ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
21-02-2025, 03:04
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  ถนนสาย 304 เส้นทางสั่นคลอนมรดกโลก 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ถนนสาย 304 เส้นทางสั่นคลอนมรดกโลก  (อ่าน 4833 ครั้ง)
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« เมื่อ: 06-05-2006, 11:25 »

โดย นิคม พุทธา มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ

การขยายถนนหมายเลข 304 ที่เชื่อมระหว่างจังหวัดนครราชสีมา-ปราจีนบุรี ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมทางหลวงกำลังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่มาก เพราะต้องผ่านผืนป่าและชุมชนใกล้เคียงทั้งที่เป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้เหตุผลว่า การขยายถนนดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ป่าและระบบนิเวศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก

ในขณะที่กรมทางหลวงอ้างว่าได้มีการออกแบบและงบประมาณตกมาแล้ว จึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการ

หากมองย้อนอดีตจะเห็นได้ว่า ผืนป่าเขาใหญ่ หรือเรียกรวมกันว่า ป่าดงพญาเย็น หรือถ้ารวมเอาผืนป่าในอุทยานแห่งชาติทับลาน ปางสีดา ตาพระยา และดงใหญ่เข้าด้วยกัน ทั้งเทือกเขาพนมดงรักนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่กรณีกับการตัดถนนที่ขัดแย้งกันมาโดยตลอด

ถ้าดูแผนที่บริเวณตั้งแต่สระบุรี นครนายก นครราชสีมา ปราจีนบุรี สระแก้ว จนถึง จ.บุรีรัมย์ เราจะเห็นถนนที่ตัดผ่านผืนป่าบริเวณนี้อยู่แล้วอย่างน้อย 5 สาย ดังนี้

1.ถนนเชื่อมระหว่าง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี-อ. บ้านนา จ.นครนายก ผ่านผืนป่าทางด้านตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

2.ถนนเชื่อมระหว่าง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผ่านกลางป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลงมาทางด้านเนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

3.ถนนเชื่อมระหว่าง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ถึง กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งกำลังเป็นปัญหาอยู่ขณะนี้

4.ถนนเชื่อมระหว่าง อ.ครบุรี อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ถึง อ.เมือง จ.สระแก้ว ผ่านใจกลางของผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ไปจนถึงอุทยานแห่งชาติปางสีดา

5.ถนนเชื่อมระหว่าง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ถึง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ผ่านผืนป่าอุทยานแห่งชาติตราพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ รวมทั้งพื้นที่ป่าที่ติดชายแดนประเทศกัมพูชา

ถนนสายต่างๆ ดังกล่าว ที่เชื่อมระหว่างภาคอีสานกับภาคตะวันออก ลงมาสู่ภาคกลาง ล้วนจำเป็นสำหรับการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ในขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมากก็คือ ผลกระทบที่จะเกิดกับผืนป่าและระบบนิเวศ 


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถนนหมายเลข 304 ในปัจจุบันถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอุตสาหกรรม เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เส้นทางการท่องเที่ยว เป็นต้น

ผืนป่าเขาใหญ่ ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย เมือปี พ.ศ.2505 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มีพื้นที่กว่า 1,300,000 ไร่

ในขณะที่พื้นที่ป่าทับลานได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ.2524 มีเนื้อที่ 1,397,375 ไร่ ใหญ่เป็นนอันดับสองรองจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

แต่ที่มาของถนนสาย 304 ดังกล่าวนี้เกิดจากความต้องการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการขนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ จากท่าเรือน้ำลึกสัตหีบ จ.ชลบุรี ขนย้ายขึ้นไปที่ฐานทัพสหรัฐ ใน จ.อุดรธานี ในยุคสงครามอินโดจีน ราวปี พ.ศ.2483-2489

ในปี พ.ศ.2548 องค์กรยูเนสโก ได้ประกาศรับรองพื้นที่ป่าตั้งแต่เขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตราพระยา และดงใหญ่ ใน 6 จังหวัด บริเวณนี้ ให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก (Natural World Heritage) แห่งที่สองของประเทศไทยต่อจากผืนป่าตะวันตกทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้ง

จากนั้นมาก็มีปัญหาเรื่องการที่กรมชลประทานขอสร้างเขื่อนใสน้อย-ใสใหญ่ ที่อยู่ในป่าเขาใหญ่ และเขื่อนห้วยโสมงที่อยู่ในพื้นที่ป่าทับลาน

ตอนที่ประเทศไทยได้มีการเสนอให้พื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นมรดกโลกนั้น คณะกรรมการนอกจากจะพิจารณาถึงคุณค่า ความสำคัญของระบบนิเวศ ทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ป่าแล้ว คณะกรรมการยังต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขของการบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลกด้วย

สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลไทยได้เสนอก็คือ การให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ผืนป่าทั้ง 5 แห่งดังกล่าวนั้นมีพื้นที่เชื่อมติดกันให้ได้ รวมทั้งต้องแสดงให้เห็นถึงหลักประกันหรือประสิทธิภาพในการที่จะปกป้องคุ้มครองผืนป่ามรดกโลกดังกล่าว 


จนกระทั่งมาถึงขณะนี้ กรมทางหลวงได้ขยายถนน 304 เป็น 4 เลน โดยที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และทับลาน ทั้งไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504

อีกทั้งกรมทางหลวงไม่ได้มีการศึกษาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติก็ไม่ได้รับรู้ ตามข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ที่เป็นอุทยานแห่งชาติ

จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า อะไรที่อยู่เบื้องหลังของการเร่งรัดในการขยายถนนสายดังกล่าว และทำไมกรมทางหลวงจึงไม่ทำตามกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งเบื้องหน้าเบื้องหลังและการเร่งรัดดังกล่าวนี้ อาจจะต้องไปดูว่ามีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองไหนที่ได้ผลประโยชน์ และนอกจากกรมทางหลวงแล้ว บริษัทที่รับเหมาก่อสร้างเป็นใคร

กรมทางหลวงอาจจะอ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการปักหลักสองข้างทาง และกำหนดพื้นที่ทางหลวงเพื่อรองรับการขยายถนนแล้ว แต่อย่าลืมว่าการปักหลักดังกล่าวนั้นเป็นการปักหลักเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งพื้นที่ป่าโดยเฉพาะเขาใหญ่ ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504

การขยายถนน 4 เลนสาย 304 นี้ จะทำอย่างไรก็ได้แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องทำให้พื้นที่ป่าทั้งเขาใหญ่และทับลานเชื่อมติดกัน อย่างน้อยบริเวณที่มีพื้นที่ป่าเดิมที่เชื่อมติดกันอยู่แล้ว ในเขต อ.วังน้ำเขียว และหมู่บ้านในเขต อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

ถนนดังกล่าวจะทำให้มุดลงไปในดินเป็นลักษณะอุโมงค์ หรือจะทำให้ลอยฟ้าบางช่วงก็ได้ เหมือนกับทางด่วนในกรุงเทพฯ ประเด็นนี้หากรัฐบาลไทยและองค์การยูเนสโก ตระหนักถึงความสำคัญของผืนป่าและระบบนิเวศจริงต้องกล้าที่จะลงทุน กล้าที่จะคิด จะทำในเรื่องดังกล่าวนี้

ข้อมูลจากการศึกษาสำรวจเส้นทางการเคลื่อนย้ายของสัตว์ป่าเลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ระบุว่า อย่างน้อยมีสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ รวมทั้งพื้นที่ป่าเขาแผงม้า ถึงแม้ว่าจะอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติ พยายามที่จะใช้พื้นที่ป่าที่เชื่อมติดกันดังกล่าว เป็นเส้นทางการเคลื่อนย้ายตามฤดูกาล เช่น ช้างป่า เสือโคร่ง กระทิง เก้ง กวาง ฯลฯ เป็นต้น

เราต้องเข้าใจด้วยว่า ความมั่นคงของระบบนิเวศคือ ความมั่นคงของคนเราด้วยเช่นกัน การที่จะก่อให้เกิดความมั่นคงทางระบบนิเวศให้ได้อย่างยั่งยืนนั้น จะต้องมีหน่วยของพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะควบคุมระบบกลไกในการรักษาความสมดุลของพืชและสัตว์ เพราะผืนป่าบริเวณดังกล่าวนี้เป็นทั้งแหล่งต้นน้ำสาขาของแม่น้ำมูล ได้แก่ ลำพระเพลิง ลำมูล ลำปลายมาศ หล่อเลี้ยงอีสานใต้ และลุ่มน้ำบางปะกงที่มีความสำคัญกับการอุปโภคบริโภคในภาคตะวันออก

การตัดถนนหรือการขยายถนนก็ตาม นอกจากจะเป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ปาในประเทศไทย ปัญหาที่เห็นได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ดินถล่ม ดินพังทลาย การเปลี่ยนเส้นทางไหลของน้ำ ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมและความแห้งแล้งตามมา

ข้อถกเถียงเรื่องการขยายถนนกับการรักษาพื้นที่ป่ามรดกโลกนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาประเทศ ที่ไม่เข้าใจ "องค์รวม" (Holistic view) จึงเปรียบได้เหมือนคำพูดที่ว่า "ตาบอดคลำช้าง"

ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจที่จะต้องลือกว่า จะปล่อยให้มีการถนน 4 เลน บุกรุกไปยังพื้นที่ป่ามรดกโลกอย่างที่กรมทางหลวง หรือจะปรับปรุงแบบแผนของถนนดังกล่าว ให้ดำเนินการต่อไปได้โดยที่ไม่ทำลายป่า เช่น การที่จะออกแบบถนนให้มุดลงไปในดินหรือลอยฟ้าอย่างที่เคยพิจารณากันมาแล้ว

สุดท้ายมีข้อเสนอว่า หากเราจัดการดังกล่าวไม่ได้ ก็ควรจะเสนอให้มีการเพิกถอนพื้นที่มรดกโลกเสีย จะได้ไม่ต้องขายขี้หน้าเขาไปมากกว่านี้

หน้า 5
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lif05060549&day=2006/05/06

บันทึกการเข้า
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 06-05-2006, 11:33 »

ไม่เกี่ยวกับกระทู้แต่เป็นเวปอนุรักษ์ป่าเหมือนกัน เอามาฝาก Razz

http://www.thungyai.org/thai/index.htm
บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #2 เมื่อ: 06-05-2006, 11:34 »

Date of Inscription: 2005
Criteria: N (iv)

Brief Description
The Dong Phayayen-Khao Yai Forest Complex spans 230km between Ta Phraya National Park on the Cambodian border in the east, and Khao Yai National Park in the west. It is a rugged mountainous area ranging between 100m to 1,351m high with about 7,500 of its 615,500 hectares above 1,000m. The north side is drained by several tributaries of the Mun River, itself a tributary of the Mekong River. The southern side is drained by numerous scenic waterfalls and gorges and four main fast streams that flow into the Prachinburi River. The site is home to more than 800 species of fauna, including 112 mammal species (among them two species of gibbon), 392 species of birds and 200 reptiles and amphibians. It is internationally important for the conservation of globally threatened and endangered mammal, bird and reptile species, among them 19 that are vulnerable, four that are endangered, and one that is critically endangered. The area contains substantial and important tropical forest ecosystems, which can provide a viable habitat for the long-term survival of these species.

Justification for Inscription

Criterion (iv): The Dong Phayayen-Khao Yai Forest Complex (DPKY-FC) contains more than 800 fauna species, including 112 species of mammals, 392 species of birds and 200 reptiles and amphibians. It is internationally important for the conservation of globally threatened and endangered mammal, bird and reptile species that are recognised as being of outstanding universal value. This includes 1 critically endangered, 4 endangered and 19 vulnerable species. The area contains the last substantial area of globally important tropical forest ecosystems of the Thailandian Monsoon Forest biogeographic province in northeast Thailand, which in turn can provide a viable area for long-term survival of endangered, globally important species, including tiger, elephant, leopard cat and banteng. The unique overlap of the range of two species of gibbon, including the vulnerable Pileated Gibbon, further adds to the global value of the complex. In addition to the resident species the complex plays an important role for the conservation of migratory species, including the endangered Spot-billed Pelican and critically endangered Greater Adjutant.

http://whc.unesco.org/en/list/590
บันทึกการเข้า
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #3 เมื่อ: 06-05-2006, 12:10 »

เผอิญ ถนน บริเวณ สายดังกล่าว ประกายดาว ขับรถ ไปมา เป็น ว่าเล่นค่ะ

และเผอิญ เป็น คนรัก ต้นไม้มากๆ ...โดยเฉพาะ ต้นไม้ใหญ่ๆ
ดังนั้น จะจดจำได้แม่นยำ ว่า ต้นไม้ ใหญ่ต้นไหน ริมถนน
หรือ ข้างทาง แถวๆ ไหน หายไปบ้าง...ดาวว่า กรมทางหลวง ไม่ควร มีสิทธิ แต่ผู้เดียว
ในการพิจารณา การ ตัด ต้นไม้ เพื่อทำทาง ดูเหมือน จะ ไม่มีผู้ใด ในกรมทางเสียด้วยซ้ำ
ที่จะ ตอนเซิร์น ธรรมชาติ ที่พวกเรา เป็นเจ้าของ

ถนน สาย จาก พนัสนิคม ผ่านทับลาน ขึ้น วังน้ำเขียว เปลี่ยนไปทุกวัน
ความฉ่ำ ชื้น ของผืนป่าหายไปมาก รถน้ำหนักเกิน จาก วงแหวน ตะวันออก ผ่านมาอิสาน
ทำให้ ถนน ทางขึ้น วังน้ำเขียว กลายเป็น ลูกระนาด ขับได้ช้า มากๆ ฝุ่น มากมายมหาศาล
เป็น พอลลูชั่น ที่ทำให้ ใบไม้ และ ผืนป่า หายใจไม่ออก เหมือนที่ทำถนนเล็กๆ สายน่ารัก
เชียงใหม่ลำพูน ไม่สบาย ป่วยหนัก
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
ป้าแจ๋วแหวว
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 251



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 06-05-2006, 14:46 »

เป็นอีกคนนึงค่ะ  ที่ไปเขาใหญ่บ่อย   ดูนก ชมไม้ กางเต้นท์ค้างคืนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ถนนปัจจุบัน  พังบ่อยก็จริง แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย สำหรับคนรักป่า  ก็ซ่อมแซมกันตามสมควร
แต่สำหรับโครงการขยายทางอีกข้าง 4 เมตร  เสียงอึกทึกครึกโครมของเครื่องจักร  ระยะเวลาที่ใช้ก่อสร้าง    จะมีมลพิษสารพัดไปหมด  เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำ EIA

ในส่วนของการใช้ชีวิตของสัตว์ป่า  มันเดินข้ามถนนไปมาเป็นประจำ  เห็นได้เสมอ  บางจุดมี Salt Lick ช้างมารวมโขลง  แม้แต่มาตกลูกอยู่บริเวณนั้นก็มี 
 ไม่ว่าตัวใหญ่หรือตัวเล็ก  พวกมันจะได้รับผลกระทบแน่นอน    เขาใหญ่ มีถนนหรูหรา ไปมาสดวกสบาย  แต่ทว่าชะเง้อมองหาสัตว์ป่าไม่เจอสักสะตัว  มันจะมีความหมายอะไร

การที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการแล้ว ใช่ว่าจะต้องรีบร้อนขนาดนั้น  มาคุยกันให้รอบคอบ  ศึกษาผลกระทบให้ถ้วนถี่  ก่อนที่จะสายเกินไป และไม่มีอะไรเหลือไว้ให้ลูกหลาน  Laughing
บันทึกการเข้า
cha_srt
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 276



« ตอบ #5 เมื่อ: 06-05-2006, 15:04 »

แล้วถนนตัดผ่านอย่างนั้น มีปัญหาเรื่อง รถชนสัตว์ป่าไหมครับ
บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #6 เมื่อ: 06-05-2006, 20:41 »

การก่อสร้างเป็น ถนน สี่เลน นึกสภาพดูน่ะครับว่า สัตว์จะข้ามถนนอย่างไร

และการข้ามฝั่งเพื่อเป็นไปตาม ระบบนิเวศน์วิทยา ก็จะสูญสิ้นไป

อ่ะ ใครเคยไป น้ำตกเหวนรก บ้างปล่าว

บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #7 เมื่อ: 07-05-2006, 01:39 »

คุณๆทราบกันบ้างหรือเปล่าว่า ในวันขึ้นปีใหม่
ของแต่ละปี จะมีลูกๆหลานๆของผู้ยิ่งใหญ่หลายๆคนในสังคมไทย
ได้ใช้ปืนไรเฟิลไปทดลอง ด้วยการใช้สัตว์ป่าเป็นเป้าเคลื่อนที่ในการ
ประลองความแม่นยำ
  ในช่วงที่มีการจุดพลุ จุดประทัด ตอนคนฉลองปีใหม่
แล้วก็นำสัตว์ป่าที่ยิงได้ใส่รถตู้ลงมาจากเขาใหญ่ในวันรุ่งขึ้น
เป็นประจำ
   ไม่กล้าระบุชื่อว่าเป็นใครบ้าง เพราะไม่มีหลักฐานครับ
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 07-05-2006, 02:52 »

2-3 วันก่อน ฟัง 94.0 มา

รู้สึกจะจับความได้ว่า พอกรมอถุทยานไปจับ ก็ไม่เหลืออะไรให้จับ

งานนี้ กรมทางหลวง กับ กรมอุทยาน ท่าจะฟัดกันนัวเนีย

มรดกโลก ใช่จะอนุมัติกันง่าย ๆ นโยบายกับการหลอกลวง

นี่ประจานผลงานรัฐบาลได้อย่างดี...คนมันไม่มีสำนึก
บันทึกการเข้า

ป้าแจ๋วแหวว
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 251



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-05-2006, 22:36 »

เล่าต่อจากลุงถึกค่ะ

  หลายปีแล้วนะคะ   ขับรถออกไปส่องสัตว์ ถึงแถวๆอ่างน้ำมอสิงโต  ได้ยินเสียงปืนก็เลยปิดไฟหน้า ดับเครื่องรถแล้วจอดรอดูว่ามีอะไรกันแน่  ได้ยินเสียงรถใหญ่เเล่นออกมาจากทางไปสนามกอล์ฟ  ทางปิดห้ามเข้านะคะ แต่มียามเฝ้า    สักพักใหญ่มีรถแล่นออกมาจริงๆ  พวกเราไม่รอช้า ลงไปถามทันทีว่าได้ยินเสียงปืน เกิดอะไรขึ้น  ไม่มีใครตอบค่ะ 

แต่ก็พอมองเห็นอะไรบางอย่าง  อยากจะพูดว่า  คนล่ามีจริงๆ  ไม่ใช่ใครอื่นหรอก   เป็นเราๆน่ะหรือ  คงจะรอดจากการโดนจับล่ะสิ  เพราะมันหมายถึงผลงานและความก้าวหน้าในหน้าที่การงานนะ
หวังว่าเดี๋ยวนี้คงไม่มีแล้วนะคะ 
บันทึกการเข้า
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #10 เมื่อ: 09-05-2006, 17:33 »

        การผสมพันธุ์ของสัตว์(รวมถึงมนุษย์)  ถ้าผสมกันในเครือญาติหรือสายพันธุ์ใกล้ชิดกัน 
มีโอกาสมากที่จะได้ลูกที่อ่อนแอ   ยีนด้อย   .....ข้อดีของป่าผืนใหญ่คือมีสัตวป่าอยู่หลากหลายสายพันธุ์
้สัตว์ต่างสายพันธุ์สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้  เมื่อมีการผสมพันธุ์กัน
ก็จะได้ลูกพันธุ์ที่มียีนดี  แข็งแรง สามารถอยู่รอดสืบสายพันธุ์ต่อไปได้
         ถ้ามีการตัดถนนผ่านพื้นที่ที่สัตว์อาศัยอยู่   ย่อมทำให้มีปัญหาต่อการดำรงค์อยู่ของสัตว์ป่าอย่างแน่นอน
คราวหนึ่งผมไปเที่ยวที่เขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา  เจ้าหน้าป่าไม้ที่นั้นอกว่า
มีช้างถูกรถยนต์ชนที่นั่นด้วย  เพราะมีถนนตัดผ่านป่า
         เร็วๆนี้ต้นเดือนมีนาคมนี้  ผมกับเพื่อนไปเที่ยวดูนกกันที่สถาวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
ที่นี่ตั้งอยู่บนถนนสาย 304  UNESCO ให้เป็นแหล่งสงวนชีวมณฑลแห่งแรกของประเทศไทย
และเป็น 1 ใน 7 แห่งของทวีป  ระหว่างเดินทางบนถนนเส้นนี้เขากำลังสร้างทางอยู่
เห็นต้นไม้ข้างทางถูกตัดลง  น่าใจหายครับ
เรากำลังใช้ทรัพยากรธรรมชาติกันอย่างเกินพอหรือไม่
จะมีที่เหลือให้สิ่งมีชีวิตอื่น  อาศัยกันบ้างไหม ?
ความต้องการของมนุษย์เมื่อไหร่จึงจะพอ    มีใครตอบได้ไหม ?
บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
::วิญญาณห้อง2::
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 656



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 09-05-2006, 17:43 »

ตกลงทำหรือนี่

เห็นว่า หากทำ ถนนต้องยกลอยฟ้าทั้งหมด หรือต้องมีช่วงป่าคร่อมถนนอยู่ด้านบนเพื่อให้สัตว์สัญจรไปมาได้
บันทึกการเข้า

--------this is the world-------
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #12 เมื่อ: 10-05-2006, 08:41 »

ผมไม่มีข้อมูลเหมือนกันว่าเขาจะทำช่วงไหนบ้าง  เส้น 304 นั้นยาวมาก
แต่ช่วงที่มีปัญหาน่าจะเป็นช่วงที่ผ่านพื้นที่ป่าต่างๆ   
บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #13 เมื่อ: 10-05-2006, 08:54 »


เศร้าค่ะ

ตราบใด ที่ เรายังไม่รักผืนป่าอยากแท้จริง
และคิดว่าความเจริญ แค่ ถนนไปถึง

และ เรายังไม่รัก และดูแล ธรรมชาติ  ให้งดงามยิ่งใหญ่ อย่างที่เคย
ประกายดาวก้กำลังเศร้ากับ ป่าอุ้มผาง เหมือนกัน ด้วยความหวั่นกลัว

มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร และเครือข่ายฯป่าตะวันตก ทำหนังสือด่วนค้านกรมอุทยาน
กรณีเปลี่ยน “ป่าอุ้มผาง” จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
เหตุเป็นที่ตั้งของน้ำตกทีลอซู ดอยหัวหมด และล้ำน้ำอุ้งผางคี ชี้ชัดขัดต่อเจตนารมณ์ของเขตรักษา
พันธุ์สัตว์ป่า และมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ
     
      รายงานข่าวจากมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร แจ้งว่า มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร และคณะกรรมการอนุรักษ์
ผืนป่าตะวันตก 6 จังหวัด ได้ทำหนังสือที่พิเศษ 1 /2549 เรียน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า
และพันธุ์พืช เรื่อง ขอให้ทบทวนนโยบายการเปลี่ยนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นอุทยานแห่งชาติ
 กรณีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก
     
     
      ทั้งนี้ เนื้อหาจดหมายฉบับดังกล่าว สรุปว่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
 มีนโยบายเปลี่ยนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นอุทยานแห่งชาติ หรือกันพื้นที่บางส่วน
ที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกทีลอซู ดอยหัวหมด และลำน้ำอุ้มผางคี มีพื้นที่ประมาณ
 386,000 ไร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายทางด้านการพัฒนาการท่องเที่ยว
ของรัฐบาลนั้น มูลนิธิสืบฯ และเครือข่ายคณะกรรมการอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตก 6 จังหวัด เห็นว่า
นโยบายดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ดั้งเดิมในการประกาศพื้นที่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
     
      นอกจากนั้น ผลจากการส่งเสริมและการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นจะส่งผลกระทบ
ด้านลบต่อการรักษาระบบนิเวศ ป่าไม้ สัตว์ป่า ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้น จึงใคร่ขอให้
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทบทวนนโยบายดังกล่าว พร้อมกันนี้ มูลนิธิสืบฯ และเครือข่ายอนุรักษ์
ผืนป่าตะวันตกฯ ได้มีข้อเสนอคือให้กันเฉพาะพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้ว เป็นพื้นที่พิเศษ
 โดยให้มีรูปแบบการบริหารจัดการแบบพิเศษ สามารถให้บริการด้านการท่องเที่ยวได้ แต่ยังคง
มีสถานะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ซึ่งมีกฎหมายและยังเป็นรูปแบบการจัดการพื้นที่อย่าง
เข้มงวดกว่าอุทยานฯ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีนโยบายพัฒนาใดๆ มาทำลายความสมบูรณ์ของ
ทรัพยากร และมีความหวังว่าจะเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในการจัดการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาเรียนรู้
ในพื้นที่อนุรักษ์อย่างแท้จริงต่อไป
     
      อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากภายในกรมอุทยานฯ แจ้งว่ามีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ
นโยบายดังกล่าว โดยมีการประชุมของส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมเปลี่ยนจากเขตรักษาพันธุ์
สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นอุทยานแห่งชาติ


  Crying or Very sad

บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
หน้า: [1]
    กระโดดไป: