ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
09-07-2025, 17:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ชายคาพักใจ  |  สิ่งเลวร้ายที่ผมทำกับเพื่อนพี่สาว 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
สิ่งเลวร้ายที่ผมทำกับเพื่อนพี่สาว  (อ่าน 2057 ครั้ง)
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« เมื่อ: 05-11-2007, 15:26 »

สิ่งเลวร้ายที่ผมทำกับเพื่อนพี่สาว

ผมอาศัยอยู่กับพี่สาวสองคนในบ้านสองชั้นหลังเล็กๆ ที่ทำงานของผมอยู่ห่างจากบ้านไม่มากนัก ทุกวันหลังเลิกงาน ผมจะเดินกลับบ้านด้วยความหวังว่า เมื่อไหร่จะมีแฟนเสียทีขณะที่ผมกำลังดูหนังอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงพี่สาวเรียกให้ลงมาข้างล่าง พี่สาวผมบอกว่าเพื่อนของพี่สาว ย้ายเข้ามาเช่าบ้านติดกับบ้านผม พี่สาวแนะนำให้ผมรู้จัก 'พี่มด' และขอแรงผมช่วยขนย้ายสัมภาระเข้าบ้าน แต่สายตา และรอยยิ้มของพี่มด ที่มองมายัง
ผมซิครับ ทำเอาหัวใจของผม เหมือนจะหยุดเต้น ผิวของพี่มด ขาวละเอียดมาก เข้าใจว่าคงผ่านการดูแลมาอย่างดี พี่มดสูงประมาณ 170 ซม. เอวเล็กรับกับก้นที่ ได้รูปอย่างแปลกประหลาด ในระหว่างที่ช่วยกันขนย้ายสิ่งของ ผมมองผ่านหน้าอกของพี่มดอย่างไม่ตั้งใจ แต่ก็อดจะนึกถึงแตงโมลูกย่อมๆ ที่แม่ค้าวางขายอยู่ในตลาดไม่ได้ เธอเอามันมาจากไหนนะ เห็นแล้วน่าหนักอกหนักใจแทนจริงๆ

ยามที่เราขนย้ายสิ่งของผ่านช่องทางเล็กๆ ที่ต้องค่อยๆ เบียดผ่านกัน ผมรู้สึกได้ถึงความนิ่มจากร่างกายพี่มด ที่บดเบียดลงมาบนร่างกายผม ที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อของผมมันเป็นความรู้สึกที่คนอย่างผมยากจะบรรยายจริงๆ พี่มดคงมองผมเป็นน้องเลยไม่ได้ระวังตัว ผมได้แต่ข่มความรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังปะทุขึ้นมา ในใจอย่างสุดความสามารถอย่างน้อยก็เพื่อเห็นแก่พี่สาวผม

วันเวลาผ่านไป พี่มดมาเป็นแขกประจำของพี่สาวผมแทบทุกวัน บางวันก็ชวนกันออกไปดูหนังพักผ่อน บางวันก็ชวนกัน ไปหาหมอความงาม ไม่รู้พี่สาวผมจะบ้าความงามตามพี่มดไปถึงไหน ไม่เข้าใจจริงๆ แต่สายตาที่พี่มดมองมายังผม มันแฝงแววตาแปลกๆมากขึ้นทุกวัน บางคืนผมหลับตานอนยังมองเห็นรอยยิ้ม และแววตาคู่นั้น จนนอนไม่หลับต้องลุกขึ้นมาออกกำลังกายหนักๆ เพื่อข่มความรู้สึกตัวเองให้บรรเทาลง

คืนนี้ตีสองกว่าแล้ว ผมตื่นขึ้นมา เพราะเสียงเรียกของพี่สาว ผมเดินลงบันไดมาเจอพี่สาวกำลังประคองพี่มดที่อยู่ในอาการเมาไม่ได้สติ พี่สาวบอกว่า คืนนี้เพื่อนร่วมรุ่นเลี้ยงฉลองกัน พี่มดเมามาก กุญแจบ้านพี่มดก็หาย จึงต้องพามานอนบ้านเรา แล้วพี่สาวก็บอกให้ ผมประคองพี่มดขึ้นไปนอนบนห้องของพี่สาว ส่วนตัวพี่สาวขับรถออกจากบ้านไปส่งเพื่อนๆอีกสองสามคน

ผมประคองพี่มดขึ้นบันไดไปห้องพี่สาว ด้วยแขนขาที่สั่นจนแทบควบคุมไม่ได้ กลิ่นไวน์อ่อนๆ ผสมกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่อาบอยู่บนตัวพี่มด ลอยมาแตะจมูก ลูกแตงโมย่อมๆ มันเบียดกับร่างกายผมจนหลุดออกจากเกาะอกมาโชว์แก่สายตา ผมได้แต่ข่มความรู้สึกตัวเอง ประคองพี่มดขึ้นมาจนสุดขั้นบันไดอย่างยากเย็น

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คงด้วยความเมา พี่มดผลักผมเข้าไปติดผนังหน้าอกทั้งสองของพี่มด บดเบียดกับหน้าอกเปลือยเปล่าของผม อย่างแนบแน่น ก่อนที่ผมจะทันได้ตั้งตัว ริมฝีปากของพี่มดก็กดลงมาบดเบียดกับริมฝีปากผม จากนั้นสติของผมก็ขาดลง ลืมผิดชอบชั่วดี ลืมทุกสิ่งรอบกาย ผมทำสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตกับพี่มดอย่างไม่น่าให้อภัย

สติผมกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้เสียงร้องครวญครางเจียนจะขาดใจของพี่มด แต่ทุกอย่างมันก็สายเกินที่จะแก้ไขซะแล้ว อารมณ์ที่อัดอั้น มันไหลออกจากตัวผมอย่างสุดจะควบคุม ผมไม่น่าทำมันลงไปเลย…..

ผมขอโทษ…. เสียงขอโทษของผม หลุดออกมาจากปากอย่างแผ่วเบา ภายใต้เสียงสะอื้น และน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ผมกอดกระชับพี่มดอย่างสำนึกผิดในการกระทำของตัวเอง แต่เลือดที่ไหลออกมาเต็มขาของพี่มด ทำให้ผมตกใจแทบสิ้นสติ

หลังจากคุณหมอรับตัวพี่มดเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว ผมทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรงคงเป็นครั้งแรกของพี่มด ที่เจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ พี่มดจะให้อภัยผมหรือเปล่านะ หากพี่มดแจ้งความกับตำรวจ ผมจะทำอย่างไรดี ผมไม่น่าทำกับพี่มดอย่างนี้เลย แต่ผมไม่ได้
ตั้งใจจริงๆ ร่างกายมันทำไปตามความต้องการของมันเอง แล้วผมจะบอกเรื่องนี้กับพี่สาวอย่างไร?

พี่สาวยืนจ้องหน้าผมด้วยแววตาที่ยากเกินจะบรรยายผมนั่งก้มหน้าปล่อยเสียงเบาๆ เล็ดลอดออกจากปากอย่างยากเย็น


"ผมขอโทษครับพี่.................. พี่ก็รู้ว่าผมเกลียดกะเทยมาก"

"ผมลืมตัวถีบพี่มดตกบันได ผมทำไปอย่างไม่รู้ตัวจริงๆ ครับ"

"ชั้นไม่น่าปล่อยแกไว้กับนังมดเลย…..คิดไม่ถึงจริงๆ…..เฮ่อ" พี่สาวรำพึงเบาๆ


^_^

-----------------------------------

ที่มา http://silance-mobius.blogspot.com/2007/11/blog-post_05.html
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #1 เมื่อ: 05-11-2007, 15:48 »

ไรกัน ผิวขาวละเอียดยังงี้ ยังไม่ชอบ
แปลกคน

 
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #2 เมื่อ: 05-11-2007, 16:00 »




  เอิ๊กๆๆๆๆหลงอ่านตั้งนาน มาหักมุมตอนจบนี่เอง

  ระวังพี่สาวนายแล้วกัน จะโดนเพื่อนทำโทต๊อง



     
บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 05-11-2007, 16:04 »

ได้มานานแระ ตอนอ่านทีแรกน่ะ นึกว่าจะติดเรท

จริงๆแล้วยังมีอีกเยอะ เดี๋ยวจะค่อยเอามาทยอยลงล่ะกัน อิอิ



ปล. ส่วนใหญ่มักได้มาจาก FW Mail น่ะ อิอิ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
พัน.ตระ.กะ.โท.ด็อกเตอร์ ทากสิน กินดินวัด
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 38



« ตอบ #4 เมื่อ: 05-11-2007, 16:06 »

  คิดไปไกล 
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: