สุเทพออกโรงท้า"วาสนา" รีบแฉอย่ารอให้ตายก่อน สุเทพ แนะ ทรท. ดูคำวินิจฉัยของ อนุ กกต.ให้ชัด พร้อมปฏิเสธพรรคไม่เกี่ยวข้องนายไทยกร ยันไม่เชื่อมั่น กกต.เพราะเป็นคู่กรณีกัน เย้ย "วาสนา" จะแฉให้รีบไม่ต้องรอให้ตายก่อน
(11พค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ทางอนุกรรมการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)สรุปผลการสอบสวนคดีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็ก ลงรับสมัครเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งผลการสอบสวนออกมาชัดเจนน่าเชื่อถือว่า พรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงรับสมัครจริง ว่า ตนได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ แล้ว ขอยืนยันว่า ให้ทางพรรคไทยรักไทยไปอ่านรายงานของ อนุกรรมการ กกต.ซึ่ง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.เป็นผู้ตั้งเอง ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ข้อกล่าวหาต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ตนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบ หลักจาการสอบสวนของอนุกรรมการ กกต.น่าจะเชื่อได้ว่า ทางพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคเล็กลงสมัครจริง
นายสุเทพ กล่าวว่า การที่ พล.ต.อ.วาสนา อ้างว่ามีเทปลับ และนำภาพออกมาเผยแพร่ทางช่อง 5 เมื่อเช้านี้ ตนคิดว่า เป็นการสร้างหลักฐานขึ้น เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องจริง ตนขอเรียนแนะนำว่า น่าจะไปอ่านรายงานของ อนุกรรมการ กกต.ให้ชัดเจน ซึ่งทางอนุกรรมการ กกต.ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เชื่อว่าพรรคไทยรักไทยทำจริง ส่วนกรณีที่ไปอ้างเอาคำการของหัวหน้าพรรคเล็กบางพรรค และมาหาว่าตนได้ว่าจ้างให้ล้มการเลือกตั้งนั้น อนุกรรมการ กกต.ก็บอกแล้วว่าฟังไม่ขึ้น เพราะไม่มีไหนที่เอาคำให้การจำเลยเพื่อกลับมาปรักปรำเล่นงานโจทย์ ซึ่งวิธีดังกล่าวไม่มี ทาง พล.ต.อ.วาสนา ที่เป็นตำรวจตั้งแต่ร้อยตรีจนถึง พล.ต.องคงจะเข้าใจด้วยว่า วิธีการนี้ไม่มีในสารบบ
นายสุเทพกล่าวต่อว่า อยากให้ ประชาชน และสื่อมวลชนเข้าใจด้วยว่า ทั้งหมดที่ตนนำเสนอและร้องต่อ กกต.นั้น เหตุที่ตนมาร้องเรียนกับ กกต. เพราะเชื่อว่า กกต.เป็นองค์กรกลางที่มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม ซึ่งเมื่อตนเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สุจริต เที่ยงธรรม มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ตนก็หอบเอาหลักฐานไปให้ กกต. เพื่อให้ทาง กกต.ดำเนินการสอบสวนต่อ ด้วยความเชื่อถือในเกียรติของ กกต. และคิดว่า กกต.มีหน้าที่ต้องทำในตรงจุดนั้นอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่า กกต.กลับมองว่าตนเองเป็นศัตรู ที่ผ่านมาการพูดการจาหลายครั้งจนถึงครั้งสุดท้าย แสดงให้เห็นว่า กกต.ต้องการหันกลับมาเล่นงานตน ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา ทั้งที่ตนควรเป็นคนที่ทาง กกต.ต้องขอบคุณด้วยซ้ำไป เมื่อตนได้พิจารณาทุกประเด็นแล้วเห็นว่า กกต.ปฏิบัติงานไม่สุจริต ตนได้ดำเนินการฟ้อง พล.ต.อวาสนา และ กกต.รวมทั้ง เลขา ต่อศาลอาญาและเป็นคดีอาญาไปแล้ว ซึ่งศาลจะรับไต่สวนในวันที่ 28-29 พฤษภาคม นี้
ผมขอยืนยันให้ประชาชน สบายใจว่า เรื่องที่ พล.ต.อ.วาสนา ได้อ้างด้วยการเอาคำพูดคำให้การหัวหน้าพรรคเล็กที่ได้รับการว่าจ้างจากพรรคใหญ่มาปรักปรำผม และผมไม่ได้ว่าจ้างพรรคเล็ก และก็ไม่กลัว ไม่ว่า พล.ต.อ.วาสนา จะพูดว่ามีหลักฐาน เอกสาร วีดิโอ ผมก็ไม่กลัว เพราะว่าไม่ได้ทำ ซึ่งเมื่อไม่ทำก็ไม่ผิด ผมเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้ พล.ต.อ.วาสนา สามารถเอาหลักฐานไปพิสูจน์ที่ศาลได้ และเชื่อว่า ศาลจะศักดิ์สิทธิ์จริง ผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ยุติธรรมของศาล เพราะว่าศาลไม่ใช่องค์กรที่ใครจะมาหลอกต้มง่ายๆ ผมไม่หวั่นไหวและขอให้ประชาชนที่เอาใจช่วย ผมอยู่สบายใจ นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า สองพรรคเล็กมีหลักเป็นเทป ซีดี ในการที่มีพรรคใหญ่มาว่าจ้าง ด้วยเงิน 15 ล้านโดยมีชื่อของนายไทยกร มงคลสุวรรณ และคนพรรคประชาธิปัตย์มาเกี่ยวข้อง นายสุเทพกล่าวว่า นายไทยกร ได้ออกไปตั้งพรรคการเมืองเอง และได้เลิกไปแล้ว และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง ขณะนี้ตนยังไม่ได้ตรวจสอบโดยละเอียด อย่างไรก็ตามนายไทยกร ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจในพรรค เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหาร และเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น การที่นายไทยกร จะไปพูดจากับใคร ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของพรรค จะอ้างว่าเป็นผู้แทนของพรรคไม่ได้
นายสุเทพ ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้ดำเนินคดี พล.ต.อ.วาสนา เราได้ส่งพยานหลักฐานไปแสดง โดยต้องการชี้ให้ศาลเห็นว่า พล.ต.อ.วาสนา และ กกต.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ถามว่าไม่สุจริตอย่างไร ตนได้ตั้งมาตรฐานไว้ว่า พรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กจริง แต่ พล.ต.อ.วาสนา กลับมาพูดว่าไม่ได้ทำ ซึ่งอันนี้ต้องพิสูจน์กัน
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.วาสนาออกมาพูดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีพรรคการเมืองเก่าแก่ที่อยู่ตรงข้ามพรรคไทยรักไทยต้องการกลั่นแกล้ง กกต. นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่รู้ว่า พล.ต.อ.วาสนา พูดว่าใครอยู่เบื้องหลัง เพราะตนนั้นอยู่เบื้องหน้าและแสดงตนชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณ แต่ว่าตัวของ พล.ต.อ.วาสนาจะเป็นหรือไม่ตนไม่รู้ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ทางพรรคได้ทำหน้าที่ เมื่อเห็นว่าอะไรไม่ถูกต้อง ก็ไปร้องเรียนกับ กกต.โดยไม่ได้คิดที่จะทำลาย กกต. ตนได้หอบเอาหลักฐานพยานไปให้ กกต. เพราะคิดว่า กกต.จะทำหน้าที่ แต่ ปรากฏว่า กกต.ไม่ทำแต่กลับมาโกรธตน เราก็ต้องไปพึ่งศาลอาญา และศาลปกครอง โดยการยื่นฟ้อง ต่อไป ดังนั้น พล.ต.อ.วาสนา ไม่ต้องรอให้ถึงตอนเสียชีวิต แล้วให้ลูกมาพิมพ์หลักฐานแจก ให้เอาหลักฐานไปศาลเพื่อเป็นการปกป้องตนเองดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่ ทาง กกต.จะเชิญพรรคประชาธิปัตย์ไปหารือเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้ง ทางพรรคประชาธิปัตย์จะการตอบรับแค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวคิดว่า ตนไม่ไว้ใจ กกต. เพราะทำตัวเป็นคู่กรณีกับตนเสียแล้ว ดังนั้นโดยส่วนตนแล้วเห็นว่าตอนนี้อย่าเพิ่งไปตอบแทนพรรค อย่างไรก็ตามจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า กกต.ชุดนี้ไม่มีความชอบธรรม ตนคิดว่าความรู้สึกของประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ก็คงรู้สึกเหมือนตน
http://www.komchadluek.net/news/2006/05-11/p1--70610.html
