บ้านรามอินทรา
|
|
« เมื่อ: 13-06-2007, 08:32 » |
|
สำหรับผมไม่เห็นด้วยเลย เพราะโทษประหารชีวิตมีไว้ปรามคนเลวที่คิดจะทำ ถ้าไม่มีโทษประหารชีวิตแล้ว อาจจะมีการรับจ้างฆ่าคน ติดคุกไป ทำตัวดีๆ มีการอภัยโทษ อาจจะออกมาได้เร็วขึ้น เพื่อใช้เงินค่าจ้างที่ไปรับฆ่าคนเอาไว้ ใครเป็นเจ้าของไอเดีย นี้เนี่ย อีก1เรื่อง การให้ตำรวจสามารถตรวจค้นได้โดยไม่มีหมายศาล อันนี้ ค้านอย่างแรง เป็นการให้อำนาจตำรวจมากเกินไป สามารถตรวจค้นได้ทุกคน ถ้าพอใจจะตรวจค้น คิดดู ถ้าตำรวจคนนั้น ไม่ใช่คนดีละ อะไรจะเกิดขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 13-06-2007, 08:44 » |
|
ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกประหาร ในทางตรงกันข้าม อยากให้เพิ่มความผิดที่มีโทษประหารด้วย พวกทำผิดซ้ำซากไม่สำนึก เข้าออกคุกเหมือนคุกเป็นบ้าน ฯลฯ
และให้สร้างกระบวนการตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากขึ้น แพะจะได้หมดไป คนที่ชั่วจริงจะได้รับโทษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 13-06-2007, 08:51 » |
|
ถ้ายกเลิกโทษประหารเมื่อไหร่ ประเทศไทยก็กลายเป็นสวรรค์ของโจร - ผู้กว้างขวาง - นักการเมือง - พ่อค้า ( ทั้งสัญชาติไทยและต่างชาติ ) แต่จะกลายเป็นนรกของคนหาเช้ากินค่ำ - ลูกจ้างเงินเดือน - คนเดินดินกินข้าวแกง
แล้วเราก็จะเหมือน "อเจนตินา" เข้าไปอีกนิด คืออาชีพ "บอร์ดี้การ์ด - คนขับรถ - คนรับจ้างทวงหนี้ - ทนายหน้าหอ" จะกลายเป็นเรื่องปกติ
ซึ่งก็ดี ...เหมาะกับประเทศนี้ เพราะชนชั้นเทวดา ( พวกนักวิชาการ - สื่อมวลชน ) มักหาเรื่องดัดจริต ๆ เอาหน้ามาทำลายรูปแบบ "เก่า ๆ" จนความสงบสุขแบบเดิม ๆ ที่ "ควบคุมดูแลกันด้วยแนวทางเดิม ๆ" มันหมดสิ้นไปหมดแล้ว ...ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ ก็คือเรื่องเด็ก - เยาวชน ไม่ใช่้เพราะ "ไอ้พวกผู้ใหญเอาหน้่า" หรอกหรือ ที่ "หาข้ออ้าง - กลบเกลื่อนให้เด็ก" จนเด็ก ๆ ในบ้านเมืองนี้กำลังจะเป็นเฮี่ยไปหมดแล้ว ...โง่ - หยาบคาย - อารมณ์ร้าย - ไร้สัมมาคารวะ - ไม่รู้สึกไม่รู้สา ( ต่อความชั่ว - ความเลว ) - เห็นแก่ตัว - โกหกซึ่งหน้า - สร้างภาพ - ตอแหล ฯลฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 13-06-2007, 08:53 » |
|
ไม่เห็นด้วยครับ ส่วนเหตุผล ตามที่ข้างบนได้กล่าวไว้แล้ว (ขี้เกียจพิมพ์ใหม่อ่ะ )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 13-06-2007, 09:01 » |
|
เห็นด้วยค่ะ ตราบใดที่ตำรวจไทยชอบจับแพะ หนูก็ไม่อยากให้แพะต้องตายก่อนที่ความจริงจะปรากฏ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 13-06-2007, 09:50 » |
|
ถ้ายกเลิกโทษประหารเมื่อไหร่ ประเทศไทยก็กลายเป็นสวรรค์ของโจร - ผู้กว้างขวาง - นักการเมือง - พ่อค้า ( ทั้งสัญชาติไทยและต่างชาติ ) แต่จะกลายเป็นนรกของคนหาเช้ากินค่ำ - ลูกจ้างเงินเดือน - คนเดินดินกินข้าวแกง
แล้วเราก็จะเหมือน "อเจนตินา" เข้าไปอีกนิด คืออาชีพ "บอร์ดี้การ์ด - คนขับรถ - คนรับจ้างทวงหนี้ - ทนายหน้าหอ" จะกลายเป็นเรื่องปกติ
ซึ่งก็ดี ...เหมาะกับประเทศนี้ เพราะชนชั้นเทวดา ( พวกนักวิชาการ - สื่อมวลชน ) มักหาเรื่องดัดจริต ๆ เอาหน้ามาทำลายรูปแบบ "เก่า ๆ" จนความสงบสุขแบบเดิม ๆ ที่ "ควบคุมดูแลกันด้วยแนวทางเดิม ๆ" มันหมดสิ้นไปหมดแล้ว ...ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ ก็คือเรื่องเด็ก - เยาวชน ไม่ใช่้เพราะ "ไอ้พวกผู้ใหญเอาหน้่า" หรอกหรือ ที่ "หาข้ออ้าง - กลบเกลื่อนให้เด็ก" จนเด็ก ๆ ในบ้านเมืองนี้กำลังจะเป็นเฮี่ยไปหมดแล้ว ...โง่ - หยาบคาย - อารมณ์ร้าย - ไร้สัมมาคารวะ - ไม่รู้สึกไม่รู้สา ( ต่อความชั่ว - ความเลว ) - เห็นแก่ตัว - โกหกซึ่งหน้า - สร้างภาพ - ตอแหล ฯลฯ
ผมว่านั่นเพราะกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดมากกว่า ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับมี-ไม่มีโทษประหารอย่างเดียว แต่พูดก็พูดเถอะ โทษฆ่าตัดตอนยังมีมาแล้ว โทษประหารเด็กๆ ไปเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
::วิญญาณห้อง2::
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 13-06-2007, 10:15 » |
|
ไม่เห็นด้วย อย่างที่สุด
ตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่มีคุณธรรม ผู้คนในสังคมไม่มีจริยธรรม ก็ไม่สมควร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
--------this is the world-------
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 13-06-2007, 11:38 » |
|
เรื่องโทษประหาร ในแต่ละสังคมมีความจำเป็นต่างกัน
การคงไว้โดยไม่ใช้หรือไม่พิพากษาสั่งประหารกันง่ายๆ น่าจะมีผลดีมากกว่า
โทษนี้น่าจะมีไว้สำหรับนักการเมืองและข้าราชการระดับสูงที่ ตระบัดสัตย์ คำปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 13-06-2007, 12:04 » |
|
เห็นด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
Ires
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 13-06-2007, 12:18 » |
|
หากยกเลิกโทษประหาร ต่อไปเวลาปล้นก็ต้องฆ่าเจ้าทรัพย์ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการปล้น หากโดนจับได้ติดคุก ก็ค่อยหาทางฆ่าผู้คุมแล้วแหกคุก ระหว่างการหลบหนีก็ปล้นฆ่าไปตลอดทาง เพราะมันคุ้ม อย่างไรก็ไม่โดนประหาร จับได้เมื่อไรก็ค่อยแหกคุกอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 13-06-2007, 12:20 » |
|
ธาตุแท้ของคนเลว อาชญากรโดยสันดาน
มักขาดสติ แล้วก็ บ้า ก้าวร้าวรุนแรง ทางอารมณ์
บางรายก็เบี่ยงเบนอย่างเงียบๆ นิยมเผด็จการ
ติดยึดในสิ่งใดๆแบบขาดสมดุล จนผลปรากฎในการดำรงค์ชีวิตปกติ
ในสภาพแวดล้อมต่างๆ บางพวกก็ชอบแอบแฝงชักใยเงียบๆ
เป็นพวกอำนาจนิยมสุดโต่ง แบบฮิตเลอร์และหรือพวกซ้ายตกขอบ พวกก่อการร้าย พวกนีโอคอนฯ พวกดื้อด้านหนา8ศอก ก็เป็นได้ทั้งนั้น..
ตรงนี้สงวนไว้ให้เป็นอำนาจของตุลาการดีแล้วครับ สำหรับสังคมไทยเรา ตราบใดที่ยังเกิดเหตุ มีการวิสามัญฆาตกรรมหรืออุ้มฆ่า การยกเลิกโทษประหารจะยิ่งปลุกเร้าความรุนแรง..
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2007, 12:30 โดย ********Q******** »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 13-06-2007, 12:49 » |
|
ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกประหาร ในทางตรงกันข้าม อยากให้เพิ่มความผิดที่มีโทษประหารด้วย พวกทำผิดซ้ำซากไม่สำนึก เข้าออกคุกเหมือนคุกเป็นบ้าน ฯลฯ
และให้สร้างกระบวนการตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากขึ้น แพะจะได้หมดไป คนที่ชั่วจริงจะได้รับโทษ
ถ้าคนที่เห็นด้วย.... ขอต่อรองว่า ให้ยกเลิกหลังการพิจารณาคดีของเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก เสร็จสิ้นแล้ว คุณ login not found จะยอมรอมชอม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
meriwa
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 13-06-2007, 15:16 » |
|
ไม่เห็นด้วย เหมือนกัน และน่าจะมีบทลงโทษต่างๆ ให้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ขนาดมีกฏหมายมันยังแถกันขนาดนี้
ถ้าไม่มีมันจะขนาดไหน
เห็นด้วยกับคุณ qazwsx ที่บ้านเรามีพวกนักวิชาเกินทั้งหลาย มักอ้างเรื่องสิทธิมนุษย์ชนมาอ้าง
คนพวกนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกมีกะตัง เรียนจบเมืองนอกเมืองนา ไม่เคยรับรู้ว่าคนไทยมีนิสัยเป็นอย่างไร
การไปนำเอาระบบต่างๆมาใช้ โดยไม่ดูรากเหง้าของตัวเองว่ามันเหมาะกันหรือเปล่า ก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้มันมากขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
justy
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 13-06-2007, 15:37 » |
|
กฏหมายไทยปกติก็อ่อนปวกเปียกอยู่แล้ว แม้จะมีโทษประหาร แต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไร
ถ้าจะยกเลิกโทษประหารชีวิต ก็เท่ากับว่า บ้านนี้เมืองนี้ ไม่มีกฏหมายอะไรเลย
ใครจะทำอะไรก็ได้ ข่มขืนแล้วฆ่า ไม่พอใจใครก็ไปยิงหัวมันทิ้งซะ ติดคุกไม่กี่ปีก้ได้ออกมาแล้ว
เพราะฉะนั้นไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิก พร้อมกันนี้ก็อยากให้เพิ่มโทษด้วยซ้ำค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 13-06-2007, 16:02 » |
|
ถ้าคนที่เห็นด้วย.... ขอต่อรองว่า ให้ยกเลิกหลังการพิจารณาคดีของเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก เสร็จสิ้นแล้ว คุณ login not found จะยอมรอมชอม น่าเสียดายที่พิจารณาแล้วอย่างหนัก เหลี่ยมก็โดนแค่โทษคุกและยึดทรัพย์ แต่เหลี่ยมก็คงหาวิธีหนีออกนอกปประเทศ อยู่อย่างสุขสบายตลอดชาติ ช่างน่าอนาถกับกฎหมายเมืองไทยเสียจริงๆ เมื่อไหร่พวกขายชาติจะต้องเอาความตายชดใช้ความผิดเสียที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลับ ลวง พราง
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 13-06-2007, 17:07 » |
|
ไม่เห็นด้วย คนบางคนมันสมควรตายจริงๆ เรื่องอะไรต้องเสียงบประมาณเลี้ยงพวกมันอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ"
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 13-06-2007, 17:42 » |
|
ปัญหานี้เป็น paradox ที่เถียงกันได้ทุกยุคทุกสมัย นักปราชญ์สมัยโบราณเคยกล่าวเอาไว้ว่า หากคนชั่วเกรงกลัวต่อการลงโทษ โลกเราก็ไม่มีอาชญากรรมไปนานแล้วตอนลงมือทำชั่ว ผมไม่คิดว่าคนลงมือจะคิดว่าตนเองจะโดนจับได้หรอกครับ ส่วนคนที่กลัวจะโดนจับได้ เขาก็เลือกที่จะไม่ลงมือประกอบอาชญากรรม ไม่ว่าโทษจะเบาหรือหนักขนาดใหน ส่วนผู้ที่สนับสนุนให้มีการลงโทษประหารชีวิต หากวันหนึ่งตนเองหรือคนในครอบครัวที่ตนเองรักกลายเป็นแพะ และโดนตัดสินประหารชีวิต จะรู้สึกได้ทันทีว่าไม่มีใครที่มีสิทธิมาตัดสินประหารชีวิตตนเอง เห็นหนังฝรั่งเอาเรื่องทำนองนี้มาสรางเป็นหนังให้ดูหลายเรื่องแล้ว ทั้งในมุมมองของนักโทษซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งในมุมมองของญาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี สำหรับผม คนที่จะมีสิทธิประหารชีวิตผมได้มีอยู่สองคนเท่านั้น คือ พ่อกับแม่ เพราะเป็นเจ้าของชีวิตเราอย่างแท้จริง เห็นด้วยที่จะให้ยกเลิกโทษตัดสินประหารชีวิต แต่ต้องหลังจากคดีต่างๆ ของ พณ ท่านทักษิณ เสร็จสิ้นในชั้นศาลแล้วนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 13-06-2007, 18:36 » |
|
สิทธิในชีวิตได้รับความคุ้มครองในระดับหนึ่งเท่านั้น
แม้เจ้าของชีวิต ก็ไม่สิทธิที่สมบูรณ์ในชีวิตของตนเองมากไปกว่าธรรมชาติและสังคม
ทุกคนต้องตายเมื่อเวลานั้นมาถึง จะยืดออกไปเพียงอีกสักครู่ก็ไม่ได้..
นี่ก็เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับโดยปริยาย..ฝืนธรรมชาติไปรังแต่วุ่นวายเดือดร้อน..
โทษประหารนั้นมีไว้สำหรับโจรไม่สำนึกผิดเท่านั้น ศาลท่านทราบดี ท่านไม่ได้ตัดสินคดีประเภทนี้ด้วยอคติ แต่เพื่อปกป้องคนดีไม่ให้เดือดร้อนเพราะคนเหล่านี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 13-06-2007, 18:56 » |
|
สิทธิในชีวิตได้รับความคุ้มครองในระดับหนึ่งเท่านั้น
แม้เจ้าของชีวิต ก็ไม่สิทธิที่สมบูรณ์ในชีวิตของตนเองมากไปกว่าธรรมชาติและสังคม
ทุกคนต้องตายเมื่อเวลานั้นมาถึง จะยืดออกไปเพียงอีกสักครู่ก็ไม่ได้..
นี่ก็เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับโดยปริยาย..ฝืนธรรมชาติไปรังแต่วุ่นวายเดือดร้อน..
โทษประหารนั้นมีไว้สำหรับโจรไม่สำนึกผิดเท่านั้น ศาลท่านทราบดี ท่านไม่ได้ตัดสินคดีประเภทนี้ด้วยอคติ แต่เพื่อปกป้องคนดีไม่ให้เดือดร้อนเพราะคนเหล่านี้ สำหรับผมยืนยันว่ามีสิทธิในชีวิตตนเองอย่างสมบูรณ์ รับรองว่าผมฆ่าตัวตายเองก่อนที่จะมีใครนำไปประหารชีวิตแน่ ส่วนที่บอกว่าโทษประหารมีไว้สำหรับโจรที่ไม่สำนึกผิดเท่านั้น เวลาที่ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นจำเลยที่ตนเองไม่ได้ทำผิดนั้น ผู้ที่มีศักดิศรีย่อมไม่ยอมรับสารภาพผิดในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำแน่นอน ดังนั้นเขาสมควรต้องโทษประหารมากกว่าอาชญากรที่สารภาพผิด อย่างนั้นหรือ?? คิดดีๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2007, 19:03 โดย sleepless »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 13-06-2007, 19:26 » |
|
สำหรับผมยืนยันว่ามีสิทธิในชีวิตตนเองอย่างสมบูรณ์ รับรองว่าผมฆ่าตัวตายเองก่อนที่จะมีใครนำไปประหารชีวิตแน่ ส่วนที่บอกว่าโทษประหารมีไว้สำหรับโจรที่ไม่สำนึกผิดเท่านั้น เวลาที่ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นจำเลยที่ตนเองไม่ได้ทำผิดนั้น ผู้ที่มีศักดิศรีย่อมไม่ยอมรับสารภาพผิดในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำแน่นอน ดังนั้นเขาสมควรต้องโทษประหารมากกว่าอาชญากรที่สารภาพผิด อย่างนั้นหรือ?? คิดดีๆ
มันอยุ่ที่พยานหลักฐานครับ อุทธรณ์ ฎีกาได้ด้วย..
บางพวกไม่อยากตายแกล้งบ้าก็มี อำนาจพิพากษาอยู่ในดุลยพินิจศาลดีแล้วครับ
ดีกว่าอยู่ในมือตำรวจหรือทหารติดอาวุธและคนร้ายใช้อาวุธเหมือนกัน เพราะสู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย หากขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 13-06-2007, 19:28 » |
|
-- กฏหมายและการลงโทษ เป็นเพียงการตั้งมาตรฐานขั้นต่ำ มาตรฐานที่สูงกว่านั้น มาจากวัฒนธรรมที่ร่วมสร้างความเข้าใจของกันและกันในสังคม
ขงจื๊อ
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าการลงโทษมีความชอบธรรมในขณะที่เราเป็นผู้กระทำเท่านั้น ตอนที่เราเป็นผู้ถูกกระทำ รับรองว่าไม่มีใครยอมรับว่าเป็นสิ่งชอบธรรมหรอก (ลองถามตัวเองดู)
ถ้าใครมาจับลูกผมไปขังเหมือนหมาหรือแมว ใครจะว่าผมไม่เคารพกฏหมายก็ตาม ผมว่าผมยอมไม่ได้แน่นอน หรือใครในนี้ยอมรับได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 13-06-2007, 19:36 » |
|
-- กฏหมายและการลงโทษ เป็นเพียงการตั้งมาตรฐานขั้นต่ำ มาตรฐานที่สูงกว่านั้น มาจากวัฒนธรรมที่ร่วมสร้างความเข้าใจของกันและกันในสังคม
ขงจื๊อ
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าการลงโทษมีความชอบธรรมในขณะที่เราเป็นผู้กระทำเท่านั้น ตอนที่เราเป็นผู้ถูกกระทำ รับรองว่าไม่มีใครยอมรับว่าเป็นสิ่งชอบธรรมหรอก (ลองถามตัวเองดู)
ถ้าใครมาจับลูกผมไปขังเหมือนหมาหรือแมว ใครจะว่าผมไม่เคารพกฏหมายก็ตาม ผมว่าผมยอมไม่ได้แน่นอน หรือใครในนี้ยอมรับได้
ถ้าเราไม่ปล่อยปละละเลย ข้อเท็จจริงคงไม่เป็นเช่นนั้น แต่ถ้าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนก็คงไม่มีใครยอมรับกฎหมายหรอกครับ
คงไม่ต้องไปถึงคำพิพากษาประหารชีวิต ซัดดัมเองก็ไม่ยอมรับคำตัดสิน บ้านเมืองอิรักก็ไม่ปกติ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพระเจ้าของเขา..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 13-06-2007, 19:44 » |
|
สำหรับผม การยอมรับโทษอย่างกล้าหาญ ดูมีศักดิ์ศรีมากกว่า
หากเราไม่ได้กระทำผิด ต้องการต่อสู้คดี ก็กระทำไปด้วยความรอบคอบไม่ประมาทอย่างถึงที่สุด
หากเราทำผิดแล้วไม่ยอมรับ โทษก็หนักไปตามส่วน
บุตรหลานก็ต้องสอนและปฏิบัติตามนั้น..เมื่อเรามั่นใจว่าไม่ผิดก็ต้องสู้คดีจนถึงที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
meriwa
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 13-06-2007, 19:48 » |
|
ปัญหานี้เป็น paradox ที่เถียงกันได้ทุกยุคทุกสมัย นักปราชญ์สมัยโบราณเคยกล่าวเอาไว้ว่า หากคนชั่วเกรงกลัวต่อการลงโทษ โลกเราก็ไม่มีอาชญากรรมไปนานแล้วตอนลงมือทำชั่ว ผมไม่คิดว่าคนลงมือจะคิดว่าตนเองจะโดนจับได้หรอกครับ ส่วนคนที่กลัวจะโดนจับได้ เขาก็เลือกที่จะไม่ลงมือประกอบอาชญากรรม ไม่ว่าโทษจะเบาหรือหนักขนาดใหน ส่วนผู้ที่สนับสนุนให้มีการลงโทษประหารชีวิต หากวันหนึ่งตนเองหรือคนในครอบครัวที่ตนเองรักกลายเป็นแพะ และโดนตัดสินประหารชีวิต จะรู้สึกได้ทันทีว่าไม่มีใครที่มีสิทธิมาตัดสินประหารชีวิตตนเอง เห็นหนังฝรั่งเอาเรื่องทำนองนี้มาสรางเป็นหนังให้ดูหลายเรื่องแล้ว ทั้งในมุมมองของนักโทษซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งในมุมมองของญาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี สำหรับผม คนที่จะมีสิทธิประหารชีวิตผมได้มีอยู่สองคนเท่านั้น คือ พ่อกับแม่ เพราะเป็นเจ้าของชีวิตเราอย่างแท้จริง เห็นด้วยที่จะให้ยกเลิกโทษตัดสินประหารชีวิต แต่ต้องหลังจากคดีต่างๆ ของ พณ ท่านทักษิณ เสร็จสิ้นในชั้นศาลแล้วนะ ไม่เห็นด้วยครับ สิ่งจูงใจในการกระทำผิด ไม่สามารถนำคำกล่าวใดๆ คำกล่าวหนึ่งมาอธิบายว่าเพราะอะไรเค้าถึงทำได้ทั้งหมด ต้องดูเป็นรายๆไป ผมคิดว่าไม่ใช่ว่าคนไม่กลัวกฏหมายหรอกครับ แต่เพราะเค้าไม่มีทางเลือกมากกว่า เหตุที่เค้าต้องทำผิด อาจเป็นเพราะเค้าคิดว่า ถ้าทำผิดแล้วจะได้อะไร และถ้าไม่ทำจะได้อะไร เช่นคนกำลังจะอดตาย จำเป็นต้องขโมยสิ่งของเพื่อหาข้าวกิน เจ้าของบริษัทยอมเสียค่าปรับจากการบรรทุกรถเกินน้ำหนัก เพื่อลดจำนวนเที่ยวในการขนส่ง เพราะค่าปรับมันน้อย คนที่ออกจากคุกมาไม่รู้จะทำอะไรเพราะบริษัทไม่รับเข้าทำงาน ก็ต้องเป็นโจรอีก เพราะไม่ทำก็อดตาย แต่ถามว่าคนมีเงินมีความรู้จะทำหรือไม่ ส่วนใหญ่ก็จะไม่ทำ เพราะมีทางเลือกที่ดีกว่า ส่วนคนมีเงินมีความรู้ที่ทำผิดส่วนใหญ่ มักเกิดจาก การขาดสติอารมย์ชั่ววูบ ไม่ใช่ว่าไม่กลัวกฏหมาย เรื่องจะจับได้หรือไม่ได้เค้าไม่สนอยู่แล้ว เพราะจับได้ เค้าก็รู้ว่าโทษไม่มาก เข้าคุกก็มีข้าวกิน ออกมาก็ทำใหม่ พวกนี้ไม่สนชีวิตอยุ่แล้ว การมีโทษอย่างน้อยก็เป็นการปรามคนที่คิดจะทำผิด ให้รู้จักมีสติกันมากขึ้น ให้เกิดความกลัวว่าถ้าทำผิดแล้วมันไม่คุ้มที่จะทำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
บ้านรามอินทรา
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 13-06-2007, 19:49 » |
|
ยกเลิกโทษประหารชีวิต เพื่อคุ้มครองคนดีและผู้บริสุทธ์ ที่อาจเป็นแพะ ในมุมกลับ อาจจะเร่งปฎิกริยาให้คนกล้าขึ้น กล้าที่จะทำผิด
คนดีที่อาจจะถูกประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต (ก็ซวยอยู่ดี) ซวยแบบตายทั้งเป็น หรือตายจริงๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการทางศาล ศาลเที่ยงธรรม ตำรวจเที่ยงธรรม ปัญหานี้ย่อมไม่เกิด จบในมุมของคนดีที่ถูกรังแก
คนชั่วละ โทษประหาร หรือไม่ประหาร แล้วอย่างไร คนที่กำลังจะชั่ว อาจจะกลัว อาจจะไม่กล้า ก้าวเดิน คนชั่วบางคน อาจจะแคร์หรือไม่แคร์ โทษประหาร แล้วคุณแคร์อะไร กับคนชั่วละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 13-06-2007, 20:19 » |
|
ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกโทษประหารชีวิต และไม่เห็นด้วยกับการใช้โทษประหารชีวิตในคดีอื่นๆ นอกจากคดีทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตเท่านั้น การลงโทษประหารชีวิต สำหรับผู้ที่สังหารชีวิตผู้อื่น จะเป็นการป้องกันการถูกสังหารชีวิตได้อย่างหนึ่ง อาชญากรจะทราบได้ทันทีที่สังหารผู้อื่นว่า ตนต้องถูกสังหารเช่นกัน หากท่านเคยชมภาพยนต์อาชญากรรมจากสหรัฐอเมริกา จะพบว่า สิ่งหนึ่งที่อาชญากรอเมริกันจะหลีกเลี่งมากที่สุดก็คือ การสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเขารู้ว่า เขาจะถูกตามล่า และสังหารอย่างแน่นอน วิธีที่ไม่ได้ประกาศไว้เป็นหลักการของตำรวจอเมริกันนี้ ช่วยชีวิตตำรวจอเมริกันไว้ได้เป็นจำนวนมาก หากประเทศไทยจะยึดหลักการนี้อย่างเหนียวแน่น ผู้ที่สังหารผู้อื่น จะต้องโทษประหารชีวิตอย่างแน่นอน หนูเชื่อว่า จำนวนอาชญากรรมที่มการสังหารชีวิต จะลดลง กรณีที่มีผู้วิจารณ์ว่า กฎหมายของไทยไม่รุนแรง ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้นนั้น ขอให้ความเห็นขัดแย้งไว้ว่า ไม่ได้เป็นดังนั้น กฎหมายของเรา รุนแรงเพียงพอที่จะหยุดยั้งอาชญากรรม แต่สิ่งที่ทำให้ล้มเหลวคือระบบราชทัณท์ ระบบราชฑัณท์ของไท ที่ดูแลโดยกรมราชฑัณท์กระทรงมหาดไทย พิการและใช้การไม่ได้ การดูแลนักโทษใช้หลักเมตตาธรรมผิดหลักการและวิธีการ เมตตาต่อนักโทษ แต่ไม่เมตตาต่อสังคมและผู้เสียหาย มุ่งหวังรักษาความสงบในเรือนจำ มากกว่ามุ่งหวังจะดัดนิสัยของอาชญากร ไม่แยกแยะอาชญากรโดยสันดาน ออกจากอาชญากรที่สามารถกลับใจได้ หรือผู้กระทำปผืดโดยประมาท และที่แย่มากที่สุด คือระบบพิจารณาลดโทษ ที่ไม่มีฝ่ายอื่นใดเข้าไปร่วมรับรู้ ไม่มีนักจิตวิทยา ไม่มีผู้เสียหาย ดูแลกันเองลดโทษกันเอง เราจึงพบว่า โทษจำคุก 20 ปี ติดห้าหกปีก็ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมอีกแล้ว หากจะแก้ไขสังคม ให้อาชญากรรมลดลง แก้ที่ระบบราชฑัณท์ กฎหมายส่วนใหญ่ในคดีอาญาปกติ ดีอยู่แล้วค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
meriwa
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 13-06-2007, 20:19 » |
|
ยกเลิกโทษประหารชีวิต เพื่อคุ้มครองคนดีและผู้บริสุทธ์ ที่อาจเป็นแพะ ในมุมกลับ อาจจะเร่งปฎิกริยาให้คนกล้าขึ้น กล้าที่จะทำผิด
คนดีที่อาจจะถูกประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต (ก็ซวยอยู่ดี) ซวยแบบตายทั้งเป็น หรือตายจริงๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการทางศาล ศาลเที่ยงธรรม ตำรวจเที่ยงธรรม ปัญหานี้ย่อมไม่เกิด จบในมุมของคนดีที่ถูกรังแก
คนชั่วละ โทษประหาร หรือไม่ประหาร แล้วอย่างไร คนที่กำลังจะชั่ว อาจจะกลัว อาจจะไม่กล้า ก้าวเดิน คนชั่วบางคน อาจจะแคร์หรือไม่แคร์ โทษประหาร แล้วคุณแคร์อะไร กับคนชั่วละ
ใช่ครับอันนี้เห็นด้วย บางทีเราห่วงแต่ตัวเรา ก็มักจะลืมคิดถึงคนอื่นเสมอ เป็นไปได้ยากครับว่าคนดีจะตายจากโทษประหารชีวิต แต่เป็นไปได้มากครับว่าคนดีๆ จะถูกฆ่าจากพวกคนขาดสติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 13-06-2007, 20:27 » |
|
ตอบว่า "เห็นด้วย"(กับการยกเลิกโทษประหารชีวิต) ไปครั้งนึงแล้ว จริง ๆ ว่า จะไม่ขยายความต่อ เพราะอาจจะเกิดการถกเถียงกันขนานใหญ่ แบบจบไม่เป็น เพราะทัศนคติ ในเรื่องนี้ ไม่ต่างจากเรื่อง "เขื่อน" หรือ ความเชื่อทางศาสนา เลย เถียงกันยังไง ก็ไม่มีทางยอมกัน (สมัยห้องราช ยังเป็นปกติดี ผมเคยเถียงเรื่องนี้กับ "นายเจ็ดตัวอักษร" แบบ สองคน มีคนอื่นแจมบ้างนิดหน่อย ปาเข้าไปเกือบร้อยความเห็น) ที่ผมเห็นด้วย (คือไม่เห็นด้วยกับการมีโทษประหารชีวิต) มี 3 ข้อใหญ่1. ในแง่ปรัชญาที่ว่าด้วย "ชีวิต" เป็นสิทธิ์สมบูรณ์ของเจ้าของชีวิต ผู้อื่นจะละเมิดมิได้ อันนี้ เป็นปรัชญาสากล ทั่ว ๆ ไป ถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะเป็น เดอการ์ส ที่เป็นเจ้าของประโยคนี้ ไม่มีใครมีสิทธิ์ฆ่าใครได้ครับ ไม่ว่าจะรัฐ หรือ โจร 2. ในแง่อารยะชนต่อเนื่องจากข้อ 1 คือ หากถามว่า แล้วทำไม ผู้ร้ายไอ้โจร มันถึงมีสิทธิ์ ฆ่า ข่มขืน ทำลายล้างชีวิตผู้อื่นละ และเมื่อมัน "ฆ่า" ผู้อื่น ก็ควรได้รับโทษทัณฑ์สถานเดียวกันจากบ้านเมือง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ใช่หรือ คำตอบ ก็คือ วิธีคิด (หรือไม่คิดก็ไม่รู้ละ) ของผู้ร้ายอ้ายโจร เป็นวิธีคิดของคนชั่ว คนเลว ไม่ใช่วิธีคิดของอารยะชน รัฐ กฎหมาย - จักต้องใช้วิธีคิดแบบวิญญูชน หากโจรฆ่าคน เพราะโจรมันชั่ว มันเลว มันไม่ใช่วิญญูชน แล้วทำไม รัฐ ต้องไปใช้วิธีคิด และ การกระทำ แบบโจร ด้วยล่ะ ประเทศอารยะ ส่วนใหญ่ ยึดหลักนี้ครับ ในการใช้กฎหมาย "ไม่มีโทษประหารชีวิต" 3.ในแง่ความเป็นจริงการประหารชีวิต ไม่ได้ทำให้ผู้ร้าย ทุกข์ ทรมาน เจ็บปวด กับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นเลย เพราะความตาย คือ การหายวับ ว่างเปล่า ตายแล้วตายเลย การละโทษประหารชีวิต แต่เปลี่ยนเป็นการจองจำ ให้ผู้กระทำความผิดทนทุกข์ทรมานกับ "ชีวิตที่เหลืออยู่" แบบ มีชีวิต ก็เหมือนไม่มีชีวิต ในความคิดผมเองนะ ผมว่า สะใจซาดิสม์ มากกว่าด้วย แหะ ๆ มาแปะทิ้งไว้ ใครเห็นต่าง เห็นด้วย อย่างไร เชิญเข้ามาสนทนา โต้เถียงได้ตามสะดวกนะครับ เพราะผม โพสต์ กระทู้นี้เสร็จ ก็เกิดไม่ว่าง ต้องเดินทาง ขึ้นป่าขึ้นดง ตะลุย ลาวเหนือ ทะลุเวียดนาม เป็นเวลา ประมาณ 20 วัน
กลับมา จะมาอ่านครับ บ๊ายบาย รถไฟจะออกแล้ววว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 13-06-2007, 20:38 » |
|
ตอบว่า "เห็นด้วย"(กับการยกเลิกโทษประหารชีวิต) ไปครั้งนึงแล้ว จริง ๆ ว่า จะไม่ขยายความต่อ เพราะอาจจะเกิดการถกเถียงกันขนานใหญ่ แบบจบไม่เป็น เพราะทัศนคติ ในเรื่องนี้ ไม่ต่างจากเรื่อง "เขื่อน" หรือ ความเชื่อทางศาสนา เลย เถียงกันยังไง ก็ไม่มีทางยอมกัน (สมัยห้องราช ยังเป็นปกติดี ผมเคยเถียงเรื่องนี้กับ "นายเจ็ดตัวอักษร" แบบ สองคน มีคนอื่นแจมบ้างนิดหน่อย ปาเข้าไปเกือบร้อยความเห็น) ที่ผมเห็นด้วย (คือไม่เห็นด้วยกับการมีโทษประหารชีวิต) มี 3 ข้อใหญ่1. ในแง่ปรัชญาที่ว่าด้วย "ชีวิต" เป็นสิทธิ์สมบูรณ์ของเจ้าของชีวิต ผู้อื่นจะละเมิดมิได้ อันนี้ เป็นปรัชญาสากล ทั่ว ๆ ไป ถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะเป็น เดอการ์ส ที่เป็นเจ้าของประโยคนี้ ไม่มีใครมีสิทธิ์ฆ่าใครได้ครับ ไม่ว่าจะรัฐ หรือ โจร 2. ในแง่อารยะชนต่อเนื่องจากข้อ 1 คือ หากถามว่า แล้วทำไม ผู้ร้ายไอ้โจร มันถึงมีสิทธิ์ ฆ่า ข่มขืน ทำลายล้างชีวิตผู้อื่นละ และเมื่อมัน "ฆ่า" ผู้อื่น ก็ควรได้รับโทษทัณฑ์สถานเดียวกันจากบ้านเมือง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ใช่หรือ คำตอบ ก็คือ วิธีคิด (หรือไม่คิดก็ไม่รู้ละ) ของผู้ร้ายอ้ายโจร เป็นวิธีคิดของคนชั่ว คนเลว ไม่ใช่วิธีคิดของอารยะชน รัฐ กฎหมาย - จักต้องใช้วิธีคิดแบบวิญญูชน หากโจรฆ่าคน เพราะโจรมันชั่ว มันเลว มันไม่ใช่วิญญูชน แล้วทำไม รัฐ ต้องไปใช้วิธีคิด และ การกระทำ แบบโจร ด้วยล่ะ ประเทศอารยะ ส่วนใหญ่ ยึดหลักนี้ครับ ในการใช้กฎหมาย "ไม่มีโทษประหารชีวิต" 3.ในแง่ความเป็นจริงการประหารชีวิต ไม่ได้ทำให้ผู้ร้าย ทุกข์ ทรมาน เจ็บปวด กับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นเลย เพราะความตาย คือ การหายวับ ว่างเปล่า ตายแล้วตายเลย การละโทษประหารชีวิต แต่เปลี่ยนเป็นการจองจำ ให้ผู้กระทำความผิดทนทุกข์ทรมานกับ "ชีวิตที่เหลืออยู่" แบบ มีชีวิต ก็เหมือนไม่มีชีวิต ในความคิดผมเองนะ ผมว่า สะใจซาดิสม์ มากกว่าด้วย แหะ ๆ มาแปะทิ้งไว้ ใครเห็นต่าง เห็นด้วย อย่างไร เชิญเข้ามาสนทนา โต้เถียงได้ตามสะดวกนะครับ เพราะผม โพสต์ กระทู้นี้เสร็จ ก็เกิดไม่ว่าง ต้องเดินทาง ขึ้นป่าขึ้นดง ตะลุย ลาวเหนือ ทะลุเวียดนาม เป็นเวลา ประมาณ 20 วัน
กลับมา จะมาอ่านครับ บ๊ายบาย รถไฟจะออกแล้ววว เรื่องสิทธิ์ในชีวิตโต้แย้งไปแล้วครับ มากที่สุดก็ได้แค่สิทธิตามธรรมชาติ..
ส่วนเรื่องการฆ่าเพื่อปกป้องชีวิต ไม่ใช้วิธีการของโจรแน่อน โจรคือฝ่ายเริ่มทำผิด..รัฐมีหน้าที่ปกป้องบรรเทาทุกข์ให้ความยุติธรรม
ส่วนเรื่องการลงโทษมุ่งหยุดการกระทำผิดนั้น มากกว่าการแก้แค้นครับ..เรื่องจึงยุติได้ หากมุ่งแก้แค้นจองเวรเรื่องย่อมไม่ยุติไปได้ง่ายๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2007, 04:54 โดย ********Q******** »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 13-06-2007, 21:10 » |
|
ควรใช้การฉีดยาทั้งหมด เพื่อความน่ากลัวจะลดน้อยลง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
morning star
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 13-06-2007, 22:10 » |
|
ควรจะปรับปรุงระบบราชทัณฑ์ซะมากกว่า ที่มีอภัยโทษทุก ๆ ปี เพราะคุกเรามีไม่พอขังนักโทษแล้ว เลยต้องคัดนักโทษที่ทำตัวดีออกไปบ้าง.....น่าจะแปรรูปราชทัณฑ์ ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนไปเลย เพราะแรงงานของนักโทษคงมีมูลค่าไม่น้อย อาจมีคนสนใจมาลงทุนก็ได้
ส่วนประหารชีวิตยกเลิกเสียก็ได้ ถ้าระบบราชทัณฑ์ดีพอที่จะป้องกันคนไม่ดีให้เข้ามาปะปนอยู่ในสังคมได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
|
|
|
qazwsx
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 13-06-2007, 22:48 » |
|
ควรจะปรับปรุงระบบราชทัณฑ์ซะมากกว่า ที่มีอภัยโทษทุก ๆ ปี เพราะคุกเรามีไม่พอขังนักโทษแล้ว เลยต้องคัดนักโทษที่ทำตัวดีออกไปบ้าง.....น่าจะแปรรูปราชทัณฑ์ ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนไปเลย เพราะแรงงานของนักโทษคงมีมูลค่าไม่น้อย อาจมีคนสนใจมาลงทุนก็ได้
ส่วนประหารชีวิตยกเลิกเสียก็ได้ ถ้าระบบราชทัณฑ์ดีพอที่จะป้องกันคนไม่ดีให้เข้ามาปะปนอยู่ในสังคมได้
ผมเคยใช้บริการแรงงานราชทัณฑ์ครับ ...ถ้าคุณทราบ "ความจริง" แล้วจะ "อึ้ง" ความจริงอย่าง "เห็น ๆ ( ปรากฎได้ )" ก็เช่น 1. แรงงานราชทัณฑ์ "ต้องจองคิว" โดยเฉพาะถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมืออยู่บ้าง ..."เส้น" ไม่ดี แทบจะไม่มีโอกาสได้ใช้แรงงานนักโทษนะครับ อีกทั้ง "นักโทษผู้มีความประพฤติดี" เท่านั้นที่มีโอกาสได้รับสิทธิในการรับจ้างแรงงาน ซึ่งก็ไม่ได้รับประกันเรื่อง "ฝีมือ - ทักษะ" หรือ "ความตั้งใจ" เช่นเดียวกัน 2. คุณต้องทำใจ "เผื่อเสีย ( Allowance )" ในด้านวัสดุ ไม่ต่ำกว่า 20% ( ต้นทุน ) ในด้านอุปกรณ์และเครื่องมือ ไม่ต่ำกว่า 10% และในด้านคุณภาพ ไม่ต่ำกว่า 40% ...โดยแต่ละ Lot ( ถ้าคุณจ้างมากกว่า 1 วัน - เวลาห่างกัน ) จะไม่มีนัยสัมพันธ์กันเลย เนื่องจากทางเรือนจำจะไม่จัดนักโทษชุดเดิม ( ที่คุณเคยสอนงานไปแล้วใน Lot แรก ) มาให้คุณ 3. ค่าแรง - แน่นอนว่าคุณต้องจ่าย เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำรายวัน ในพื้นที่ที่เืรือนจำนั้นตั้งอยู่ ( ส่วนตัวนักโทษจะได้เท่าไหร่ หรือทางเรือนจำจะหักไปเท่าไหร่ อันนั้นไม่ใช่เรื่องของผู้จ้าง ) 4. เวลาทำงาน จะไม่ยอมให้มี OT และไม่ยินยอมให้ผู้จ้างอบรม - ปลุกขวัญ ( Motivate ) เพื่อ Productivity หรือ Efficiency ใด ๆ การฝึกอบรมทำได้เพียง 2 อย่างคือ 1.ขั้นตอนและรายละเอียดในการทำงาน 2.มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ 5. หากการทำงาน หรือวัสดุ - อุปกรณ์ก่อให้เกิดอุุบัติเหตุหรืออันตรายใด ๆ แก่นักโทษ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสะเพร่าเลินเล่อของนักโทษหรือความไม่รู้ ผู้จ้างจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ...ซึ่งอันนี้เหมาะสม - ตามนัยยะ ...แต่ที่นอกเหนือจาก "นัยยะ" ก็คือ ผู้จ้างจะต้องจดแจ้ง + ตรวจนับรายการวัสดุ + อุปกรณ๋ แล้วนำกลับออกไปให้หมด เพราะหากพบว่ามีการตกหล่น หรือถูกนักโทษซุกซ่อนไว้แล้วนำไปใช้ก่อเหตุในภายหลัง ผู้จ้างจะต้องรับผิดชอบด้วย ฯลฯ ส่วนเรื่อง "มองไม่เห็น" ก็มีเรื่องเกี่ยวกับการตอบแทนผู้คุม ฯ ความไม่สะดวกในการเข้า - ออกของผู้จ้างและ Staff ( เช่น หัวหน้างาน, QA ) การคิดค่าแรง ( ในกรณีที่จ้างเป็นรายชิ้น ) ถ้าปรากฎว่าใช้แรงงานนักโทษเแล้ว "ต้นทุนบานตะเกียง" ถึงขนาดทำราคาแข่งขันทางการตลาดไม่ได้ อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแม้แต่น้อย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2007, 23:48 โดย qazwsx »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 14-06-2007, 04:59 » |
|
'สุนัข'ในสหรัฐฯ ถูกสั่งขังตลอดชีวิต-ข้อหาทำร้ายเด็ก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2550 01:19 น. เจ้า "ออซซี" สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด วัย 7 ขวบ รอดพ้นโทษตายไปอย่างหวุดหวิด หลังศาลท้องถิ่นสหรัฐฯพิพากษาจำคุกมันตลอดชีวิต ในข้อหาทำร้ายเด็กแทน ออสซี เข้าทำร้ายเด็กน้อยที่อยู่ข้างบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อเดือนเมษายน ถูกศาลเทศบาลนิวเจอร์ซีย์ส่งตัวไปยังสถานกักกันสัตว์เพื่อที่มันจะไม่ได้ทำร้ายใครอีก และระหว่างนั้นถ้ามันประพฤติตัวดีอาจได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนด จอห์น ที แม็คนีลล์ ผู้พิพากษา กล่าวว่า "มันจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะตาย ออซซี จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใครเอาไปเลี้ยงดู มันจะไม่ถูกปล่อยตัวออกไปข้างนอกอีกเลย"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
morning star
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 14-06-2007, 06:08 » |
|
ผมเคยใช้บริการแรงงานราชทัณฑ์ครับ ...ถ้าคุณทราบ "ความจริง" แล้วจะ "อึ้ง"
ความจริงอย่าง "เห็น ๆ ( ปรากฎได้ )" ก็เช่น 1. แรงงานราชทัณฑ์ "ต้องจองคิว" โดยเฉพาะถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมืออยู่บ้าง ..."เส้น" ไม่ดี แทบจะไม่มีโอกาสได้ใช้แรงงานนักโทษนะครับ อีกทั้ง "นักโทษผู้มีความประพฤติดี" เท่านั้นที่มีโอกาสได้รับสิทธิในการรับจ้างแรงงาน ซึ่งก็ไม่ได้รับประกันเรื่อง "ฝีมือ - ทักษะ" หรือ "ความตั้งใจ" เช่นเดียวกัน 2. คุณต้องทำใจ "เผื่อเสีย ( Allowance )" ในด้านวัสดุ ไม่ต่ำกว่า 20% ( ต้นทุน ) ในด้านอุปกรณ์และเครื่องมือ ไม่ต่ำกว่า 10% และในด้านคุณภาพ ไม่ต่ำกว่า 40% ...โดยแต่ละ Lot ( ถ้าคุณจ้างมากกว่า 1 วัน - เวลาห่างกัน ) จะไม่มีนัยสัมพันธ์กันเลย เนื่องจากทางเรือนจำจะไม่จัดนักโทษชุดเดิม ( ที่คุณเคยสอนงานไปแล้วใน Lot แรก ) มาให้คุณ 3. ค่าแรง - แน่นอนว่าคุณต้องจ่าย เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำรายวัน ในพื้นที่ที่เืรือนจำนั้นตั้งอยู่ ( ส่วนตัวนักโทษจะได้เท่าไหร่ หรือทางเรือนจำจะหักไปเท่าไหร่ อันนั้นไม่ใช่เรื่องของผู้จ้าง ) 4. เวลาทำงาน จะไม่ยอมให้มี OT และไม่ยินยอมให้ผู้จ้างอบรม - ปลุกขวัญ ( Motivate ) เพื่อ Productivity หรือ Efficiency ใด ๆ การฝึกอบรมทำได้เพียง 2 อย่างคือ 1.ขั้นตอนและรายละเอียดในการทำงาน 2.มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ 5. หากการทำงาน หรือวัสดุ - อุปกรณ์ก่อให้เกิดอุุบัติเหตุหรืออันตรายใด ๆ แก่นักโทษ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสะเพร่าเลินเล่อของนักโทษหรือความไม่รู้ ผู้จ้างจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ...ซึ่งอันนี้เหมาะสม - ตามนัยยะ ...แต่ที่นอกเหนือจาก "นัยยะ" ก็คือ ผู้จ้างจะต้องจดแจ้ง + ตรวจนับรายการวัสดุ + อุปกรณ๋ แล้วนำกลับออกไปให้หมด เพราะหากพบว่ามีการตกหล่น หรือถูกนักโทษซุกซ่อนไว้แล้วนำไปใช้ก่อเหตุในภายหลัง ผู้จ้างจะต้องรับผิดชอบด้วย ฯลฯ
ส่วนเรื่อง "มองไม่เห็น" ก็มีเรื่องเกี่ยวกับการตอบแทนผู้คุม ฯ ความไม่สะดวกในการเข้า - ออกของผู้จ้างและ Staff ( เช่น หัวหน้างาน, QA ) การคิดค่าแรง ( ในกรณีที่จ้างเป็นรายชิ้น )
ถ้าปรากฎว่าใช้แรงงานนักโทษเแล้ว "ต้นทุนบานตะเกียง" ถึงขนาดทำราคาแข่งขันทางการตลาดไม่ได้ อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแม้แต่น้อย
อันนี้ผมเถียงคนที่มีประสพการณ์ไม่ได้นะครับ...แต่ก็อยากตั้งข้อสังเกตุว่า เพราะเป็นระบบราชการหรือเปล่าที่ทำให้ทุกอย่างยุ่งยาก ถ้าเปลี่ยนระบบ หรือ แปรรูปอาจจะดีกว่านั้นก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 14-06-2007, 06:34 » |
|
ผมตั้งคำถามดีกว่า ทำไมถึงมีคนกระสันต์อยากเป็นนัการเมืองและข้าราชการระดับสูงกันนัก?
แล้วทำไมถึงได้กล่าวหากันง่ายๆ จบ้านเมืองวุ่นวาย จะแก้ไขได้อย่างไร?
โดยที่บ้านเมืองเจริญรุดหน้า กระตือรือร้นตั้งใจทำงานกันทั้งประเทศ ไม่มีพวกทำตัวเป็นปัญหาภาระสังคม..
มันก็คงต้องปรับสมดุลกันไปเรื่อยๆ กระทบกระทั้งกันบ้าง..
....
กลับมาที่ประเด็นกระทู้ จากข้อมูล ปัจจุบันประเทศที่มีโทษประหารชีวิตยังน่าจะมีจำนวนมากกว่าประเทศที่ไม่มีโทษประหารชีวิตครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
meriwa
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 14-06-2007, 09:00 » |
|
สกัดสื่อลามกชะงัด!!อิหร่านผ่านร่างฯประหารชีวิตดาราหนังเอ็กซ์เอเจนซี - รัฐสภาอิหร่านในวันพุธ(13) ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประหารชีวิตนักโทษที่ถูกตัดสินว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตภาพยนตร์ลามกอนาจาร จากผลคะแนนโหวต 148-5 และงดออกเสียง 4 สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเห็นพ้องว่าใครก็ตามผลิตสื่อลามกหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น ควรจะถูกลงโทษไม่ต่างจากพวกทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งตามหลักของมุสลิมถือว่าเป็นอาชญากรรมขั้นร้ายแรงสูงสุด ซึ่งมีโทษประหารชีวิต สำหรับคำว่าผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น ในร่างฯฉบับนี้ อ้างถึงผู้อำนวยการผลิต ผู้กำกับ ช่างภาพและนักแสดง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างหนังโป๊ ขณะที่ร่างฯดังกล่าวยังกำหนดโทษจำคุก 1 ปี ถึงสูงสุดประหารชีวิต สำหรับผู้จำหน่ายและผู้นำไปเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ด้วย นอกจากวิดีโอแล้ว ร่างฯยังคลอบคลุมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด อาทิดีวีดีและซีดี รวมทั้งนิตยสารหรือหนังสือโป๊ต่างๆ ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษขั้นรุนแรงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามร่างฯนี้จะต้องผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้พิทักษ์ก่อนถึงจะออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ คนทั่วไปต่างเชื่อว่าร่างพระราชบัญญัตินี้ออกมา หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวภายในประเทศเมื่อปีที่แล้ว เมื่อมีวิดีโอส่วนตัวของชายหญิงชาวอิหร่านคู่หนึ่งกำลังร่วมประเวณีกันถูกเผยแพร่ไปทั่วและลือกันว่าผู้หญิงคนนั้นคือ ซาห์รา อามีร์ เอบราฮิมี นักแสดงชื่อดัง วิดีโอดังกล่าวถูกมือดีเผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตและผลิตเป็นดีวีดีวางขายตามตลาดมืด ขณะที่ เอบราฮิมี ซึ่งกำลังถูกสอบสวน อาจถูกลงโทษด้วยการปรับหรือเฆี่ยนด้วยแส้ต่อหน้าสาธารณชน ข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายศีลธรรมของอิหร่าน ขณะที่ชายซึ่งเชื่อว่าเป็นคนอยู่ในวิดีโอ และต้องสงสัยว่าเป็นผู้นำภาพดังกล่าวเผยแพร่เอง ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝินกฎหมายศีลธรรมและยังถูกจำคุกอยู่ในเวลานี้ ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอังกฤษเมื่อช่วงต้นปี เอบราฮิมี ยืนยันว่าเธอไม่ใช่คนเดียวกับผู้หญิงที่อยู่ในวิดีโอ พร้อมกับบอกว่าเทปม้วนนี้อาจถูกตกแต่งขึ้นมาและอาจเป็นความพยายามทำลายชีวิตของเธอจากอดีตคู่หมั้น http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000068851อย่างที่บอกข้างต้นว่าเหตุจูงใจในการกระทำผิดของแต่ละคนแตกต่างกัน หากมองสังคมไทยโดยรวม ผมยังคิดว่า จำเป็นต้องมีกฏหมายนี้อยู่ เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าใครดีทั้งหมด หรือเลวทั้งหมด คนทำผิดคงไม่มาดูหรอกครับว่าสิทธิตามธรรมชาติของมนุษย์คืออะไร และกฏหมายส่วนใหญ่ก็มุ่งที่จะปกป้องคุ้มครองคนที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว ไม่ใช่ปกป้องคนทำผิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 14-06-2007, 09:32 » |
|
สกัดสื่อลามกชะงัด!!อิหร่านผ่านร่างฯประหารชีวิตดาราหนังเอ็กซ์เอเจนซี - รัฐสภาอิหร่านในวันพุธ(13) ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประหารชีวิตนักโทษที่ถูกตัดสินว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตภาพยนตร์ลามกอนาจาร จากผลคะแนนโหวต 148-5 และงดออกเสียง 4 สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเห็นพ้องว่าใครก็ตามผลิตสื่อลามกหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น ควรจะถูกลงโทษไม่ต่างจากพวกทุจริตประพฤติมิชอบ แปลว่า ทุจริตก็มีโทษประหารชีวิตซึ่งตามหลักของมุสลิมถือว่าเป็นอาชญากรรมขั้นร้ายแรงสูงสุด ซึ่งมีโทษประหารชีวิต สำหรับคำว่าผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น ในร่างฯฉบับนี้ อ้างถึงผู้อำนวยการผลิต ผู้กำกับ ช่างภาพและนักแสดง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างหนังโป๊ ขณะที่ร่างฯดังกล่าวยังกำหนดโทษจำคุก 1 ปี ถึงสูงสุดประหารชีวิต สำหรับผู้จำหน่ายและผู้นำไปเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ด้วย นอกจากวิดีโอแล้ว ร่างฯยังคลอบคลุมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด อาทิดีวีดีและซีดี รวมทั้งนิตยสารหรือหนังสือโป๊ต่างๆ ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษขั้นรุนแรงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามร่างฯนี้จะต้องผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้พิทักษ์ก่อนถึงจะออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ คนทั่วไปต่างเชื่อว่าร่างพระราชบัญญัตินี้ออกมา หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวภายในประเทศเมื่อปีที่แล้ว เมื่อมีวิดีโอส่วนตัวของชายหญิงชาวอิหร่านคู่หนึ่งกำลังร่วมประเวณีกันถูกเผยแพร่ไปทั่วและลือกันว่าผู้หญิงคนนั้นคือ ซาห์รา อามีร์ เอบราฮิมี นักแสดงชื่อดัง วิดีโอดังกล่าวถูกมือดีเผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตและผลิตเป็นดีวีดีวางขายตามตลาดมืด ขณะที่ เอบราฮิมี ซึ่งกำลังถูกสอบสวน อาจถูกลงโทษด้วยการปรับหรือเฆี่ยนด้วยแส้ต่อหน้าสาธารณชน ถ้าเป็นฝ่ายหญิงถึงยังไม่มีโทษนี้ออกมา ในสังคมนั้นก็เหมือนโดนฆ่าไปแล้ว ไหงไม่มีการสืบสวนลงโทษฝ่ายผู้ชายบ้างเลย กลายเป็นการเลือกปฏิบัติไปซะอย่างนั้น เฮ้อ.....ข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายศีลธรรมของอิหร่าน ขณะที่ชายซึ่งเชื่อว่าเป็นคนอยู่ในวิดีโอ และต้องสงสัยว่าเป็นผู้นำภาพดังกล่าวเผยแพร่เอง ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝินกฎหมายศีลธรรมและยังถูกจำคุกอยู่ในเวลานี้ ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอังกฤษเมื่อช่วงต้นปี เอบราฮิมี ยืนยันว่าเธอไม่ใช่คนเดียวกับผู้หญิงที่อยู่ในวิดีโอ พร้อมกับบอกว่าเทปม้วนนี้อาจถูกตกแต่งขึ้นมาและอาจเป็นความพยายามทำลายชีวิตของเธอจากอดีตคู่หมั้น http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000068851อย่างที่บอกข้างต้นว่าเหตุจูงใจในการกระทำผิดของแต่ละคนแตกต่างกัน หากมองสังคมไทยโดยรวม ผมยังคิดว่า จำเป็นต้องมีกฏหมายนี้อยู่ เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าใครดีทั้งหมด หรือเลวทั้งหมด คนทำผิดคงไม่มาดูหรอกครับว่าสิทธิตามธรรมชาติของมนุษย์คืออะไร และกฏหมายส่วนใหญ่ก็มุ่งที่จะปกป้องคุ้มครองคนที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว ไม่ใช่ปกป้องคนทำผิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 14-06-2007, 14:51 » |
|
ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าน่าจะให้โทษประหารชีวิตมีอยู่ต่อไปนะครับ เป็นทางเลือกหนึ่งของศาล เพราะในความเป็นจริงไม่ใช่ว่าศาล จะตัดสินโทษประหารชีวิตง่ายๆ และผู้ถูกตัดสินประหารก็ได้รับ สิทธิในการสู้คดีในศาลชั้นสูงขึ้นไปอยู่แล้ว
ไม่งั้นเราจะมีปัญหาในการลงโทษคนบางกลุ่ม เช่น มือปืนรับจ้าง ที่รับจ้างสังหารคนมามากมายเป็นสิบเป็นร้อยศพ โดยตัดสินใจ ฆ่าคนเพียงเพื่อแลกเงินไม่กี่พันไม่กี่หมื่นบาท หรือในกรณีของ อาชญากรต่อเนื่องข่มขืนแล้วฆ่า หรืออย่างพวกค้ามนุษย์บังคับ ใช้แรงงานเป็นทาสจนตายไม่เห็นคนเป็นคน ฯลฯ
พวกเหล่านี้ตัดสินใจทำผิดโดยที่รู้อยู่แล้วว่าถ้าถูกจับได้จะต้อง ถูกประหารชีวิต การถูกประหารจึงถือว่าไม่ได้ลงโทษเกินเลยครับ
สมัยก่อนนี้เรามีโทษตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร หรืออย่างจีนยุคโบราณ มีโทษประหารไปถึงบ้านที่ตั้งอยู่ติดๆ กันด้วย ถือว่าสมรู้ร่วมคิด ไม่ขัดขวางไม่แจ้งทางการ สมัยนี้แค่ให้ประหารเฉพาะตัวเท่านั้น ผมว่าก็เหมาะสมดีแล้วที่จะมีโทษระดับนี้อยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
|