ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
01-02-2025, 05:08
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  กรณีที่กกต.และอสส.ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์.. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
กรณีที่กกต.และอสส.ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์..  (อ่าน 1112 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 31-05-2007, 01:42 »

ปิดคดีปชป.ยืนยัน"ความจริง"สู้"อธรรม"
 
28 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 17:28:00
 
พรรคประชาธิปัตย์แถลงการณ์ปิดคดี หลังจากที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนพยานของอัยการสูงสุด(อสส.) ผู้ร้อง และพรรคประชาธิปัตย์ผู้ถูกร้อง) โดยประมวลข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :

         อันเป็นหลักฐานและเหตุผลในการต่อสู้คดีเพื่อหักล้างข้อกล่าวหาที่อัยการสูงสุดกล่าวหาว่ากระทำผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 และตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และส.ว. พ.ศ.2541

พรรคประชาธิปัตย์ได้หักล้างข้อกล่าวหา 4 ประเด็นดังนี้

             ประเด็นแรก กรณีกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค กล่าวหาการบริหารงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็น"ระบอบทักษิณ" เป็นการสร้างคำว่า"ระบอบทักษิณ" ขึ้นมานั้น  มีคำชี้แจงว่า คำว่า"ระบอบทักษิณ" เป็นนิยามทางการเมืองที่นักวิชาการด้านสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง นักเศรษฐศาสตร์ เป็นผู้เขียนและกล่าวไว้ในงานศึกษาวิจัยของตนเอง โดยใช้หลักฐานในงานศึกษาวิจัยในบทความข้อเขียนมาชี้แจงข้อกล่าวหา และในข้อกฏหมายกรณีนี้เข้ากับความผิดฐานหมิ่นประมาท ม.326 และม.328 ซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวไม่ใช่ความผิดอาญาแผ่นดิน ที่ถึงขั้นยุบพรรค

            ประเด็นที่ 2 กรณีกล่าวหาว่า นายทักษะนัย กี่สุ้น ผู้ช่วยส.ส.ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตส.ส.ตรัง นำผู้สมัคร 3 คน เดินทางมายังกทม.เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า โดยหัวหน้าพรรคฯทำหนังสือรับรองเท็จเพื่อนำไปสมัครส.ส.ตรัง โดยนายทักษะนัยพาบุคคลทั้ง 3 ไปพบนายสุเทพ เพื่อแถลงข่าวว่ามีพรรคการเมืองหนึ่งว่าจ้างให้ให้ลงสมัคร กกต.เชื่อว่านายสาทิตย์ ให้การสนับสนุน และรู้เห็นเป็นใจให้นายทักษะนัย กระทำการดังกล่าว

            ชี้แจงว่า พรรคและนายสาทิตย์ ไม่เคยใช้ สนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจให้นายทักษะนัย ใช้ให้บุคคลทั้ง 3 ไปสมัครรับเลือกตั้ง โดยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา 100 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ  และผู้บริหารพรรคฯ นอกจากนายสาทิตย์แล้ว ไม่มีผู้ใดรู้จักหรือมีความสัมพันธ์ใดๆ กับนายทักษะนัยมาก่อน อีกทั้งการกระทำของนายทักษะนัยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ แก่นายสาทิตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ แต่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างครอบครัวของภรรยานายทักษะนัยเอง แต่หลังจากเกรงกลัวความผิดจึงมาขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากพรรค จนนำไปสู่การแถลงข่าวเรื่องดังกล่าว โดยไม่มีการพาดพิงพรรคไทยรักไทยแต่อย่างใด

            ประเด็นที่ 3   กรณีกล่าวหา นายสุเทพ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ใช้นายไทกร พลสุวรรณ เป็นตัวแทนไปว่าจ้างหัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า ให้แถลงข่าวใส่ร้ายนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และพรรคไทยรักไทย 

            มีคำชี้แจงว่า นายไทกร ประกาศตัวเป็นกลุ่มอีสานกู้ชาติ ไม่ใช่ตัวแทนนายสุเทพและพรรค การหยิบยกเรื่องนายไทกรมาเป็นข้ออ้างเพื่อใส่ร้ายป้ายสีพรรคประชาธิปัตย์  โดยพรรคไทยรักไทยจัดฉากวางแผนสร้างเรื่องเท็จโดยร่วมมือกับ 2 พรรค สร้างเรื่องเท็จว่านายไทกรเป็นคนของนายสุเทพไปว่าจ้างหัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่าใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย

            ข้อกล่าวหานี้เกิดจากการวางแผนร่วมกันระหว่างอดีตประธานกกต.(พล.อ.วาสนา เพิ่มลาภ) กลุ่มนักการเมืองพรรคไทยรักไทย และเจ้าหน้าที่รัฐที่รับใช้พรรคไทยรักไทย และหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย โดยสันนิษฐานว่าการวางแผนใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ มีมูลเหตุมาจาก นายสุเทพได้ร้องเรียนกล่าวโทษต่อกกต.กรณีผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทย คือ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ว่าจ้างพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย ลงรับสมัครเลือกตั้งโดยมิชอบ ซึ่งการกระทำความผิดของทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างนั้นมีโทษถึงขั้นถูกยุบพรรคได้

            นายสุเทพ และนายถาวร เสนเนียม ได้ฟ้อง พล.อ.วาสนา และอดีตคณะกกต.ในข้อหาปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และศาลอาญาได้มีคำพิพากษาจำคุก  พล.อ.วาสนา และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีรชัย แนวบุญเนียร คนละ 6 ปี

            หัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า และหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย ซึ่งได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการรับรองคุณสมบัติผู้สมัครส.ส.อันเป็นเท็จ และมีพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นว่ารับจ้างส่งบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวประกอบในหลายเขตเพื่อหลีกเลี่ยงเกณฑ์ร้อยละ 20 ทั้งที่พรรคของตนไม่เคยทำกิจกรรมการเมืองในพื้นที่           

            ประเด็นที่ 4 กรณีกล่าวหา กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส.และสมาชิกพรรค กับพวกว่า ร่วมกันขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่จ.สงขลา โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ตามมาตรา 66 (2) และ(3)

            ชี้แจงว่า จากข้อเท็จจริงในโทรสารของผอ.เลือกตั้งจังหวัดสงขลา และในรายงานของประธานกกต.จังหวัดได้แจ้งไปยังกกต.กลางว่าไม่ได้มีการปิดล้อมและขัดขวางผู้สมัครส.ส.แต่อย่างใด แต่เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และเพื่อเป็นการต่อต้านการจัดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อีกทั้งแกนนำผู้ชุมนุมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคและไม่ได้คนสนิทของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี 

            อัยการกล่าวหาอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ขัดขวางผู้สมัคร 3 คน แต่ 1 ในนั้นให้การว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้สมัคร ที่สำคัญอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนที่กกต.ตั้งขึ้นรายงานกลับไปยังกกต.กลางว่า การชุมนุมเป็นกิจกรรมของกลุ่มประชาชนรักสงขลา โดยไม่ได้ระบุว่าส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมแต่อย่างใด กรณีที่จ.สงขลาจึงไม่มีการขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้งอย่างที่ถูกกล่าวหา

            ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ต่อสู้ในประเด็นกฏหมายในข้อกล่าวหาแต่ละประเด็นด้วยว่า ข้อกล่าวหาอันเป็นมูลฐานความผิดตามที่อัยการสูงสุด(อสส.)อ้างในคำร้องเพื่อขอให้มีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีที่กกต.และอสส.ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายอสส.จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใดทั้งสิ้น


http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/28/WW74_7404_news.php?newsid=74457
 
 
พรรคประชาธิปัตย์ใช้ "ธรรมะ" สู้ "อธรรม"....
"สามหนาห้าห่วง" และ "อัยการสูงสุด" จะทบทวน"คุณธรรม"และ"จริยธรรม"ของตนเองอย่างไรบ้าง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: