตตุลาการ สั่งไอทีวีจ่ายค่าต๋งเพิ่ม  (อ่าน 1463 ครั้ง)
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« เมื่อ: 09-05-2006, 15:58 »

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000060953

คงเป็นข่าวดีของประเทศชาติในยามที่รัฐบาลถังแตกนะคะ  เราจะได้รายได้จากสถานีโทรทัศ์ตามความเป็นธรรมแห่งหนึ่งแล้ว  เทมาเสกคงปวดหัว เพราะทั้งรายจ่ายที่จะต้องเพิ่มมากขึ้น และต้องจ่ายย้อนหลังด้วย  อีกทั้งผังรายการที่มุ่งหาประโยชน์ จะต้องปรับให้มีสาระมากขึ้น

ไม่ทราบว่าจะมีการอุธรณ์อีกไหม ต่ถ้ามี ก็ขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีผลคตัดสินเช่นนี้ค่ะ ภาวนานะคะ คนไทยอยากได้ความยุธรรมคืนมา ไม่อยากให้โจรปล้นชาติมันได้ผลประโยชน์ของเราไปอีกแล้วค่ะ
บันทึกการเข้า
cha_srt
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 276



« ตอบ #1 เมื่อ: 09-05-2006, 16:14 »

ดีใจจังเยย
บันทึกการเข้า
โกวเฮง
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 334



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 09-05-2006, 16:18 »

คิดว่าคงอุทธรณ์แน่นอน เผื่อไม่ต่องจ่ายคืน พันกว่าล้านบาท
เอาไปหมุนใช้ก่อน กว่าจะมีคำตัดสิน ก็อีกนาน หมุนได้หลายรอบ ฮึ ฮึ..... Cool


* image001.gif (17.23 KB, 122x96 - ดู 205 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #3 เมื่อ: 09-05-2006, 16:36 »

ดีแล้วครับ ที่จะได้เปลี่ยนผังรายการกลับมาเป็นสถานีข่าว

เบื่อเหลือเกิน ที่ตั้งแต่ระบอบทักษิณเข้าครอบงำ

สถานีนี้ กลายเป็นสถานีเพื่อการมิวสิกวีดีโอและเกมส์โชว์
  Money in mouth Money in mouth
บันทึกการเข้า
ยืนต้น
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #4 เมื่อ: 09-05-2006, 17:38 »

เป็นข่าวดีมากครับ   ถ้าจำไม่ผิดคำตัดสินของศาลปกครองถือเป็นสูงสุดไม่มีอุทธรณ์
บันทึกการเข้า
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #5 เมื่อ: 09-05-2006, 17:49 »

สมน้ำหน้า ไอทีวี เป็น ทีวีเสรี ดีๆไม่ชอบ
ดันไปซุกใต้ปีกแม้ว หมดเวลาของคุณแล้ว
บันทึกการเข้า

นายเบียร์
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997



« ตอบ #6 เมื่อ: 09-05-2006, 17:57 »

อาน จ่ายอาน ฮ่าๆๆๆๆ Laughing
บันทึกการเข้า

RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 09-05-2006, 22:09 »

เป็นข่าวดีมากครับ   ถ้าจำไม่ผิดคำตัดสินของศาลปกครองถือเป็นสูงสุดไม่มีอุทธรณ์

อันนี้เป็นศาลปกครองกลางครับ ยังอุทธรณ์ไปที่ศาลปกครองสูงสุดได้อีกครั้งหนึ่ง
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 09-05-2006, 22:13 »


ไอทีวี ทีวีเสรี... คิดถึงอดีตแล้วเซง...

... เทมาเซก รับไป
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
dekdoodee
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 38


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-05-2006, 22:39 »

ขอร้องเพลงทีนึงนะครับ ยังจำได้มั้ยครับ

"ไอ ที วี ที วี เส รี"
"ITV TV sae ree"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-05-2006, 22:40 โดย dekdoodee » บันทึกการเข้า

หยุดระบอบนายทุนข้ามชาติ ฟื้นฟูความพอเพียงตามแนวพระราชดำริเพื่อให้คนไทยลืมตาอ้าปากได้
Muikung
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 63


« ตอบ #10 เมื่อ: 10-05-2006, 00:37 »

กรณี ไอทีวี นี่ไม่ทราบใครเป็นคนฟ้องถอน คำสั่งของอนุยาโตตุลาการครับ อยากทราบจัง
บันทึกการเข้า
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #11 เมื่อ: 10-05-2006, 18:33 »

ถามอีกอย่างก่อนที่ชินจะฮุบ itv ตอนนั้นเขาเป็นของเอกชนหรือรัฐบาล
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #12 เมื่อ: 10-05-2006, 20:23 »

สมควรแล้ว
สมควรอย่างยิ่ง
สมควรที่สุด
ขอบคุณ ศาลปกครอง
  Very Happy
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #13 เมื่อ: 11-05-2006, 01:01 »

มีประโยคหนึ่งในคำพิจารณาคดี ที่ว่า  "  การเสนอให้ลดค่าสัมปทานทั่งที่ผู้ร้องไม่ได้ร้องขอ  อนุญาทำเกินหน้าที่  "  บ้านเมืองนี้  จะติ๊กผิดกันทั่งชาติหรือไง
บันทึกการเข้า
ป้าจอมป่วน
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114


« ตอบ #14 เมื่อ: 11-05-2006, 01:04 »

เทมาเสก เขาจะยอมจ่ายเหรอ รู้ๆอยู่เป็นยังงัย

ไอฯ เขาอุทรณ์ นะ ออกมาพูดแล้ว ว่า เป็นไปตามช่องทาง
ใครจะยอมจ่ายย้อนหลัง หุ้นตกติดเพดานแบบนี้
บันทึกการเข้า

ป้าจอมป่วน
ยืนต้น
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #15 เมื่อ: 13-05-2006, 14:11 »

ถามอีกอย่างก่อนที่ชินจะฮุบ itv ตอนนั้นเขาเป็นของเอกชนหรือรัฐบาล
เป็นของเครือเนชั่นครับ   แต่ไปทำสัญญาว่าจะจ่ายผลตอบแทนเพิ่มปีละ100ล้าน   ผ่านไป10ปีก็เลยต้องจ่ายทั้งหมด1000ล้าน   ถ้าผ่านไป20ปีก็จะต้องจ่าย2000ล้าน   เสนอเงื่อนไขอย่างนี้ก็เลยชนะประมูล   แต่อยู่ๆไปไม่คุ้มเลยต้องขายให้ทักษิณ   ทักษิณก็ซื้อเพราะต้องการสื่อไปโปรโมทพรรคไทยรักไทย   และวางแผนไว้แล้วว่าพอได้เป็นรัฐบาลก็จะจัดการแก้ไขสัญญาซะ
บันทึกการเข้า
สเลเต
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 211



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 13-05-2006, 16:31 »

ไอทีวีไม่ใช่สถานีโทรทัศน์ในเครือเนชั่นนะคะ
เพียงแต่กลุ่มเนชั่นเป็นหนึ่งใน10ของผู้ถือหุ้น
ที่เข้ามาบริหารไอทีวีค่ะ
แต่เนื่องจากการบริหารงานข่าวของกลุ่มเนชั่น
เข้าตากรรมการมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
อันประกอบไปด้วย กลุ่มกันตนา เดลินิวส์, ไจแอนท์ ฯลฯ
กลุ่มเนชั่นจึงได้กุมบังเหียนการบริหารงานข่าว
จนเป็นที่มาของสโลแกน
"ไอทีวี สถานีข่าว 24 ช.ม."

ทีนี้เรามาดูความเป็นมาของไอทีวีกันก่อนค่ะว่า
ก่อเกิดขึ้นมาได้อย่างไร


"กว่าจะมาเป็น ไอทีวี ทีวีเสรี

ก่อนปี 2535 ประเทศไทยมีสถานีโทรทัศน์ 5 ช่อง ได้แก่ ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 7, ช่อง 9 และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ แต่เมื่อเหตุโศกนาฎกรรมทางการเมือง"พฤษภาทมิฬ"ขึ้น ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นองเลือด ทีวีทุกช่องซึ่งเป็นสื่อของรัฐถูกปิดกั้นไม่ให้นำเสนอข่าวสารที่เป็นจริงให้ประชาชนได้รับรู้ ทำให้รัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งเข้ามาบริหารประเทศหลังเหตุร้ายผ่านพ้นมีแนวคิดจะเปิดสถานีโทรทัศน์เสรีระบบยูเอชเอฟอีก 10 ช่อง ให้ประชาชนมีโอกาสได้รับรู้ข่าวสารอย่างเต็มที่ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าผู้ถือหุ้นจะต้องมี 10 รายและแต่ละรายมีสัดส่วนหุ้นที่เท่ากัน พร้อมกับแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการผูกขาด

ในปี พ.ศ. 2538 กลุ่มบริษัท สยามทีวีแอนด์คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) ได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ดำเนินงานโครงการโทรทัศน์ช่องใหม่ระบบยูเอชเอฟ จากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้ก่อตั้งบริษัท สยามอินโฟเทนเมนท์ จำกัด มาเป็นคู่สัญญากับปลัดสำนักนายกฯ ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม 2539 สถานีโทรทัศน์ไอทีวี เริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการ โดยวางจุดขายเป็นสถานีข่าว

เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก จนกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ทาบทามกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่นเข้ามาถือหุ้น ในเดือนพฤศจิกายน 2544 มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ โดยชินคอร์ปตกลงซื้อหุ้นสามัญของไอทีวีจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 106,250,000 หุ้น รวมทั้งเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯจากผู้ถือหุ้นรายอื่น ซึ่งมี กลุ่มเนชั่น,กันตนา,เดลินิวส์, ไจแอนท์ ฯลฯ เป็นผลให้ชินคอร์ปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด

หลังจากผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,200 ล้านบาท และเดือนมีนาคม ปี 2545 ได้เสนอขายหุ้นของบริษัทฯแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 300 ล้านหุ้น รวมถึงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเดือนเดียวกัน

ในปี 2546 ไอทีวี ได้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยการปรับผังรายการใหม่เพิ่มรายการบันเทิงมากขึ้น ทำให้สถานีโทรทัศน์ไอทีวีกลายเป็นสถานีเพื่อการพาณิชย์แบบเดียวกับช่อง 3 และช่อง 7

ปี 2547 กลุ่มชินคอร์ปได้ทำเรื่องขอแก้ไขสัญญาสัมปทาน ขอลดค่าสัมปทานที่ต้องจ่ายให้รัฐปีละ 800 ล้านบาท โดยอ้างว่าจ่ายสูงกว่าเอกชนรายอื่น ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการได้วินิจฉัยชี้ขาดให้ไอทีวีจ่ายค่าสัมปทานปีละ 230 ล้านบาท และให้รัฐจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับไอทีวีประมาณ 1,000 ล้านบาทด้วย ทั้งที่ตามสัญญาสัมปทานเดิมไอทีวีจะต้องจ่ายผลประโยชน์ให้รัฐทั้งหมด 25,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี

หลังจากคณะอนุโตตุลาการมีคำตัดสินออกมา บริษัทฯก็จ่ายผลตอบแทนให้รัฐบนพื้นฐานใหม่ 230 ล้านบาททันที ทำให้การดำเนินงานพลิกกลับมามีกำไร ทั้งที่ สำนักงานปลัดสำนักนายกฯได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองให้พิพากษากรณีนี้ และเรื่องก็ยังไม่ยุติก็ตาม

นอกจากนี้ไอทีวียังขอปรับเปลี่ยนสัดส่วนการนำเสนอรายการช่วงไพร์มไทม์ จากเดิมสัญญาสัมปทานระบุให้รายการข่าวและสาระ สัดส่วน 70% และบันเทิง 30% ทางบริษัทฯขอปรับมาเป็นเสนอรายการข่าว สารคดีและสารประโยชน์ไม่น้อยกว่า 50% จากนั้นก็มีการดังพันธมิตรสองรายคือ กันตนา และไตรภพ เข้ามาผลิตรายการบันเทิงในช่วงไพร์มไทม์ มาจนถึงถึงปัจจุบัน "

ที่มาของข้อมูลในเครื่องหมายคำพูด

ฐานเศรษฐกิจ 26 ม.ค. - 28 ม.ค. 2549

 
บันทึกการเข้า

เหมือนจะพร้อมให้หอมดอก...สเลเต
แวะไปชมบ้านหลังน้อยกันได้นะคะ

http://mahahong.bloggang.com

และแอบประชาสัมพันธ์งานรวมเล่มชิ้นแรกด้วยค่ะ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mahahong&month=03-2006&date=28&group=1&blog=1
หน้า: [1]
    กระโดดไป: