==มาดูกันครับว่าใครเป็นใครใน คณะกรรมการ กลต. (รุ่นยิ่งลักษณ์ไม่ insider!!!)==

[jerasak]

จากผลงานการตัดสินของ กลต. ที่ผมเอาบทความที่เกี่ยวข้องมาตั้งกระทู้เรื่อง

==ก.ล.ต. ตัดสิน ‘ยิ่งลักษณ์’ ไม่ผิดอินไซเดอร์ "เอากฎหมายอะไรมาอ้าง?"==
http://forum.serithai.net/index.php?topic=13703.0

และผลงานการตรวจสอบกรณีนอมินีในบริษัทเอสซีแอสเซทที่พัวพันถึงบริษัทวินมาร์ค
ที่ กลต. ตรวจสอบมาปีกว่าไม่มีอะไรคืบหน้า จนส่งคดีต่อให้ดีเอสไอ ซึ่งผมนำข้อมูล
ที่ค้นหาได้มานำเสนอไว้ในกระทู้เรื่อง

==พยานปากเอกคดี เอสซีแอสเซท เป็น 'นอมินี' ดับปริศนา==
http://forum.serithai.net/index.php?topic=13681.0

ทำให้ผมเกิดความสงสัยว่าคณะกรรมการ กลต. ที่ดำเนินการตรวจสอบและตัดสิน
เกี่ยวกับธุรกรรมที่เกี่ยวพันตระกูลชินวัตรดังกล่าว เป็นใครมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง
ได้ข้อมูลแล้วก็อยากเอามาแบ่งกันดู ผลการค้นข้อมูลได้ออกมาแบบนี้ครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

มีหน้าที่กำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนของประเทศ โดยเป็นผู้กำหนดนโยบายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ
ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่กำหนดใน พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และ พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งที่เป็นตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนดังนี้

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน
2. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
3. ปลัดกระทรวงการคลัง
4. ปลัดกระทรวงพาณิชย์
5. ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จำนวนไม่น้อยกว่า 4 คน แต่ไม่เกิน 6 คน
   โดยในจำนวนนี้อย่างน้อยต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย การบัญชี และการเงินด้านละ 1 คน
6. เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เป็นกรรมการและเลขานุการ

...

ปัจจุบันคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกอบด้วยกรรมการ 10 คนดังนี้

รตม.คลัง            นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์    ประธานกรรมการ              ดำรงตำแหน่งเมื่อ    7 มีค 50 - ปัจจุบัน
ผู้ว่าการ ธปท.     นางธาริษา วัฒนเกส                กรรมการ                         ดำรงตำแหน่งเมื่อ    8 พย 49 - ปัจจุบัน
ปลัด ก.คลัง        นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล              กรรมการ                         ดำรงตำแหน่งเมื่อ    1 ตค 47 - ปัจจุบัน
ปลัด ก.พาณิชย์   นายการุณ กิตติสถาพร             กรรมการ                         ดำรงตำแหน่งเมื่อ    7 พย 44 - ปัจจุบัน
                         นายนนทพล นิ่มสมบุญ             กรรมการ                         ดำรงตำแหน่งเมื่อ    4 กค 49 - ปัจจุบัน
                         นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์          กรรมการ                          ดำรงตำแหน่งเมื่อ  22 มิย 47 - ปัจจุบัน
                         นายสมพล เกียรติไพบูลย์         กรรมการ                          ดำรงตำแหน่งเมื่อ    2 กค 45 - ปัจจุบัน
                         นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง            กรรมการ                          ดำรงตำแหน่งเมื่อ  21 พย 49 - ปัจจุบัน
                         นายกำชัย จงจักรพันธ์             กรรมการ                          ดำรงตำแหน่งเมื่อ  19 ธค 49 - ปัจจุบัน 
                         นายวสันต์ เทียนหอม              กรรมการ                          ดำรงตำแหน่งเมื่อ  25 เมย 43 - ปัจจุบัน
                         นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล    กรรมการและเลขานุการ     ดำรงตำแหน่งเมื่อ  28 ธค 46 - ปัจจุบัน

ที่มา : http://www.sec.or.th/th/misc/sec/aboutsec/intro.shtml (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มีนาคม 2550)
----------------------------------------------------------------------------------------------

เราค่อยๆ มาดูกันว่ามีใครที่น่าสนใจ และมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนะครับ

[jerasak]

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังที่ได้รับแต่งตั้งปลายรัฐบาลทักษิณ 1

ก่อนหน้านั้นระหว่างปี พศ.2543-2547 ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมสรรพากร
ย้อนอดีตไปเมื่อปี 2544 นายศุภรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ในขณะ
เกิดการขุดคุ้ยกรณีคุณหญิงพจมาน โอนหุ้นให้นายบรรณพจน์ เมื่อปี 2540 และ
2543 ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดทำให้นายบรรณพจน์มีกำไรถึง 3,755 ล้านบาท
และเกิดประเด็นปัญหาเรื่องการจ่ายภาษีของนายบรรณพจน์จากการซื้อหุ้น กรณี
ดังกล่าวนายศุภรัตน์ระบุว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ต้องรายงานถึงตน

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล เป็นกองเชียร์ขาประจำของรัฐบาลทักษิณในเรื่องนโยบาย
ประชานิยมต่างๆ สอดคล้องกับคำอธิบายของทักษิณ และพรรคไทยรักไทย เช่น
เห็นว่าหนี้สินที่เกิดจากโครงการประชานิยมนั้น ไม่ควรมองแค่หนี้สินแต่ควรดูว่ามี
ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับนักวิชาการหลายคนที่กังวลว่า
เงินจากนโยบายประชานิยมที่ชาวบ้านเรียกว่า "เงินทักษิณ" ไม่เพียงไม่สามารถ
เพิ่มผลผลิตเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หากยังเพิ่มหนี้ในกระเป๋าชาวบ้าน และซุกหนี้รัฐ
ไว้นอกงบประมาณแผ่นดิน

ที่สำคัญคือเคยมีบทบาทเป็นแกนนำเคลื่อนไหวล่ารายชื่อข้าราชการซี 10 ขึ้นไป
ของทุกกระทรวงเพื่อสนับสนุน พตท.ทักษิณ ในดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ขณะสถานการณ์รุมเร้ากดดันให้ พตท.ทักษิณลาออกจากตำแหน่ง

[jerasak]

นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับแต่งตั้งในรัฐบาลทักษิณ 1
ตั้งแต่ปี พศ.2544 และยังดำรงตำแหน่งมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เป็นกรรมการ กลต.
โดยตำแหน่ง มาตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน 2544 จนถึงปัจจุบัน ด้วย 

นายการุณ เป็นศิษย์เก่า วปรอ.3808 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อร่าง
สร้างระบอบทักษิณ เนื่องจากพบว่าศิษย์เก่า วปรอ. รุ่นนี้ล้วนเติบโตสู่ตำแหน่ง
ระดับสูงในรัฐบาลทักษิณเป็นจำนวนมาก อาทิ เช่น

- ดร.ทนง พิทยะ             อดีต รมต. คลัง
- นายประยุทธ มหากิจศิริ   รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย 
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ   เลขาธิการพรรคไทยรักไทย 
- นายวิเศษ จูภิบาล         อดีต รมต.กระทรวงพลังงาน
- นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ 
- นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์    อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน (และเป็นน้องเขยอดีตนายกฯ ทักษิณ)
- นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ      อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์   
- นายวิสุทธิ์ มนตริวัต        ที่เคยถูกเสนอชื่อให้เป็น ผู้ว่าการ สตง.

และ นายการุณ กิตติสถาพร ที่ได้เลื่อนเป็นซี 11 ตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายการุณ ได้รับการพิจารณาต่ออายุการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์
จากรัฐบาลทักษิณถึง 2 ครั้ง ด้วยเหตุผลว่ามีบทบาทสำคัญในการเจรจาเอฟทีเอ
กับต่างประเทศ (ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐ)

แม้เรื่อง วปรอ.3808 อาจไม่เป็นความจริง แต่การได้ดำรงตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง
สนองนโยบายพรรคไทยรักไทยมาตลอดอายุรัฐบาลทักษิณ ก็ทำให้ถูกจับตามอง
ได้ว่านายการุณมีความคุ้นเคยกับรัฐบาล และสมาชิกพรรคไทยรักไทยเป็นอย่างดี
การยืนยันผลการตรวจสอบกรณีกุหลาบแก้วว่าเป็นนอมินี ทำให้ภาพลักษณ์ของ
นายการุณดูโปร่งใสขึ้นในระดับหนึ่ง

ล่าสุดนายการุณได้แถลงกำหนดจะลาออกจากราชการภายในเดือนกันยายน 2550 
ก่อนเกษียณ 1 ปี โดยให้เหตุผลว่าการต่ออายุตำแหน่งปลัดกระทรวงจะครบกำหนด
และไม่ต้องการโยกย้ายไปยังกระทรวงอื่นอีก เนื่องจากมีอายุราชการเหลืออีกเพียง
1 ปี  ซึ่งจะก่อให้เกิดความยุ่งยากกับกระทรวงที่ตนย้ายไปดำรงตำแหน่งระยะสั้นๆ
เพียงปีเดียว

[jerasak]

นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในขณะเกิดวิกฤติ
เศรษฐกิจ และเกิดการลดค่าเงินบาท เมื่อปี พศ.2540    เป็นบอร์ดแบงก์กรุงไทย
และยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
นอกจากนี้เป็นเจ้าของนามปากกา "วินนี่ เดอะ ปุ๊" ที่มีแฟนๆ ติดตามผลงานมากมาย

ที่น่าสนใจมากๆ คือเคยเป็นประธานกรรมการ บมจ.เอสซีแอสเซส ในเครือชินคอร์ป
รุ่นที่นางบุษบา ดามาพงศ์ น้องสะใภ้คุณหญิงพจมานเป็นประธานกรรมการบริหาร
ก่อนจะมีการเปลี่ยนตัวเมื่อ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวอดีตนายกฯ ทักษิณ
เข้ามานั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร หลังดีลขายหุ้น SHIN ให้เทมาเส็ค !!!

[jerasak]

นายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่การเข้ารับตำแหน่งทำให้
เกิดกรณีข้าราชการกระทรวงพาณิชย์นัดกันแต่งกายชุดดำ เมื่อทราบว่านายสมพล
ได้เป็นปลัดกระทรวงแทนที่จะเป็นนางอรนุช โอสถานนท์ (ต่อมานางอรนุชได้รับ
โปรดเกล้าฯ เป็นรมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลสุรยุทธ์ เมื่อวันที่ 2 กุมพาพันธ์ 2550)

เมื่อเกษียณอายุราชการได้เป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษารองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
โดยมีบทบาทได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาโครงการบ้านเอื้ออาทร
นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าคณะในการเจรจาการค้าเสรีไทย-จีน (FTA) อีกด้วย

นายสมพล ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร ธ.นครหลวงไทย
โดยล่าสุดเมื่อปลายเดือนเมษายน 2550 ที่ผ่านมา เพิ่งถูกกองทุนฟื้นฟูปรับโครงสร้างบอร์ด
ให้นายสมพลนั่งตำแหน่งประธานกรรมการเพียงตำแหน่งเดียว และให้นายโชคชัย อักษรนันท์
นั่งเก้าอี้ CEO แทน  พร้อมทั้งส่งนายนิพัทธ์ จิตรประสงค์ และนายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ เข้า
นั่งแทนบอร์ดอีก 3 คนที่หมดวาระ  ซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันว่าในครั้งนี้กองทุนฟื้นฟูฯ เล่นแรง
เพื่อล้างอำนาจเก่า

[jerasak]

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ
ของธนาคารแห่งประเทศไทยช่วงวิกฤติเศรษฐกิจไทย พศ.2540 ที่มี นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์
เป็นผู้ว่าการ โดยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการตรวจสอบและวิเคราะห์ธนาคารพาณิชย์
ตามโยบายเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน พร้อมทั้งสั่งระงับการดำเนินกิจการของ
สถาบันการเงิน 56 แห่ง ต่อมาในปี 2541 ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี 2545

ก่อนจะโยกย้ายมาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตั้งแต่ปี 2546
นายธีระชัย มีสัมพันธ์อันดีกับ นายสุชาติ เชาว์วิศิษฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ในรัฐบาลทักษิณ รวมทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับคนในพรรคไทยรักไทย

นอกจากนี้ นายธีระชัย ยังเคยมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท ไทยคอปเปอร์ อินดัสตรี จำกัด (มหาชน)
ผู้ผลิตทองแดงบริสุทธิ์รายเดียวของประเทศ ธุรกิจใหญ่ของตระกูลมหากิจศิริ ผู้เป็นนายทุนใหญ่
ของพรรคไทยรักไทยอีกด้วย

[jerasak]

คณะกรรมการ กลต. ชุดปัจจุบันมีผู้ที่เข้าดำรงตำแหน่งใหม่เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2549 อยู่ 2 คน
คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ นายกำชัย จงจักรพันธ์ โดยมาแทนที่ กรรมการเดิมที่พ้นตำแหน่ง
คือ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช และ นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล (ไม่นับประธานคณะกรรมการ กลต.
โดยตำแหน่งคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายทนง พิทยะ ที่ถูกปลดหลังการยึดอำนาจ
และมี มรว.ปรีดียาธร และนายฉลองภพ มาดำรงตำแหน่งตามลำดับ)

สำหรับ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช นั้น นอกจากดำรงตำแหน่งกรรมการ กลต. ระหว่างวันที่ 30 กย 48
ถึง 15 พย 49 แล้ว  น่าสนใจว่าก่อนหน้านั้นนายสุชาติในฐานะอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยประกาศสนับสนุนการคืนหนี้ IMF ก่อนกำหนดของรัฐบาลทักษิณ
ด้วยเหตุผลเพื่อให้ประเทศไทยเป็นอิสระ และในเวลาต่อมาปรากฎชื่อนายสุชาติ เป็นผู้สมัคร สส.
แบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทย

ส่วน นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล นั้น ดำรงตำแหน่งกรรมการ กลต. ระหว่าง 22 มิย 47 ถึง 14 พย 49 
และที่น่าสนใจคือเคยเป็นประธานอนุญาโตตุลาการที่ตัดสินให้ ทศท. ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับ
บริษัททรู เป็นเงิน 9 พันล้านบาท โดยนายประสิทธิ์ถูกคัดค้านว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเนื่องจาก
ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทในเครือซีพีซึ่งเป็นเจ้าของบริษัททรู นายประสิทธิ์อ้าง
ว่าตนดำรงตำแหน่งดังกล่าวในฝั่งผู้ถือหุ้นสัญชาติเยอรมัน แต่จากการตรวจสอบพบว่านายประสิทธิ์
ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มซีพีมาตั้งแต่ปี 2533 แล้ว 

ปัจจุบัน นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์
และกล่าวกันว่านายประสิทธิ์เป็นตัวแทนของกลุ่มซีพีในรัฐบาล

[คนในวงการ]

สองเกลอ  "ธีระชัย-กิตติรัตน์" ชี้แจงเรื่องหุ้น พานทองแท้-พิณทองทา ชินวัตร ถือหุ้นชินคอร์ปในแอมเพิลริชเพียงสองคน แล้วก็ขายหุ้นให้ตัวเอง ไม่เข้าองค์ประกอบ "ใช้ข้อมูลภายใน" แต่ "มิสเตอร์โอ๊ค" อาจมีความผิดที่กระโดดข้ามขั้นตอน ไม่จัดทำ "คำเสนอซื้อ"

[jerasak]

มาดูกรรมการ กลต. ใหม่ทั้ง 2 คนที่เพิ่งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 บ้าง

สำหรับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นอดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เข้าดำรง
ตำแหน่งผู้จัดการ ตลท. ในสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 ตั้งแต่ปี พศ.2544 ถึง พศ.2549  ตลอดเวลา
ที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ ตลท. ได้แสดงท่าที "เข้าข้าง" รัฐบาลทักษิณมาโดยตลอด

ด้าน นายกำชัย จงจักรพันธ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ. นั้น เป็นผู้ที่ประกาศไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ
มาตั้งแต่สัปดาห์แรกๆ ผ่าน นสพ.ไทยรัฐ และประกาศปฏิเสธการมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

[jerasak]

สองเกลอ  "ธีระชัย-กิตติรัตน์" ชี้แจงเรื่องหุ้น พานทองแท้-พิณทองทา ชินวัตร ถือหุ้นชินคอร์ปในแอมเพิลริชเพียงสองคน แล้วก็ขายหุ้นให้ตัวเอง ไม่เข้าองค์ประกอบ "ใช้ข้อมูลภายใน" แต่ "มิสเตอร์โอ๊ค" อาจมีความผิดที่กระโดดข้ามขั้นตอน ไม่จัดทำ "คำเสนอซื้อ"

หลังจากการตรวจค้นข้อมูล ผมก็เลยหายสงสัยในพฤติกรรมของคณะกรรมการชุดนี้ครับ
ก่อนค้นข้อมูลก็คิดอยู่แล้วว่าคงมีอะไรทำนองนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนขนาดนี้

ดูแล้วก็เหนื่อยแทนฝ่ายติดตามเอาผิดรัฐบาลทักษิณ เพราะเชื่อได้ว่าในภาคส่วนอื่นก็คง
มีการวางตัวบุคคลในลักษณะเดียวกันแบบนี้เอาไว้ นี่กระมังครับสาเหตุของ "เกียร์ว่าง"

[ปุถุชน]

หลังจากการตรวจค้นข้อมูล ผมก็เลยหายสงสัยในพฤติกรรมของคณะกรรมการชุดนี้ครับ
ก่อนค้นข้อมูลก็คิดอยู่แล้วว่าคงมีอะไรทำนองนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนขนาดนี้

ดูแล้วก็เหนื่อยแทนฝ่ายติดตามเอาผิดรัฐบาลทักษิณ เพราะเชื่อได้ว่าในภาคส่วนอื่นก็คง
มีการวางตัวบุคคลในลักษณะเดียวกันแบบนี้เอาไว้ นี่กระมังครับสาเหตุของ "เกียร์ว่าง"

คมช.และ รัฐบาลนี้ เหนื่อยหน่ายใจการคัดเลือก"ข้าราชการประจำระดับสูง" ตาม'อาวุโส' หรือ 'ตำแหน่ง' เพื่อดำรงตำแหน่งต่าง ๆ
เพราะ"ข้าราชการประจำระดับสูง" ในขณะนี้ มองซ้าย เหลี่ยวขวา ล้วนแต่ถูกแต่งตั้งภายใน 5 ปีที่ผ่านมาทั้งสิ้น.....

ล้วนแต่เป็น"ข้าราชการประจำระดับสูง" ที่มีความจำดีว่า ใครเป็นคนแต่งตั้งพวกเขา........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


ปล. คมช./รัฐบาลนี้ น่าจะใช้วิธี'หมุนเวียน' ย้ายไปย้ายมา จน"ข้าราชการประจำธรรมดา" คนอื่นๆ
ขึ้นเป็น"ข้าราชการระดับสูง" เพื่อ"ปลดล๊อค"..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[Şiłąncē Mőbiuş]

อ่านจบ ก็เลยเข้าใจได้โดยอัตโนมัติว่า อะไรเป็นอะไร

[ปุถุชน]

สมควรที่จะมีคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก สัก1-2 คน
บรรยายตำแหน่งหน้าที่การงาน และความ"รู้คุณ" ของพวกนี้......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[********Q********]

นักการเมืองต้องกล้าที่จะปรับระบบราชการต่อไป

ให้ลดพวกข้าราชเกินออกไปเสียบ้าง โดยเฉพาะพวกตำรวจทหาร..

ที่ไม่ทำงานตามหน้าที่..หรือหน่วยงานที่มีโครงสร้างเทอะทะไม่เกิดประโยชน์

ตรงนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้ท้องถิ่นต่างๆ รับผิดชอบตนเองและคนในพื้นที่มากขึ้น..

[truly]

เมื่อไหร่เด้งไอ้ธีระชัยออกไปให้พ้น
คดีจะคืบหน้ากว่านี้แน่นอน...

[55555]

นักการเมืองต้องกล้าที่จะปรับระบบราชการต่อไป

ให้ลดพวกข้าราชเกินออกไปเสียบ้าง โดยเฉพาะพวกตำรวจทหาร..

ที่ไม่ทำงานตามหน้าที่..หรือหน่วยงานที่มีโครงสร้างเทอะทะไม่เกิดประโยชน์

ตรงนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้ท้องถิ่นต่างๆ รับผิดชอบตนเองและคนในพื้นที่มากขึ้น..

ถือโอกาสลดคน โดยไม่ต้อง จ่ายบำเหน็จ บำนาญ ไม่ต้อง เออรี่ ให้เปลืองงบประมาณ........ด้วยการเอาข้าราชการเลว ๆ ออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

[มีคณา]

ขอบคุณค่ะ คุณจี อ่านแล้วอึ้งเลยค่ะ พอคิดต่อก็ได้แต่คิดว่า มิน่า ๆๆ.........

[buntoshi]

อะไรมันจะขนาดนี้ครับ

ระบอบชั่วช้าเลวทรามแบบระบอบทักษิณ มันดูเหมือนเข้มแข็งยังไงไม่รู้ เพราะได้รวมรวมเอาพักพวกที่มีผลประโยชน์ร่วมกันไว้ หลายๆหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง กับการโกงชาติ

ผลประโยชน์ร่วมกันได้ แม้ชาติจะเสียหายก็ไม่สน

น่าสงสารประเทศไทยมากครับ คนเหล่านี้ปู้ยี่ปู้ยำ

[jerasak]

อะไรมันจะขนาดนี้ครับ

ระบอบชั่วช้าเลวทรามแบบระบอบทักษิณ มันดูเหมือนเข้มแข็งยังไงไม่รู้ เพราะได้รวมรวมเอาพักพวกที่มีผลประโยชน์ร่วมกันไว้ หลายๆหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง กับการโกงชาติ

ผลประโยชน์ร่วมกันได้ แม้ชาติจะเสียหายก็ไม่สน

น่าสงสารประเทศไทยมากครับ คนเหล่านี้ปู้ยี่ปู้ยำ

ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วครับคุณ bunto สมัยที่เหลี่ยมยังอยู่องค์กรอิสระต่างๆ โดนแบบนี้กันถ้วนหน้า
ตรวจสอบแล้วมีลักษณะแบบเดียวกันแม้แต่องค์กรยุติธรรมบางองค์กร

ผมว่าต้องลากยาวไปอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปีกว่าอิทธิพลเก่าจะถูกเจือจาง และคนๆ นี้เลี้ยงลูกน้องถึงใจ
แบบเดียวกับพวกเจ้าพ่อมาเฟียซื้อใจลูกน้อง เมื่อตั้งใจจะซื้อใครแล้วจะทุ่มให้เลยครับ อย่างมีหนี้สิน
อะไรที่รู้ก็จะเคลียร์ให้ มีปัญหากับใครที่ไหนก็จะจัดการให้ มีลูกมีหลานนี่ส่งเรียนนอกให้เลย และยัง
ช่วยผลักดันญาติๆ คนใกล้ชิดของลูกน้องให้ได้ดิบได้ดี สารพัดจะทำให้ใครจะไม่ซึ้งครับ

..และแน่นอนว่าคนที่ขัดขืนไม่ยอมให้ซื้อใจจะมีสภาพยังไงอยู่ได้หรือเปล่านะครับ..

ไม่รู้ว่าคุณ bunto ทราบข่าวข้าราชการสายทักษิณขอโอนย้ายไปรับราชการที่อังกฤษเพื่อตามไป
อยู่กับทักษิณหรือเปล่านะครับ ขนาดที่ว่าถ้าต้นสังกัดไม่ให้ย้ายก็จะขอลาออกไปอยู่เองทีเดียวเชียว
เขาจงรักภักดีกันถึงขนาดนั้น

ระบบการสร้างเครือข่ายของเขาไม่ธรรมดาครับ ไม่ใช่แค่ซื้อด้วยเงินแต่ถึงขนาดซื้อใจ!!!

[คาคาชิ]

เอาผ้าห่ม มาห่มไปอ่านไปครับ

แต่ยิ่งอ่าน ยิ่งเหงื่อตก 

[buntoshi]

ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วครับคุณ bunto สมัยที่เหลี่ยมยังอยู่องค์กรอิสระต่างๆ โดนแบบนี้กันถ้วนหน้า
ตรวจสอบแล้วมีลักษณะแบบเดียวกันแม้แต่องค์กรยุติธรรมบางองค์กร

ผมว่าต้องลากยาวไปอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปีกว่าอิทธิพลเก่าจะถูกเจือจาง และคนๆ นี้เลี้ยงลูกน้องถึงใจ
แบบเดียวกับพวกเจ้าพ่อมาเฟียซื้อใจลูกน้อง เมื่อตั้งใจจะซื้อใครแล้วจะทุ่มให้เลยครับ อย่างมีหนี้สิน
อะไรที่รู้ก็จะเคลียร์ให้ มีปัญหากับใครที่ไหนก็จะจัดการให้ มีลูกมีหลานนี่ส่งเรียนนอกให้เลย และยัง
ช่วยผลักดันญาติๆ คนใกล้ชิดของลูกน้องให้ได้ดิบได้ดี สารพัดจะทำให้ใครจะไม่ซึ้งครับ

..และแน่นอนว่าคนที่ขัดขืนไม่ยอมให้ซื้อใจจะมีสภาพยังไงอยู่ได้หรือเปล่านะครับ..

ไม่รู้ว่าคุณ bunto ทราบข่าวข้าราชการสายทักษิณขอโอนย้ายไปรับราชการที่อังกฤษเพื่อตามไป
อยู่กับทักษิณหรือเปล่านะครับ ขนาดที่ว่าถ้าต้นสังกัดไม่ให้ย้ายก็จะขอลาออกไปอยู่เองทีเดียวเชียว
เขาจงรักภักดีกันถึงขนาดนั้น

ระบบการสร้างเครือข่ายของเขาไม่ธรรมดาครับ ไม่ใช่แค่ซื้อด้วยเงินแต่ถึงขนาดซื้อใจ!!!

ขอบคุณคุณจี มากๆ ครับ ที่ชี้แนะ เรื่องซื้อใจ ผมเชื่อ ว่ามีจริงๆ ครับ

เพราะผมรู้ว่าหลายคนที่ไม่มีผลประโยชน์ แอบแฝง แต่ถึงขั้นรักท่านเหลี่ยมเข้ากระดูกดำเลยก็มี ผมต้องยอมรับเค้าในจุดนี้มากๆ ที่เค้าเข้าใจ คนบางคน คนบางจำพวก ว่าพวกนี้ต้องการอะไร แล้วทำอะไรเพื่อเค้าบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นการซื้อใจได้แล้วครับ ที่สำคัญ คนพวกนี้ บูชาคนรวยอยู่แล้ว เห็นคนรวย จะคิดทันทีว่า เค้าคือคนเก่ง โดย ที่ไม่ได้ทันศึกษาประวัติ ว่ารวยมาได้ยังไง ด้วยซ้ำ

แต่ที่ผมเศร้าใจ คือ ผู้ที่ถูกซื้อได้  กลับเป็น ข้าราชการซึ่งเป็นข้าของแผ่นดินที่มีความรู้การศึกษาและผู้ที่มีอำนาจ กำหนดนโยบาย ของประเทศได้นี่สิครับ รวมไปถึงระบบการตรวจสอบอีก แค่คิดก็ขนลุกแล้ว หาก ประเทศไทย ยังไม่คิดที่จะปฏิรูปอะไร ต่อไป เจ้าสัว ซีพี หรือ ใครก็ได้ ที่รวยๆ คิดได้แบบทักษิณ

มันก็จะเกิดเหตุการณ์เผด็จการรัฐสภาแบบทักษิณได้ไม่ยากเลย อยากออก อยากแก้กฎหมาย ยังไง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องก็ได้แล้ว

ที่จริงถ้าคนพวกนี้ มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปบ้าง ประเทศไทย จะเจริญกว่านี้หลายเท่าเลย แต่กลับใช้ความเก่งไปในทางที่ไม่ถูก จนน่าท้อใจจริงๆครับ เพราะจะมีอำนาจอะไรที่จะตรวจสอบคนพวกนี้ได้ ทันเวลบ้าง