ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
16-01-2025, 20:52
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ทำไม เมื่อยึดอำนาจไปจากท่านนายกทักษิณแล้ว ถึงทำอะไรไม่ได้เลย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ทำไม เมื่อยึดอำนาจไปจากท่านนายกทักษิณแล้ว ถึงทำอะไรไม่ได้เลย  (อ่าน 1876 ครั้ง)
chiangraiplus
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165


ผมขายของเล็กน้อยอยู่เชียงรายครับ เป็นคน นครปฐมน่ะ


« เมื่อ: 30-04-2007, 06:59 »

ทำไม เมื่อยึดอำนาจไปจากท่านนายกทักษิณแล้ว ถึงทำอะไรไม่ได้เลย


อาผ่า :  ทำไมเมื่อยึดอำนาจไปจากท่านนายกทักษิณแล้ว พวกทหารยังถึงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย จริงๆมันติดอะไรกันแน่นะ ผมรอดูจนเบื่อแล้ว วันๆไม่เห็นมีอะไรเลย มีแต่ข่าวออกมาทุกๆชั่วโมง ว่าจะยังงั้นจะยังงี้ สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ


อาจือ :  จะพูดให้ตรงๆมันก็พูดไม่ได้ เอางี้ล่ะกันนะตามดูไปนะ เริ่มแรกเลย อาผ่าต้องดูที่มาของคนกลุ่มนี้ก่อน คนกลุ่มนี้เข้ามามีอำนาจในชาติของเรา จริงๆแล้วเส้นทางการเข้ามานั้น มันเหมือนใครในโลกนี้บ้างไหม.....อยากเข้ามามีอำนาจเหตุเพราะว่า..... เขาต้องการเป็นคนสำคัญ....แค่คิดก็อยากจะลาตายแล้ว อาผ่าลองคิดดูนะ ประเทศอื่นๆในโลกนี้ เขาก็กินข้าวเหมือนเรานั่นแหล่ะ เขาเองก็รักและห่วงประเทศเขาเหมือนกับเรา พอมีอะไรเกิดขึ้นในบ้านเราพวกเขาก็จับตามอง พวกเขาก็ติดตามดูว่าอะไรเป็นอะไร


อาผ่าคิดว่า ประเทศอื่นๆเขาจะยอมรับกระบวนทางการศาลของไทยหรือเปล่าหล่ะ อาผ่าลองคิดดูสิ  รัฐบาลที่มาแบบดำดิน แล้วมาโผล่ขึ้นจากดิน แล้วดันมาตั้งคนที่จะตรวจสอบหาข้อผิดพลาดของรัฐบาลที่แล้ว โดยการตั้ง คตส ขึ้นมา คตส นี่มันมาจากไหนบ้างหล่ะ มันมาจากกลุ่มคนที่เป็นคู่กัดกับรัฐบาลชุดที่แล้วทั้งหมดเลย เมื่อดันตั้งคนพวกนี้มาทำงานด้านการตรวจสอบ ไม่ต้องเอาสมองคิดก็ได้นะอาผ่า เอาผ่าเท้าข้างไหนคิดก็ผลเหมือนกัน ใครมันจะไปยอมรับการทำงานในลักษณะนี้ได้ ประเทศไหนๆเขาก็ไม่เอาด้วย นี่คือความอดสูเรื่องแรกของกลุ่มคนเถื่อน (ที่มาอย่างสกปรกเพราะดำดินมา) ที่สมควรทำคือมันต้องหาคนที่เป็นกลางจริงๆเข้ามาตรวจสอบ นี่คือความน่าเชื่อถือ แต่คนพวกนี้ทำไม่เป็นหรอก เรื่องที่เข้าท่านะ  ขนาดพวก รสช มันยังตั้งพลเอกสิทธิ จิรโรจน์ ขึ้นมาเป็นคนกลางเลย ในคราวที่ยึดทรัพย์คราวนั้น แต่คนพวกนี้มันดูถูกและมองข้ามความเท่าเทียมกัน ของคนอื่นๆเกินไป เกินจนไม่มีอะไรให้มอง ผลก็เลยอย่างที่เห็นๆกัน คือมองเท่าไรก็มองไม่เห็นปัญญาของคนกลุ่มนี้


แล้วอีกเรื่องนะอาผ่า เรื่องที่มันน่าเจ็บใจของพี่น้องร่วมชาติ และเรื่องที่น่าจะเป็นผลงานที่ดีๆของคนกลุ่มนี้ แต่มันกลับทำอะไรไม่ได้เลย ผมเองไม่เข้าใจเลยจริงๆ เรื่องภาคใต้ไงอาผ่า มันทำเอาคนที่เกือบสนับสนุนมันอยู่แล้ว กลายเป็นว่า มองซ้ำแล้วซ้ำอีก พร้อมกับร้องถามกันไปมา เฮ้ยนี่มันทหารจริงๆหรือเปล่า นี่มันกำลังหลักของชาติจริงๆหรือเปล่าว่ะ เพราะว่ามันคุมสถานการณ์อะไรไม่ได้เลย ขนาดมันประกาศแล้วประกาศอีก ทุ่มทหารลงไปแล้วทุ่มลงไปอีก มีแต่ไปตาย เอาละสิ พี่น้องทหารหาญเริ่มไม่พอใจ ทำไมมีแต่พวกเราตาย จริงไม่จริงอาผ่าลองไปดูเองละกัน ทหารที่ตายในภาคใต้ ร้อยละ 90 เป็นทหารที่ไปจากที่อื่น ทหารในพื้นที่มีหน้าที่เหมือนหุงข้าว ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย แบบนี้มันก็มีแต่ความหวาดหวั่นและความเคลือบแคลงสงสัย ทำไมลูกพี่ผมถึงได้คิดกันแบบนี้นะ มันส่งพวกผมไปตายนี่หว่า แทนที่จะเป็นการสร้างผลงาน กลายเป็นการกัดกันเอง พอแค่นี้ก่อนละกัน มีอะไรอยากรู้ก็ถามมา ตอบได้ก็จะตอบให้ ตอบไม่ได้ก็จะอยู่เงียบๆ

บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 30-04-2007, 10:12 »

คนไทยที่มีหัวใจเป็น"ไทย" อยู่ที่ไหนในราชอาณาจักรไทย
ก็เป็น"คนไทย" รับใช้ประเทศชาติตามหน้าที่พลเมืองไทย....

ถ้าภาคเหนือตอนบนมี"บ่าง"มาก เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นปราบปรามไม่หมด
รัฐบาลย่อมส่ง"เจ้าหน้าที่"จากภูมิภาคอื่นๆ ไปช่วยเหลือเช่นกัน.....



"บ่าง"ภาษาเหนือเรียกว่าอะไรเหรอ....... Question



นี่เป็นตัวอย่าง ผลพวงจากการทำรัฐประหารของ คมช.
ทำให้มีคณะกรรมการ คตส. เพื่อตรวจสอบ สอบสวนเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวง
ในรัฐบาลก่อนหน้านี้ เพื่อส่งฟ้องศาลสถิตยุติธรรม

เพื่อนำนักธุรกิจการเมือง ข้าราชการเมืองและข้าราชการประจำ
ที่ร่วมทุจริต สนับสนุน"ทุจริตทางนโยบาย"ของอดีตนายกรัฐมนตรีคนก่อน....

คตส.เล็งลงดาบสอง-ฟันเจ้าหน้าที่สรรพากร
 
30 เมษายน พ.ศ. 2550 06:30:00
 
 "คตส."ระบุผู้บริหารสรรพากรมีสิทธิโดนอาญาซ้ำ แม้ป.ป.ช.จะฟันไปก่อน ชี้เป็นการกระทำต่างเวลากัน ยันสอบวินัย 'กรมสรรพากร' ได้ไม่ซ้ำซ้อน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ในฐานะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น ว่า จากการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัทแอมเพิลริชพบว่าจะเข้าข่ายการเลี่ยงภาษีตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่ และการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารกรมสรรพากร จากการไม่เรียกเก็บภาษีจากบริษัทแอมเพิลริช คาดว่าในการประชุมคตส.วันที่ 30 เมษายนนี้คงจะยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เนื่องจากยังมีรายละเอียดอีกจำนวนมากที่จะต้องมาดูให้รอบคอบอีกครั้งหนึ่ง

นายสัก กล่าวว่า ในส่วนของการตรวจสอบทางวินัยกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรในกรณีนี้นั้น ยืนยันได้ว่าไม่มีความซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้บริหารกรมสรรพากรไม่เก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป ที่มีนายอรัญ ธรรมโน อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เพราะคตส.มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุข ฉบับที่ 30

ในกรณีดังกล่าวแม้ว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะได้มีการชี้มูลความผิดจากการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และ 154 แห่ง ประมวลกฎหมายอาญากับผู้บริหารกรมสรรพากรจากการละเว้นไม่เก็บภาษีบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมูนิวเคชั่น จำกัด จำนวน 738 ล้านบาทไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีผู้บริหาร กรมสรรพากรบางรายที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจะอยู่ในข่ายถูกตรวจสอบของคตส.ซ้ำด้วยนั้น เรื่องนี้ คตส.สามารถที่จะพิจารณาดำเนินความผิดกับผู้บริหารคนดังกล่าวได้ เนื่องจากทั้งสองกรณีเป็นพฤติกรรมที่ต่างกรรมต่างวาระกัน

แหล่งข่าวจาก คตส.เปิดเผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน กับบริษัทแอมเพิลริช อินเวสต์เมนท์ จำกัด ที่มีนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ เป็นประธาน โดยในวันนี้ (30 เม.ย.) เวลา 11.00 น. คณะอนุกรรมการจะเชิญนายสานิตย์ ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากรมาร่วมประชุมหารือ กับคณะอนุกรรมการตรวจสอบ หลังจากที่ คตส. ได้ส่งหนังสือแบบประเมินเรียกเก็บภาษีนายพานทองแท้และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในกรณีการหลบเลี่ยงการเสียภาษีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปกับบริษัทแอมเพิลริช วงเงิน 5.6 พันล้าน ไปให้กรมสรรพากรเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา

นพดล โต้คตส.เก็บภาษีแอมเพลริช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายตระกูลชินวัตรได้แจกจ่ายเอกสารจำนวน 6 หน้าแก้ข้อกล่าวหาคตส.ในคดีหุ้นแอมเพลริชของนายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทา ชินวัตร ให้แก่ผู้สื่อข่าว โดยสรุปประเด็นไว้ 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่กรณีรับเงินปันผลต้องเสียภาษี 30% กรณีขายหุ้นให้กับกลุ่มเทมาเส็ก และกรณีกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้และน.ส.พิณทองทา

โดยระบุว่าข้อกล่าวหาแรก ตามที่ คตส. ถือว่า บริษัทแอมเพิลริช ได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นชินคอร์ป 329.2 ล้านหุ้นทุกปี รวมเป็นเงินได้ไปถึงปี 2546 เป็นเงิน 1.77 พันล้านบาท ซึ่งคตส. ถือว่าการได้รับเงินปันผลถือเป็นการประกอบการในประเทศไทยต้องเสียภาษี 30% ซึ่งบริษัทแอมเพิลริชยังไม่ได้ยื่นชำระภาษีในส่วนนี้

ในเอกสารชี้แจงพอสรุปได้ว่าตามข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และประมวลรัษฎากร บริษัทแอมเพิลริช ไม่ได้เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย บริษัทแอมเพิลริช เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ดังนั้นการที่จะเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของประมวลรัษฎากรไม่อยู่ในบังคับต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 หรือแบบ ภ.ง.ด.51 แต่อย่างใด เนื่องจากไม่เข้าข่าย ตามมาตรา 65 มาตรา 66 มาตรา 68 ทวิ มาตรา 69 และมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

นอกจากนี้เขาเห็นว่า แนวทางปฏิบัติของกรมสรรพากร กรณีบริษัทต่างประเทศถือหุ้นในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ไม่ถือว่า บริษัทต่างประเทศ ประกอบกิจการในประเทศไทยตามมาตรา 66 และมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

ดังนั้น ตามที่ คตส. ถือว่า บริษัทแอมเพิลริช ต้องเสียภาษีเหมือนกับบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย จึงมีผล 1. เป็นความคิดที่ผิดไปจาก แนวปฏิบัติของกรมสรรพากรที่ผ่านมา 2. แนวคิดดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบ กับบริษัท holding company ซึ่งเป็นบริษัทต่างประเทศที่เข้ามาถือหุ้นแต่เพียงอย่างเดียวเพื่อหวังเงินปันผล ซึ่งปัจจุบันจะเสียภาษีจากเงินปันผลตามมาตรา 70 เช่นเดียวกับบริษัทแอมเพิลริช 3. ข้อเท็จจริง เงินดังกล่าว เป็นเงินปันผลที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น ตามมติที่ประชุมใหญ่ของบริษัท ชินคอร์ป เป็นการจ่ายเงินปันผลคิดเป็นอัตราร้อยละ ตามจำนวนหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินกำไรหรือจำหน่ายกำไร กรณีนี้จึงไม่ได้มีภาระภาษีตามมาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อกล่าวหาที่สอง ตามที่ คตส. ถือว่าการขายหุ้นของบริษัทแอมเพิลริช ให้กับนายพานทองแท้ และนางพิณทองทา และบุคคลทั้งสองได้นำหุ้นไปขายต่อให้กับกลุ่มเทมาเส็กนั้น เป็นการประกอบกิจการในประเทศไทย เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

เนื่องจากนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา มีภูมิลำเนาในประเทศไทย ก่อนการจัดตั้งบริษัทแอมเพิลริช การอยู่ในประเทศไทยของบุคคลทั้งสอง จึงเป็นการอยู่อาศัยเพื่อตนเองเหมือนอย่างคนไทยโดยทั่วๆ ไปในการประกอบการงานบุคคลทั้งสองมีกิจการงานหลายบริษัท ซึ่งบุคคลทั้งสองจะทำงานเหมือนกับบุคคลโดยทั่วๆ ไป ณ สำนักงานของบริษัทนั้นๆ

ไม่ถือว่าประกอบกิจการในประเทศ

ในเรื่องการประกอบกิจการของบริษัทแอมเพิลริช ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรจากการถือหุ้นบริษัทชินคอร์ป หรือจากการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป มิได้เป็นการประกอบกิจการในประเทศ เพราะการดำเนินการซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้นั้น เกิดขึ้นในต่างประเทศ ทั้งนี้ บุคคลทั้งสองมีหลักฐานทั้งการติดต่อเจรจาการทำสัญญา ซื้อขาย การจ่ายเงิน และการเดินทาง ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นในต่างประเทศทั้งสิ้น

ทั้งนี้การโอนหุ้นตามวิธีนี้ จะมีผลใช้ได้ในระหว่างผู้โอนและผู้รับโอน แต่ยังไม่มีผลผูกพันบริษัทจนกว่าจะไปลงทะเบียนการโอนกับบริษัท การลงทะเบียนนี้จะมีผลผูกพันบริษัทตั้งแต่บริษัทได้รับคำร้องขอให้ลงทะเบียนการโอนแล้วแต่ทั้งนี้จะยังไม่มีผลผูกพันบุคคลภายนอกจนกว่าบริษัทได้ลงทะเบียนการโอนหุ้นแล้ว การมีกิจการบางส่วนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น การแจ้งการโอนต่อนายทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทย เพราะเหตุที่ทำให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรเกิดในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว

ข้อกล่าวหาที่สาม ตามที่ คตส. ได้ตรวจสอบและวินิจฉัยเสนอให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 5.6 พันล้านบาท ซึ่ง คตส. เห็นว่าเป็นการขายหุ้นจากบริษัทแอมเพิลริช ขายให้กับนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ในราคาหุ้นละ 1 บาท แล้วบุคคลทั้งสองขายต่อให้กับกลุ่มเทมาเส็กในราคาหุ้นละ 49.25 บาทนั้น

เขาชี้แจงว่าปัจจุบัน กรมสรรพากรยังไม่ได้มีการประเมินภาษีนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ตามที่ คตส. กล่าวอ้างแต่อย่างไร หากกรมสรรพากรได้ประเมินภาษีบุคคลทั้งสองแล้ว บุคคลทั้งสองจะได้วางเงินประกัน และจะยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการเสียภาษีตามประมวลรัษฎากรและตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ตามที่ คตส. ได้อ้างว่า ได้ตรวจสอบและวินิจฉัยเสนอให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากบุคคลทั้งสองแล้วนั้น คตส.ไม่ได้บอกเลยว่า บุคคลทั้งสองมีเงินได้พึงประเมินประเภทใด (มาตรา 40 (2) หรือมาตรา 40 (Cool หรือมาตรา 40 (1) ถึง (Cool ป ต้องเสียภาษีตามมาตราใด จึงเห็นว่า เป็นเรื่องผิดปกติ ว่าคตส. อาจจะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คตส. ได้ทำหรือได้คิดที่จะเก็บภาษีจากบุคคลทั้งสองนั้นเป็นการถูกต้องหรือไม่



http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/30/WW10_WW10_news.php?newsid=66542


อย่าใจร้อน เร่งรัดคณะกรรมการ คตส.
เดี๋ยวจะทำงานผิดพลาด ไม่รัดกุม เมื่อเข้าสู่ขบวนการศาลสถิตยุติธรรม.....

หรือ"เจ้าของกระทู้" ต้องการอย่างนั้นหว่า................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 30-04-2007, 10:31 »

ที่ดินย่านรัชดาฯใกล้สรุป - อนุฯสอบลั่นส่งที่ประชุมใหญ่ฟันสัปดาห์หน้า
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2550 22:18 น.
 
 
  “จารุวรรณ” เผย เตรียมสรุปผลการไต่สวนการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกของ “หญิงอ้อ” ส่งให้ที่ประชุมใหญ่ คตส.พิจารณาสัปดาห์หน้า ขณะที่คดีทุจริตงานก่อสร้างระบบจ่ายไฟฟ้าและเครือข่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่คืบ เหตุบิ๊ก ทอท.ปฏิเสธเข้าให้ข้อมูล
       
       คุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก ของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวน ที่มี นายอุดม เฟื่องฟุ้ง เป็นประธาน ได้หารือเพื่อเตรียมสรุปผลการไต่สวน ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากยังต้องพิจารณาในส่วนของการตีความในส่วนของตำแหน่ง หน้าที่ที่รับผิดชอบ และในส่วนข้อกฎหมายอยู่โดยมีทั้งหมด 10 ประเด็น แต่สรุปได้ 5 ประเด็น จึงต้องมีการประชุมในสัปดาห์นี้ ซึ่งเห็นว่า จะสามารถสรุปผลการไต่สวนเพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ คตส.ได้ในสัปดาห์ต่อไป
       
       นอกจากนี้ คุณหญิง จารุวรรณ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการทุจริตงานก่อสร้างระบบจ่ายไฟฟ้าและเครือข่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือท่อร้อยสายไฟฟ้า ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้ อีกว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบด้วยตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลให้รัดกุม โดยที่สัปดาห์ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการได้เชิญนายอดิเทพ นาคะวิสุทธิ์ อดีตผู้บริหาร ทอท.มาให้ถ้อยคำ แต่ปรากฏว่า นายอดิเทพ ได้ส่งหนังสือการขอปฏิเสธการให้ถ้อยคำ โดยระบุว่า จะขอไปให้การในชั้นศาลเลย ที่ประชุมคณะอนุกรรมการจึงมีมติเห็นตรงกันว่าต่อไปนี้จะไม่เชิญ นายอดิเทพ มาอีกแล้ว
       
       คุณหญิง จารุวรรณ กล่าวอีกว่า จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า มีบุคคลที่ถูกพาดพิงเพิ่มขึ้นอีกคือ นายทอม เอส คิว ซึ่งเป็นที่ปรึกษาระดับสูงของท่าอากาศยาน (ทอท.) โดยคณะอนุกรรมการได้ส่งหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำชี้แจง แต่ นายทอม อ้างว่า ไม่สามารถมาให้ถ้อยคำชี้แจงได้เนื่องจากต้องผ่าตัด จึงขอเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งที่ประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวน จึงมีมติให้ทำหนังสือเป็นคำถามส่งไปให้ทางไปรษณีย์ และสามารถชี้แจงได้ด้วยลายลักษณ์อักษร เหตุที่ต้องส่งคำถามทางไปรษณีย์นั้น เนื่องจากว่าคณะอนุกรรมการไม่ต้องการให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ซึ่งหากเห็นชอบให้เลื่อนไป 2 สัปดาห์ท้ายสุด ก็ต้องอ้างว่าขอพักรักษาตัวอีก

 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000048885
 
 
นี่เป็นผลงานที่เจ้าของกระทู้เรียกร้องอยากอ่าน อยากรู้................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


 
 
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Nai_puan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 231


« ตอบ #3 เมื่อ: 30-04-2007, 10:56 »

ถ้าจะไม่ได้เรื่องแล้วครับ  ท่าน คตส.


จะเล่นงานใคร ในความผิดคดีไหน   องค์กรรัฐฯ ที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ  คือพยานปากสำคัญ

กล่าวหาเขาว่า หลีกเลี่ยงภาษี?

พยานปากสำคัญคือ กรมสรรพากร  กลับเป็นผู้ยืนยันต่อสาธารณชนเองว่า  กรณีนี้ไม่ต้องเสียภาษี

ถึงแม้ในขณะนี้ คตส.ได้มีคำสั่งให้ กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี รวมทั้งค่าปรับและเงินเพิ่ม

กรมสรรพากรก็ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งในทันที  กลับตั้งคณะกรรมการฯเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยในเรื่องนี้อีกเป็นเดือนๆ

ย่อมแสดงว่า กรมสรรพากรซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐฯ  ก็ยังไม่แน่ใจว่า จะต้องมีการเรียกเก็บภาษีหรือไม่?

อย่างนี้ คงจะไปกล่าวโทษผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ได้  เพราะแม้แต่กรมสรรพากรก็ยังไม่มีความมั่นใจว่า จะต้องเสียภาษีหรือไม่?



คดีที่ดินรัชดา ก็เช่นกัน

พยานปากสำคัญ ก็คือ กองทุนฟื้นฟูฯ

ซึ่งได้ยืนยันกับสาธารณชนมาโดยตลอด  ว่าทางกองทุนฯไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

อีกทั้งได้ยืนยันชัดเจนว่า  นายกฯคนก่อนไม่ได้มีอำนาจกำกับดูแลกองทุนฯ  ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย
บันทึกการเข้า
chiangraiplus
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165


ผมขายของเล็กน้อยอยู่เชียงรายครับ เป็นคน นครปฐมน่ะ


« ตอบ #4 เมื่อ: 30-04-2007, 11:03 »

มองโลกแคบจริงโว้ย.............มันเอาปืนมาปล้นอำนาจจากคนอื่นไป
แล้วตั้งคนที่เป็นคู่กัดกันมาทำหน้าที่ตรวจสอบ แบบนี้มันไม่สิ้นคิดไปหน่อยหรือ
ใครมันจะไปสนใจให้เครดิตว่ะ ทำงานเหมือนเล่นขายของ พอทำอะไรไม่ได้ก็จะพาลเอากับหมากับแมว น่าทุเรศว่ะ
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #5 เมื่อ: 30-04-2007, 11:08 »

มองโลกแคบจริงโว้ย.............มันเอาปืนมาปล้นอำนาจจากคนอื่นไป
แล้วตั้งคนที่เป็นคู่กัดกันมาทำหน้าที่ตรวจสอบ แบบนี้มันไม่สิ้นคิดไปหน่อยหรือ
ใครมันจะไปสนใจให้เครดิตว่ะ ทำงานเหมือนเล่นขายของ พอทำอะไรไม่ได้ก็จะพาลเอากับหมากับแมว น่าทุเรศว่ะ


เกรียนแตกเหรอ
พ่อคนมีคุณภาพ

ใจเย็นๆ เดี๋ยวกระอักเลือดตาย
หายใจลึ้กกๆๆๆ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #6 เมื่อ: 30-04-2007, 11:10 »

ขนาดยังทำอะไรถนัด ๆ แบบตีแสกหน้าไม่ได้นะเนี่ยะ ทั่นหัวหน้าลัทธิเหลี่ยมกับลูกน้องก็ดิ้นกันพล่านนนนนนนนนน 

ยิ่งเข้าใกล้จุดแตกหักที่กำลังงวดเข้ามา คงได้ดิ้นกระแด่ว ๆ ชักดิ้นชักงอให้เห็น 

บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
chiangraiplus
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165


ผมขายของเล็กน้อยอยู่เชียงรายครับ เป็นคน นครปฐมน่ะ


« ตอบ #7 เมื่อ: 30-04-2007, 11:12 »

"เกรียนแตกเหรอ
พ่อคนมีคุณภาพ

ใจเย็นๆ เดี๋ยวกระอักเลือดตาย
หายใจลึ้กกๆๆๆ "





นี่คือการตอบกระทู้ที่น่าภิรมย์ของคนในนี้
คราวหน้าขอให้มีอะไรที่มันติดสมองออกมาบ้าง อย่าเอาแต่ขึ้เถ้าเลย เบื่อ
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #8 เมื่อ: 30-04-2007, 11:17 »

ผมนิสัยเสีย

ชอบแหย่เกรียนเล่นอ่ะ โต้ดน้าาๆๆ จู๊ฟๆๆๆ 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #9 เมื่อ: 30-04-2007, 11:35 »

มองโลกแคบจริงโว้ย.............มันเอาปืนมาปล้นอำนาจจากคนอื่นไป
แล้วตั้งคนที่เป็นคู่กัดกันมาทำหน้าที่ตรวจสอบ แบบนี้มันไม่สิ้นคิดไปหน่อยหรือ
ใครมันจะไปสนใจให้เครดิตว่ะ ทำงานเหมือนเล่นขายของ พอทำอะไรไม่ได้ก็จะพาลเอากับหมากับแมว น่าทุเรศว่ะ



คุณ chiangraiplus เจตนาให้คนหลังเขา เข้าใจว่า คมช.และ คตส. ใช้ศาลเตี้ยอย่างเดียวกับ รสช. ที่"นายผู้ชาย"ของคนรักเหลี่ยมฯ ทั้งหลาย ไปยืนกุมเป้ากับประธาน รสช.เหรอ.....

คนไทยที่ไม่ได้ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ย่อมทราบดีว่า คณะกรรมการ คตส.สอบสวน หาพยานหลักฐานเรียบร้อย แล้วจึงสรุปสั่งฟ้องผ่านขบวนการ ผ่าน อัยการสูงสุด ผ่านศาลสถิตยุติธรรม ยิ่งกว่าสมัย"นายผู้ชาย"เรืองอำนาจใช้อำนาจคณะกรรมการ ปปง. ที่แต่งตั้งโดย"นายผู้ชาย".....

ขอให้เมตตาพวกหลังเขา พวกรากหญ้าที่ไม่มีโอกาสรู้ความจริง นอกจากอ่าน"ใบบอก" บ้างเถอะ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล. อย่างนี้ไม่เรียกว่าแลกเปลี่ยนข้อเท็จหรอก แต่เจตนาบิดเบือน เบี่ยงเบน และปิดบังข้อเท็จจริงมากกว่า.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #10 เมื่อ: 30-04-2007, 11:40 »

ถ้าจะไม่ได้เรื่องแล้วครับ  ท่าน คตส.


