มีคนบอกกับผมว่า...
ถ้าลูกทักษิณเอาหุ้นไปขายให้ เทมาเสก "นอกตลาดหลักทรัพย์" ก็ควรจะต้องเสียภาษีมหาศาล แต่ลูกทักษิณหลังจากได้รับหุ้นจากพ่อ ซึ่งโดยหลักการยังไม่ต้องเสียภาษีในตอนที่รับ แต่จะไปเสียภาษีมหาศาลในตอนที่ขาย .. ในตอนจะขายหุ้นให้เทมาเสกนั้น น่าจะเคยทราบมาบ้างนะครับว่าเขาโอนหุ้นกลับเข้าไปขายในตลาดหลักทรัพย์ ! ! !
ชินวัตรทำเรื่องขอโอนหุ้นกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย (แต่มีความผิดในประเด็นไม่ได้แจ้งว่าถือหุ้นเป็นเปอร์เซนต์เกินกว่าที่กำหนด ซึ่งจะต้องแจ้งให้ตลาดทราบภายในเวลาที่กำหนด เพราะมัวแต่ยุ่งกับปัญหาที่ตามมาจนลืมแจ้ง ทำให้ถูกปรับ 8 ล้านบาท แต่ความผิดพลาดนี้ ไม่ได้ทำให้การโอนหุ้นกลับเข้าตลาดเป็นโมฆะ)
ชินวัตรทำการโอนกลับเข้าตลาดเสร็จเรียบร้อยก่อนการขายหุ้นไม่ถึงสัปดาห์
ชินวัตรขายหุ้นให้เทมาเสกในตลาดหลักทรัพย์ เหมือนการซื้อขายปกติทั่วไปครับ ต่างกันแค่ขนาดของ lot
คุณอาจจะงงว่าเขาทำได้อย่างไร.. เพราะการขายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่สามารถเจาะจงว่าจะขายให้ใครได้ คอมพิวเตอร์เป็นคนจัดการจับคู่ โดยใช้ราคาเป็นเงื่อนไข
เขาใช้วิธีตกลงเจราจานัดแนะกันข้างนอก ในวันนั้น หลังจากเปิดตลาดไม่นาน พอถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ ชินวัตรก็ทำรายการเสนอขายยก lot หลายร้อยล้านหุ้นในราคาที่ตกลงกันล่วงหน้า เทมาเสกก็ทำรายการเสนอซื้อในจำนวนและราคาเดียวกันเข้ามาในนาทีเดียวกัน
การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบนี้ ย่อมจะมีหุ้นของชาวบ้าน ที่เสนอซื้อเสนอขายขวางทางอยู่ในเวลานั้นติดร่างแหเข้าไปด้วยหลายหมื่นหุ้น แต่เขาไม่สนใจ เพราะเขาซื้อขายกันหลายร้อยล้านหุ้น ชาวบ้านใครที่บังเอิญเสนอขายวันนั้นก็เลยโชคดีไป
ตลาดหลักทรัพย์ตกใจ ที่มีเม็ดเงินและหุ้นเสนอซื้อขายเข้ามาอย่างมโหฬาร จนมีคำสั่งแขวนป้ายห้ามซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ในเวลาต่อมาทางชินคอร์ปจึงแจ้งเรื่องให้ทราบ ทางตลาดจึงอนุญาตให้ซื้อขายต่อในตอนบ่าย
สรุปว่า ชินวัตร-เทมาเสก ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ จึงไม่เสียภาษีจำนวนมหาศาล
ชินวัตรมีสิทธิที่จะเลือกเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 0.5% (ประมาณ 370 ล้าน) ตามกติกาตลาดหลักทรัพย์ หรือจะขอยกยอดไปเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลจำนวนมหาศาล.. เป็นรายได้ที่สามารถเลือกได้ แน่ละชินวัตรย่อมเลือกเสียภาษีสามร้อยเจ็ดสิบล้านบาทให้ตลาดหลักทรัพย์ จึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลให้สรรพากร
-----------------------------------
อยากทราบว่าที่เค้าบอกว่าชินวัตรเลือกที่จะเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 370 ล้าน แทนที่จะเสียภาษี หลายหมื่นล้านเป็นเรื่องที่ทำได้เหรอครับ...