ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« เมื่อ: 14-06-2006, 20:58 » |
|
ขอสำรวจการตัดสินใจหน่อยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
(ก้อนหิน) ละเมอ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 14-06-2006, 21:34 » |
|
เอาทักษิณ แต่ไม่เอาระบอบทักษิณ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 14-06-2006, 21:41 » |
|
ครับ ท่าน ครับ คนกล้าหมายเลข1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 14-06-2006, 21:47 » |
|
ไม่ค่อยเข้าใจกระทู้นี้ กำลังหา ตรรกะอะไร และเพื่ออะไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 14-06-2006, 21:55 » |
|
ระบอบทักษิณ จะอยู่หรือไป และ กระบวนการการตัดสินใจในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งเท่าที่แต่ละคนมีข้อมูลอยู่ในปัจจุบัน อุปสรรคในการตัดสินใจ ฯลฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 15-06-2006, 02:17 » |
|
แม้จะล้มทักษิณได้ ระบอบทักษิณก็ยังคงอยู่ต่อไป
นั่นคือปัญหาที่หนักหน่วงใจของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม การยอมรับระบอบทักษิณ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
เมื่อปัญหามันผูกคิดอยู่กับตัวทักษิณผู้สมยอมกับระบอบทักษิณ การกดดันให้ทักษิณเปลี่ยนแนวทางจะดีที่สุดหรือไม่? คำตอบคือไม่
คำตอบที่เรียบง่าย แต่ทว่ากระทำได้ยากก็คือ การไม่ยอมรับในระบอบทักษิณของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ที่คำตอบว่าใครดีเหมาะสมเป็นนายกฯมากกว่าทักษิณ
มันอยู่ที่ว่าใครจะมุ่งมั่นฟาดฟันกับระบอบทักษิณ ที่มีสภาพแต่ไร้ตัวตนอย่างจริงจัง ซึ่งคำตอบนั้นอาจจะอยู่อยู่ที่คนใดคนหนึ่งที่รู้ว่าจะหยุดยั้งมันลงได้อย่างไร?
การสะกดระบอบทักษิณ คือทางรอดเดียวของประเทศไทย เมื่อนั้นใครสักคนก็สามารถเป็นนายกฯที่ดีกว่าทักษิณได้ แต่หากระบอบทักษิณคงอยู่ แน่นอนทักษิณเหมาะสมที่สุดในเวลานี้
แต่ทว่าระยะยาวแล้ว ต้องหยุดระบอบทักษิณให้ได้ ซึ่งการประวิงเวลาจะทำให้โอกาสที่จะหยุดระบอบนี้ ทำได้ยากขึ้น
หากไตร่ตรองแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เราก็ควรต้องมองข้ามปัญหาปลีกย่อย ตัวบุคคลเพียงคนเดียวแม้จะเป็นผู้นำในการบริหาร ก็ไม่สมควรที่จะเป้นมรรคผลที่ถูกต้องได้
มิมีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าความคิดของพวกงมงายว่า ระบอบทักษิณคือทางออกของเขาหรือของใครก็ตาม เพราะว่าเขาสามารถเพ้อฝันไปได้ไม่สิ้นสุด ตราบเท่าที่ทักษิณยังอยู่
เห็นหรือยังว่าระบอบทักษิณมันทำงานอย่างไร?? ตกลงจะเอาหรือไม่เอา จะอย่างไรก็ตามหากทำให้คนเข้าใจผิด ก็จะหยุดมันไม่ได้ ความจริงที่ดีกว่าเท่านั้น จึงจะสามารถหยุดมันได้
ส่วนอะไรคือความจริงที่ดีกว่าที่คนทุกคนจะยอมรับได้ ทุกท่านต้องหาคำตอบไว้ให้ดี เพราะสาวกของระบอบนี้มีมากทั่วประเทศ
นำพาไปสู่สิ่งระบอบที่ดีกว่า นั่นคือทางออกจากวจรอุบาทว์ของระบอบนี้ที่กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากยอมรับ
การยุบพรรคการเมืองขนาดใหญ่โดยเร็ว ดูจะเป็นคำตอบหนึ่งที่ได้ผลค่อนข้างมาก และไม่มีอะไรเสียหายต่อประเทศ สส.ย้ายพรรคเป็นเรื่องธรรมดา
ศาลรัฐธรรมนูญควรตัดสินตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ให้ผลในการปรับพฤติกรราของเหล่านักการเมืองจนวนมากให้ถูกต้องมากที่สุด แล้วท่านเชื่อว่าพรรคใดควรถูกยุบล่ะ?
อำนาจของระบอบทักษิณ มาจากอะไร?? ถูกต้องตามเจนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่? อยู่ในกรอบของตัวบทกฎหมายต่างๆอย่างสอดคล้องกับเจตารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่?
หากไม่เชื่อมั่นในรัฐะรรมนูญ เราก็ออกจากปํญหาของระบอบทักษิณไม่ได้ แม้ทักษิณจะล้มลงไปก็ตาม เป็นแต่เพียงบรรเทาปัญหาได้ชั่วคราวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การยุบพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ให้ผลมากกว่าครับ
ประชามติณ ที่ต่างที่ตัดสินใจบนพื้นฐาน น้ำหนักเหตุผลต่างๆที่ดีที่สุด จะมีผลต่อทิศทางของการเมืองไทย
คุณล่ะแสดงประชามติต่อคนรอบข้างอย่างมีเหตุและผลที่เข้าใจได้และน่าเชื่อถือแล้วหรือยัง?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 15-06-2006, 02:58 » |
|
อ่านแล้ว รู้สึก ความเห็น วกไปวนมา
เป้าหมายอยู่ที่ประโยคสุดท้ายรึเปล่า แล้วคิดว่าต้องทำยังไงต่อครับ
เหมือนกับพูดไม่จบ ไม่ชัดเจนไงไม่รู้ แต่พอเห็นลางๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายเกตุ
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 15-06-2006, 07:46 » |
|
ผมรู้อย่างเดียวว่าคนอย่างทักษิณกลัวการเมืองตรวจสอบเพราะฉะนั้นจึงไม่สมควรเดินเข้าสภา ควรกลับไปบริหารสำนักชินจะดีกว่า....ไปไป๊
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ผู้ทำลาย
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 15-06-2006, 10:09 » |
|
ไม่เอาทั้งสองแหละ
ติดใจประโยคสุดท้ายจริงๆ
คุณล่ะแสดงประชามติต่อคนรอบข้างอย่างมีเหตุและผลที่เข้าใจได้และน่าเชื่อถือแล้วหรือยัง?
มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากที่เราจะอธิบายให้ใครฟัง ... แต่มันยากที่ว่า เค้าจะยอมรับฟังเรารึเปล่าน่ะสิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-06-2006, 11:08 » |
|
ส่วนอะไรคือความจริงที่ดีกว่าที่คนทุกคนจะยอมรับได้ ทุกท่านต้องหาคำตอบไว้ให้ดี เพราะสาวกของระบอบนี้มีมากทั่วประเทศ
นำพาไปสู่สิ่งระบอบที่ดีกว่า นั่นคือทางออกจากวงจรอุบาทว์ของระบอบนี้ที่กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากยอมรับ
การยุบพรรคการเมืองขนาดใหญ่โดยเร็ว ดูจะเป็นคำตอบหนึ่งที่ได้ผลค่อนข้างมาก และไม่มีอะไรเสียหายต่อประเทศ สส.ย้ายพรรคเป็นเรื่องธรรมดา
ศาลรัฐธรรมนูญควรตัดสินตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ให้ผลในการปรับพฤติกรราของเหล่านักการเมืองจนวนมากให้ถูกต้องมากที่สุด แล้วท่านเชื่อว่าพรรคใดควรถูกยุบล่ะ?
อำนาจของระบอบทักษิณ มาจากอะไร?? ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่? อยู่ในกรอบของตัวบทกฎหมายต่างๆอย่างสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่?
หากไม่เชื่อมั่นในรัฐธรรมนูญ เราก็ออกจากปํญหาของระบอบทักษิณไม่ได้ แม้ทักษิณจะล้มลงไปก็ตาม เป็นแต่เพียงบรรเทาปัญหาได้ชั่วคราวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การยุบพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ให้ผลมากกว่าครับ
ประชามติ ณ ที่ต่างๆที่ตัดสินใจบนพื้นฐาน น้ำหนักเหตุผลต่างๆที่ดีที่สุด จะมีผลต่อทิศทางของการเมืองไทย
คุณล่ะแสดงประชามติต่อคนรอบข้างอย่างมีเหตุและผลที่เข้าใจได้และน่าเชื่อถือแล้วหรือยัง?
ตัดมาทำให้อ่านง่ายขึ้น และแก้ไขส่วนที่ผิดตก
การแก้ไขไปสู่ระบอบที่ดีกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้โดยบังเอิญครับ
ต้องประกอบด้วย การเข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา โดยที่มีมวลชนทั้งประเทศเป็นศูนย์กลาง
ส่วนกรรมวิธีที่จะให้ คนรับฟังนั้น ทางออกที่สั้นที่สุด คือการพูดกับคนรอบข้าง แล้วเดินไปในแนวทางนั้น อย่าให้ผู้ใดเกิดความสับสน
เครื่องพิสูจน์ คือความกระจ่างในใจของแต่ละคน ดังนั้น สังคมต้องแข่งขันกันอย่างสงบ สื่อต้องสามารถจัดระบบการนำเสนอ อันนำไปสู่การปฏิบัติของสังคมได้ ร่วมกับนักคิดและผู้รู้ต่างๆ ซึ่งประสิทธิภาพเหล่านี้จะชักนำให้พฤติกรรมของสังคมค่อยๆเปลี่ยนไป สู่แนวทางที่พึงประสงค์ได้ของตัวสังคมเอง โดยเฉพาะฐานเสียงของระบอบทักษิณที่ที่จำนนท์ต่อสภาพปัญหาของตนเองในสภาพปัจจุบันในที่สุด การไถ่ตัวประชาชนออกจากระบอบทักษิณ มายืนหยัดอย่างเจ้าของประเทศเต็มขั้นเป็นสิ่งจำเป็น ทำได้เร็วกว่าระบอบทักษิณก็จะพ่ายไปเอง..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 15-06-2006, 11:16 » |
|
ยิ่งเร็วยิ่งดี แต่ก็ต้องกระทำและรอคอย ใช้เหตุผลและความสมดุล ต่างจากการฟาดฟันกันเพียงอย่างเดียว เป็นลักษณะของการประชิดติดพัน นัวเนีย ต่อเนื่อง เข้าไปสู่ ประชาชนทุกภาคส่วนเสียมากกว่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 15-06-2006, 11:21 » |
|
ครับขอบคุณ ในความเห็น และการร่วมกระทู้จากทุกแนวทางครับ
ปัญหาทุกอย่างย่อมแก้ไขได้ดีที่สุด ด้วยความจริงใจ ในทางที่เหมาะสมต่อตัวปัญหาเอง
เป็นกำลังใจ ให้ทุกท่านตัดสินใจครับ!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
atumyata
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 15-06-2006, 11:32 » |
|
ไม่เอาระบอบทักษิณ แล้วให้ทักษิณอยู่ต่อได้เหรอ ทำได้ไงขยายหน่อยซิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 15-06-2006, 12:18 » |
|
ทักษิณ จะตายเมื่อไร คุณทราบหรือเปล่า?
เขาก็อยู่แบบที่สังคมยอมรับ อาจจะแบบสมัคร หรือแบบสุจินดา หรือแบบฉลาด
หรืออีกหลายๆแบบที่ทุกคนคาดไม่ถึง หากสังคมหยุดยั้งเขาไม่ได้ แม้ระบอบทักษิณจะล้มไปได้ก็ตาม อยู่ที่เราคาดหวังอะไร?
แล้วมันเป็นไปอย่างที่เราคาดหรือเปล่า แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นฉันทามติ จากสังคม
อยู่ที่ใครจะมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนต่อผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะไปหวังอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ได้ทำอะไร จะรู้ว่าจะเป้นไปอย่างไรก็ยิ่งยาก เมื่อเกี่ยวข้องอยู่วงนอกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 15-06-2006, 12:48 » |
|
อ่านประกอบดู จริงเท็จแค่ไหนก็ว่ากันไปครับ
"ทักษิณ"วางมือหลังถูกยุบพรรค ปชป.หวั่นตามรอยทรท.-พลิกกลยุทธ์ลอก "เสรีธรรม" โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 15 มิถุนายน 2549 09:53 น. "ทักษิณ"ถือไพ่ใบสุดท้าย ยื้อ"อำนาจ-ผลประโยชน์" รอประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง หลัง15 ต.ค. ศาลชี้ขาดคดียุบพรรค ปชป.เตรียมใช้กลยุทธ์เลียนแบบ "เสรีธรรม" รักษาสถานภาพสมาชิกพรรค หากเกิดอุบัติเหตุ การเมือง นักรัฐศาสตร์ชี้ ทักษิณ เตรียมสละเรือ ทิ้งทรท.หากหมดโอกาสลงสนาม ยิ่งนานวัน ยิ่งดูเหมือน "ทางออก" ที่คนในสังคมคาดหวังที่จะได้เห็นการฝ่าทางตัวจากวิกฤตการเมือง กลับเดินไปสู่หนทางอันตีบตันมากยิ่งขึ้น จนถึงนาทีนี้ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจากนี้ไป สถานการณ์ทางการเมืองจะเดินไปสู่ทิศทางใด คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะยังมีสถานะชอบด้วยกฎหมายจัดการเลือกตั้งต่อไปได้อีกหรือไม่ และที่สำคัญข้อหา "ยุบพรรค" จะสามารถสำแดงเดชเล่นงาน 2 พรรคใหญ่ได้จริงหรือไม่ ซึ่งหากกรณียุบพรรคเกิดขึ้นจริง แม้เพียงพรรคใดพรรคหนึ่งก็ตาม "สุญญากาศ"ทางการเมืองจะเกิดขึ้นทันที เลือกตั้งรอบใหม่ 15 ต.ค.ส่อแวว "ล่ม" และที่สำคัญการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.2549 จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ทั้งที่ถูกกำหนดโดยกกต.และครม.ออกมาอย่างรวบรัด เนื่องจากนักวิเคราะห์ทางการเมืองหลายคนต่างมองว่า เมื่อทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน การชี้ขาดกรณียุบพรรคยังไม่ออกมา และที่สำคัญหากจับกระแสความเคลื่อนไหว "ย้ายพรรค"ของส.ส.ในเวลานี้กลับนิ่งเงียบอย่างผิดปกติ ทั้งที่กกต.กำหนดให้วันที่ 12 มิ.ย.นี้เป็นวันสุดท้ายที่จะย้ายพรรค และระบุให้วันที่ 30 มิ.ย.นี้เป็นวันเช็คยอดส.ส.สังกัดพรรคครบ 90 วัน สิ่งเหล่านี้กำลังบ่งบอกนัยยะให้เห็นว่าบรรดานักเลือกตั้งไม่ได้ให้น้ำหนักกับวันเลือกตั้ง 15 ต.ค.นี้ใช่หรือไม่ ? ตลอดช่วงระยะเวลาแห่งงานพระราชพิธีสำคัญหลายวันที่ผ่านมานั้น ได้ส่งผลให้บรรยากาศทางการเมืองสงบลงได้บ้าง แต่ทุกคนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบดังกล่าวนี่เอง ย่อมไม่มีใคร ที่ไม่เคลื่อนไหว โดยเฉพาะใครก็ตามที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงโดนยุบพรรค ยิ่งต้องพยายามดิ้นรนหาทางออกอย่างหนัก จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นมือกฎหมายของทั้ง 2 พรรคคือไทยรักไทยและประชาธิปัตย์ คร่ำเคร่งกับการหาช่องทางของกฎหมายขึ้นมาหักล้างข้อกล่าวที่ตนเองได้รับ ข้อกล่าวหาตอบโต้กันไปมาระหว่างประชาธิปัตย์และไทยรักไทยในประเด็นกระทำทุจริตไม่ชอบด้วยกฎหมายเลือกตั้ง ที่ผ่านมานั้นในที่สุดแล้วข้อกล่าวหาเดียวกันนั้นกำลังจะได้รับการพิสูจน์โดยอัยการสูงสุด ในไม่ช้านี้โดยที่มี "ชะตา"ของทั้ง 2 พรรคเป็นเดิมพันในเกมครั้งนี้ " ต้องยอมรับว่าได้มีการพูดคุยและเตรียมแผนไว้รองรับกันแล้ว หากประชาธิปัตย์ต้องถูกยุบพรรคจริง นั่นคือมีความเป็นไปได้สูงที่เราอาจจะเลือกใช้วิธีที่พรรคเสรีธรรม เคยทำมาแล้ว นั่นคือการยุบพรรคแล้วไปรวมกับพรรคใหม่ เพื่อรักษาสถานะ และสมาชิกภาพของส.ส.ทั้งหมดเอาไว้ " ปชป.เลียนแบบ "เสรีธรรม"รับมือหลังถูกยุบพรรค แหล่งข่าวระดับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า ข้อหาที่ประชาธิปัตย์ได้รับนั้นจะสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด แต่หากมีความพยายามที่ยุบพรรคให้ได้ ก็เชื่อว่าในข้อหาเดียวกันนี้พรรคไทยรักไทยก็จะต้องโดนยุบด้วยเช่นกัน ประเด็นกรณี ไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานกู้ชาติ นั้นพรรคสามารถชี้แจงและทำความกระจ่างได้มากกว่ากรณีพล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ฯ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจ้างวานแน่นอน เนื่องจากไทกร ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ แล้วไปตั้งพรรคใหม่ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อ ปี2548 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคำวินิจฉัยจากอัยการสูงสุด จะออกมาในรูปใดสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวเหมือนกับสิ่งที่ไทยรักไทย เตรียมการที่จะดำเนินการแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่จะส่งผลในทางลบเท่านั้น แต่ยังทำให้สถานการณ์ทางการเมืองเลวร้ายลงไปมากขึ้น "บอกไม่ได้ว่าถ้าหากมีคำสั่งยุบ ทั้ง 2 พรรคจริงจะยิ่งเกิดสุญญากาศทางการเมืองอย่างหนัก เนื่องจากเมื่อการเลือกตั้ง 2 เม.ย.ที่ผ่านมาแค่พรรคไทยรักไทยส่งคนลงสมัครพรรคเดียว ความเป็นจริงทางการเมืองก็ไม่มีแล้ว และหากครั้งนี้ทั้งพรรคฝ่ายค้าน และไทยรักไทย ไม่ได้ลงสนาม จะยิ่งส่งผลให้ ตัวแทนของประชาชนไม่เป็นจริงรุนแรงมากขึ้น" อย่างไรก็ตามสำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น หากต้องเผชิญหน้ากับการถูกยุบพรรคจริงก็ดูเหมือนว่า "ทางออก" ได้ถูกเตรียมรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะถึงแม้กรรมการบริหารพรรค จะไม่สามารถทำหน้าที่ตั้งพรรคการเมืองใหม่ด้วยตนเอง แต่ต้องยอมรับว่าภายในพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีตัวตายตัวแทนที่พร้อมจะขึ้นมาสานงานใหญ่จำนวนไม่น้อย เพราะหลายคนสามารถจับทางได้ว่า จุดยืนของประชาธิปัตย์ไม่ว่าจะถูกยุบหรือไม่ เส้นทางทางการเมืองย่อมไม่มีวันยุติลงอย่างง่ายดายแน่นอน นักรัฐศาสตร์ฟันธงปชป.รอด-ทรท.ร่วง! ข้อวิตกกังวลว่าจากนี้ไปจนกว่าที่การเมืองจะเดินหน้าเข้าสู่การปฏิรูปอย่างแท้จริง และนำไปสู่การเลือกตั้งที่ถูกต้องชอบธรรม โดยที่ไม่เกิดการปะทะกันระหว่างพลังมวลชนต่างขั้วได้แผ่ขยายปกคลุมไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าการเมืองแต่ละฝ่ายต่างมีเดิมพันที่ค่อนข้างสูง ในฐานะนักรัฐศาสตร์ รศ.ดร.สมชัย ศรีสุทธิยากร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นครั้งนี้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างกำลังเดินทางใกล้ถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ " โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างมั่นใจว่า พรรคไทยรักไทยน่าจะโดนยุบเพียงพรรคเดียว หากมองในแง่ข้อกล่าวหา ในแง่นิติศาสตร์ โดยไม่นับเรื่องที่ว่าไทยรักไทยจะพาสมาชิกพรรคกี่ล้านเสียงออกมาต่อต้านเคลื่อนไหว เนื่องจากในฐานะผู้จ้างวานให้กระทำผิดค่อนข้างชัดเจน" และถึงแม้ว่าที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทย พยายามที่จะใช้วิธีตัดตอนความผิด ด้วยการโยนความผิดให้เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลคือพล.อ.ธรรมรักษ์ ไม่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่าเป็นการกระทำของหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคเช่นกัน ดังนั้นโอกาสที่ไทยรักไทย จะโดนยุบพรรคย่อมมากกว่าประชาธิปัตย์ ซึ่งหากรูปการณ์ออกมาในลักษณะที่ว่าไทยรักไทยโดนยุบจริง ก็ย่อมเสียงต่อต้านคัดค้านบ้างจากคนของพรรคบ้าง แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วทุกคนต้องรับฟังคำตัดสิน เพราะไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะไม่มีทางจบลงได้ เผย "ทักษิณ"เตรียมสละเรือ - โกยเงินกลับ รศ.ดร.สมชัย มีความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่ ในวันที่ 15 ต.ค.2549 นี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการเมืองยังไม่มีความแน่นอนและนิ่งมากพอ ซึ่งจะสามารถสังเกตได้ถึงแม้กกต.จะกำหนดให้วันที่ 12 มิ.ย.นี้เป็นวันย้ายพรรควันสุดท้ายก็ตาม แต่ในข้อเท็จจริงกลับไม่พบความเคลื่อนไหวมากนัก กลุ่มก๊วนในไทยรักไทย ทั้งที่ขึ้นตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีกลุ่มสังกัด ต่างยังคงรอความชัดเจนว่านายกฯทักษิณ ไพ่ใบสุดท้ายที่จะทิ้งออกมาคืออะไร ศาลรัฐธรรมนูญในฐานะองค์กรอิสระที่จะต้องทำหน้าที่ชี้ขาดคดียุบพรรค จะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างใด ซึ่งทั้งสองซีกนี้ รศ.ดร.สมชัย ระบุว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ต่างรอจังหวะเปิดเผยท่าทีที่แท้จริง และหน้าตาของการเมืองรอบใหม่ได้อย่างชัดเจน โดยหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทยจริงตามหลักฐาน ที่มีกกต.ส่งให้เมื่อใด นายกฯทักษิณ จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารกำหนดวันเลือกตั้งและออกพระราชกฤษฎีกา เพื่อให้ส.ส.ของตนเองได้เปรียบมากที่สุด สำหรับในกรณีที่นายกฯทักษิณ ยังคงมีความหวังที่จะได้กลับมาสู่ระบอบการเมืองครั้งหน้า "แต่จากการเฝ้ามองพฤติกรรมการเมืองของคุณทักษิณ ค่อนข้างมั่นใจว่าหากไทยรักไทยถูกยุบจริง คุณทักษิณ อาจจะเลือกถอยออกไปจากการเมือง เพราะตามข้อบังคับพ.ร.บ.พรรคการเมืองแล้ว คือห้ามไม่ให้กรรมการบริหารพรรค ซึ่งรวมถึงหัวหน้าพรรคไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งในจุดนี้นี่เอง ที่คุณทักษิณ คงไม่คิดเอาเงินไปทุ่มสร้างพรรคขึ้นมาใหม่ เพราะตัวเองไม่ใช่ผู้เล่นเอง ถ้าย้อนกลับไปตอนที่คุณทักษิณ อยู่พรรคพลังธรรม ในยามที่พรรคตกต่ำ ไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว เขาก็พร้อมที่จะทิ้งพรรคพลังธรรมทันที ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน" นักรัฐศาสตร์เชื่อว่า นายกฯทักษิณ ย่อมไม่ปล่อยให้คนอื่น เข้ามาบริหารงานและ "ผลประโยชน์" แทนเป็นอันขาด โดยเฉพาะด้วยธรรมชาติการเมืองของพรรคไทยรักไทยที่ยึดโยงอยู่ที่ "ตัวบุคคล"หากหัวแถวสั่งคว่ำกระดาน ทุกอย่างต้องถือว่าจบลงไปโดยปริยาย ชี้กุนซือข้างกาย "แม้ว"จ่อคิวตกงาน หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้จะพบว่า กระแสการวางมือของนายกฯทักษิณ ได้เคยดังแว่วมาค่อนข้างหนาหู จนกลายเป็นประเด็นสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับลูกพรรคอย่างหนักมาแล้ว เพราะทุกคนรู้ดีว่าหากนายกฯทักษิณ ตัดสินใจวางมือ เมื่อใดจะต้องมีใครหลายคนอาจ "ตกงาน"โดยเฉพาะใครก็ตามที่อยู่ข้างกาย สังกัดบ้านจันทร์ส่องหล้า อย่าง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ภูมิธรรม เวชยชัย สุรนันท์ เวชชาชีวะ หรือนพ.สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในภาวะ "ความเสี่ยงสูง" "จากนั้นก็จะได้เห็นความคึกคักการย้ายพรรคที่แท้จริงมากขึ้น กลุ่มก๊วนต่างๆนอกสังกัดคุณทักษิณ จะวิ่งหาพรรคใหม่ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปตั้งพรรคใหม่ด้วยซ้ำ คงจะเป็นไปตามคาดคือพรรคชาติไทย น่าจะเนื้อหอมมากที่สุด" อย่างไรก็ตามรศ.ดร.สมชัย ยังมองอนาคตทางการเมืองยาวไกลต่อไปอีกว่า เมื่อฝุ่นควันความอึมครึมสงบลง การเลือกตั้งรอบใหม่น่าจะเกิดขึ้นได้หลังวันที่ 15 ต.ค.อย่างแน่นอน จากนั้นมีแนวโน้มว่าโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ อาจไม่มีนายกฯคนที่ 24 ชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อีกซ้ำสอง ซึ่งจะเป็นการสะใจ หรืออาจทำให้ใครต้องหลั่งน้ำตาให้กับรักษาการณ์นายกฯคนที่ 23 ก็ล้วนแล้วแต่เป็นปรากฏการณ์การเมืองที่กระพริบตากันไม่ได้แน่นอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 15-06-2006, 18:51 » |
|
นี่ก็ต้องดูว่าระบอบทักษิณเป็นคำตอบได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้เลย!!
4 เงื่อนไขสังคมเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจการเมือง
14 มิถุนายน 2549 15:21 น. เศรษฐกิจของไทยในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ ทำท่าจะมีปัญหา ถามว่า คุณทักษิณ ชินวัตร ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี มีความเก่งความสามารถพอที่จะแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้หรือเปล่า? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : สไตล์ "ข้ามาคนเดียว" ของคุณทักษิณ กับปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องการการประสานของคนทั้งชาตินั้น ไปด้วยกันไม่ได้มาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ที่มี "ทักษิณฟีเวอร์" ในระยะแรกนั้น เพราะคนไทยจำนวนหนึ่งหมดความหวังในตัวเอง, หวังพึ่งพระเอกที่อ้างความเป็น "ซีอีโอ" มาแก้ให้หมด และอีกคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการ "ให้โอกาส" คุณทักษิณทำงานดู
ผลออกมาแล้วว่าคุณทักษิณ ใช้เงินภาษีของพวกเราเก่ง, แต่ผลงานไม่มีอะไรที่ยั่งยืนและจับต้องได้เป็นน้ำเป็นเนื้อ
ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นใน 1 ปีข้างหน้าไม่ง่าย เพราะจะเริ่มที่เศรษฐกิจโลกก่อน โดยมีปัญหาที่สหรัฐเป็นปฐม นั่นคือการบริโภคเกินตัว และการสร้างหนี้อย่างมโหฬาร ทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดหนักหน่วงถึงร้อยละ 6.5 ถึง 7 ของจีดีพี
อีกทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง (เฟด) ทำให้นักวิเคราะห์บางค่ายที่นั่นบอกว่า กำลังเข้า "จุดล่อแหลมและอ่อนไหว"
อีกบางสำนักบอกว่าโอกาสที่ "ฟองสบู่" ของเศรษฐกิจอเมริกาจะแตกภายใน 2 ปีข้างหน้ามีสูง และถ้าหากมันเกิด, ผลร้ายที่ตามมาคือเศรษฐกิจยักษ์ๆ อย่างจีนและญี่ปุ่น ก็จะโดนกระทบตามมาด้วย
ถ้ายักษ์อย่างมะกัน, จีน, ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปโดนภาวะชะงักงันอย่างนั้น, หนีไม่พ้นว่าคู่ค้าอย่างไทยเราจะต้องโดนเข้าเต็มๆ ด้วย
ยังไม่ต้องพูดถึงพายุใหญ่ระดับโลก, เอาเพียงแค่ที่เราพอมองเห็นว่าครึ่งปีหลังของไทยเราต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็หนักหนาสากรรจ์อยู่แล้ว
ราคาน้ำมัน, ราคาสินค้า, อัตราดอกเบี้ย, การส่งออก ความไม่มั่นใจของนักลงทุน เป็นปัจจัยที่ไทยจะต้องเผชิญอย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งมี "ความสับสนทางการเมือง" เข้ามาเป็นตัวแทรกด้วยแล้ว, ก็ยิ่งทำให้ความอ่อนไหวนั้นหนักหน่วงขึ้น
ถามว่าอะไรคือปัจจัยของความสับสนทางการเมืองที่ทำให้ฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่กว่าที่ควรจะเป็น? หนีไม่พ้นว่าทักษิณ คือปัจจัยใหญ่ และการ "กลับมา" รักษาการนายกฯ ครั้งนี้ยิ่งทำให้ระดับความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงขึ้น...และยิ่งทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจยากขึ้นกว่าเดิมอีก
เพราะผู้นำที่จะเป็นแกนสำคัญในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น จะต้องเป็นคนที่มีสัญลักษณ์ของการสามารถ "สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน" ในการทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น และจะต้องพร้อมระดมสรรพกำลังของคนในชาติเพื่อ
1.ร่วมกันวิเคราะห์และวิจัยปัญหาให้ไปทิศทางเดียวกัน
2.คนทั้งประเทศต้องเชื่อว่าผู้จะนำการแก้ปัญหา ต้องไม่มีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน
3.คนส่วนใหญ่ต้องเชื่ออย่างสนิทใจว่าผู้นำพูดอย่างไร, ก็ทำอย่างนั้น เช่นถ้าหากประกาศว่ารัฐบาลเชื่อในนโยบาย "เศรษฐกิจพอเพียง" ก็จะต้องทำจริง, ไม่ใช่พูดอย่าง แต่ทำอีกอย่าง คือในทางปฏิบัตินั้น, ทุกอย่างที่รัฐบาลทำคือการเดินตาม "แนวทางประชานิยมและทุนนิยมสุดขั้ว"
4.สื่อต้องมีเสรีภาพในการระดมความคิดเห็นและวิพากษ์แนวทางการแก้ปัญหาบ้านเมืองอย่างตรงไปตรงมา เพื่อแสวงหาหนทางออกที่ดีที่สุด
คุณว่าบรรยากาศการเมืองทุกวันนี้, เป็นอย่าง 4 ข้อที่ว่ามาหรือเปล่า?
ถ้าเป็นไปไม่ถึงครึ่ง, คุณคิดว่าเราเจอทั้ง "วิกฤติผู้นำ" และ "วิกฤติเศรษฐกิจ" พร้อมกันหรือเปล่า?
หมายเหตุเห็นผลโหวตแล้ว อึ้งกับ ระบอบนี้จริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 15-06-2006, 19:03 » |
|
อ่านแล้วใครจะเถียง ใครจะขยายความก็ เชิญตามสะดวกครับ
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3801 (3001)
เมื่อ "ยุค ศรีอารยะ" วิพากษ์ ทักษิณกับหายนะโลกาภิวัตน์
เมื่อไม่นานมานี้ ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิถีทรรศน์ เจ้าของนามปากกา ยุค ศรีอารยะ เดินทางไปร่วมเสวนาวงเล็กๆ ที่มีผู้ร่วมเสวนาที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง และนักข่าว บนถนนราชดำเนิน
ดร.เทียนชัย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโลกาภิวัตน์ วิเคราะห์ว่า การกลับเข้ามาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำพรรคไทยรักไทย จะทำให้ขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีพัฒนาการขยายตัวไปเรื่อยๆ จะมีการเคลื่อนพลังประชาชนได้ดี แล้วจะทำให้คนทั่วไปเข้าใจความหมายของประชาธิปไตยจริงๆ
"จากที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าประชาธิปไตยอยู่ที่ภาคการเมือง การกลับเข้ามาของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้ความหมายของประชาธิปไตยเกิดการสร้างพลังจากฐานราก ด้วยพันธมิตร ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณจะอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี"
ผู้อำนวยการสถาบันวิถีทรรศน์ วิเคราะห์ต่ออีกว่า การเมืองในปัจจุบันมีลักษณะเหมือนย้อนกลับไปเมื่อครั้งหลังสงครามเวียดนาม ที่สังคมไทย เคลื่อนไหวล้มล้างรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร -จอมพลประภาส จารุเสถียร
"ผมคิดว่าวันนี้การเมืองไทยมีความใกล้เคียงหรือคล้ายกับการเมืองในช่วงนั้น อีก 2 ปีข้างหน้า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณทนทุกข์ได้นานขนาดนั้น สังคมและการเมืองไทยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่นเดียวกันกับที่นายจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา และนายโทนี่ แบลร์ นายกรัฐมนตรี อังกฤษ จะหมดวาระในอีก 2 ปี แล้วเมื่อนั้นโลกจะเปลี่ยนแปลงพลิกผัน เป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของโลก"
ด้านภาพรวมทางเศรษฐกิจ ดร.เทียนชัยให้ความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โตมาจากเศรษฐกิจฟองสบู่ มีความเก่งทางด้านเล่นกับเศรษฐกิจฟองสบู่ และตลาดหุ้น กระบวนการคิดที่จะปั่นประเทศ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ต่อขบวนการอสังหาริมทรัพย์จะสามารถปลุกนักปั่นได้
"วิธีคิดแบบนี้ จึงเป็นที่มาของเมกะโปรเจ็กต์ เช่น โครงการรถไฟฟ้า 10 สาย เมืองใหม่สุวรรณภูมิ ซึ่งผมคิดว่ากระแสอสังหาริมทรัพย์โลกจะล้มในอีกไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า วิกฤตทางเศรษฐกิจขณะนี้ก็มีลักษณะเช่นเดียวกับวิกฤตปี 2540 ที่เกิดจากอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน นอกจากนี้ให้ระวังฟองสบู่แตกในจีน" ดร.เทียนชัยกล่าว ก่อนจะให้ความเห็นว่า
"พ.ต.ท.ทักษิณสนใจแต่เรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ดูเรื่องการศึกษา และวัฒนธรรม แม้กระทั่งภาวะน้ำมันที่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอ่านขาดว่าจะเกิดวิกฤตน้ำมัน และทรงมีพระราชดำรัสให้ค้นคว้าหาแหล่งเชื้อเพลิงบริสุทธิ์ใหม่ๆ ที่สามารถหาได้จากผลิตผลทางการเกษตร คุณเป็นอัศวินลูกที่ 3 อย่างไร ทำไมอ่านวิกฤตน้ำมันไม่ออก"
ดร.เทียนชัยฉายภาพว่า ระบบโลกปัจจุบันก้าวสู่ระบบธนาธิปไตย ระบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจากการผนวกตัวของทุนใหญ่ และทุนใหญ่เชื่อมกับทุนระหว่างประเทศ เช่น กรณีคุณทักษิณ (ชินวัตร) ที่ค่อนข้างมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสิงคโปร์ เข้ามาเทกโอเวอร์ ยึดครองเศรษฐกิจประเทศไทย
ทิศทางเหล่านี้ หมายความว่า ทุนใหญ่สามารถเข้ามาตั้งพรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้ โดยการประสานร่วมมือระหว่างทุนภายในและภายนอก กลายเป็นกลุ่มทุนที่มีเงินมากกว่าทุนระดับกลาง-ย่อย ทำให้พัฒนาไปสู่ระบบซึ่งคนจำนวนน้อยเท่านั้นมีอำนาจ กำหนดทิศทางการเมือง และเศรษฐกิจของประเทศได้
ทั้งๆ ที่ระบบประชาธิปไตยโดยตัวของมันเอง หมายถึงระบบที่มีสมดุลของพลังภายในต่างๆ แต่ระบบอันนี้อำนาจทั้งหมดรวมศูนย์ คือคนมีเงินเท่านั้นที่จะควบคุมระบบทั้งหมด และเป็นคนมีเงินจำนวนน้อยด้วย นี่หมายถึงระบบโลกาภิวัตน์ เป็นระบบซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างต่างจากยุคทุนนิยมอุตสาหกรรม
ระบบโลกาภิวัตน์สร้างให้เกิดอภิมหาร่ำรวย กลุ่มทุนพวกนี้ร่ำรวยมาก ร่ำรวยมาจากการเล่นหุ้น ปั่นที่ดิน ปั่นอสังหาริมทรัพย์ ปั่นราคาน้ำมัน และร่ำรวยอย่างรวดเร็ว คนเหล่านี้ไม่ได้ผลิตจริง ขณะเดียวกันจะเกิดปรากฏการณ์เรียกว่า รวยกระจุกจนกระจาย คือชนชั้นล่างจะเป็นหนี้สินมากขึ้น คนชั้นกลาง-คนทำธุรกิจอยู่ในภาวะจนลง
แล้วที่สุด เราจะกลับไปเหมือนเหตุการณ์ก่อนปี 2540 กล่าวคือ เงินไหลทะลักเข้าสู่อสังหาฯในกรุงเทพฯ ขบวนการปั่นกรุงเทพฯ กับสุวรรณภูมิก็จะเกิดขึ้น คนจะตื่นเหมือนกับช่วงก่อนปี 2540 และกู้เงินเข้ามาเพื่อเล่นอสังหาฯ ในเวลาเดียวกันการปั่นอสังหาฯทำให้ตลาดหุ้นดีขึ้นด้วย
แต่ถึงที่สุดแล้ว การปั่นอสังหาฯจะไปเจอปัญหาเหมือนกับปี 2540 นั่นคือปั่นจนกระทั่งพัง จุดพังปี 2540 ไม่ใช่ตลาดหุ้นแตก แต่เป็นตลาดอสังหาฯแตก เพราะไปเล่นกันจนกระทั่งดีมานด์-ซัพพลายวิ่งสวนทางกัน ทุกคนเอาเงินซื้อเข้าไปๆ แบบเก็งกำไร จนกระทั่งแบงก์ที่ให้กู้เจ๊งเป็นทิวแถว จนต้องประกาศปิด นี่คือการปั่นอสังหาฯ เสร็จแล้วคนจำนวนหนึ่งก็กลายเป็นแมลงเม่า เหมือนกับการปั่นหุ้น พออสังหาฯพัง หุ้นก็พังตาม ขบวนการก็กลับไปแบบปี 2540 ใหม่ คือการแตกของฟองสบู่รอบ 2 หลังฟองสบู่แตก สิงคโปร์ก็เข้ามาเทกโอเวอร์ใหม่ (ช็อปซื้อของถูก) กรุงเทพฯ เกือบทั้งหมดก็กลายเป็นของสิงคโปร์ในฉากสุดท้าย
... นี่คือ หายนะภัยโลกาภิวัตน์ ที่จะเกิดขึ้นอีกรอบ 2 ในเร็ววันนี้ ภายใต้ระบอบทักษิณ
ดร.เทียนชัย ฝันอยากเห็นพรรคที่เสนอแนวนโยบายอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ พรรคกรีน (Green) แบบในตะวันตก ในประเทศไทย เพราะเชื่อว่านี่คือทางออกของประเทศไทยอย่างแท้จริง เนื่องจากเชื่อว่าระบบเศรษฐกิจทุนนิยมกำลังใกล้จุดวิกฤตในอีกไม่นาน
"ผมอยากเห็นพรรคการเมืองขนาดกลางที่เสนอนโยบายแบบพรรคกรีน ผมเชื่อว่า พรรคกรีนจะได้รับการสนับสนุนจากคนในกรุงเทพฯและคนในหัวเมืองใหญ่ พอสมควร ผมดูจากคะแนนโนโหวตเมื่อการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ผมเชื่อว่า โนโหวต ไม่ใช่คะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นคะแนนของคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณ ฉะนั้นถ้าพรรคกรีนเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ ผมเชื่อว่า น่าสนใจมาก เพราะทุกวันนี้ พรรคไทยรักไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ แทบไม่แตกต่างกันเลยในเชิงนโยบาย" ดร.เทียนชัยกล่าว
"ในอดีต การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนกรุงเทพฯก็เลือกพรรคกรีน อย่างกลุ่มมดงานของ ดร.พิจิตต รัตตกุล มาแล้ว ผมยังชื่นชมสตาฟทำงานของกลุ่มมดงาน หลายคนมีความคิดแนวพรรคกรีนที่น่าชื่นชม ถ้าพรรคการเมืองระดับชาติ เสนอนโยบายแบบพรรคกรีน ผมว่า จะเป็นทางเลือกใหม่ของคนเมืองที่เริ่มเห็นหายนะของการพัฒนาของโลกทุนนิยม"
ผู้อำนวยการสถาบันวิถีทรรศน์กล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมาสนใจแต่เรื่องการปั่น จีดีพี ที่มุ่งเน้นการเจริญเติบโต แต่ไม่เคยสนใจเรื่อง Green GDP ซึ่งในหลายประเทศ ประสบความสำเร็จ และทำให้คนในสังคมมีความสุข
หน้า 40
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 15-06-2006, 19:29 » |
|
"ผมอยากเห็นพรรคการเมืองขนาดกลางที่เสนอนโยบายแบบพรรคกรีน ผมเชื่อว่า พรรคกรีนจะได้รับการสนับสนุนจากคนในกรุงเทพฯและคนในหัวเมืองใหญ่ พอสมควร ผมดูจากคะแนนโนโหวตเมื่อการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ผมเชื่อว่า โนโหวต ไม่ใช่คะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นคะแนนของคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณ ฉะนั้นถ้าพรรคกรีนเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ ผมเชื่อว่า น่าสนใจมาก เพราะทุกวันนี้ พรรคไทยรักไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ แทบไม่แตกต่างกันเลยในเชิงนโยบาย" ดร.เทียนชัยกล่าว ^ ผมไม่แนใจว่า การเมืองมันตกผลึกเพียงพอ ที่จะมาตั้งพรรคแบบ (Green) หรือยัง
ลำพังโนโหวต ยังน้อยกว่า ระบอบทักษินอยู่เลย
แน่นอน ในเมืองกรุง พรรคแบบ (Green) อาจจะได้เสียงไปจำนวนหนึ่ง
แต่มันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าระบอบทักษินยังอยู่
พรรคแบบ (Green) ก็จะทำอะไรไม่ได้ มานั่งเป็นตัวประกอบในสภา ไม่ต่างจาก ปชป
ปัญหาการเมือง ที่ทักษินสร้างไว้ มันสั่งสมเป็นปัญหาระยะยาว
การให้ความช่วยเหลือรากหญ้า จนเกินความจำเป็น และเสียวินัยการคลัง นี่คือปัญหาระยะยาว
จะหยุดก็ลำบากเพราะรากหญ้าเสพติดเงินกู้ และโครงการ 30 บาท
ทำให้พรรคการเมืองก็แข่งกันออกนโยบายเอาใจรากหญ้า ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ
พูดตรงๆว่าผมยังมืดมน กับ อนาคตเมืองไทย ในช่วงสั้นๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 16-06-2006, 00:54 » |
|
กระแสการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้น จะทำให้ระบอบทักษิณตกเร็วขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 16-06-2006, 14:31 » |
|
ผมเสนอว่าทั้งเป้าหมายและแนวทางควรหล่หลอมเป็นหนึ่งเดียวกันครับ "ไทยาภิวัฒน์"
1 เศรษฐกิจพอเพียง ธรรมมาภิบาล สามัคคีสร้างสรรค์ ไม่ผูกขาดทางการเมือง(ประชาธิปไตย) 2 เร่งกระแสการเปลี่ยนแปลง ก้าข้ามปัญหาปัจจุบันหลายๆประการที่เป็นตัวถ่วงความเจริญ 3 ล้มล้างระบอบที่ไม่ถูกต้องในสังคม กากเดนความคิดโบราณ วงจรอุบาทว์ และการแอบแฝงซ่อนเร้นที่ไม่พึงประสงค์ 4 ตัวแทนของความชอบธรรม และการเมืองภาคประชาชน ที่กลายพันธุ์ มาจากนักการเมืองยุคเดิม 5 ทั้งหมดอาศัยการปฏิรูปที่เด็ดขาด(ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด) และเป็นไปอย่างสงบ สันติ รู้รักสามมัคคี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 16-06-2006, 15:14 » |
|
ปราการด่านสุดท้ายของระบอบทักษิณก็คือ เงินสดในมือของระบอบนี้สู่มือประชาชน และการทะลวงจุดประชานิยมรากหญ้า อย่างใจถึงใจ ตัดเข้าขวางอิทธพลด้านอื่นๆดั้งเดิม เสริมด้วยพลังสะท้อนกลับด้านลบของระบอบทักษิณเอง การจัดระเบียบทางการเมือง ของอำนาจตุลาการ จำเป็นต้องดำเนินต่อไป ! พรรคการเมืองใหญ่ถูกยุบ เป็นสิ่งที่สมควรรอคอย !
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 16-06-2006, 15:26 » |
|
เหล่าสาวกของระบอบนี้ จะมีประโยชน์ต่อการเมืองไทยไม่น้อย หากยอมฉีกและดึงตัวออกมาเป็นอิสระจากพวกบ้าคลั่งสุดโต่งในตัวบุคคลของระบอบหรือลัทธินี้ และความฝังใจเกลียดกลัวพรรคการเมืองเก่าแก่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 16-06-2006, 16:13 » |
|
แม้แต่ตัวระบอบยังไปไม่รอด หากประชาชนที่เทเสียงเทพละกำลังให้ ไม่หันกลับมาทบทวนแนวทางการทำงานต่างๆเพื่อชาติ ชาติก็จะเสียหายไปมากว่าเดิม แน่ใจหรือว่าระบอบนี้รักชาติ เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นกลางในบ้านเมืองจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 16-06-2006, 16:34 » |
|
ความป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติ อยู่ที่ศุณย์รวมใจที่เรายึดถือผ่านพ้นวิกฤติกาลมาได้ทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ถ้าหากเรารู้จักปรับเปลี่ยน คงสิ่งดีๆไว้ แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดแปลกปลอมไม่ดีต่างๆ การก้าวไปข้างหน้าที่มั่นคง จะทำให้เราไปได้เร็วอย่างสม่ำเสมอ ระยะยาวแล้วเราจะสามารถนำหน้าได้เกือบทุกชาติ แต่หากเราไม่ทิ้งนิสัยและค่านิยมประจำชาติที่ไม่ดี เพราะผู้นำบริหารนำเราคิดแบบแยกส่วน ระบอบอะไร ก็ไม่สามารถนำเราทั้งหมดฟันฝ่าไปได้! ยิ่งเป็นระบบdual tracks เชื่อขนมกินได้ว่าจะเงียบหายไปเอง..ทั้งเพราะการควบคุมจังหวะการก้าวย่างของสังคมกระทำไม่ได้เหมือนเครื่องจักรประเด็นหนึ่ง ทั้งไม่สมควรทำเช่นนั้นต่อสังคมไทยในขณะนี้อีกประเด็นหนึ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 16-06-2006, 16:42 » |
|
ความแข็งแกร่งของระบอบทักษินมันสูงครับ
ต่อให้เศรษฐกิจ ฉิหาย วายวอด ทักษินบอกเป็นเพราะพันธมิตร
พวกรากหญ้าก็เชื่อ เพราะ ทักษินสร้างภาพตัวเองไว้ดุจ วีรบุรุษ ดุจ เทพเจ้า
ด้วยความหลงงมงายในประชานิยม และวิธีการปราบยาเสพติดด้วยการฆ่าตัดตอน
ซึ่งได้ผลในช่วงสั้นๆ แต่สร้างภาพได้ดีเยี่ยม
ต่อให้ยุบพรรค ทรท ไป ซึ่งยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะยุบได้รึเปล่า แค่ ปราการ กกต ยังไม่แตกเลย
ซึ่งระบอบทักษิน มันก็ได้ฝังตัวในระบบการเมืองไทยไปแล้ว
นั่นคือ ดึงนิสัยพื้นฐานความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ออกมาให้เต็มที่
ถ้าไม่มีนโยบาย เลียแผลบๆให้รากหญ้า รากหญ้าจะสนหรือไม่
การแก้ปัญหา ต้องใช้เวลาอีกนาน ต้องกระจายการศึกษา ต้องกระจายข่าวสารที่เป็นจริง
จนกว่ารากหญ้าจะรู้เท่าทันนักการเมือง ไม่เลือกตามเงินที่ฟาดหัว หัวคะแนน หรือ ประชานิยม
ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยในระยะอันใกล้นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 16-06-2006, 17:05 » |
|
ผมให้กำลังใจ และจะให้ต่อไป...
คนไทยทั้งประเทศ สู้..............!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 16-06-2006, 17:35 » |
|
อดใจเดินในความสงบ อีกไม่กี่วันเราก็จะเห็นความคืบหน้า ไม่นานอย่างที่คิด แต่จะยั่งยืนหรือไม่ คนไทยต้องไม่ลืมอะไรกันง่ายๆ ไม่เพิกเฉยที่จะมีส่วนร่วม ส่วนรากหญ้าต้องเปิดโอกาสกว้างๆให้เขา แต่ไม่ต้องไปตามใจอะไร จะเสียวินัยแบบ..คนข้างตัวของพวกระบอบนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 16-06-2006, 20:58 » |
|
[size=16สำหรับคนรักทักษิณ ยิ่งต้องช่วกันทำลายระบอบทักษิณ และสาวกที่ใช้ระบอบทักษิณเป็นเครื่องมือหากิน โดยการทำลายระบอบทักษิณลงให้ได้เสียก่อน pt][/size][/b]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 16-06-2006, 21:03 » |
|
ย้ำ
[/color][/size][/i][/b]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 17-06-2006, 01:23 » |
|
อารยเดินหน้าครับ เดิน เดิน เดิน ทำงานแล้วลืมแนวทางของระบอบทักษิณ ไม่ยอมรับก็คือไม่ยอมรับ ไม่ต้องไปประนีประนอม ทำงานและดำนินชีวิตประจำวันให้ดีที่สุด ไม่นานก็จบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 17-06-2006, 14:23 » |
|
อ้ออย่าลืมบอกต่อความล้มเหลวไม่นาเชื่อถือของระบอบทักษิณให้ทุกคนเชื่อได้ด้วยนะครับ เช่น ลองล้วงดูเงินในกระเป่าของเขาเองดูได้!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟันธง
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 17-06-2006, 17:36 » |
|
ระบอบทักษิณคือ พูดอะไรแล้ว รักษษคำพูดไม่ได้
รับผิดดชอบคำพูดไม่ได้ ใช้วิธีกดดันนอกรูปแบบทุกอย่างต่อผู้ที่ขวางทาง แอบอ้างรากหย็และสถาบันอื่นๆ เลยไม่มีใครพูดด้วย จนกว่าระบอบนี้จะพังทลายลง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
GN-001 Exia
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 17-06-2006, 20:16 » |
|
จะระบอบทักษิณหรือระบอบอะไรถ้ามันเลวทรามทำให้ชาติฉิบหายวายวอด....
...ผมอยู่ฝ่ายทำลายมันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 21-08-2007, 02:02 » |
|
อืมม ระบอบทักษิณ ยังไม่ตาย
จนกว่า สิ่งไม่ดีเหล่านั้นจะหมดไปจากสังคมไทยพร้อมกับระบอบศักดินา ระบอบอำนาจนิยมต่างๆ
ผีการพนัน ผีมักง่าย จงออกไป
ช่วยกันทำลายมันต่อไป ดีกว่า ทำลายได้เร็วคนตายน้อยลง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 21-08-2007, 02:29 » |
|
เป็นตัวอ้นหรือหมูดินล่ะเนี่ย ? ...ชอบขุดจังนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 21-08-2007, 02:35 » |
|
เป็นตัวอ้นหรือหมูดินล่ะเนี่ย ? ...ชอบขุดจังนะ
ทักษิณเป็นผีดิบ ต้องขุดขึ้นมาตอกหมุดเงิน แล้วเอาไปตากแดด เผาผีดิบจะได้สูญพันธุ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 22-08-2007, 03:14 » |
|
ท่านที่เป็นแนวร่วมมุมกลับของระบอบทุกษิณก็ต้องระวังครับ
พฤติกรรมเลวๆ เราสามารถเป็นกันได้โดยไม่รู้ตัวได้เหมือนกัน.
พอๆกับที่เราเห็นความเลวคนอื่นๆ
ระบอบเลวๆ แฝงมากับค่านิยมทางสังคมที่เลวครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 27-08-2007, 21:33 » |
|
ท่านใดนิยมแนวทางของประชาไท หรือราชดำเนิน
ก็แวะมาให้ความเห็นบ้างก็ดีนะครับ ตรงนี้รับแขกโพสต์ได้
โดยไม่ต้องล็อคอิน ของเสรีไทยเราครับ โพสต์มาดีๆ ได้อ่านแน่นอนครับ
ยิ่งพูดคุย ยิ่งได้ข้อเท็จจริงด้วย..ขนาดแถๆไถๆ เล่นลิเก เราก็รับฟัง
แต่ไม่ให้โต้แย้งเอาข้อเท็จจริงมาบอกกล่าวคงไม่ได้
รํฐธรรมฯญผ่านการลงประชามติแล้ว มีกติกาแล้ว
ไม่เรียกว่าเผด็จการอะไรอย่างที่คิดแล้ว
อ่านรัฐธรรมนูญ แล้วช่วยกันทำให้สังคมก้าวพ้นจารีตที่นอกรีตกันมากหน่อยดีกว่า
เว็บบอร์ดการเมืองควรร่วมมือกันอยู่แล้ว เอาแต่โต้ผีปากกันก็สนุกแค่ชั่วครั้งชั่วคราว..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
*******Q*******
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 06-12-2007, 16:08 » |
|
ขุดๆๆๆ ท่านใดนิยมแนวทางของประชาไท หรือราชดำเนิน
ก็แวะมาให้ความเห็นบ้างก็ดีนะครับ ตรงนี้รับแขกโพสต์ได้
โดยไม่ต้องล็อคอิน ของเสรีไทยเราครับ โพสต์มาดีๆ ได้อ่านแน่นอนครับ
ยิ่งพูดคุย ยิ่งได้ข้อเท็จจริงด้วย..ขนาดแถๆไถๆ เล่นลิเก เราก็รับฟัง
แต่ไม่ให้โต้แย้งเอาข้อเท็จจริงมาบอกกล่าวคงไม่ได้
รํฐธรรมฯญผ่านการลงประชามติแล้ว มีกติกาแล้ว
ไม่เรียกว่าเผด็จการอะไรอย่างที่คิดแล้ว
อ่านรัฐธรรมนูญ แล้วช่วยกันทำให้สังคมก้าวพ้นจารีตที่นอกรีตกันมากหน่อยดีกว่า
เว็บบอร์ดการเมืองควรร่วมมือกันอยู่แล้ว เอาแต่โต้ผีปากกันก็สนุกแค่ชั่วครั้งชั่วคราว..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|