ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
31-01-2025, 19:38
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  == "แม้ว"ขอยอมความนักธุรกิจมะกัน (คดีเบิกความเท็จ)== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
== "แม้ว"ขอยอมความนักธุรกิจมะกัน (คดีเบิกความเท็จ)==  (อ่าน 2374 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 06-07-2007, 07:10 »

เพิ่งไปเห็นข่าวคดีนี้ครับ คดีเงียบหายไปนานหลังจากทักษิณโดนยึดอำนาจ น่าเสียดายที่คงจะเป็นมวยล้มเสียแล้ว
แต่แม้วเองก็คงต้องจ่ายไม่ใช่น้อยๆ เพราะทางฝรั่งก็เคยเรียกค่าเสียหายเอาไว้ร่วม 6 พันล้านบาท

ผมว่าใครมีคดีค้างคากับทักษิณถ้าเร่งฟ้องตอนนี้จะได้เปรียบมาก เพราะทักษิณคงเจรจายอมความหมดทุกรายการ

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0115260650&day=2007/06/26&sectionid=0101
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"แม้ว"ขอยอมความนักธุรกิจมะกัน

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรก คดีที่นายวิลเลี่ยม ไลล์ มอนซัน ชาวอเมริกัน
ผู้บริหารบริษัท ซีทีวีซี ออฟฮาวาย จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจเคเบิลทีวีประเทศสหรัฐ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตประธานบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการ
ไอบีซี เคเบิลทีวี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเบิกความเท็จ ในคดีที่บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลฯ และบริษัท วีดีโอลิ้ง จำกัด ร่วมกัน
ยื่นฟ้องโจทก์เรียกค่าเสียหาย

นายประเมศร์ สูตะบุตร ทนายความนายวิลเลี่ยม ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ออกไปก่อน และแถลงว่า
ขณะนี้ตัวแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ติดต่อกับตัวแทนนายวิลเลี่ยม เพื่อประนีประนอมยอมความ ประกอบกับคดีแพ่งที่เป็นมูลเหตุ
ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลได้สอบถามนายสมบัติ เชาวน์ปรีชา ทนายความจำเลยแล้ว
แถลงรับเรื่องการติดต่อประนีประนอมระหว่างคู่ความ และเห็นควรให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ออกไป เป็นวันที่ 8 ตุลาคม

นายวิลเลี่ยมกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ติดต่อขอเจรจาประนีประนอมยอมความมาผ่านตัวแทน โดยเงื่อนไขยังไม่ยุติ จึงไม่อาจ
เปิดเผยได้ แต่ตนจะยอมรับเงื่อนไขหาก พ.ต.ท.ทักษิณยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น สิ่งที่ตนต้องการมากที่สุดคือความจริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2007, 07:13 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 06-07-2007, 07:19 »

สรุปที่มาที่ไปเผื่อว่าต้องการทบทวนความทรงจำครับ เขาทำไว้มีเนื้อหาครอบคลุมดีครับ

http://www.thaibead.net/index.php?page=news&id=14
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เปิดปมคดีอื้อฉาว "ไอบีซี" จากพันธมิตรกลายเป็นคู่พิพาท
 
ชั่วโมงนี้ นอกจากคดียุบพรรคไทยรักไทยที่รอคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังมีคดีปกครองที่ผู้เสียหายจากการกระทำของรัฐ
ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรีต่อศาลปกครอง อีกหลายคดี แต่นั่นก็ไม่น่าปริวิตกเท่ากับคดีอาญาที่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ
ในฐานะส่วนตัว

เพราะก่อนหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะร่ำรวยแสนล้าน และก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก กว่า 20 ปีที่แล้ว
เขาและครอบครัวชินวัตร ได้ทำธุรกิจเฉกเช่นเดียวกับนักธุรกิจทั่วไปๆ ที่ย่อมมีทั้งพันธมิตร คู่แข่ง และคู่พิพาทในคดีความ

"ประชาชาติธุรกิจ" ตามไปตรวจสอบคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลยุติธรรม พบว่า
มีคดีน่าสนใจอยู่ 3 คดี เป็นคดีแพ่ง 1 คดี คดีอาญา 2 คดี

ทั้งหมดมีคู่กรณีคนเดียวกันคือ นายวิลเลี่ยม ไลล์ มอนซัน ชาวอเมริกัน อดีตหุ้นส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
บริษัท อินเตอร์ เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือที่รู้จักกันดีในชื่อไอบีซี เคเบิลทีวี (ก่อนจะควบรวมกับ ยูทีวี
ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ กลายเป็นยูบีซีในปัจจุบัน)

นายมอนซันเป็นเจ้าของบริษัทซีทีซี อ๊อฟฮาวาย ประกอบกิจการเคเบิลทีวีในสหรัฐอเมริกา รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณเพราะ
นายประมุท สูตะบุตร ผู้อำนวยการ อ.ส.ม.ท.ในขณะนั้น (ปี 2529) เป็นผู้แนะนำ จนทั้งสองตกลงเป็นหุ้นส่วนร่วมกันจัดตั้ง
บริษัทวีดีโอลิ้ง เพื่อทำธุรกิจเคเบิลทีวี

นายประมุทกล่าวกับประชาชาติธุรกิจว่า

ตนรู้จักทั้ง 2 ฝ่าย นายบิล (วิลเลี่ยม ไลล์ มอนซัน) เป็นเจ้าของบริษัทโทรทัศน์ในซีแอตเติลและฮาวาย สนใจอยากลงทุนในประเทศไทย
แต่ขาดคนบริหารจัดการ ผมก็ติดต่อให้รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนรู้จักผ่าน อิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ มาอีกที ตอนแรก บิลพักอยู่แถว
สาทร ก็ย้ายมาเช่าอยู่แถวราชวัตร เพื่อมาอยู่ใกล้ๆ กัน

ทั้งสองทำสัญญาตกลงกันว่าจะให้บริษัทไอบีซีที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นประธาน เป็นผู้ขออนุญาตคลื่นความถี่จากกรมไปรษณีย์โทรเลข
แล้วโอนสิทธิ์ให้บริษัทวีดีโอลิ้งดำเนินการ เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วจึงนำเข้าอุปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาในนามบริษัทวีดีโอลิ้งทดลอง
ออกอากาศอยู่ 3 เดือน ปรากฏว่าคณะรัฐมนตรีรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีมติระงับการออกอากาศ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณถอดใจ
ขายหุ้นบริษัทวีดีโอลิ้งให้แก่นายมอนซัน

"พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า เมีย (นางพจมาน ในขณะนั้นยังไม่ได้คุณหญิง) ด่าทุกวัน ทำธุรกิจเจ๊ง ไม่อยากทำแล้ว อยากขายทิ้ง นายบิล
มีความพร้อมสูงสุดก็ตกลงซื้อไว้แทนทั้งหมด แต่นายบิลไม่มีใบอนุญาต และไม่มีเส้นสายในประเทศไทย ในการประสานงานกับผู้ใหญ่
จึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณช่วยเหลือในการประสานงาน และยินดีจ่ายค่าเหนื่อย โดยเปิดบัญชีที่แบงก์ใน

ซีแอตเติล แล้วโอนค่าตอบแทนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งละ 5 พันเหรียญ โดยมีการโอนเงิน 8 ครั้ง เรื่องนี้มีหลักฐาน ครบถ้วนสมบูรณ์"
นายประมุทกล่าว

จนกระทั่งปี 2532 สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ บริษัทไอบีซีของ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถขอสัมปทานเคเบิลทีวีจาก
อ.ส.ม.ท.ในยุค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลโดยมีเงื่อนไขว่าจะส่งมอบอุปกรณ์ต่างๆ
ที่นำเข้ามาตั้งแต่ปี 2529 ให้แก่ อ.ส.ม.ท.

ตรงจุดนี้เองที่กลายเป็นข้อพิพาทระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณกับนายมอนซัน (หรือนายบิล) เพราะนายบิลเห็นว่าสัมปทานดังกล่าวควรเป็น
ของตนเอง ไม่ใช่สัมปทานของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะตนเองเป็นเจ้าของกิจการ และจ่ายค่าตอบแทนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นค่าบริหาร
จัดการ รวมถึงค่าเลี้ยงรับรองผู้ใหญ่ทุกบาททุกสตางค์

คดีแรก นายมอนซันฟ้องไอบีซี และ พ.ต.ท. ทักษิณว่าผิดสัญญาที่ไม่โอนสิทธิในการดำเนินการเคเบิลทีวีให้วีดีโอลิ้ง
แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง โจทก์ไม่อุทธรณ์

คดีที่สอง บริษัทไอบีซีแจ้งความดำเนินคดีนายมอนซันและพวกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ที่ สน.ทองหล่อ เพราะไม่ยอมคืน
อุปกรณ์สื่อสารที่นำเข้าในนามบริษัทวีดีโอลิ้ง

