ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
09-07-2025, 09:49
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่ม"พันธมิตรประชาชนฯ"และกลุ่มแนวร่วม"คนรักเหลียมฯ" 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่ม"พันธมิตรประชาชนฯ"และกลุ่มแนวร่วม"คนรักเหลียมฯ"  (อ่าน 2623 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 09-06-2007, 21:42 »

ม็อบพีทีวีตั้ง7แกนนำเคลื่อนไหว
 
9 มิถุนายน พ.ศ. 2550 19:26:00
 
ม็อบพีทีวีตั้งแกนนำ 7 คนกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายไทยรักไทยเดิม อาจเคลื่อนขบวนไปหน้ากองทัพบกค่ำนี้ ขณะที่ตำรวจระดมกำลังกว่าพันรับมือ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ซึ่งชุมนุมครบ 1 สัปดาห์ ได้ย้ายจุดชุมนุมจากเดิมที่หันหลังให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาจัดตั้งเวทีที่กึ่งกลางท้องสนามหลวง โดยหันหลังให้วัดพระแก้ว เพื่อรองรับผู้ชุมนุมที่เพิ่มจำนวนขึ้นมาก

บริเวณโดยรอบ ผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มคนรักทักษิษ กลุ่มคนวันเสาร์ กลุ่มพิราบขาว ได้กระจายกันตั้งเต้นท์ขายเสื้อ ซีดีบันทึกการชุมนุม และเอกสารต่างๆ เพื่อใช้เป็นทุนในการจัดชุมนุม

นอกจากนี้กลุ่มคนรักทักษิณ ยังตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ หาสมาชิกคนรักทักษิณ โดยคนลงชื่อจะได้รับเหรียญจตุคาม รามเทพ รุ่นปราบกบฎ มีนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ นั่งแจกเหรียญจตุคามด้วยตัวเอง บรรยากาศการชุมนุม แกนนำผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยโจมตีพล.อ.สนธิ และคมช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้คัดเลือกแกนนำซึ่งมีอำนาจตัดสินใจกำหนดทิศทางการชุมนุม 7 คน ประกอบด้วย...
1. นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
2. นายวีระ มุกสิกพงศ์ แกนนำพีทีวี
3. นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท โฆษกกลุ่มคนวันเสาร์
4. นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ
5. นายแพทย์เหวง โตจิราการ
6. นายชินวัฒน์ หาบุญพาด เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท๊กซี่
7. นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคลื่น 87.75


แกนนำทั้ง7 ได้กำหนดเบื้องต้นว่า วันที่ 11 มิ.ย. นี้ จะไปชุมนุมหน้ารัฐสภา เพื่อเผารัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ วันที่ 17 มิ.ย. จะเสวนาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และในช่วงหัวค่ำของวันนี้ (9) แกนนำทั้ง 7 จะหารือกันอีกครั้งว่า จะเคลื่อนขบวนไปหน้ากองบัญชาการกองทัพบกหรือไม่

รายงานข่าวเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังมาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย โดยใช้กำลังประจำภายในท้องสนามหลวงประมาณ 450 นาย บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประมาณ 300 นาย และหน้ากองทัพบกประมาณ 600 คน
 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/09/WW10_WW10_news.php?newsid=78099
 

พิจารณารายชื่อแกนนำแนวร่วมฯทั้ง 7 คนแล้ว จะเห็นว่าเป็นอดีตสส.ทรท. สมาชิกทรท.และคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกทั้งสิ้น.....
ถ้านำไปเปรียบเทียบกับกลุ่ม"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" เช่น...
1. นายสนธิ ลิ้มทองกุล
2. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
3. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
4. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
5. นายสุริยะใส กตะศิลา
6. นายพิภพ ธงไชย


เจตนารมณ์เบื้องหลังการเคลื่อนไหว ความโปร่งใส ความบริสุทธิ์ และ คุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน แตกต่างกันมากเพียงใด......


การประกาศคำตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย และพิพากษาตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค 5 ปี ทำให้เกิดการปลุกระดมล่อลวงประชาชนโดยบรรดาลิ่วล้อระบอบทักษิณ ที่นำโดยกลุ่ม PTV ที่เรียกร้องขับไล่โค่นล้ม คมช. เพื่อต้องการปกป้องระบอบทักษิณ ให้กลับมามีอำนาจขายชาติปล้นประชาชน โดยอ้างว่าทรราชทักษิณดีกว่าการรัฐประหาร....
ไม่เคยกล่าวถึงสาเหตุที่มาของการปฏิวัติรัฐประหารในครั้งนี้ แม้เครือข่ายศิลปินไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้วยการรัฐประหาร แต่การกระทำที่ชั่วช้าของระบอบทักษิณทำให้ต้องเกิดการรัฐประหาร 19 กันยา เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราไม่ได้เรียกร้องให้ทหารทำการปฏิวัติยึดอำนาจ เราต้องการให้ประชาชนจัดการแก้ปัญหาวิกฤติด้วยพลังของประชาชนเอง



สำหรับพันธกิจของพันธมิตเครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมี 3 จ้อคือ

ข้อที่ 1 รณรงค์ผลักดันให้นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ขาดความชอบธรรมขั้นพื้นฐาน ลาออกจากตำแหน่ง

ข้อที่ 2 เปิดโปงความไม่ชอบธรรม และวาระซ่อนเร้นของระบอบทักษิณ

ข้อที่ 3 ประสานกลุ่มพลังต่างๆ ในสังคม ผลักดันการปฏิรูปการเมืองไทยครั้งที่ 2 โดยยึดแนวทางลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 21:47 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 09-06-2007, 22:19 »

ผมกำลังดูการถ่ายทอดข่าวจากASTV1 และ TITV.....
การเคลื่อนคนของแนวร่วมคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกที่ไปชุมนุม
อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะผ่านไปหน้ากองบัญชาการกองทัพบก


ข้อสังเกตุที่เห็นได้ชัดเจน คือ.....
ผู้เข้าร่วมชุมนุมของแนวร่วมคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกนั้นเป็น"หนุ่มฉกรรจ์"มากกว่า
คนวัยอื่น ๆ และเพศอื่น ๆ....
ผู้เข้าร่วมชุมนุมของกลุ่ม"พันธมิตรประชาชนฯ" ที่มีอายุเฉลี่ยมากกว่า และคละเคล้าทุกวัย
และเพศมากกว่า.....



รายงานด่วนแจ้งเพิ่มเติมเข้ามาว่า ขณะนี้แกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน คมช. ได้ตัดสินใจที่จะเคลื่อนกำลังไปยังกองบัญชาการกองทัพบก โดยประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมค่อยๆ เคลื่อนกำลังแล้ว
       
       สำหรับสถานการณ์ล่าสุด กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งรวมตัวกันเดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพบกนั้น ขณะนี้ถูกปิดกั้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย นอกจากนี้ยังมีทหารอีกจำนวนหนึ่งเข้าร่วมปิดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจด้วยการตะโกนด่า คมช. และยุให้ทางผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านหน้าฝ่าด่านไปให้ได้ เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมในส่วนหน้าฮือเข้าไปดันรั้วของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วทำการฝ่าด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร จนเป็นผลสำเร็จ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 22:28 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 09-06-2007, 22:28 »

“ม็อบต้าน คมช.”ฮือทลายแนวกั้น ตร.!!จ่อกองทัพบกแล้ว!!
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มิถุนายน 2550 21:46 น.
 
 
       “ม็อบคนรักทักษิณ- ต้าน คมช.”ทลายแนวกั้น ตร. เคลื่อนกำลังมุ่งสู่กองบัญชาการกองทัพบกแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 พร้อมกำลังทหารยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
       
       เวลา 21.30 น.วันนี้ ( 9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการชุมนุมของกลุ่มอดีต ส.ส.ไทยรักไทยและผู้สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ที่บริเวณท้องสนามหลวงว่า ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 1 หมื่นคน ได้มีการจัดตั้ง 7 ตัวแทนเพื่อตัดสินใจเคลื่อนไหว โดยมี นพ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย นายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำกลุ่มพีทีวี นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท โฆษกกลุ่มคนวันเสาร์ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท๊กซี่ นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคลื่น 87.75 นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นแกนนำ ร่วมประชุมเพื่อตัดสินใจว่าจะทำการเคลื่อนไหวไปยังกองทัพบกหรือไม่ นอกจากนั้นได้ตั้งนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นโฆษกของแนวร่วมฯ
       
       ขณะเดียวกันแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้ ยังหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันขึ้นอภิปรายโจมตีทั้ง คมช. และพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ว่าทำงานผิดพลาด นอกจากนี้ยังไม่ยอมรับคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทยของตุลาการรัฐธรรมนูญ โดยมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมถวายฎีกา เพื่อไม่ให้แกนนำพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
       
      รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีนับหมื่นคนในครั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายโดยฝ่ายอย่างชัดเจน....
1. โดยฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยความสมัครใจ ก็จะมีส่วนร่วมด้วยการแสดงอาการสะใจ พร้อมร้องตะโกนหากผู้อภิปรายบนเวทีพูดโจมตี คมช. และ พล.อ.เปรม...
2. ส่วนผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งนั้น ปรากฏว่าทั้งก่อน และขณะเริ่มการชุมนุม ได้มีรถตู้จำนวนหลายคันนำกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมาส่งที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยจะสังเกตได้การขณะที่แกนนำขึ้นอภิปราย คนที่มากับรถตู้ส่วนใหญ่นั่งก้มหน้าก้มตา และแสดงอาการไม่เข้าใจถึงความหมายของผู้อภิปรายที่ปราศรัยอยู่บนเวที

       
 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000066924
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 22:31 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #3 เมื่อ: 09-06-2007, 22:48 »

วิธีคิดของแม้ว  เงิน ซื้อได้ทุกอย่าง  ขนาดจ้างคนมาชุมนุม  เพื่อสร้างสถานการณ์

แล้วไงละ  ถ้ามีเรื่องจนควบคุมไม่ได้  จะกลายเป็นความชอบธรรม ให้ แม้ว กลับมาหรือ

จะเป็นไปได้ไง  ไม่เข้าใจ อะ   

และถ้าจริง  นายก  ท่านสนธิ  จะตอบ ปชช ว่าไง

หรือที่ คุณสนธิ  วิเคราะห์ไว้ จะถูกหมด   
้ 




บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #4 เมื่อ: 09-06-2007, 23:08 »

คนที่ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่ม"ผีทีวี" และพันธมิตรฯ ผ่านจอโทรทัศน์ หรือ หน้าหนังสือพิมพ์
ย่อมได้เห็น ประสบเหตุการณ์ พฤติกรรมที่ เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก แกนนำพรรคฯ และคนรักเหลี่ยมฯ เคยว่า เคยห้ามปราม เคยประนาม เคยสาปแช่งพฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระหว่างประท้วง ต่อต้าน ขับไล่เผด็จการจากการเลือกตั้ง เกี่ยวกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง การปกป้องผละประโยชน์ของครอบครัว การเอารัดเอาเปรียบคู่แข่งทางการค้าของครอบครัว การแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคม เพื่อสามารถขายหุ้นจำนวนมหาศาลของครอบครัวให้ต่างชาติได้สำเร็จ ฯลฯ....

วันนี้แกนำพรรคฯ คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ได้ทำมากกว่านั้น ทำร้ายประชาชน ทำลายทรัพย์สินประชาชน และไม่ยอมรับความการวินิจฉัยที่เคยประกาศไว้  นอกจากไม่ยอมรับแล้วยังบิดเบือนข้อเท็จจริง แม้แต่คำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญที่ถูกต้อง เที่ยงธรรม และยุติธรรม.....

คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกที่ยังมีสติปัญญาและวุฒิภาวะในการคิด ในการรับฟัง และเข้าใจได้ถอนตัว ละอายความคิด ความเชื่อก่อนหน้านั้น......

แต่ยังมีพวก"อเวไนยสัตว์" ที่ไม่ยอมรับรู้ ไม่ยอมลดละ ยังสร้างกระแสก่อความไม่สงบให้สังคมไทย และประเทศไทยอีกต่อไป....


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #5 เมื่อ: 09-06-2007, 23:12 »

บุคคลที่ยื่นฟ้องขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น ไม่ใช่บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ผู้บริหาร ที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

มี 4 คน คือ 1.นายจาตุรงค์ สุขเอียด พนง.ITV

2.น.พ เหวง โตจิราการ

3.น.พ สันต์

4.ครูประทีป อึ้งทรงธรรม

ซึ่ง 3 คนหลังไม่ได้เกี่ยวข้องเลย โดยมาอ้างว่า ITV เป็นสื่อสาธารณะ ซึ่งไม่ใช่เลย และอ้างว่า ปชช.จะขาดการได้รับข้อมูลข่าวสาร จนอาจกระทบถึงการดำรงชีวิต ซึ่ง เป็นสิ่งที่เกินจริงเหลือเกิน ITV ไม่ใช่ น้ำประปา ไฟ รถเมล์ หรือ สิ่งจำเป็นพื้นฐานในชีวิต

กลายเป็น เรื่องที่ไม่จบง่ายๆแน่ และโปรดรู้ไว้ว่าพวกคุณกำลังสร้างปัญหาให้กับประเทศ โดยเฉพาะ นายทักษิณ และ ผู้บริหาร ITV

และไม่แน่คนที่จะเป็นแพะรับบาป คือ นายกสุรยุทธ์นั่นเอง เพราะงู ITV มันจะลอบกัด


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 09-06-2007, 23:26 »

พรานข่าว เล่าขาน

จุดไต้ตำสะตอ
 
6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 01:00:00
 
การใช้เงินตระเวนไปตามประเทศต่างๆ ของคนไร้แผ่นดินถิ่นที่อยู่ หาจังหวะให้สื่อสัมภาษณ์โจมตีบ้านเกิดเมือง นอน ทั้งจาบจ้วงสถาบันนั้น ยังคงเป็นกิจกรรมหลัก ทั้งๆ ที่ปากก็อ้างว่า...จะล้างมือจากการเมือง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ไม่มีใครเชื่อ ก่อนโน้นก็เห็นชัดว่าประกาศเว้นวรรคแท้ๆ แต่ทนเหงาอำนาจไม่นานก็วิ่งโร่กลับทำเนียบ เป็นเหตุต้องโดนทหารเอารถถังออกมาไล่ปัจจุบันก็เช่นกัน! เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วสำหรับ

คนไร้แผ่นดินจะอยู่นิ่งเฉย ปล่อยให้ตัวเอง สมาชิกครอบครัวและพวกพ้องบริวารโดนเล่นงานโดย คตส. ปปช. และอีกไม่นาน ก็คงเป็น ปปง. อายัดหรือยึดทรัพย์ ถ้ารัฐบาลกล้าพอ

ทุกวันนี้ยังมีอาการปอดลอยไม่น้อย ไม่กล้าจัดการกับพวกเกียร์ว่าง!

การชอบให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ให้ร้ายบ้านเกิดนั้น เป็นการใช้ปากขุดหลุมฝังศพให้ตัวเองแท้ๆ แต่ “ทักษิณ”

ก็ไม่กลัว คงคิดว่าไหนๆ ก็ไหนๆ เรื่องอะไรจะยอมงอมืองอเท้ารอรับชะตากรรม

มีทรัพย์สินเงินทองเป็นแสนๆ ล้านบาท ถึงคราวต้องใช้ให้คุ้มค่า เกิดประโยชน์ ในการปกป้องคุ้มครองตัวเองและ

ครอบครัวให้พ้นภัย

การจ้างล็อบบี้ยิสต์และบริษัทประชาสัมพันธ์ฟอกตัวเอง ป้ายสีคนอื่น ใช้เงินจ้างสื่อให้สัมภาษณ์ จึงเป็นหนทางเลือกในการดิ้นรน

ทำไป ทำมา จนสื่อเองก็เสียท่า ไปเจอดีจนได้!

“พรานข่าว” แว่วมาว่า สัปดาห์ก่อนโน้น “เสี่ยมารค์” ขาใหญ่ของค่ายประชาธิปัตย์ได้รับโทรศัพท์ประหลาด คนพูด


สำเนียงตะวันออกกลาง

“นี่ยู ไอโทรมาจากทีวี อัลจาซีเราะห์ นะ! ยูคงรู้จักดี ไอจะสัมภาษณ์มิสเตอร์ทักษิณ ชินวัตร อดีตผู้นำประเทศของ

ยูตอนมาดูไบหน่อย”

 “งั้นเรอะ ด้วยความยินดี ยูมีอะไรให้ไอช่วย?”

 “ไออยากรู้ว่าควรตั้งคำถามว่าอย่างไรดี”

จากนั้น “เสี่ยมาร์ค” ก็ยำเละ ใส่ไม่ยั้ง ปฏิบัติการสาวไส้ ประชุมเพลิงทักษิณเต็มยศ ให้ผู้สื่อข่าวทีวีอัลจาซีเราะห์

ฟังเป็นชุดๆ จนเต็มแปล้!

 คราวนี้เป็นทีของสื่อทีวีอาหรับงงบ้าง!

