รวงข้าวล้อลม
|
 |
« เมื่อ: 07-06-2007, 13:14 » |
|
 นึกว่าจะเปลี่ยนใจแล้ว เพราะไงๆๆๆๆ ก็แถไม่ไหวแล้วนี่นา ขอโทษที ขอเปลี่ยนหัวกระทู้หน่อยนะคะ ผิดพลาดทางเทคนิคค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2007, 13:34 โดย รวงข้าวล้อลม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รวงข้าวล้อลม
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 07-06-2007, 13:25 » |
|
นี่คืออาการของคนจะขาดใจ มักจะมีอาการเช่นนี้ ออกข่าวๆยังๆไงๆๆๆ กมีแต่คนนั่งอมยิ้ม
หมดท่าจริงๆ ทรท ทำได้เท่านี้เอง
-----------------------------------------------------------------------------------
จากไทยโพสต์
20 อดีต ส.ส.ไทยรักไทยเปิดตัวกลุ่ม "คนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการ" ฟุ้ง 60 อดีต ส.ส.เข้าร่วมด้วย ชูสโลแกน "เจ๊ง เครียด คิดถึงทักษิณ" ผุดเครือข่ายดาวกระจาย
ปลุกระดมม็อบทุกภาคทั่วประเทศล้ม คมช. ทวงอำนาจคืนทรราชหน้าเหลี่ยม คาดไม่เกินกันยา.เข้ากรุงเป็นล้าน ขณะที่กลุ่มไม่ชอบขี้หน้า "คมช." ได้ที่พักพิงแล้ว "หมอเหวง" เผยตัวนำทีมไหลไปรวมกับพีทีวีใช้ชื่อใหม่ "แนวร่วมประชาธิปไตย ขับไล่เผด็จการ" โค่นอำมาตยาธิปไตย ล้มรัฐธรรมนูญ รับหน้าชื่นให้ "แม้ว" เป็นนายกฯ อีกรอบ "ตุ๊ดตู่" บัญชาการรวมพลตรึงสนามหลวง 24 มิถุนา.แตกหัก แก้ คปค.ฉบับที่ 15 ส่อลากยาว "สดศรี" เผยห้องประชุมสภาไม่ว่าง
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2550 กลุ่มอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย กว่า 20 คน ร่วมกันแถลงข่าวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งนับเป็นกิจกรรมทางการเมืองแรกของพรรคการเมือง หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน โดยใช้ช่องตามข้อ 2 ของประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 27 ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้
กลุ่มอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย นำโดยนายนิสิต สินธุไพร ผู้ประสานงานทั่วประเทศ แถลงเปิดตัวกลุ่ม "คนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการ" และแสดงเจตนารมณ์ รวมทั้งแนวทางในการเคลื่อนไหวของกลุ่ม โดยมีสมาชิกเครือข่ายต่างๆ อีก 19 เครือข่าย เช่น ชมรมเครือข่ายแท็กซี่อีสาน กลุ่มผู้ประกอบการมัคคุเทศก์ ชมรมคนร้อยเอ็ดต่อต้านเผด็จการ ชมรมสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
นายนิสิตแถลงว่า กลุ่มก่อตั้งขึ้นมาด้วยความเห็นจากประชาชนหลากหลายอาชีพที่เรียกร้องมานานมาก เนื่องจากภาวะของประเทศอยู่ในยุคมืดของประชาธิปไตยและเศรษฐกิจตกต่ำ รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะมีการสืบทอดอำนาจของ คมช.และคณะ ผ่านทางพรรคการเมืองบางพรรค และกลุ่มการเมืองบางกลุ่มอย่างชัดแจ้ง
ดังนั้นจึงมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการของกลุ่มขึ้นโดยมีจุดประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เป็นศูนย์กลางประสานงานของประชาชนทุกภาคส่วนทุกสาขาอาชีพในสังคมทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ 2.เข้าร่วมขับเคลื่อนกับองค์กรประชาธิปไตยและประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยทั่วประเทศในการขับไล่ คมช. และคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ และ 3.ให้ คมช.คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศพ้นจากวิกฤติเผด็จการโดยเร็ว
"ขณะนี้มีอดีต ส.ส.จากพรรคไทยรักไทยจากทุกกลุ่ม ทุกภาค กว่า 60 คน มาร่วมอุดมการณ์ด้วย" แกนนำกลุ่มคนรักทักษิณระบุ
เขาบอกว่าหลังแถลงข่าวเสร็จ จะไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการที่สนามหลวง โดยส่งตัวแทนขึ้นปราศรัยบนเวทีด้วย และจะมีการจำหน่ายเสื้อคนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการ เพื่อเป็นกองทุนของกลุ่มเพื่อต่อสู้กับเผด็จการต่อไป
นายนิสิตอ้างว่า กลุ่มนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไทยรักไทย และเราก็ไม่ได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่เป็นเพียงผู้ประสานงานจากเสียงเรียกร้องของประชาชน โดยเบื้องต้นจะรณรงค์เรียกร้องประชาชาธิปไตยในพื้นที่ของตัวเองก่อน แต่หากประชาชนจากต่างจังหวัดต้องการมาร่วมกับส่วนกลางใน กทม.เราก็คงไปห้ามไม่ได้
ด้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ผู้ประสานงานภาคกลาง อดีตคนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ค่อนข้างชัดเจนว่าผู้มีอำนาจบางคนมีการสืบทอดอำนาจผ่านการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อสืบทอดอำนาจผ่านบางพรรคการเมืองและบางกลุ่มการเมือง
"ในฐานะอดีตทหารคนหนึ่ง อยากขอร้องให้ยกเลิกการสืบทอดอำนาจ และเร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ผมรู้ดีว่าทหารยศพลเอกท่านใดไปคุยกับหัวหน้าพรรคไหนเพื่อให้สืบทอดอำนาจ จึงขอวิงวอนให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเสีย" พ.อ.อภิวันท์กล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ประสานงานภาคใต้ กล่าวว่า วันนี้เราจะทำการเมืองภาคประชาชน หากให้เผด็จการครองอำนาจอยู่ต่อไป ลัทธิทรราชจะถูกนำเข้ามา หลักนิติธรรมจะถูกทำลาย ประชาชนทั่วประเทศกำลังมีความรู้สึกว่าอำนาจตุลาการถูกแทรกแซงโดยเผด็จการ ประชาชนเริ่มคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้กลับมา แต่การกลับมาต้องสง่างามและปลอดภัย ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้เผด็จการจะต้องออกไปเสียก่อน จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันขับไล่เผด็จการออกไป
พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ผู้ประสานงานภาคเหนือ แถลงว่า ได้รับการประสานจากองค์กรต่างๆ ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก มีการวิจารณ์กันถึงรัฐธรรมนูญกันมากว่าเป็นฉบับสืบทอดอำนาจ พิกลพิการ หมกเม็ด ถ้าหาก คมช.และทหารยังมีพฤติกรรมเลวร้ายกว่านี้ ประชาชนจะทนไม่ไหว แล้ววันนั้น คมช.และเผด็จการจะไม่มีที่อยู่
เขาบอกว่าทางกลุ่มมีสโลแกนว่า "เจ๊ง เครียด คิดถึงนายกฯ ทักษิณ" จากนี้เราจะร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยทั่วประเทศและทั่วโลก เพื่อกดดัน คมช.คืนอำนาจอธิปไตยให้ปวงชนชาวไทยโดยเร็ว "อยากถามว่า คมช.อยากจะไปดีๆ หรืออยากจะไปแบบไม่มีแผ่นดินอยู่ เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา ที่ผ่านมาในอดีต คมช.ไม่เคยสร้างความสมานฉันท์ตามที่ปากพูด ดีแต่ทำร้ายบ้านเมือง" อดีต ส.ส.ไทยรักไทยผู้นี้กล่าว
ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ โฆษกกลุ่มฯ ยืนยันว่า ทางกลุ่มไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อให้มาดำเนินการอย่างแน่นอน การใช้ชื่อกลุ่มคนรักทักษิณนั้นไม่จำเป็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง เพียงแต่การรวมตัวกันครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสืบทอดอำนาจเท่านั้น
โฆษกกลุ่มคนรักทักษิณกล่าวว่า เหตุที่อดีต ส.ส.ไทยรักไทยมาร่วมเป็นจำนวนมาก เพราะเราไม่ห่วงการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว หากมีการสืบทอดอำนาจ ผลการเลือกตั้งได้คนที่ไม่ถูกใจ คมช. เขาก็ต้องคว่ำกระดานและส่งไม้ให้กับคนของเขา ส่วนที่ทำการของกลุ่ม ขณะนี้จะขอใช้เต็นท์กลางสนามหลวงเป็นที่ทำการไปก่อน เพราะเพิ่งจะมีการรวมตัวกัน
ด้าน นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า แนวทางต่อไปของกลุ่ม จะใช้ยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมือง ที่จะกระจายกันไปทั่วประเทศ ไม่จำเป็นจะต้องมีคนเป็นจำนวนมาก มีเพียง 10-15 คนก็ชุมนุมต่อต้าน คมช.ได้ ใครก็ตามที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ รักประชาธิปไตย ก็สามารถจะมาเป็นแนวร่วมของกลุ่มได้ มั่นใจว่าหลังจากนี้ 30 วัน จะมีผู้เข้าร่วมเป็นแนวร่วมทั่วประเทศ 15 ล้านคน
ขู่ไม่เกินกันยา.มาเป็นล้าน
"หากสถานการณ์ทุกอย่างสุกงอม โดยเฉพาะกรณีที่รัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ คาดว่าคงไม่เกินเดือนกันยายนจะต้องมีผู้มาชุมนุมที่ กทม.ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนอย่างแน่นอน ผมมั่นใจว่าเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะล้ม คมช.ลงได้ โดยในวันศุกร์ที่ 8 มิถุนายนจะมีการปราศรัยที่ จ.อุดรธานี ในนามของกลุ่มด้วย" นพ.วิชัยกล่าว
อีกกลุ่มที่เคลื่อนไหวคือ กลุ่มแนวร่วมประชาชนต้านรัฐประหาร (นปตร.) โดย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำฯ จัดประชุมร่วมระหว่างองค์กรต่างๆ ที่ต้านรัฐประหาร ประมาณ 100 คน โดยมีนักการเมือง อดีต ส.ส. ส.ว. นักวิชาการ ศิลปิน เข้าร่วมประชุมด้วย ที่ห้อง 222 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
อาทิ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ นางประทีป อึ้งทรงธรรม นายจตุพร พรหมพันธุ์ กลุ่มพีทีวี นายก่อแก้ พิกุลทอง กลุ่มพีทีวี นายประพันธ์ แต้มสีทอง กลุ่มพีทีวี นายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย พ.อ.สมคิด ศรีสังคม กลุ่มมัชฌิมา อดีต ส.ว.อุดรธานี นายสุดชาย บุญไชย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท โฆษกกลุ่มคนวันเสาร์ฯ นายสุชาติ ตันติธนไพศาล เลขาธิการกลุ่มคนวันเสาร์ฯ
นายสุพจน์ ด่านตระกูล สถาบันวิทยาศาสตร์สังคม นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายกำชัย จงจักรพันธุ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และแกนนำกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นต้น
การประชุมกันร่วม 5 ชั่วโมง โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมสังเกตการณ์ในห้องประชุม ทั้งนี้ หลังการประชุม ผู้เข้าร่วมจากกลุ่มต่างๆ ทยอยเดินทางกลับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเหลือเพียง นพ.เหวง และนายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ที่อยู่แถลงข่าว
นพ.เหวงแถลงว่า ที่ประชุมมีมติในเบื้องต้นให้แต่ละกลุ่มผนึกกำลังต่อสู้ร่วมกันภายใต้ชื่อ "แนวร่วมประชาธิปไตย ขับไล่เผด็จการ" ซึ่งเป็นชื่อที่กลุ่มพีทีวีตั้งขึ้นใหม่ แต่ขอปฏิเสธไม่ยอมรับว่าถูกกลืนเข้ากลับกลุ่มพีทีวีเดิม เนื่องจากกลุ่มต่างๆ ไม่ได้ยุบตัวเองลง ทั้งนี้ จะใช้แนวทางแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ต่อต้านรัฐประหารประณามผู้ก่อการยึดอำนาจในวันที่ 19 กันยายน 49 ขับไล่คณะรัฐประหารให้ออกไปโดยเร็วที่สุด คว่ำรัฐธรรมนูญ โค่นระบอบอำมาตยาธิปไตย ล้ม คมช.และปฏิเสธผลพวงจาก คมช.
เขาบอกว่าองค์กรที่มาร่วมกันในครั้งนี้มีท่าทีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยความเข้มข้นไม่เท่ากัน บางคนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ไม่ใช่ธงขององค์กร อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งกลุ่มในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่มีการรวมอดีต ส.ว. ส.ส. นักการเมืองและนักวิชาการ เข้ามาร่วมต้านรัฐประหารด้วย ซึ่งแต่ละภาคส่วนก็มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างประชาธิปไตย แม้จะมีบางจุดที่เห็นต่างกัน
นพ.เหวงกล่าวว่า ภารกิจแรกที่จะเริ่มดำเนินการคือในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ จะมีการตั้งศาลประชาชน ซึ่งจัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง เพื่อพิจารณาคณะรัฐประหารว่ามีทำถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องจะมีการพิจารณาลงโทษ จากนั้นในวันที่ 9 มิถุนายน จะมีการพิจารณาการถือครองสิทธิ์ที่ดินเขายายเที่ยงที่ จ.นครราชสีมา ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ และการจดทะเบียนซ้อนของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร รวมทั้งการนำเอากรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรคมาพิจารณาด้วย
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กว่า 1 ช.ม. ว่าการเข้ามาพบในวันนี้มีการคุยถึงเรื่องสมัยเด็กๆ เพราะว่ามีลูกน้องสมัยที่ร้อยตรีอยู่ด้วยกันเขาเอาของมาให้ ก็เลยเอามาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดู
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มม็อบต่างๆ อย่างไร พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่ได้คุยกัน แต่ก็ได้บอก พล.อ.บุญรอดว่าทาง คมช.ทำเต็มที่ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้ท่านสบายใจ
ด้าน พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหมและเลขาธิการ คมช. กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ พล.อ.สนธิ คิดว่าไม่น่าห่วงอะไร ทุกอย่างคงต้องพัฒนาไปในทางที่ดี
"วินัย" หยามม็อบ
ซักว่ามีม็อบหลายกลุ่มพยายามรวมตัวกันในวันที่ 24 มิถุนายน มีการเตรียมการรับมือเหตุการณ์รุนแรงอย่างไรบ้าง พล.อ.วินัย ย้อนถามกลับมาว่า ก็เห็นมีการชุมนุมใหญ่อยู่ทุกวันไม่ใช่หรือ คิดว่าทาง คมช.พยายามทำดีที่สุดในการดูแลสถานการณ์ให้เกิดความเรียบร้อยที่สุดด้วยความอดทน
พล.อ.วินัยยังกล่าวถึงข่าวการตั้งพรรคของ คมช.ว่า ไม่รู้ห่วงต่อกระแสข่าวดังกล่าว แต่ห่วงอยู่แต่ว่ามีสื่อบางคนเอาชื่อตนไปเขียนโดยปราศจากข้อมูลอันเป็นจริง
"หลายๆ เรื่องที่รายงานก็ปราศจากข้อมูลข้อเท็จจริง เอาชื่อผมเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยที่ตัวผมเองไม่เคยได้รับทราบ ไม่มี กลุ่มรักชาติ ผมเพิ่งได้ยินจากสื่อ"
มีรายงานว่า กลุ่มรักชาติ เปิดสำนักงานที่บริเวณถนนสุโขทัย พบว่ามีคนที่ใกล้ชิดใน คมช. เดินทางเข้าไปที่ทำการพรรคดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง
ที่อาคารนวสร วันเดียวกันนี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย แถลงถึงกรณี ครม. มีมติแก้ประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 ข้อ 1 และกำลังยกร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 ข้อ 2 ว่า ไม่ได้แก้ปัญหาที่ คมช.ตั้งโจทย์ไว้เลย มีเฉพาะพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมที่ทำกิจกรรมทางการเมืองและอาจลงเลือกตั้งได้ หมายความว่าการดำเนินการทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การต่อต้านรัฐบาลไทยรักไทย และยึดอำนาจนั้น ไม่ได้เป็นไปตามข้ออ้างของ คมช.ในการรัฐประหารเลย มันกลายเป็นว่าผู้ยึดอำนาจเป็นผู้กำหนดว่าอยากให้ใครเป็นรัฐบาล
หัวหน้ากลุ่มไทยรักไทยบอกว่าเห็นได้ชัดเจน พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจะเป็นแกนตั้งรัฐบาล หากจำนวน ส.ส.ไม่พอก็จะดึงกลุ่มต่างๆ ไปร่วมรัฐบาล และก่อนหน้านี้มีความตั้งใจว่าจะทำให้พรรคไทยรักไทยเป็นฝ่ายค้าน ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าไม่ให้กลุ่มไทยรักไทยลงสมัคร ตนคิดว่าต่อไปนี้รัฐบาลชุดหน้าจะเห็นดีเห็นงามกับการยึดอำนาจ และน่าจะประสานงานกับผู้ยึดอำนาจกันต่อไป
นายจาตุรนต์กล่าวว่า ในช่วงนี้กลุ่มไทยรักไทยได้จัดทำแบบฟอร์มการรับสมัครสมาชิกกลุ่ม เพื่อรวมตัวกันก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมาใหม่ เพราะสิทธิการตั้งพรรคเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
"มันเป็นการจงใจทำให้เรื่องนี้ล่าช้าไป เพื่อที่จะขจัด-จัดการ-ทำลายผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับ คมช. โดยเฉพาะผู้ที่เคยอยู่กับพรรคไทยรักไทย" นายจาตุรนต์พูดถึงมติ ครม.ให้ออกเป็น พ.ร.บ.แทนที่จะยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 ไปเลย
เขาย้ำว่า หากไม่มีการร่นเวลาเลือกตั้งให้เร็วขึ้น ไม่โดนขัดขวาง ถ่วงเวลาจนเกินเหตุ ก็น่าจะตั้งพรรคทัน และหาก ครม.สั่งให้กฤษฎีกาเร่งร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 เพราะมีไม่กี่ข้อความ และ สนช.บรรจุวาระเร็ว และไม่จำเป็น ตั้งกรรมาธิการนั้นก็ทำได้เลย ส่วนการตั้งพรรคนั้น กลุ่มไทยรักไทยไม่มีปัญหาในด้านธุรการ เพราะเตรียมความพร้อมไว้แล้ว อาจติดขัดเรื่องการชำระบัญชีบ้าง แต่มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากที่บางฝ่ายอ้างว่าอาจใช้เวลาถึง 6 เดือน
เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายจาตุรนต์ตอบว่า ไม่ทราบ ต้องให้หลายคนช่วยคิด ขอให้อดีต ส.ส.ไปเยี่ยมประชาชนให้เยอะ ประชาชนน่าจะให้คำแนะนำอดีต ส.ส. และหวังว่าประชาชนอยากเห็นพรรคไทยรักไทยกลับคืนมาและพร้อมสนับสนุน คิดว่าอดีต ส.ส.จะอยู่กับกลุ่มไทยรักไทยเยอะ
สำหรับกระแสข่าวมีการดึงอดีต ส.ส.ไปจากพรรคนั้น นายจาตุรนต์ชี้ว่า มาจากหลายทาง แต่สืบไปแล้วมันก็เข้าใจได้ว่าคือกลุ่มผู้ที่มีอำนาจที่ต้องการกวาดล้างพรรคไทยรักไทยให้สิ้นซาก
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า ในอดีตทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหาร จะมีการยุบทุกพรรคการเมือง และให้มีการจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่พร้อมๆ กัน เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ และมีความเสมอภาค แต่ความจงใจที่จะล้างเผ่าพันธุ์ไทยรักไทย ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 จึงมองได้ว่ามีความจงใจให้พรรคอื่นๆ ที่เป็นแนวร่วมกับเผด็จการได้เปรียบ
"วันนี้ถือว่าไม่ยุติธรรมต่อพรรคที่ถูกยุบ เพราะถูกห้ามจัดตั้งพรรคการเมืองอีกเป็นเดือน เชื่อว่าน่าจะเป็นเวลาอีกหลายเดือน เพราะต้องผ่านการพิจารณาของ สนช. ซึ่งต้องใช้เวลานาน เพราะย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มันจะกลายเป็นประเด็นโจมตีกันต่อไปอีกแน่นอน วันนี้ความอยุติธรรมได้เกิดขึ้น แม้วินาทีเดียวก็ถือเป็นตราบาป ไม่อยากเชื่อว่าจะมีการวางแผนซับซ้อนขนาดนี้ และมองไม่เห็นว่าจะตั้งพรรคการเมืองได้เร็วได้อย่างไร"
"เติ้ง" ได้กลิ่นม็อบบุกกรุง
ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงข่าวว่า เป็นห่วงปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังการยกเลิกข้อ 1 ที่เปิดให้พรรคการเมืองต่างๆ ชุมนุมกันได้ เกรงว่าหลายฝ่ายจะเกณฑ์คนเข้ามา โดยเฉพาะอดีต ส.ส.บางท่านรวมตัวกันจะนำประชาชนในพื้นที่ 300-400 คนเข้ามาใน กทม.อาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้
หัวหน้าพรรคชาติไทยกล่าวว่า การเดินทางเข้ามา เขาไม่ได้เดินมาด้วยความสมัครใจ ต้องจ้างแน่นอน พรรคพวกของผมก็ได้เงินค่าจ้างมา 1,000 บาท เมื่อวานนี้ได้ข่าวว่าบางโรงงานใน กทม.จ้างคนงานไปชุมนุมให้คนละ 500 บาท แค่ชุมนุม 2 ชั่วโมงก็ได้เงินแล้วเขาก็ไปกัน ดังนั้นถ้าใช้เงินให้มาชุมนุมปัญหาก็เกิดขึ้น มันก็จะบานปลาย ถ้ารัฐธรรมนูญออกมาไม่ได้จะทำอย่างไร
"ผมไม่ค่อยเห็นด้วยการเดินทางมาชุมนุมกันแบบนี้ และการพูดบนเวทีรับไม่ได้เลย มันไม่ใช่ภาษาไทย ภาษาอะไรก็ไม่รู้ สมัยเอเอสทีวีพูดเขาก็ไม่ใช้ภาษาแบบนี้ เมื่อเปรียบเทียบกันเขาเรียบร้อยกว่าเยอะ ผมก็เห็นใจทุกคนที่จะปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ผมก็เห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย แต่มันต้องถูกต้องตามหลักการ"
นายบรรหารกล่าวว่า วันที่ 12 มิถุนายน จะเรียกประชุมอดีต ส.ส.เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางการเมืองในอนาคต ถ้าใครจะสมัครเข้ามาเราก็ไม่ขัดข้อง แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อเข้าพรรค เพราะถูกท่อใหญ่ดูดอยู่ ทั้งนี้หลักการคัดเลือกผู้สมัครลงเลือกตั้งก็จะพิจารณาคนเดิมก่อน และก็พร้อมเดินหน้าเลือกตั้งเต็มที่ ซึ่งความจริงเราเตรียมการไว้หลายเดือนแล้ว แต่ไม่เปิดเผย
สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น หัวหน้าพรรคชาติไทยบอกว่า ไม่เอาแล้ว ตนอายุมากแล้ว ปีนี้ก็ 75 แล้ว ไม่ไหวแล้ว ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงข้างมากก็ต้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็น อย่าลืมว่านายกฯ ในต่างประเทศ อายุ 40 ก็ได้เป็น นายอภิสิทธิ์ไม่ถึง 50 ก็ถือว่าเป็นได้ ส่วนบารมีไปหาเอาข้างหน้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงจุดยืนพรรคว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศด้วยความห่วงใยมาโดยตลอด โดยเฉพาะการรับทราบปัญหาต่างๆ ของประชาชนอย่างใกล้ชิด ทำให้เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่อยู่ในใจของประชาชนที่เป็นทุกข์มี 3 เรื่องคือ 1.ปัญหาความยากจนและเศรษฐกิจโดยรวม 2.ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 3.ปัญหาความแตกแยกในบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจแค่ไหนที่จะสร้างอนาคตใหม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า เร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ วันนี้มีคนพูดถึงเรื่องการเมืองมากว่าใครจะไปอยู่กับใคร ที่ไหน อย่างไร ถ้าถามประชาชน เขาไม่ได้คิดเรื่องนี้ ใครจะอยู่กับใครไม่สำคัญ ตนมองว่าการที่จะได้รับสนับสนุนจากประชาชนนั้น ไม่ได้มองในกรอบเดิมว่าอดีต ส.ส.อยู่ที่ไหน จะไปหาเสียงอย่างไร แต่มองว่าประชาชนจะสนับสนุนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาให้เขาได้ ซึ่งตนนำเรื่องนี้เป็นตัวตั้งในการทำงานของพรรคในยุคนี้
ซักว่าจะสร้างความมั่นใจกับประชาชนได้อย่างไรว่าการประกาศกับประชาชนในวันนี้จะไม่ใช่การขายฝัน นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ต้องพิสูจน์กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป หมายความว่า เมื่อประกาศอย่างนี้ ตั้งแต่นี้ไปคนในพรรคต้องทำงานตามแนวทางนี้ และมีคำตอบให้ประชาชน ถ้าประชาชนมีความเชื่อมั่นก็เป็นคำตอบอยู่ในตัว ถ้าประชาชนไม่เชื่อมั่นก็จะสะท้อนออกมาโดยการไม่สนับสนุน
ที่รัฐสภา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กล่าวว่า การจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองนั้นต้องใช้เวลา เพราะตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ต้องมีการชำระบัญชีไม่ต่ำกว่า 60 วัน ส่วนการไปจองชื่อพรรคนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะเป็นผู้พิจารณา
"การไปจดจองชื่อพรรคการเมืองไว้ก่อนไม่ทราบว่า กกต.จะทำให้ได้หรือไม่ แต่ผมคิดว่าคงไม่ง่ายเหมือนกับไปจองตั๋วหนัง เพราะมันต้องมีเหตุผล และขึ้นอยู่กับนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะพิจารณาว่าให้ได้หรือไม่" น.ต.ประสงค์กล่าว
แก้ คปค. 15 ส่อลากยาว
นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการดำเนินการภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้ว่า กกต.จะหารือเพื่อกำหนดกรอบการทำกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมือง ให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยพรรคการเมืองต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการชุมนุมที่เป็นความขัดแย้ง อย่างไรก็ดี หากพรรคการเมืองจะจัดการประชุมใหญ่ จะต้องแจ้งต่อ กกต. เพราะการประชุมใหญ่ถือเป็นกิจกรรมที่จัดโดยอาศัยเงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง โดย กกต.จะเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมว่าเป็นการประชุมใหญ่จริงหรือไม่
นางสดศรีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กกต.จะจัดการประชุมร่วมพรรคการเมืองเพื่อเตรียมฐานข้อมูลสำหรับการเลือกตั้ง ส่วนกรณีที่มีพรรคไทยเป็นไทยได้ออกประกาศว่าผู้สมัครสมาชิกกิตติมศักดิ์ถึง 6 ล้านคน กกต.ได้แจ้งไปยังพรรคดังกล่าวแล้วว่าไม่สามารถดำเนินการเช่นนั้นได้ โดย กกต.จะเข้าไปตรวจสอบรายชื่อสมาชิกพรรค หากพบว่ามีความซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น หรือมีการระบุชื่อโดยไม่ได้รับความยินยอม จะถือว่ามีความผิด และมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 15 พรรคการเมืองจะสามารถดำเนินการต่อไปอย่างไร นางสดศรีกล่าวว่า การที่พรรคการเมืองจะจดทะเบียนต้องรอ สนช.ออก พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 โดยระหว่างวันที่ 11-30 มิ.ย. สนช.จะไม่มีการประชุมเพื่อเปิดโอกาสให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี กรณีที่มีเรื่องเร่งด่วนเข้าสู่การพิจารณา จะขึ้นอยู่กับความเห็นของประธาน ส.ส.ร.และประธาน สนช. สำหรับการตั้งชื่อพรรคการเมืองใหม่ สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือการตั้งชื่อไม่ให้ซ้ำกับพรรคการเมืองที่มีอยู่ ไม่ว่าจะใช้คำพ้องรูปหรือพ้องเสียง การตั้งชื่อที่สื่อไปในทางที่ไม่ดี และการใช้ชื่อพรรคตามราชวงศ์ เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้
มีรายงานจาก กกต.ว่า จากมติ ครม.เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน มีพรรคการเมืองที่สามารถดำเนินกิจการทางการเมืองได้ทั้งหมด 40 พรรค ซึ่งตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองอนุญาตให้จัดประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง เพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายพรรค ข้อบังคับของพรรค เลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค หาสมาชิกพรรค จัดตั้งสาขาพรรคได้
อย่างไรก็ดี ทั้ง 40 พรรคการเมืองยังมีพรรคที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรค จำนวน 7 พรรค ได้แก่ พรรคไทยช่วยไทย พรรครวมพลังไทย พรรคสันติภาพไทย พรรคธัมมาธิปไตย พรรครักษ์แผ่นดินไทย พรรคธรรมชาติไทย และพรรคพลังธรรม
นอกจากนี้ยังมีอีก 16 พรรคการเมือง จะต้องดำเนินการโดยการหาสมาชิกให้ครบ 5,000 คน และจัดตั้งสาขาพรรคภาคละ 1 สาขา ให้ครบ 4 สาขา ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดตั้งพรรค ตามมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคประชาราช พรรคดำรงไทย พรรคเกษตรกรแรงงานไทย พรรคแรงงาน พรรคนิติศาสตร์ไทย พรรคพลังแผ่นดิน พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย พรรครักเมืองไทย พรรคพลังแผ่นดินไท พรรคเสรีประชาไทย พรรคพลเมืองไทย พรรคเอกราช พรรคชาติสามัคคี พรรคสังคมไทพรรคราษฎรรักไทย และพรรคอยู่ดีมีสุข
เย็นวันเดียวกัน ที่ท้องสนามหลวง กลุ่มพีทีวีที่เปลี่ยนชื่อเป็น แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ได้จัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเหมือนทุกวันที่ผ่านมา โดยมีประชาชนมาร่วมประมาณ 1,000 คน ที่น่าสังเกตคือ คนที่มาร่วมชุมนุมจะมาเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละประมาณ 5-6 คน พร้อมทั้งถือป้ายต่อต้าน คมช.มาด้วย หลังจากนั้นจึงไปรับผ้าโพกหัวสีเหลือง และธงที่ทางกลุ่มแนวร่วมฯ จัดเตรียมไว้ก่อนไปนั่งฟังคำปราศรัย
ส่วนความเคลื่อนไหวของเจ๊ดา ตอร์ปิโด ที่ถูกปาขี้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา วันนี้ก็มาอยู่ที่บริเวณสนามหลวงเช่นกัน แต่ไม่ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีใหญ่ โดยไปปราศรัยส่วนตัว ซึ่งเป็นเวทีเล็กๆ ด้านข้าง ด้วยคำพูดที่ไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยประมาณ 20 คนที่ได้ประกาศจัดตั้งกลุ่มคนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการ มาเข้าร่วมและมีกำหนดการจะขึ้นปราศรัยด้วย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมฯ ให้สัมภาษณ์ว่า มีความยินดีที่กลุ่มอดีต ส.ส. 20 คนต่อสู้ขับไล่เผด็จการกับเรา และหากกลุ่ม ส.ส.จะนำคนมาต่อสู้เผด็จการกับเราก็ยิ่งยินดี เพราะจะได้เป็นการแสดงพลังของประชาชนในการขับไล่เผด็จการ และขอประณามนักการเมืองบางพรรคที่ไม่ยอมขับไล่เผด็จการ
"ตามกำหนดการเดิมที่กำหนดไว้ วันที่ 24 มิถุนายน เราจะชุมนุมขั้นเด็ดขาด แต่ก่อนถึงวันดังกล่าวเราจะขอถามประชามติคนที่ร่วมชุมนุมว่า มีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าหากมีความพร้อมอาจมีการเคลื่อนขบวนไปที่หน้า บก.ทบ." นายจตุพรกล่าว.
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2007, 13:35 โดย รวงข้าวล้อลม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 07-06-2007, 13:33 » |
|
ชายฯมีหน้าที่และภารกิจต้องช่วยเพื่อนมนุษย์ให้หายจากความเซ่อ....ชายฯมั่นใจว่าชายฯทำได้อ่ะ!!! 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รวงข้าวล้อลม
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 07-06-2007, 13:37 » |
|
ชายฯมีหน้าที่และภารกิจต้องช่วยเพื่อนมนุษย์ให้หายจากความเซ่อ....ชายฯมั่นใจว่าชายฯทำได้อ่ะ!!!   แล้วที่ชายเซ่อเอง นี่จะต้องมีใครช่วยมั๊ยคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 07-06-2007, 13:48 » |
|
ก็มีวิธีครับ..
คือ ปล่อยให้ชายแบ่งตัว เป็นชาย1 กับชาย2 เถียงกันเอง ด้วยวิธีการเดียวกัน...  ผลที่ได้รับเป็นไปได้สองทางครับคือ วนเป็นงูกินหาง คือโง่มากขึ้น หรือ ขจัดความไม่เข้าใจออกไปได้ ฉลาดขึ้น อันนี้ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดว่าจะเอาผลแบบไหน? ไม่ใช่ว่าชายหนึ่งหรือชายสองต้องชนะให้ได้...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
รวงข้าวล้อลม
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 07-06-2007, 14:00 » |
|
เอางี้แล้วกัน คุณชายเหนือชายจ๊ะ จากบทความของไทยโพสต์ ที่ยกมา ชายอ่านแล้ว คิดไงบ้างล่ะ แสดงความคิดเห็น แบบชายเหนือชายหน่อยนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 07-06-2007, 14:07 » |
|
ลองทำใจกลางๆดูค่ะแล้วคิดตามว่า....หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งจนหมดหนทางที่จะเรียกร้องความยุติธรรมใดๆจากใครก็ตาม คุณมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ หนึ่ง ยอมรับสภาพที่จะเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งไปเรื่อยๆและไม่รู้ว่าจะการกลั่นแกล้งจะหยุดได้เมื่อไหร่ หรือ สอง สู้กลับในทุกรูปแบบ ไม่ต้องสนใจในข้อกฎหมาย ศีลธรรม กติกา และมีความหวังว่าจะชนะ มีอยู่ 2 ทางเลือกดังกล่าวที่ท้ายสุด....มันก็ต้องนองเลือด!! 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 07-06-2007, 14:24 » |
|
ลองทำใจกลางๆดูค่ะแล้วคิดตามว่า....หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งจนหมดหนทางที่จะเรียกร้องความยุติธรรมใดๆจากใครก็ตาม คุณมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ หนึ่ง ยอมรับสภาพที่จะเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งไปเรื่อยๆและไม่รู้ว่าจะการกลั่นแกล้งจะหยุดได้เมื่อไหร่ หรือ สอง สู้กลับในทุกรูปแบบ ไม่ต้องสนใจในข้อกฎหมาย ศีลธรรม กติกา และมีความหวังว่าจะชนะ มีอยู่ 2 ทางเลือกดังกล่าวที่ท้ายสุด.... มันก็ต้องนองเลือด!!  555 ในที่สุดไอ้จ๊ะ มันก็เผยสิ่งที่มันต้องการออกมาจนได้  ว่าแต่ว่า มวลชนจัดตั้งเนี่ย มันสามารถพาไปถึงจุดนั้นได้เร้อออออออออ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
eAT
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 07-06-2007, 14:28 » |
|
ก็มีวิธีครับ..
คือ ปล่อยให้ชายแบ่งตัว เป็นชาย1 กับชาย2 เถียงกันเอง ด้วยวิธีการเดียวกัน...  อ้าวเป็นตัว อะมีบ้า หรือ แบ่งตัวได้ อ้ายเราก็เข้าใจผิด ทีแรกคิดว่าเป็นตัวที่ กทม. ไล่จับอยู่ตอนนี้ซะอีก ลองทำใจกลางๆดูค่ะแล้วคิดตามว่า....หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งจนหมดหนทางที่จะเรียกร้องความยุติธรรมใดๆจากใครก็ตาม คุณมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ หนึ่ง ยอมรับสภาพที่จะเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งไปเรื่อยๆและไม่รู้ว่าจะการกลั่นแกล้งจะหยุดได้เมื่อไหร่
ใครกันหนอที่กลั่นแกล้ง แอบไปซื้อพรรคเล็ก แล้วใครกันหนอ ที่ไม่สนใจ ทำเป็นปิดหูปิดตา ไม่รับรู้ว่ามี เด็กส่งของ ใน ทรท ไปซื้อเสียง แห๋มไม่ไปเล่นงานคนที่กลั่นแกล้งล่ะ ตลก. ก็บอกชื่อตั้งหลายหน ไม่ไปเล่นงานล่ะ หุ หุ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2007, 15:59 โดย eAT »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Limmy
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 07-06-2007, 14:45 » |
|
สโลแกนของกลุ่ม... "เจ๊ง เครียด คิดถึงทักษิณ" ที่มา เจ๊ง - จะไม่เจ๊งได้ไงครับ ทำมาหากินอย่างอื่นไม่เป็นนอกจากแบมือขอตังค์ ถ้านายไม่จ่าย ก็เจ๊งดิ เครียด - เครียดแน่ครับ แหนมของอ้อแอ้ ทำให้ท้องร่วงกันยกพรรค แถมไม่รู้จะไปประกอบสัมมาอาชีพอะไรต่อจากนี้ด้วย เพราะไม่เคยทำมาก่อน โอย...เครียด คิดถึงทักษิณ - คิดถึงที่สุดครับ เพราะท่านคือแหล่งรายได้เดียวของพวกเรา คิดถึงนะ จุ๊บ ๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
stromman
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 07-06-2007, 14:56 » |
|
อ้อ นี่ชายเป็นสมาชิก PTV ด้วยเหรอ ถึงบอกว่าสุดท้ายก็นองเลือด แหม ทีแรกนึกว่าชายเป็นลูกผสมของ จ๊ะกะแถ ไม่ยักรู้พันธุ์นี้มีหลายสายพันธุ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 07-06-2007, 15:03 » |
|
ชายฯมองอย่างกลางๆอ่ะคร้าว่า...คนเราถ้ามันเลือดเข้าตาแบบหนีก็ตาย สู้ก็อาจรอด สัญชาติญาณมันบอกทุกครั้งว่าคนเหล่านั้นเลือกที่จะสู้ หรือท่านคิดว่าฝ่ายที่ถูกกระทำเค้าเป็นง่อยเอ่ย!?! 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นทร์
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 07-06-2007, 15:09 » |
|
ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครอยากให้นองเลือดหรอก
ด่ากันไปนี่แหละ จนกว่าจะเบื่อไปข้างหนึ่ง
แรงมา หากไม่มีแรง(ย้อนกลับ)ไป ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น....
** ต่างกับ ยุคทักษิณ เมื่อมีแรงมาปะทะ(แม้แต่ผิว) ก็มักถูกแรงต้านจากทักษิณกลับออกไปอย่างรุนแรง

|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
aoporadio
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 07-06-2007, 16:24 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: 07-06-2007, 16:53 » |
|
ทักษิณ คือคนที่ไม่ยอมรับความจริง
เศษเงินซัดหว่านโปรยซื้อคนทั้งเมือง พุดแต่เรื่องให้ฝันลมๆ ทุ่มถั่งโถมกอบโกยโคตรตระกูลโกงกิน ล้นฟ้ายังไม่สิ้นเพียงพอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
55555
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 07-06-2007, 18:36 » |
|
ลองทำใจกลางๆดูค่ะแล้วคิดตามว่า....หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งจนหมดหนทางที่จะเรียกร้องความยุติธรรมใดๆจากใครก็ตาม คุณมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ หนึ่ง ยอมรับสภาพที่จะเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งไปเรื่อยๆและไม่รู้ว่าจะการกลั่นแกล้งจะหยุดได้เมื่อไหร่ หรือ สอง สู้กลับในทุกรูปแบบ ไม่ต้องสนใจในข้อกฎหมาย ศีลธรรม กติกา และมีความหวังว่าจะชนะ มีอยู่ 2 ทางเลือกดังกล่าวที่ท้ายสุด....มันก็ต้องนองเลือด!!  เลือดคนอื่น ซิท่า 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: 07-06-2007, 18:44 » |
|
ชายฯมองอย่างกลางๆอ่ะคร้าว่า...คนเราถ้ามันเลือดเข้าตาแบบหนีก็ตาย สู้ก็อาจรอด สัญชาติญาณมันบอกทุกครั้งว่าคนเหล่านั้นเลือกที่จะสู้ หรือท่านคิดว่าฝ่ายที่ถูกกระทำเค้าเป็นง่อยเอ่ย!?!  เห็นด้วยกับชายนะ คนน่ะ ถ้าถึงหลังพิงฝา สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย โดยมากก็จะสู้น่ะ แต่คิดว่าท่านสมาชิกที่เข้ามาคุยกับชาย เค้าคงจะไม่ได้หมายถึงคน เขาหมายถึง สัตว์หน้าเหลี่ยม และสมุนของมัน พวกนี้ ยังไงก็ไม่สู้หรอกนะชาย ยกเว้นได้น้ำเลี้ยง ก็จะหันมาแฮ่ๆๆ สักหน่อยนึง ก่อนวิ่งหางจุกตูดต่อไป 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
วิหค อัสนี
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: 07-06-2007, 19:16 » |
|
ลองทำใจกลางๆดูค่ะแล้วคิดตามว่า....หากคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งจนหมดหนทางที่จะเรียกร้องความยุติธรรมใดๆจากใครก็ตาม คุณมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ หนึ่ง ยอมรับสภาพที่จะเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งไปเรื่อยๆและไม่รู้ว่าจะการกลั่นแกล้งจะหยุดได้เมื่อไหร่ หรือ สอง สู้กลับในทุกรูปแบบ ไม่ต้องสนใจในข้อกฎหมาย ศีลธรรม กติกา และมีความหวังว่าจะชนะ มีอยู่ 2 ทางเลือกดังกล่าวที่ท้ายสุด....มันก็ต้องนองเลือด!!  ยังมีทางเลือกที่สาม และอีกหลากหลายทางเลือกครับ... สาม ยืนหยัดต่อสู้ด้วยความจริง และเหตุผล เท่าที่ทำได้ และโดยคำนึงถึงส่วนรวมประเทศชาติก็เพราะติดอยู่กับวิธีคิดแบบเลือกสองขั้ว คิดกันได้อยู่แค่นี้ ...แล้วก็พยายามเผยแพร่ยัดเยียดวิธีคิดแบบนี้ให้มันระบาดไปทั่วไง ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ทักษิณ กับ สนธิลิ้ม มันถึงได้แตกแยกเละเทะ จนมาถึงจุดที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่จนถึงบัดนี้ดูเหมือนจะยังไม่รู้จักสำนึก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
_______ดังนี้แล __เปลวไฟจักลุกโชน ___หามีวันดับลงได้ _ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
|
|
|
Body&Soul
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 07-06-2007, 21:49 » |
|
ไอ้ที่พล่ามมาทั้งสิ้น ด่าเจ้านายตัวเองทั้งนั้นนะ เผด็จการทุนนิยมที่ทำให้ชาวบ้านง่อยเปลี้ยเสียขา หยิบยื่นเศษอาหารประทังชีพไปวันๆ สอนให้บริโภคฟุ่มเฟือย ติดข้องอยู่กับระบบบริโภคนิยม เพื่อจะเอาไว้ใช้เป็นรากฐานทางการเมือง แบบไม่ต้องลืมตาอ้าปาก ช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวไม่ได้ ต้องแบมือขอตกเป็นเหยื่อตลอดไป แบบนี้เรียกว่าอะไรดีหว่า 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 07-06-2007, 23:09 » |
|
แมวหางด้วนที่ไหน ที่อยากกลับมาสืบทอดและเสพอำนาจจนน้ำลายสอคะ
คนเค้าคิดเองได้ ไม่ต้องบังอาจมาชี้นำหรอกค่ะ ไม่ชอบคนโง่แล้วอวดฉลาด เหม็นเบื่อ.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
คาคาชิ
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: 07-06-2007, 23:29 » |
|
เลิกดักดานซะทีโดนมันหลอกอยู่ได้ รายได้มันกระจายไปถึงไหนแล้ว กทม.รถติดเป็นตังเม คนชั้นกลางมันอัพเกรดขึ้นตั้งเยอะไม่รู้สึกหรือไง เมื่อก่อนห้างชานเมืองจอดตรงไหนก็มี เดี๋ยวนี้เสรีเซ็นเตอร์ที่บอกว่าผี หลอก ยังหาที่จอดไม่มี ต่างจังหวัดห้างใหญ่ๆ รถจอดเต็มทั้งนั้น รัฐบาล ที่แล้วกระจายรายได้ไปได้ผล ทำให้พวกศักดินามันร้อน กลัวปกครอง ไม่ได้เดี๋ยวกระจายความเจริญเป็นสาธารณรัฐแล้วถุงยังชีพมันไร้ความ หมาย เลยกล่อมทุกวัน รากหญ้าเอาเงินไปล้างผลาญ มีแค่ไม่กี่เปอร์ เซ็นต์เอามาพูดจนจะเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ ไอ้ที่เชื่อก็ดักดานเชื่อกันอยู่ได้ ข้อมูลข้อเท็จจริงมีให้อ่านตั้งเยอะแยะ ขี้เกียจหามาอ่านกัน เชื่อแต่ไอ้ พวกมั่วๆ ปรุงข่าวสำเร็จกรอกหูให้เชื่อ เหมือนกับ คอรับชั่นจนประเทศ จะเจ๊ง ที่ไหนได้ผลการสำรวจ คอรับชั่นลดลงทุกปี มาเพิ่มเอารัฐบาลนี้ เลิกโง่ได้แล้ว มันยึดประเทศแล้วจะสืบทอดอำนาจกันอยู่แล้ว
โอ่ย ไปเรื่อง ศักดินาแล้ว แต่ไปคงเริ่ม ด่าไปถึงสถาบัน ใครสะกดจิตพวกมันวะ ได้ผลฉิบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
 |
« ตอบ #29 เมื่อ: 08-06-2007, 08:55 » |
|
แล้วมันต่างกันอย่างไร กับการ เปลี่ยน การผูกขาดด้วยระบอบศักดินา มา เป็น การผูกขาดด้วย กลุ่มทุนสามานย์ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รวงข้าวล้อลม
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: 08-06-2007, 09:10 » |
|
ถ้ายอมรับความจริงกันซักหน่อย ตามข่าวละเอียดน่าจะรู้ว่าดีลต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นที่สงสัยนั้น มีคนรอบข้างสถาบันมาเกี่ยวข้องด้วยหลาย ฝ่าย การทำตัวน่าสงสัยของประธานองคมนตรีและการที่องคมนตรี มาเป็นนายก โดยหลักการปกครองแบบประชาธิปไตยแล้ว การยึด อำนาจเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมาก กลับมีการมอมเมาจนคนเชื่อว่า เผด็จการรัฐสภามันจะรุนแรงกว่าเผด็จการจากศักดินาผ่านทหารยึด อำนาจ เหมือนเอาแป้งเปียกมาเทียบกับกาวตราช้างมันคนละเรื่อง การใช้กำลังอาวุธมันเผด็จการกว่าอยู่แล้ว เอาหัวแม่เท้าคิดก็ออก คนที่ร่วมก่อการเองก็มีทะเลาะกันเป็นระยะและเกี่ยวเนื่องกับคนรอบ ข้างสถาบันด้วย เช่น เรื่องที่ไอ้แป๊ะมันด่าราชเลขาฯ หวังว่าคงตาม ข่าวกันบ้าง ไม่ใช่ปิดหูปิดตารับแต่เรื่องที่อยากฟังอย่างเดียว
การร่างรัฐธรรมนูญและการแก้กฎหมายให้มีการแต่งตั้ง สว. ลดความ เข้มแข็งของพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดรัฐบาลจากหลายพรรค การ เปลี่ยนการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านกำนันกลับเป็นแต่งตั้งให้อยู่ในวาระ จนหกสิบ การยกเลิกผู้ว่าซีอีโอที่หัดให้กระจายอำนาจกลับมาเป็น แบบรับคำสั่งอย่างเดิม รวมถึงการแอบคงอำนาจไว้กับ คมช. ในข้อ 299 มันชัดยิ่งกว่าชัด ว่าต้องการเปลี่ยนการกระจายอำนาจให้กลับ สู่ระบบรวบอำนาจล้าหลังอย่างเดิม โดยยอมแลกกลับความจนยาก ของคนชนบท
คุณชอบแถคะ ขอมองต่างมุมนิดหนึ่งนะว่า คนเราแค่ก้าวเริ่มแรก ของการทำงานการเมือง มันมิได้พิสูจน์คนเลยเหรอ ทำไมคนที่หลายคนรักหลายคนศรัทธา ที่ยบอกว่าเสียสละ ทำงานเพื่อประเทศ จะต้องซุกหุ้น
มีความยากจนมากจนต้องซุกหุ้นอย่างงั้นเหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รวงข้าวล้อลม
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: 08-06-2007, 09:13 » |
|
แล้วมันต่างกันอย่างไร กับการ เปลี่ยน การผูกขาดด้วยระบอบศักดินา มา เป็น การผูกขาดด้วย กลุ่มทุนสามานย์   ประเด็นนี้ คุณชายเหนือชาย และคุณชอบแถ ไม่ควรมองข้ามนะคะ ท่านตอบประเด็นนี้นี้ได้เคลียร์ ก็จะนำมาพิจารณา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: 08-06-2007, 10:47 » |
|
ถ้ายอมรับความจริงไม่ได้ว่าคนเรามีดีมีเสียเป็นเรื่องธรรมชาติ คิดแต่ อะไรที่เหนือธรรมชาติ ไม่ยอมรับฟังข้อเท็จจริงอีกด้าน ก็ควรไปให้ ความเห็นในบอร์ดดาราหรือเปลี่ยนบอร์ดนี้เป็นบอร์ดโกหกพกลมไป วันๆ เพื่อความบันเทิงในที่พักอาศัยเท่านั้น สมัยนี้มันยุคข้อมูลข่าวสาร กันแล้ว จะมาปิดข้อเท็จจริงเพื่อให้ไม่คิดด้วยเหตุผลมันไม่ได้หรอก พระพุทธเจ้าเองยังเคยทำผิดที่ไม่รีบออกกฎเข้าพรรษาปล่อยพระ เหยียบนาข้าวชาวบ้านในหน้าฝนจนชาวบ้านโวย กรณีทักษิณในเมื่อ ศาลรัฐธรรมนูญของแท้ให้โอกาสทำงาน บอกว่าไม่ผิดแล้วยังจะเอา อะไรอีก เชื่อศาลของเทียมมากกว่าของแท้ด้วยอคติ ถ้าไม่รับข้อเท็จ จริงอีกด้านป่วยการจะรับความเห็นเรื่องการเมือง ไปกราบไหว้บูชาอะไร ต่อมิอะไรตามใจเถอะหรือให้ความเห็นเชิดชูดาราอะไรไปก็ได้ ดีกว่า เอาความไร้สาระมาปนอยู่ในเรื่องการเมืองการปกครอง มันเสียเวลา
ส่วนเรื่องทุนสามานต์ขึ้เกียจจะพูด ไปดูข้อมูลในตลาดเองบ้างเหอะ ว่าทุนไหนมันคุมประเทศอยู่ สำรวจดูพฤติกรรมตัวเองบ้างว่า ข้อมูล อยู่ข้างหน้าไม่ยอมหาอ่าน แล้วเที่ยวไปนินทาลับหลังหรือเปล่า ถ้า จะศรัทธากันจริงๆ แน่จริงอย่านินทาสิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รวงข้าวล้อลม
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: 08-06-2007, 11:52 » |
|
ถ้ายอมรับความจริงไม่ได้ว่าคนเรามีดีมีเสียเป็นเรื่องธรรมชาติ คิดแต่ อะไรที่เหนือธรรมชาติ ไม่ยอมรับฟังข้อเท็จจริงอีกด้าน ก็ควรไปให้ ความเห็นในบอร์ดดาราหรือเปลี่ยนบอร์ดนี้เป็นบอร์ดโกหกพกลมไป วันๆ เพื่อความบันเทิงในที่พักอาศัยเท่านั้น สมัยนี้มันยุคข้อมูลข่าวสาร กันแล้ว จะมาปิดข้อเท็จจริงเพื่อให้ไม่คิดด้วยเหตุผลมันไม่ได้หรอก พระพุทธเจ้าเองยังเคยทำผิดที่ไม่รีบออกกฎเข้าพรรษาปล่อยพระ เหยียบนาข้าวชาวบ้านในหน้าฝนจนชาวบ้านโวย กรณีทักษิณในเมื่อ ศาลรัฐธรรมนูญของแท้ให้โอกาสทำงาน บอกว่าไม่ผิดแล้วยังจะเอา อะไรอีก เชื่อศาลของเทียมมากกว่าของแท้ด้วยอคติ ถ้าไม่รับข้อเท็จ จริงอีกด้านป่วยการจะรับความเห็นเรื่องการเมือง ไปกราบไหว้บูชาอะไร ต่อมิอะไรตามใจเถอะหรือให้ความเห็นเชิดชูดาราอะไรไปก็ได้ ดีกว่า เอาความไร้สาระมาปนอยู่ในเรื่องการเมืองการปกครอง มันเสียเวลา
ส่วนเรื่องทุนสามานต์ขึ้เกียจจะพูด ไปดูข้อมูลในตลาดเองบ้างเหอะ ว่าทุนไหนมันคุมประเทศอยู่ สำรวจดูพฤติกรรมตัวเองบ้างว่า ข้อมูล อยู่ข้างหน้าไม่ยอมหาอ่าน แล้วเที่ยวไปนินทาลับหลังหรือเปล่า ถ้า จะศรัทธากันจริงๆ แน่จริงอย่านินทาสิ
ก็ยอมรับนี่นะว่าคนเรา มีดีมีเสีย ใช่ ประเด็นนี้ไม่มีใครเถียงหรอก แต่ที่เค้ากำลังถกเถียงกันตอนนี้ ก็คือ พอจับดี จับชั่วมาขึ้นตาชั่ง ที่ดีที่ช่วยคนในประเทศหน่ะ มันน้อยกว่าที่โกงชาติไงคะ มันให้ประโยชน์น้อยกว่าที่เที่ยวซุกหุ้นขายชาตินี่คะ คุณแถพอจะให้เหตุผลประเด็นนี้ได้มั๊ยล่ะค่ะ อย่าแถไปอย่างเดียวสิ เค้าให้มาแถอย่างมีเหตุมีผลนะ ไม่ใช่แถจนตกคู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: 08-06-2007, 12:00 » |
|
ข้อมูลไม่แน่นจับแพะชนแกะเรื่องซุกหุ้น เอามาปนกันคงป่วยการจะคุย ถ้าเรื่องขายหุ้นให้เทมาเส็กไปหาข้อมูลเอง มีคน post ไม่รู้กี่ที่กี่แห่ง ข้อเท็จจริงทั้งนั้น คนรอบข้างคนที่กราบไหว้บูชาว่าดีไม่เคยมีด่าง พร้อยเหนือธรรมชาติมีเอี่ยวทั้งนั้น ไม่รับรู้ข้อมูลตรงนี้ก็ไปบอร์ดดารา หาดาราซักคนให้งมงายเล่นสนุกกว่า อย่ามาให้ความเห็นการเมือง เลย มันไร้เดียงสาอ่ะคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: 08-06-2007, 13:33 » |
|
ก็ยอมรับนี่นะว่าคนเรา มีดีมีเสีย ใช่ ประเด็นนี้ไม่มีใครเถียงหรอก แต่ที่เค้ากำลังถกเถียงกันตอนนี้ ก็คือ พอจับดี จับชั่วมาขึ้นตาชั่ง
ที่ดีที่ช่วยคนในประเทศหน่ะ มันน้อยกว่าที่โกงชาติไงคะ มันให้ประโยชน์น้อยกว่าที่เที่ยวซุกหุ้นขายชาตินี่คะ
คุณแถพอจะให้เหตุผลประเด็นนี้ได้มั๊ยล่ะค่ะ อย่าแถไปอย่างเดียวสิ เค้าให้มาแถอย่างมีเหตุมีผลนะ ไม่ใช่แถจนตกคู
พี่รวงข้าวมีอคติเกินไปป่าวคร้าที่ว่าโกงชาติอะไรนั่น...มีคำพิพากษาออกมาหรือยังว่าใครโกง!?! 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|