"โรคซ้ายไร้เดียงสา"กำเริบ!
27 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 00:00:00
๐ ประชา บูรพาวิถี
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : เหตุการณ์จลาจลหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ไม่น่าจะอยู่เหนือความคาดหมาย หากมีใครได้ฟังคำประกาศของ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำม็อบคนรักทักษิณ กลางท้องสนามหลวง ก่อนเคลื่อนพลเพียงวันเดียว
"
ประชาชนต้องการการแตกหัก ไม่อยากรอคอยความตายที่สนามหลวง และประชาธิปไตยไม่ได้มาจากการร้องขอเท่านั้น."
นักยุทธวิธีที่ปากอ้างว่า "สันติวิธี" ก็คิดกันแบบนี้ทั้งนั้นในยามจนตรอก เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว "ม็อบ" ก็รอวันแห้งตาย มันเป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จึงไม่น่าประหลาดใจที่บรรลุเป้าหมายแล้ว แกนนำก็สั่งม็อบถอนกำลังกลับไปที่ตั้งอย่างฉับพลันทันที
ภาพของ วีระ มุสิกพงศ์ น.พ.เหวง โตจิราการ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย พิมพา จันทร์ประสงค์ พากันฟ้อนรำราวกับ "หางเครื่องวัยทอง" ให้อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ร้องเพลงบนเวที ดูจะเป็นภาพการเฉลิมฉลองชัยชนะอันยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน
ภาพนี้หาไม่ได้ในประวัติศาสตร์ "ม็อบการเมือง" ประเทศไทย แต่ "วีระ" กับ "เหวง" ทำให้ดูเป็นครั้งแรก!
จริงๆ แล้ว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตกเป็นเป้าการโจมตีของ "กลุ่มคนรักทักษิณ" กับ "กลุ่มต้านรัฐประหาร" มาตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมต่อต้านเผด็จการที่ท้องสนามหลวง เมื่อปลายปีที่แล้ว มีการจัดทำเอกสารเล่มเล็กชื่อ "เปิดหน้ากากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ความจริงวิกฤติการเมือง" เขียนโดย วินัย ใจภักดี และ นำชัย ประสานชัย ว่ากันว่าเป็นนามแฝงของคนเดือนตุลาที่ใกล้ชิดคนสนิท "นายใหญ่" มีการจัดทำหนังสือปกม่วง "เปรมไม่ใช่ฟ้า ป๋าก็แค่คน" เผยแพร่อย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ที่รักทักษิณ
นอกเหนือการเปิดโปง พล.อ.เปรม เป็นผู้เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยา เนื้อหาในเอกสารใต้ดินชุดดังกล่าว ยังวิพากษ์ "ตุลาการภิวัตน์" ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่ "อำมาตยาธิปไตยภิวัตน์"
พูดง่ายๆ แบบไม่ต้องใช้ภาษาวิชาการก็คือ ป๋าเปรม, ตุลาการภิวัตน์ และอำมาตยาธิปไตย คือสัญลักษณ์ของ "ระบอบเก่า" ที่จะทำให้ประเทศไทยถอยหลังลงคลอง ทำให้ประเทศไทยจมปลักอยู่กับความล้าหลังของเผด็จการในคราบ "อำมาตยาธิปไตย"
พูดชัดๆ ระบอบเก่าในความหมายของกลุ่มที่จัดทำเอกสารใต้ดินก็คือ "สถาบันเบื้องสูง"!
ฉะนั้นการปักธง "โค่น เปรม คือโค่น คมช." ของแนวร่วมต้านรัฐประหารนั้น ในยุทธศาสตร์ของบางกลุ่มบางองค์กรนั้น "มันสูงกว่า คมช. และ พล.อ.เปรม"
ดั่งปรากฏในเอกสารลับใต้ดินอีกชิ้นหนึ่งชื่อ 'สังคมไทยกับสถานการณ์รัฐประหาร พ.ศ.2549' ซึ่งมีการแจกจ่ายไปในกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน และภาคใต้บางส่วน
เนื้อหาหลักของเอกสารชิ้นนี้คือการอธิบายว่า พรรคไทยรักไทย เป็นตัวแทนกลุ่มทุนยุคใหม่ มีโอกาสผูกขาดอำนาจทางการเมืองการปกครองประเทศไทย
ดังนั้นกลุ่มทุนที่สูญเสียประโยชน์ ผนวก "พลังอนุรักษ์จารีตนิยม" ทำการรัฐประหารเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ
จึงมีการเรียกร้องให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณาของพลังอนุรักษนิยม เพราะกลุ่มทุนไทยรักไทย มิใช่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในการโค่นล้มของพลังประชาชน
ผู้อาวุโสในยุทธจักรนักเคลื่อนไหว สรุปว่านี่คือการกลับมาของ "ซ้ายไร้เดียงสา"
กระแสความคิดซ้ายไร้เดียงสานี่แหละ ที่พัดพาขบวนการนักศึกษาหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ไปสู่การปฏิวัติวัฒนธรรมแบบไทยๆ เช่นมีการประกาศเผาวรรณคดีศักดินา การจัดนิทรรศการจีนแดง ฯลฯ
ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา ยังชำระไม่เสร็จมิใช่หรือ..ไยจึงจะทำตัวเป็น "สายล่อฟ้า" กันอีกเล่า?
http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/27/WW01_0104_news.php?newsid=86350"
ประชาชนต้องการการแตกหัก ไม่อยากรอคอยความตายที่สนามหลวง และประชาธิปไตยไม่ได้มาจากการร้องขอเท่านั้น.....
เมื่ออยู่ข้างนอกอย่าง'อำเภอใจ'ไม่ได้ ก็เข้าไปอยู่ในคุกเลยจะดีกว่า.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า"