  “เฮ้ยู ทำไมยูพูดอย่างนี้ ฟังแล้วไม่ดีกับหัวหน้าของยู ยูเคยเป็นโฆษกพรรคไทยรักไทย และโฆษกรัฐบาลไม่ใช่หรือ”



 “เปล่า! ไอเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน พรรคเดโมแครตน่ะ”

 “อ้าว! ทำไมเป็นอย่างนั้น แบบนี้อาหรับเป็นงงมั่กๆ! ยูชื่อ เอส. เวชชาชีวะใช่ป่าว?”

 “ป่าว! ไอชื่อ เอ. เวชชาชีวะ”

 “เอ๊ะ! ไม่ใช่ เอส. สูรานัน เวชชาชีวะ เรอะ?”

 “ป่าว! เป็น เอ. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนละคน คนละพ่อ คนละแม่ คนละพรรค คนละความคิด คนละเส้นทางการ

เมืองกับ เอส.”

กว่าอัลจาซีเราะห์จะรู้เรื่อง ก็คงได้รับรู้ไส้เน่าของนักการเมืองไทยไปเยอะ ล่าสุด “พรานข่าว” แว่วมาว่าอัลจาซีเราะห์ได้สัมภาษณ์ “ทักษิณ” ไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีคำถามประเภท “ชงหวาน” หรือไม่

ใครมั่ว ให้เบอร์ผิดๆ ระหว่าง เอส. กับ เอ. เวชชาชีวะ หว่า!

 ออกอากาศหรือยัง หรือไม่ให้ออก เพราะมีคำถามจี้ใจหรือเปล่า?

ถ้าจ่ายเงิน ก็ไม่น่ามีปัญหา สื่ออาหรับหรืออาไหน ย่อมป้อนคำถาม “ชงหวาน” ให้ตอบแบบตามใจคนจ่ายเงินได้อยู่แล้ว

 

ยังไม่รู้ว่าเข็ดหรือไม่ เห็นทนายแก้ต่างบอกว่าใกล้ถึงคิวสื่อไทยให้สัมภาษณ์ จะเป็นสื่อแท้ สื่อเทียม

หรือสื่อไถ อีกไม่นานก็รู้

งานนี้ “เสี่ยมาร์ค” ไม่เปิดแถลงข่าว เพียงแต่กระซิบให้พรรคพวกฟังสลับฉากได้หัวเราะครื้นเครงแก้เซ็งกับรัฐบาลขิงอ่อน

แน่นอน! ถือว่าเป็นโอกาสทองของ “เสี่ยมาร์ค” ได้เปิดแผลเรียกเลือดก่อน แต่ก็น่าเสียดาย “อัลจาซีเราะห์” น่าจะบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์กับ “เสี่ยมาร์ค” ไปออกอากาศเปรียบเทียบด้วย

  อืมม์...ถ้าไม่จ่ายเงิน ใครจะให้ออกอากาศฟรีๆ
 

http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/06/WW12_1240_news.php?newsid=2812
 

'ตลกร้าย'ของ'มาร์ค'แห่งพรรคประชาธิปัตย์............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีนับหมื่นคนในครั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายโดยฝ่ายอย่างชัดเจน....
1. โดยฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยความสมัครใจ ก็จะมีส่วนร่วมด้วยการแสดงอาการสะใจ พร้อมร้องตะโกนหากผู้อภิปรายบนเวทีพูดโจมตี คมช. และ พล.อ.เปรม...
2. ส่วนผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งนั้น ปรากฏว่าทั้งก่อน และขณะเริ่มการชุมนุม ได้มีรถตู้จำนวนหลายคันนำกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมาส่งที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยจะสังเกตได้การขณะที่แกนนำขึ้นอภิปราย คนที่มากับรถตู้ส่วนใหญ่นั่งก้มหน้าก้มตา และแสดงอาการไม่เข้าใจถึงความหมายของผู้อภิปรายที่ปราศรัยอยู่บนเวที

       

  อืมม์...ถ้าไม่จ่ายเงิน ใครจะนั่งก้มหน้าก้มตา และแสดงอาการไม่เข้าใจถึงความหมายของผู้อภิปรายที่ปราศัยอยู่บนเวที.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 23:28 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #7 เมื่อ: 09-06-2007, 23:36 »

  “สุริยะใส” แฉ ทรท.วางหมากปลุกม็อบชน ศาล รธน.ชี้ยุบพรรค
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2550 16:21 น.

 
      เลขาฯ ครป.เรียกร้องพรรคการเมือง หยุดกดดันศาล รธน.วินิจฉัยคดียุบพรรค จวกสมุน ทรท.กำลังท้าทายอำนาจศาล หวังใช้คำตัดสินยุบพรรค เป็นข้ออ้างเพื่อปลุกระดมนำไปสู่การเผชิญหน้า คมช.-รัฐ ก่อนลามปามก้าวก่ายการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม
       
       
       วันนี้ (20 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป.กล่าวถึงกรณีคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมืองในวันที่ 30 พ.ค.ว่า ช่วงที่ผ่านมากลุ่มการเมืองได้สร้างกระแสกดดันศาลรัฐธรรมนูญ และโน้มนำให้สังคมเข้าใจว่าถ้าวินิจฉัยยุบพรรคต้องยุบทั้ง 2 พรรค แต่ถ้าไม่ยุบต้องไม่ยุบทั้ง 2 พรรค โดยกระแสดังกล่าวปรากฏไปทั่วจนสามารถโน้มนำให้สังคมบางส่วนคล้อยตาม ทั้งนี้ ครป.ไม่เห็นด้วยกับการสร้างกระแสดังกล่าว เพราะขัดกับหลักนิติธรรม และจะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจสร้างบรรทัดฐานวินิจฉัยในคดีสำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ได้
       
       ในส่วนของคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคไทยรักไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะออกมาในลักษณะใดก็จะมีปฏิกิริยา หรือแรงต้านจากสังคม โดยเฉพาะหากมีคำพิพากษาให้ยุบพรรคใดพรรคหนึ่งหรือยุบทั้ง 2 พรรค มีความเป็นไปได้ที่พรรคการเมืองที่ถูกยุบ อาจจะใช้เป็นข้ออ้างในการปลุกระดมมวลชนเพื่อเผชิญหน้ากับ คมช.และรัฐบาล อาจนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดและในขณะนี้อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ระบุว่า หากถูกยุบจะนำมวลชนบุกยึดศาลากลางจังหวัด ซึ่งถือเป็นการท้าทายศาล และหากการท้าทายได้ กลุ่มอำนาจเก่าอาจยกระดับไปสู่ การท้าทายศาลยุติธรรมที่กำลังไต่สวน นอกจากนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีประวัติศาสตร์ ศาลรัฐธรรมนูญควรแจกแจงแนวทาง และขั้นตอนในการวินิจฉัยคดียุบพรรค ก่อนวันพิพากษาจริง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบ รวมทั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนที่ต้องเขียนคำวินิจฉัยส่วนตน และคำวินิจฉัยกลางนั้น ต้องพยายามพิสูจน์ความผิด หรืออธิบายเหตุผลของคำวินิจฉัยให้ประชาชนเข้าใจว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ตั้งธงหรือวินิจฉัยตามกระแส โดยไม่คำนึงถึงพยาน หลักฐานและข้อเท็จจริงแห่งคดี
       
       นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ทุกพรรคการเมืองควรรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ควรสร้างกระแสกดดัน การทำหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะข้อยุติของคดีดังกล่าวอยู่ที่ผลของคำวินิจฉัย หากพรรคการเมือง เห็นว่า คำวินิจฉัยมิชอบหรือตุลาการบางท่านวินิจฉัยแบบมีอคติขาดเหตุผล หรือขาดตรรกะที่น่าเชื่อถือ ก็สามารถตรวจสอบได้ในภายหลัง เพราะทั้งคำวินิจฉัยส่วนตน และคำวินิจฉัยกลางจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะอยู่แล้ว นอกจากนี้ ประชาชนควรตั้งสติรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรใช้อคติกับพรรคและนักการเมือง หรือสาปส่งให้ยุบทั้ง 2 พรรค โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงของรูปคดี เพราะไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหาการเมืองอย่างแท้จริง

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000057818
 


ถ้าได้ติดตามข่าวการให้ปากคำศาลฯของนายจุมพล ณ สงขลา
ในคดีเกี่ยวกับ นต.ประสงค์ สุ่นศิริ คดีหนึ่ง
นายจุมพล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในขณะนั้น
ได้ให้ปากคำว่า เขา"ลงความเห็น"ว่าทักษิณ ไม่"ซุกหุ้น I"
เพราะกลัว"ม๊อบทักษิณ"กดดัน ทำร้าย หน้าที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ......


คราวนี้ทักษิณและพรรคพวก จะใช้"แผนเดิม" หรือไม่...... Question



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 23:37 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #8 เมื่อ: 11-06-2007, 10:09 »

ครป.เตือนม็อบพีทีวีระวังเผชิญหน้า เร่งเงื่อนไขรัฐประหารซ้อน
 
10 มิถุนายน พ.ศ. 2550 17:49:00
 
ครป.เตือน ม๊อบพีทีวีระวังอาจเจอม๊อบเผชิญหน้าจากกลุ่มชนชั้นกลาง ชี้ตัวเร่ง สร้างเงื่อนไข ทหาร รัฐประหารซ้อน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.)กล่าวถึงการชุมนุมของม๊อบพีทีวี ว่า การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพที่ทำได้แต่จากการพิจารณาข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นพบว่ามีความต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาครองอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง เพราะฉะนั้นประชาชนซึ่งเป็นพลังต่อต้านการรัฐประหารด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ต้องระมัดระวังไม่ตกไปอยู่ในเกมทวงคืนอำนาจ ทั้งนี้ ครป.ขอเรียกร้องให้แกนนำผู้ชุมนุมหยุดยั่วยุฝ่ายตรงกันข้ามเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงความรุนแรงทุกรุปแบบ

ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมพยายามลอกเลียนแบบการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น เป็นสิทธิที่ทำได้คงไม่มีค่าลิขสิทธิ์ใดๆแต่อยากให้กลุ่มพีทีวีและกลุ่มไทยรักไทยเลียนแบบกลุ่มพันธมิตรให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการยึดมั่นแนวทางสันติวิธีของการต่อสู้เคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นจนจบ

“ ผมได้รับข้อเสนอจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะคนที่เคยเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อขับไล่ระบอบทักษิณว่า ถ้าเรียกร้องพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบทางศาล ก็มีความจำเป็นที่จะต้องจัดกลุ่มชุมนุมต่อต้านกันอีกครั้ง แต่โดยส่วนตัวผมยังเห็นว่าพันธมิตรฯ ไม่ควรจะชุมนุมในช่วงนี้ เพราะเรายอมยุติบทบาท หรือถอยก้าวหนึ่งเพื่อให้สังคมการเมืองเดินหน้าต่อไป และไม่บอบช้ำไปมากกว่านี้ และจากนี้ไปผมไม่รับประกันว่าจะมีการชุมนุมต่อต้านผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ หากมีอาจจะเป็นกลุ่มชนชั้นกลางที่จะออกมาชุมนุมต่อต้านการกลับคืนสู่อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรฯ”

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า เราจะไปเรียกร้องแกนนำให้ยุติเรื่องดังกล่าวไม่ได้ที่ทำได้คือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไม่ออกมาชุมนุมเพื่อเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ดีอารมณ์ร่วมของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในขณะนี้พร้อมที่จะออกมาชุมนุมทุกเมื่อ แต่เป็นคนละส่วนกับฝ่ายพันธมิตรฯ นอกจากนี้จุดมุ่งหมายที่ทำอยู่จะประสบความสำเร็จได้อย่างเดียวคือให้ทหารออกมาทำรัฐประหารซ้อน ทั้งที่อารมณ์คนส่วนใหญ่ในประเทศอยากให้มีการเลือกตั้งเร็วๆ และตามที่แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการระบุว่าให้เวลา7วันให้คมช.ลาออก จึงมีคำถามตามมาอีกว่าหากคมช.ไม่ลาออกจะทำอย่างไรต่อไป สถานการณ์การชุมนุมจะลากยาวออกไปอีกหรือไม่

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาครป.กล่าวว่า เห็นด้วยกับ สสร. ที่เลื่อนวันลงประชามติมาเป็นวันที่ 19 สิงหาคม และสสร.ต้องเร่งส่งสัญญาณหรือทำความชัดเจนให้ปรากฎว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีเนื้อหาสาระก้าวหน้ากว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2540 โดยสสร.และ กรรมาธิการฯจะต้องระมัดระวังไม่ให้เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญถูกนำไปสร้างความชอบธรรมในการต่อต้าน โดยเฉพาะที่มาของ สว. นอกจากนี้คมช. ควรจะประชุมหารือร่วมกับ รัฐบาล สนช.และ สสร.เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ควรเลื่อนวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้น ซี่งน่าจะเป็นช่วงประมาณวันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 อย่างไรก็ดีครป.ขอเรียกร้องทุกพรรคการเมือง แวดวงวิชาการ และภาคส่วนต่างๆ ในสังคมได้นำเสนอแนวคิดและนโยบายในการแก้วิกฤติการณ์ของประเทศเพื่อให้การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงสามารถคลี่คลายวิกฤติการณ์ของประเทศได้อย่างแท้จริง เช่น แนวทางสร้างความสมานฉันท์ ปัญหาความยากจน ปัญหาภาคใต้ ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นต้น

เลขาธิการครป. กล่าวถึงกรณีร่าง พรบ.สภาองค์กรชุมชน ว่า ครป.สนับสนุนร่าง พรบ.สภาองค์กรชุมชน เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้จะปูทางสู่การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะการเพิ่มบทบาทและการมีส่วนร่วมของชุมชนในสังคมให้มากขึ้น หากชุมชนชาวบ้านมีวัฒนธรรมประชาธิปไตยก็จะพัฒนาการเรียนรู้จนเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของการพัฒนาประชาธิปไตย รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมนักการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ไม่เป็นเหยื่อของนโยบายประชานิยม อย่างไรก็ดีกฎหมายฉบับนี้กระทรวงมหาดไทยควรปรับตัวและยอมรับความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชน การผูกขาดอำนาจไว้ที่ส่วนกลางอาจทำให้เกิดความแตกแยกได้ นอกจากนี้นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีรูปธรรมที่สะท้อนถึงการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะยุทธศาสตร์กระจายอำนาจของรัฐบาล ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง พฤติกรรมเดินสวนทางกับนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา เช่น การต่ออายุกำนันผู้ใหญ่บ้านไปจนเกษียณอายุ 60 ปี การตัดงบประมาณอุดหนุนท้องถิ่นลง ฯลฯ

“การประกาศลาออกของนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วย ผมเห็นด้วยเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง และเป็นแบบอย่างและบรรทัดฐานให้กับ รมต.อีกหลายคนในรัฐบาลนี้ที่ไม่กล้าคิดอะไรใหม่ๆ เพียงเพราะไม่อยากมีปัญหาหรือต้องรับผิดชอบอะไรจึงเป็นรัฐบาลเกียร์ว่างอย่างที่เห็นๆ กัน “ นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของไทยรักไทย ว่า วันนี้อำนาจทางการบริหารไม่ได้อยู่ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรค แต่ไปอยู่ที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค เป็นคนคุมอำนาจทั้งหมด รวมทั้งนางเยาวภายังเป็นท่ออำนาจที่สำคัญในการแสดงให้ลูกพรรคเห็นว่ายังมีผู้ใหญ่ในพรรคดูแลอยู่ คาดว่านายจาตุรนต์ คงทราบเรื่องนี้ดีคงต้องทบทวนบทบาทตัวเองใหม่ คงเหมือนกับคำว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุน
 
 http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/10/WW03_0301_news.php?newsid=78143



หากมีอาจจะเป็นกลุ่มชนชั้นกลางที่จะออกมาชุมนุมต่อต้านการกลับคืนสู่อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรฯ....

พฤติกรรม การแสดงออกของผู้ร่วมชุมนุม"ม๊อบไข่แม้ว"ผ่านจอทีวี
จะทำให้"กลุ่มชนชั้นกลาง"คิดหลายตลบว่าสมควรจะออกมาเสี่ยงภัย เสี่ยงบาดเจ็บอย่างคุณไกรศักดิ์ ชุณหวัน หรือไม่.....



ทั้งนี้ ครป.ขอเรียกร้องให้แกนนำผู้ชุมนุมหยุดยั่วยุฝ่ายตรงกันข้ามเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงความรุนแรงทุกรุปแบบ [/color]
พฤติกรรมยั่วยุของกลุ่มผู้ชุมนุม"ม๊อบไข่แม้ว" ควรจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารของคณะ คมช.ดำเนินการควบคุมและกำกับให้อยู่ภายในกรอบกฎหมายว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม(แม้ว่าหลังฉากจะเป็นการขับไล่ คมช.เพื่อให้"นายผู้ชาย"กลับมามีอำนาจใหม่)มากกว่า...



คาดว่านายจาตุรนต์ คงทราบเรื่องนี้ดีคงต้องทบทวนบทบาทตัวเองใหม่ คงเหมือนกับคำว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุน........
อาจจะเป็นคำว่า "ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา" หลวมตัว หลงคารมไปเรียบร้อยโรงเรียนแม้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: