เผด็จการยังเขียนผิดเลย...
ภาษามันปะปนกันมั้ง ไทย-เขมร เลยเป็นแบบนี้
ไอเดียเรื่องพ่นบนถนนและตามศาลา ป้ายบอกทางนี่ก็เหมือนกัน ยิ่งทำมากก็ยิ่งเสื่อม คนขับรถรุมด่ากันพัลวัน รับไหว้ไม่ทันเลยล่ะ
สังเกตนะครับ ไอเดียกระฉูดเหล่านี้ มันเพราะหมดมุกจริงๆ จึงต้องงัดออกมาทำ คนมีสติปัญญาเขาไม่ใช้มุกเหล่านี้หรอกครับ เพราะเขาคิดไกลไปอีกหลายขั้นว่า ทำไปทำมา ในที่สุด บาปกรรมจะกลับมาตกอยู่กับใคร
คนรุมด่ากันมากๆ ก็คงล้มไอเดียไปแล้วออกมาแก้ตัวกับสาธารณชนอีกว่า เป็นไอเดียของพวกทหาร ทั้งการเผาโรงเรียน พ่นสีถนน เพื่อให้ชาวบ้านเกลียดไทยรักไทย
อย่างน้อยก็มีคนในราชดำเนินไม่น้อยแหละน่า เชื่อโดยสติปัญญาว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
.......................................
ไม่ทราบว่า คนอ่านกระทู้ของผมยังจำเรื่องเพื่อนของผมที่เล่นกอล์ฟด้วยกันได้ไหมครับ คนที่จบปริญญาและมีอันจะกินมากๆ แล้ว แต่บูชาทักษิณนั่นน่ะ
เจอกันวันก่อน เขาดีใจใหญ่เลย บอกไปหาความจริงด้วยตัวเองที่ท้องสนามหลวงมาแล้ว บอกกับผมว่า อยากหาความจริงต้องไปที่นั่นเอง แล้วจะพบว่า สื่อมันบิดเบือนทุกอย่างเลย (งง..สื่อมันบิดเบือน แต่บนเวทีกลับไม่บิดเบือน ช่างเป็นตรรกะที่ชวนให้งงกับสติปัญญาระดับนี้มากๆ)
แม้แต่จำนวนคนเดินขบวนไปกอง บก.ทบ.วันนั้น หัวแถวอยู่เฉลิมไทย ท้ายแถวเพิ่งออกจากสนามหลวงเอง สื่อยังลงว่า แค่หมื่นกว่า
เขาให้ผมทายว่า มีจำนวนคนเท่าไร (คงกะให้ผมทาย 5 หมื่นอัพ)
ผมนั่งดูทีวีเมื่อคืน ทีไอทีวีรายงานว่า แถวยาว 500 เมตร ปิดถนนหนึ่งฝั่ง คนหมื่นกว่า ผมเลยบอกว่า คงไม่เกิน 20000 หรอก
เขาคงผิดคาด คิดว่า เขาเข้าใจว่า วันนั้นคนไปเป็นแสนมั้ง
โถ..
ถ้าคนมีปัญญา คิดเอาง่ายๆ นะครับ ระยะทางจากสนามหลวงถึงเฉลิมไทย 1 กม. หัวขบวนเป็นรถกระจายเสียง และหัวแถวเป็นฮาร์ดคอร์นำขบวน เฉพาะตรงนี้ กินไปเกือบ 50 เมตรแล้ว
เดินเรียงหน้ากระดานถนนหนึ่งฝั่ง ผมให้แถวละ 20 คนจับมือกันเดินแบบสบายๆ นะครับ ไม่ใช่ไหล่เบียดไหล่ ระยะก้าวต้องห่างจากคนข้างหน้าหนึ่งเมตรตลอดเพื่อไม่ให้กระทบกัน
1 กม.มีความยาว 1000 เมตร ๆ ละหรือแถวละ 20 คน ก็จะได้ไม่เกิน 20000 คน เอาอะไรมาโก่งทีเป็นแสนก็ไม่รู้ เฮ้อ..
และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ไอ้เพื่อนผมคนนี้ ก็ไปสนามหลวงทุกวันเลยครับ เขาบอกว่า เป็นสัญญาใจเพราะเจอลุงคนหนึ่งบอกว่า มาทุกวันเลย เสียค่ารถวันละ 300-500 บาท แต่ไม่เสียดาย เพื่อนผมเลยซึ้งใจใหญ่ ไม่รู้มันจะรู้ไหมเนี่ยว่า ลุงแกอาจมีคนออกค่ารถให้เลยมาทุกวันได้ แต่เพื่อนผมมันต้องออกเองหมด
ตอนนี้ผมเลิกคุยการเมืองกับเขาแล้วครับ เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร พูดอะไรมา ผมปิดปากเงียบ ดังนั้น..อยากจะบอกสมาชิกในห้องนี้ว่า มีคนอีกจำนวนมากเป็นอย่างนี้จริงๆ มันเหมือนโดนมนต์สะกด และอย่าไปคิดหวังว่า จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขาได้ด้วย