'นปก.'ฉลองเปลี่ยนชื่อเป็น'นปช.'โวถอดนายกฯ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2550 18:34:00
แกนนำนปก. แถลงเปลี่ยนชื่อ"นปช." โวลุยกิจกรรมเพียบ นัด 2ก.ย. ชวนใส่เสื้อแดงเลี้ยงฉลองกลางสนามหลวง ขู่เตรียมใช้รธน.50 เล่นงานถอดถอน นายกฯ -รัฐมนตรี กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เมื่อเวลา 15.00 น.กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) จัดแถลงข่าวการเปลี่ยนชื่อองค์กรเป็น กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โดย นายเมธาพันธุ์ โพธิธีรโรจน์ ประธานกลุ่ม(นปก.) รุ่น2
และนายวีระ มุกสิกพงศ์ ประธานกลุ่มนปก.รุ่น1 น.พ.เหวง โตจิราการ น.พ.สันต์ หัตถีรัตน์ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นายสุชาติ นาคบางไทร นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นางประทีป อึ้งทรงธรรม(ฮาตะ) นายมานิตต์ จิตจันทร์กลับ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย
โดยนายเมธาพันธุ์ กล่าวว่า หลังจากการลงประชามติวันที่ 19 ส.ค. มีประชาชนจำนวนกว่า 10 ล้านเสียง ที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร ทาง นปก.จึงต้องการยกระดับฐานะองค์กร จาก นปก. เป็น นปช. โดย นปช.จะเริ่มรวมพลังประชาชนที่ต่อต้านเผด็จการ ด้วยการจะเริ่มรณรงค์ทำกิจกรรมครั้งแรกในวันที่ 2 ก.ย. โดยนัดหมายให้ประชาชนสวมเสื้อแดงมารวมตัวกันรับประทานอาหารที่บริเวณท้องสนามหลวง เวลา 18.00 น. เพื่อแสดงความชื่นชมประชาชนกว่า 10 ล้านคนที่มีความกล้าหาญลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ นปช.จะติดตามความไม่โปร่งใสของรัฐบาล และคมช. ที่อาจจะกดขี่ข่มเหงประชาชนที่ต่อต้านเผด็จการทั่วประเทศพร้อมกัน ทั้งนี้การดำเนินกิจกรรมของ นปช.ครั้งนี้เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ขึ้น
นายวีระ กล่าวว่า ตนเข้ามาร่วมกับ นปช.ในฐานะที่ตนเป็นแกนนำ นปก. รุ่น 1 ขอยืนยันว่า ทั้ง นปก. 1 และ 2 ยังรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและจะไม่มีการท้อถอยในการต่อสู้ ตราบใดที่เผด็จการยังอยู่ก็จะมีการต่อต้านต่อไป ถึงแม้การลงประชามติจะผ่านไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา เราจะเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้มีการกระทำที่ออกนอกลู่นอกทางประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของ นปช. เมื่อฟังแล้วรู้สึกสนุกอยากเข้าร่วมด้วย แต่ต้องรอให้พ้นโซ่ตรวนเสียก่อน จึงสามารถเข้าร่วมได้
ขณะที่กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ โดยนายสุชาติ นาคบางไทร กล่าวว่า ทางกลุ่มฯขอแสดงความยินดีที่รัฐธรรมนูญ 50 ผ่านการลงประชามติ เพราะถ้ารัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ทางกลุ่มคนวันเสาร์เป็นกลุ่มฯแรกที่ใช้สิทธิ์เรียกว่าการใช้หอกทมิฬแทงทมิฬ ด้วยการประเดิมใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ล่ารายชื่อประชาชน 2 หมื่นรายชื่อเพื่อถอดถอนนายกฯ และรัฐมนตรีทั้งคณะตามสิทธิ์ นอกจากนี้กลุ่มคนวันเสาร์ฯจะจัดกิจกรรมทุกวันเสาร์เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 -21.00 น.ที่ท้องสนามหลวง โดยจะมีการตั้งเวทีแบบลังส้ม มีไมโครโฟนเพื่อเปิดให้ผู้เข้าฟังการปราศรัยได้มีสิทธิ์เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นคนละ 2 นาที โดยจะมีการบันทึกเทปและทำวีซีดีจำหน่ายเผยแพร่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเสาร์ที่ 25 ส.ค.นี้ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยร่วมกับเครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหาร กลุ่มโดมแสบ ได้จัดเวทีวิพากษ์ผลประชามติรัฐธรรมนูญ 2550 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ โดยมีวิทยากร อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากนี้วันเดียวกัน กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการก็จะจัดการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในช่วงเย็น ซึ่งในวันที่ 26 สิงหาคม เวลา 12.30 น.ทางกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ นำโดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์จะจัดกิจกรรมกินข้าวแดงที่ศูนย์อาหารชั้น 6 ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง และในวันที่ 30 ส.ค. เวลา 17.00 น. กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดยนายสมยศ พฤกษา เกษมสุข จะจัดกิจกรรมปลาร้าปาร์ตี้ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อนัดสมาชิกกลุ่มและเชิญชวนประชาชนให้นำปลาร้ามารับประทานร่วมกัน
http://www.bangkokbiznews.com/2007/08/23/WW03_0301_news.php?newsid=91006 ทักษิณ อดีตนายกฯที่เร่ร่อนอยู่ต่างแดน หนี"หมายจับ"ของศาลยุติธรรมไทย เป็นเจ้าของนโยบาย"เหล้าเก่าในขวดใหม่" โดยแท้
เริ่มจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการสวัสดิการเพื่อสาธารณสุขของคนยากจนให้ได้เข้าถึงสาธารณสุข การรักษาพยาบาลที่รัฐบาลก่อน ๆ ก็มี แต่เจ้าของนโยบาย"เหล้าเก่าในขวดใหม่" หยิบมาปัดฝุ่น เปลี่ยนแปลง เสริมแต่งใหม่ ใช้ชื่อใหม่ว่า "โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค" โดยผู้ใช้บริการเสีย 30 บาทก่อนจะได้รับบริการรักษาพยาบาล รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์และ "หมอจำลอง" เห็นว่า 30 บาทนั้นทำให้ต้นทุนการบริหารเพิ่มขึ้น จึงยกเลิก และปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ให้การดูแลการสาธารณสุขและการรักษาเข้าถึงคนยากจนจริง ๆ ไม่บิดเบือนเป็นโครงการ"ประชานิยม".....
นอกจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคแล้ว ก็มีโครงการ"กองทุนหมู่บ้าน" "บ้านเอื้ออาทร" "แท๊กซี่เอื้ออาทร" "หวยทักษิณ" ฯลฯ เป็นต้นบริวาร ลิ่วล้อ สมุนทักษิณในเวบเสรีไทย จึงนำนโยบายนั้นมาใช้ด้วย เมื่อ"นามแฝง" ไม่ได้รับความเชื่อ แต่ได้รับความชัง ความรังเกียจแทนที่ ได้ระดับหนึ่ง จะเปลี่ยน"นามแฝง" สร้างความสับสน งงงวย เพื่อจะได้บิดเบือน เบี่ยงเบน โกหกพกลมข้อเท็จจริงได้ใหม่ บาง"นามแฝง"แสดงความคิดเห็น"ขาวเป็นดำ" "ดำเป็นขาว" บางครั้ง"นามแฝง" นำความจริงมากล่าวเพียงเล็กน้อย แต่ต่อเติม เสริมแต่งด้วยข้อมูลเท็จ บาง"นามแฝง" เลียนแบบ อ้างอิงความคิดเห็นที่ถูกต้องคุณธรรมและจริยา แต่ชวนให้สับสน และคล้อยตามได้โดยไม่ฉุกใจคิด....ฯลฯอดีตแกนนำ สส.ทรท.กลุ่มหนึ่งรวมตัวต่อต้านการรัฐประหารและรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ที่ท้องสนามหลวง คนที่มีสติปัญญา วุฒิภาวะ"รู้ทัน"ว่าเป็น "ม๊อบไข่แม๊ว" เพื่อเรียกร้องให้สองผัวเมีย จำเลยคดีทุจริตต่าง ๆของคณะกรรมการ คตส. ปปช. ดีเอสไอ. กลับมาล้างอำนาจคณะกรรมการดังกล่าว เพื่อใช้"อำนาจเป็นธรรม" นำทรัพย์สินที่ถูก"อายัด"ไปแล้วกลับคืนสองผัวเมียดังเดิม.....
เมื่อประชาชน"รู้ทัน" ก็เปลี่ยนชื่อเป็น "นปก" ซึ่งเป็นม๊อบที่ก่อการจลาจลหน้าบ้านพักประธานองคมนตรีทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ ปลอดภัยหลายสิบนาย สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของรัฐบาลและเอกชนในบริเวณนั้น เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติเตียน ประนามพฤติกรรมเลวร้ายนั้น รวมทั้งนักวิชาการ นักคิดฝ่ายที่ต้องการต่อต้านรัฐประหารด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วย....วันนี้ พวกม๊อบจลาจลไข่แม๊วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "นปช. เหล้าเก่าในขวดใหม่ พฤติกรรม นิสัยเลวร้ายเช่นเดิม เพราะเป็นคนหน้าเดิม หน้าเก่าจากอดีตพรรคไทยรักไทยที่ถูกยุบพรรคฯไปตามคำสั่งศาลยุติธรรมแล้ว และได้ใช้ชื่อพรรคการเมืองใหม่ "พรรคพลังประชาชน" เป็นที่รวมคนรักทักษิณ อดีตนายกฯที่หนีคดีทุจริต ถูกออก"หมายจับ" ในขณะนี้.....