นายประมุทเล่าว่า นายบิลหรือนายมอนซัน หนีหัวซุกหัวซุน เพราะไม่มีค่าประกันตัว 6 ล้านบาท แต่ลูกน้องของนายบิลหนีไม่รอด
ถูกจับกุมดำเนินคดี ทว่า คดีนี้ ทั้งสามศาลสั่งยกฟ้อง (คดีดำเลขที่ 7519/2532 และคดีแดงเลขที่ 11790/2533) ว่านายมอนซัน
ไม่มีเจตนายักยอก แต่เป็นการพิพาทกันในเรื่องสัญญาซื้อขาย ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่ง

คดีที่สาม เมื่อศาลยกฟ้องในคดียักยอกทรัพย์ บริษัทไอบีซีจึงฟ้องนายมอนซันกับพวกในทางแพ่งในเรื่องผิดสัญญาซื้อขายและสัญญายืม
(คดีดำที่ 11169/2537 และคดีแดงที่ 5387/2544) เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2537 ปรากฏว่าศาลแพ่งกรุงเทพใต้และศาลอุทธรณ์
สั่งยกฟ้อง (เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2547) เพราะนายมอนซันมีสัญญาซื้อขาย ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา

คดีที่สี่ หลังจากที่ศาลยกฟ้องนายมอนซันคดียักยอกทรัพย์แล้ว ในปี 2538 นายมอนซันได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณและพวกต่อ
ศาลอาญากรุงเทพใต้ในข้อหาแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จและเบิกความความเท็จ (คดีดำที่ 3200/2538) แต่ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
ไว้ชั่วคราวเพื่อรอผลคดีผิดสัญญาซื้อขาย ยืม (คดีที่สาม) จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 นายมอนซันจึงขอให้ศาลนำคดี
ขึ้นมาพิจารณาคดีใหม่

นอกจากนี้ นายบิลหรือมอนซัน ยังไปฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณที่ศาลรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา แต่คู่ความอ้างว่า เรื่องเกิดขึ้นในประเทศไทย
จึงพิจารณายกฟ้อง

ในคดีร้อนๆ ที่นายบิลฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องทุกวันจันทร์ ติดต่อกัน คือ ในวันที่ 18, 25 กันยายน 2549, 9 ตุลาคม
และนัดฟังคำสั่งว่าจะรับคดีไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที่ 16 ตุลาคม 2549

แม้วันที่ 16 ตุลาคม ยังไม่ใช่วันตัดสินหรือ พิพากษา แต่ถ้าศาลรับคดีไว้พิจารณาเนื่องจากคดีมีมูล พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องยื่นประกันตัวต่อศาล

คดีที่ห้า นายมอนซันยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้อีกคดี ในข้อหาเบิกความเท็จในข้อสำคัญ
แห่งคดีในคดีผิดสัญญาซื้อขาย ยืม (คดีที่สาม) ในหลายประเด็นโดยมีความประสงค์ว่า ตนเองยังเป็นเจ้าของอุปกรณ์สื่อสาร ศาลนัด
ไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 11 กันยายน 2549

คดีสำคัญคือ คดีอาญาที่นายมอนซันฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ 2 คดีนั้นมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172,
175 และ 177) ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ค่อยสบายใจนัก

เพราะคดีนี้อุบัติขึ้นในกระแสตุลาการภิวัตน์ และเป็นคดีที่ศาลจะรับตัดสินว่าจะรับพิจารณาหรือไม่รับพิจารณา หลังจากวันเลือกตั้ง
15 ตุลาคม แค่ 1 วัน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ คำพูดของใครบางคนได้วิจารณากระบวนการยุติธรรม อย่างไม่ค่อยถูกกาลเทศะ
วันนี้ กรรมในอดีตอาจตามมาสนองในเร็ววัน

นายประมุท ในฐานะ matchmaker ของดีลอื้อฉาวไอบีซีกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเป็นคนอยู่ตรงกลาง รู้จักทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี ถ้าวันหนึ่ง
ทั้งสองจะเจรจาประนีประนอมยอมความกัน ย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพราะทะเลาะกันไปก็เสียหายทั้งสองฝ่าย ถ้าจบลงได้ พ.ต.ท.ทักษิณ
ก็ไม่ต้องถูกแฉ กลางศาล ในขณะที่นายบิลก็อาจกลับมาเป็นเพื่อนกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกครั้ง

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3819 (3019)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2007, 07:26 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #2 เมื่อ: 06-07-2007, 07:33 »

นายวิลเลี่ยมกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ติดต่อขอเจรจาประนีประนอมยอมความมาผ่านตัวแทน โดยเงื่อนไขยังไม่ยุติ จึงไม่อาจ
เปิดเผยได้ แต่ตนจะยอมรับเงื่อนไขหาก พ.ต.ท.ทักษิณยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น สิ่งที่ตนต้องการมากที่สุดคือความจริง


  Billy the Kid
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #3 เมื่อ: 06-07-2007, 07:51 »

"......... แต่นายบิลไม่มีใบอนุญาต และไม่มีเส้นสายในประเทศไทย ในการประสานงานกับผู้ใหญ่
จึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณช่วยเหลือในการประสานงาน และยินดีจ่ายค่าเหนื่อย โดยเปิดบัญชีที่แบงก์ใน

ซีแอตเติล แล้วโอนค่าตอบแทนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งละ 5 พันเหรียญ โดยมีการโอนเงิน 8 ครั้ง เรื่องนี้มีหลักฐาน ครบถ้วนสมบูรณ์" นายประมุทกล่าว



ถ้าหลักฐานการรับเงินมีอยู่จริง  ได้เงินแล้ว แถมยังไปฮุบกิจการที่ควรได้มาโดยชอบของเขา และยังฟ้องร้องเขาจนเกือบติดคุกอีก

คนแบบนี้แหละที่คดในข้อ งอในกระดูกจริงๆ   แต่ผมก็สนับสนุนให้ฝรั่งยอมความนะครับ  ได้เงินคืน ได้ศักดิ์ศรีคืนแล้วเลิกรากันไปเหอะ  แต่ขอให้เรียกเยอะๆ  เรียกให้คุ้ม

ถ้าไม่ยอมความ ผมสนับสนุนให้นายมอนซอนเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้รัฐสภาสหรัฐ เอาไปอภิปรายในกรณีจ้างล็อบบี้ยิสต์อเมิรกัน เพื่อตอกย้ำพฤติกรรมฉ้อโกงของทักษิณที่จ้างบริษัทล้อบบี้ยิสต์อเมิรกันกู้ภาพพจน์ให้  เป็นการทำลายเครดิตของบริษัทล้อบบี้ยิสต์แห่งนั้นไปด้วย
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 06-07-2007, 08:10 »

นายประมุท ในฐานะ matchmaker ของดีลอื้อฉาวไอบีซีกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเป็นคนอยู่ตรงกลาง
รู้จักทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี ถ้าวันหนึ่งทั้งสองจะเจรจาประนีประนอมยอมความกัน ย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพราะทะเลาะ
กันไปก็เสียหายทั้งสองฝ่าย ถ้าจบลงได้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ต้องถูกแฉ กลางศาล ในขณะที่นายบิลก็อาจกลับมาเป็น
เพื่อนกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกครั้ง


..ข้าพเจ้าอยากให้โดนแฉจังเลย จะได้เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ผู้คนทั่วไปเสียที 
ว่าคนที่มีกำพืดเป็นคนฉ้อฉล จะทำกิจใดก็ไม่วายฉ้อฉล ไม่วายเอารัดเอาเปรียบ
หวังว่านายบิลนั่นจะหลาบจำว่าเคยโดนอย่างไร คดีความถึงที่สุดแล้วค่อยอโหสิทีหลัง

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #5 เมื่อ: 06-07-2007, 08:29 »

ทำไมเราให้คนเลวแบบนี้ ครองประเทศได้เกือบแปดปีค่ะ เราคนไทยโง่จริงๆๆนะ  
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #6 เมื่อ: 06-07-2007, 09:56 »

ถ้าจะยอมความกันต้องให้ทักษิณลงประกาศเรื่องราวความเป็นจริง
ใน นสพ.ชื่อดังอย่างน้อย 3ฉบับ ติดต่อกัน 7 วัน
ขืนไปตกลงกันลับๆ เกิดวันไหนเหลี่ยมเปลี่ยนใจ
มาฟ้องว่าฝรั่งขู่เข็ญ black mail ขึ้นมา
กว่าเรื่องจะจบฝรั่งคงแก่ตายก่อน
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #7 เมื่อ: 06-07-2007, 10:30 »

คดีนี้ น่าเอาไปเปิดเผยให้คนอังกฤษเขารู้กัน เพราะเป็นคดีที่เกิดในสมัยทักษิณครองอำนาจด้วย จะมาอ้างว่ามีเผด็จการครอบงำศาลคงไม่ได้ และเห็นชัดๆว่าทักษิณพยายามถ่วงคดีตลอดมา 

แต่คดีนี้ หากนำไปถามพวกไข่แม้วดำ เขาต้องว่าฝรั่งกลั่นแกล้ง เหมือนคดีเช็คเด้งที่ศาลสั่งให้ชดใช้เงิน เขาก็จะบอกว่าละเมอเซ็นเช็ค 

แต่ถึงจะยอมความกันอย่างไร การยอมความนั้นฝรั่งคงไม่โง่ที่จะถอนฟ้องก่อนรับเงิน และเงินที่จะต้องชดใช้นั้น จะต้องบันทึกไว้เป็นหลักฐานสมบูรณ์ เป็นพยานนยืนยันได้ว่าโกงเขามาจนต้องชดใช้ในจำนวนเท่าไหร่ค่ะ 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 06-07-2007, 10:58 »

ความจริงเป็นอย่างไร ทั้งสองฝ่ายย่อมทราบเป็นอย่างดี

แต่ในฐานะที่เป็นประวัติของบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการบริหารประเทศ

ก็ควรทำความจริงให้กระจ่าง

การยอมความ ก็ชวนให้คิดว่า ทักษิณแจ้งความเท็จ และ โกงเงินชาวบ้าน

เพราะคนแบบทักษิณ ยอมรับความผิดง่าย ๆ ซะที่ใหน
บันทึกการเข้า

truly
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 253


« ตอบ #9 เมื่อ: 06-07-2007, 21:23 »

ไอ้แม้วมันคงไม่อยากมีเรื่องกะฝรั่งตอนนี้
เพราะมันคงอยากสร้างภาพให้ต่างชาติเห็นว่า ถูก คมช.กลั่นแกล้งอย่างเดียว

ถ้ามีเจ้าทุกข์เป็นฝรั่งขึ้นมาอีกราย เดี๋ยวจะมีปัญหากับฝรั่งที่มันจะไปขอซุกหัวลี้ภัย...
บันทึกการเข้า
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #10 เมื่อ: 07-07-2007, 07:27 »

ไอ้แม้วมันคงไม่อยากมีเรื่องกะฝรั่งตอนนี้
เพราะมันคงอยากสร้างภาพให้ต่างชาติเห็นว่า ถูก คมช.กลั่นแกล้งอย่างเดียว

ถ้ามีเจ้าทุกข์เป็นฝรั่งขึ้นมาอีกราย เดี๋ยวจะมีปัญหากับฝรั่งที่มันจะไปขอซุกหัวลี้ภัย...

อันนี้เห็นด้วยสุดๆ  ถ้านายบิลไม่ใช่ฝรั่งชาติอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่นายแม้วยังต้องพึ่งพา ปธน.บุช และล็อบบี้ยิสต์แล้วล่ะก้อ  อาจไม่ยอมความง่ายๆ ก็ได้  ตอนนี้นายแม้วต้องการรักษาภาพลักษณ์ของผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องในสายตาของชาวต่างชาติยิ่งกว่าในสายตาของคนไทย  หากถูกแฉกลางศาลโดยมีหลักฐานอ้างอิง คงหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยโกหกต่อชาวต่างชาติ  จะเรียกหาความเป็นธรรมจากใครได้อีก

เชื่อว่า เงินยอมความน่าจะเป็นหลัก 100 ล้านบาทขึ้นไปแน่นอน  แต่ถ้ามากกว่านี้  คนอย่างนายแม้วคงไม่เอา ไม่ใช่ไม่มีตังค์จ่าย  แต่เป็นคนขี้เหนียวแบบ เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย ทำนองนั้น
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 07-07-2007, 07:35 »

ผมว่าสำหรับฝรั่งนี่ 100 ล้านบาทนี่กระจอกมากครับ 3 ล้านกว่าดอลล่าร์เอง ใช้ลงทุนอะไรใหญ่ ๆ ไม่ได้เลยครับ เปิดร้านอาหารไทยดี ๆ ที่เมกาได้ไม่เกิน 10 ร้าน ทาวน์เฮ้าเก่า ๆ ห้องนอนเดียว ไม่มีที่จอดรถแถวจอร์จทาวน์ก็เกือบ 4 แสนดอลล่าร์เข้าไปแล้ว
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: