เหยื่ออันโอชะของรัฐธรรมนูญ 2550คอลัมน์ เดินหน้าชน
โดย จุฬาลักษณ์ ภู่เกิดในเวทีที่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม เป็นโต้โผจัดให้ตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ
มานำเสนอแนวทางนโยบาย ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นการโหมโรง โดยมีการ
ถ่ายทอดผ่านทีวีของรัฐให้ประชาชนรับรู้กันอย่างกว้างขวางเมื่อเร็วๆ นี้
แม้จะวางกรอบไว้ที่นโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก ซึ่งทุกพรรคก็แข่งกัน
นำเสนอจุดขายชนิดไม่มีใครยอมน้อยหน้า แต่กลับ
ไม่มีพรรคการเมืองไหนนำเสนอ
แนวทางนโยบายในทางการเมืองเลย ทั้งที่น่าจะเป็นบทบาทที่จำเป็นของการก่อรูป
ขึ้นเป็นพรรคการเมือง
มี
ยกเว้นก็คือ
พรรคพลังประชาชน พรรคเดียวพรรคพลังประชาชน
ประกาศชัดเจนมาก่อนหน้านี้แล้วว่า หลังได้รับเลือกตั้งเข้ามา
ไม่ว่าจะได้เป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ภารกิจที่จะเร่งดำเนินการเป็นลำดับต้นๆ คือ
แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับถอยหลังเข้าคลองนี้ ขณะเดียวกันก็จะเสนอให้นิรโทษกรรม
อดีตกรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง
ทั้งนี้ เพื่อให้กลไกทางการเมืองพัฒนาไปในทิศทางที่ควรจะเป็น ไม่อยู่ในภาวะติด-
หล่ม ถูกตีกรอบให้ต้องเดินไปในทิศทางสู่ความเสื่อมถอย สวนทางกับความต้องการ
ของสังคม
ในครั้งนี้ หลังจากยืนยันว่าจะใช้นโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมเดิมของพรรคไทย-
รักไทย เพราะเชื่อว่ายังคงซื้อใจประชาชนได้เช่นเดิมแล้ว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ได้ประกาศยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่สำคัญคือ การ
สร้างความปรองดองไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล การยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกใน
พื้นที่ที่เหลือ รวมทั้งยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน ที่สำคัญคือจะจัดตั้งสภาร่าง
รัฐธรรมนูญชุดที่ 3 ที่มาจากการสรรหาโดยประชาชน เพื่อเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการแก้-
ไขประเด็นพิกลพิการต่างๆ ที่ยังไม่ทันไรก็ส่งผลให้ "การเมืองใหม่" หลังรัฐธรรมนูญ
ฉบับนี้ประกาศใช้ "เละเป็นโจ๊ก" อยู่ในเวลานี้
ซึ่งเท่ากับเป็นการประกาศชนซึ่งหน้ากับ คมช. และเครือข่าย ในขณะที่พรรคการเมือง
อื่นยังสงวนท่าที เพราะยังมีเยื่อใยอันดีมากบ้างน้อยบ้างกับกองทัพและกลุ่มอำนาจ
ใหม่
หากย้อนกลับไปดู
แผนบันได 4 ขั้น ของ คมช. ที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายก-
รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในปัจจุบัน
เคยเผลอพูดไว้สมัยที่ยังเรืองอำนาจสูงสุดว่า หลัง
จากยุบพรรคและเอาผิดในคดีทุจริตคอร์รัปชั่นแล้ว พรรคไทยรักไทยก็จะเริ่มแตกกระจัด
กระจาย ก็ดูจะเป็นเรื่องตลกไม่น้อย ที่สภาพที่เห็นและเป็นอยู่ในเวลานี้เหมือนเป็นไป
ตามขั้นตอนที่ว่า โดยเฉพาะหลังร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเป็นที่เรียบร้อยตามบันได
ขั้นที่ 4
เพียงแต่กลายเป็นว่า แม้กลุ่มก๊วนต่างๆ จะแตกกระจัดกระจายออกไปจากพรรคไทย-
รักไทยตามแผน จนทำให้แกนนำเดิมหลงเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง แต่ "เป้าหมาย" กลับ
แปลงร่างปรับตัวได้รวดเร็ว และพร้อมกว่าเพื่อนสำหรับการประลองยุทธ์ในสนามเลือก-
ตั้งที่กำลังมาถึง ขณะที่ผู้ที่แยกตัวออกไปตั้งป้อมค่ายใหม่ที่ต่างพยายามชูจุดขาย
เป็นทางเลือกที่สามเพื่อความสมานฉันท์ ยังคงมีชะตากรรมอันทุลักทุเล รวมแล้วแยก
แยกแล้วรวม สร้างความสับสนเบื่อหน่ายให้ชาวบ้านไม่จบ ทั้งที่วันเวลานับถอยหลัง
สู่การเลือกตั้งเหลือน้อยลงทุกที
นึกๆ แล้วก็น่าเห็นใจ "มือใหม่หัดขับ" อย่างนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน "แม่บ้าน"
พรรคมัชฌิมาธิปไตยของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ที่แอบถอดใจ "อดเป็นห่วงไม่ได้
ว่าจะคัดสรรผู้สมัครกันอย่างไร เพราะใกล้เวลาเลือกตั้งเข้ามาแล้ว ของเดิมก็เห็นๆ
กันอยู่ว่ายุ่งแค่ไหน แล้วต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่"
ซึ่งคงไม่ใช่แค่การคัดสรรผู้สมัคร หากยังรวมถึงนโยบายหรูของแต่ละพรรคที่ต้อง
มายำกันใหม่ จะชูอะไรเป็นเรื่องเป็นราวก็ต้องรอให้ฝุ่นหายตลบก่อน เท่ากับว่าที่
ประกาศไปก่อนหน้าถือเป็นสาระอะไรไม่ได้
นี่แค่เริ่มต้น การเมืองใหม่ใต้กรอบรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็สะท้อนภาพให้เห็นชัดแล้ว
ว่า ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนฝากผีฝากไข้ ใช้เป็นหนทางแก้ปัญหาของตนเอง กระบวน-
การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้
นอกจากได้เรียนรู้ "ปาหี่การเมืองสมัยใหม่" ที่หลายคน "ล่อนจ้อน" ให้เห็นอยู่บน
เวทีแบบไม่รู้ตัว ก่อนที่จะเปรียบเทียบข้อมูล เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่เหมาะสม
ที่สุดในวันที่ 23 ธันวาคม
น่าอนาถใจ หากประชาชนได้เรียนรู้ แต่นักการเมืองที่กำลังวิ่งวุ่นกันอย่างอลหม่าน
อยู่ในเวลานี้ ไม่เคยเรียนรู้ ว่าการเป็นนักการเมืองที่มีศักดิ์ศรี ต่างกับนักเลือกตั้ง
อย่างไร ผู้แทนราษฎรต่างกับผู้ฉวยประโยชน์จากราษฎรอย่างไร และนักต่อสู้ทาง
การเมือง ต่างกับนักฉวยโอกาสทางการเมืองอย่างไร
ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 การเมืองเก่าเช่นนี้กำลังเป็นเหยื่ออันโอชะ ถ้าไม่คิดจะ
แก้ไข เห็นแต่ช่องที่ตัวเองจะได้ประโยชน์ ในที่สุด ก็คงต้อง
สูญพันธุ์ไปด้วยกัน
ทั้งหมด
มติชน วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10822http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act04271050&day=2007-10-27§ionid=0130สำหรับ คนชอบแปะ
(หลังจากข้างบนนู้น สำหรับ คนชอบตัวย่อ) 