จะเล่นงานใคร ในความผิดคดีไหน   องค์กรรัฐฯ ที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ  คือพยานปากสำคัญ

กล่าวหาเขาว่า หลีกเลี่ยงภาษี?

พยานปากสำคัญคือ กรมสรรพากร  กลับเป็นผู้ยืนยันต่อสาธารณชนเองว่า  กรณีนี้ไม่ต้องเสียภาษี

ถึงแม้ในขณะนี้ คตส.ได้มีคำสั่งให้ กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี รวมทั้งค่าปรับและเงินเพิ่ม

กรมสรรพากรก็ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งในทันที  กลับตั้งคณะกรรมการฯเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยในเรื่องนี้อีกเป็นเดือนๆ

ย่อมแสดงว่า กรมสรรพากรซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐฯ  ก็ยังไม่แน่ใจว่า จะต้องมีการเรียกเก็บภาษีหรือไม่?

อย่างนี้ คงจะไปกล่าวโทษผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ได้  เพราะแม้แต่กรมสรรพากรก็ยังไม่มีความมั่นใจว่า จะต้องเสียภาษีหรือไม่?



คดีที่ดินรัชดา ก็เช่นกัน

พยานปากสำคัญ ก็คือ กองทุนฟื้นฟูฯ

ซึ่งได้ยืนยันกับสาธารณชนมาโดยตลอด  ว่าทางกองทุนฯไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

อีกทั้งได้ยืนยันชัดเจนว่า  นายกฯคนก่อนไม่ได้มีอำนาจกำกับดูแลกองทุนฯ  ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย



พูดอย่างไรก็ได้....
แต่อย่ากระพริบตา.....
ถ้าความจำดี คงจำได้อธิบดีและผู้บริหารระดับสูง 5 คน ถูกไล่ออกจากราชการ เพราะอะไร.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


ปล.ขอชมน้ำใจข้าราชการประจำบางคนที่ยัง"กล้าตาย"เพื่อ"นายผู้ชาย" เพราะคาดหวังว่า"นายผู้ชาย" จะกลับมามีอำนาจตามคำทำนายของหมอ"อีที" จะได้รับผลตอบแทนบ้าง.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
โฟร์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 83


« ตอบ #11 เมื่อ: 30-04-2007, 11:43 »

รู้ได้ยังไงว่าทหารในพื้นที่ไม่ทำงาน  ถามจริงๆนะ   

บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #12 เมื่อ: 30-04-2007, 11:52 »

คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก เป็นพวก"ปากกล้า ขาสั่น" นอกศาล...
ไม่มีความคิด ไม่คิดว่า "นายผู้ชาย" "นายผู้หญิง" "คุณท่าน" ในครอบครัว และ บริวารที่ใกล้ชิด"นายผู้ชาย"
ไปให้ปากคำกับคณะกรรมการ คตส. เพราะอะไร...... Question


สมัย รสช.มีอำนาจ แต่งตั้งพล.อ.สิทธิ เป็นประธานตรวจสอบทุจริตฯ
เฉลิม ดาวเทียมและนักการเมืองอีกหลายคนที่ไม่ยอมเข้า"คอกรสช."
ไม่ยอมรับอำนาจ"ศาลเตี้ย"นี้ ไม่ไปพบปะ ไม่ไปให้ปากคำ ใช้วิธีไปต่างประเทศ

เมื่อสิ้นอำนาจเถื่อนของ รสช. ก็ฟ้องศาลสถิตยุติธรรมจนชนะคดี.......


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
chiangraiplus
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165


ผมขายของเล็กน้อยอยู่เชียงรายครับ เป็นคน นครปฐมน่ะ


« ตอบ #13 เมื่อ: 30-04-2007, 11:54 »

ผมรออยู่ที่กระทู้นี้ครับ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=13608.0
บันทึกการเข้า
Nai_puan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 231


« ตอบ #14 เมื่อ: 30-04-2007, 11:59 »

อ้างถึง

พูดอย่างไรก็ได้....
แต่อย่ากระพริบตา.....
ถ้าความจำดี คงจำได้อธิบดีและผู้บริหารระดับสูง 5 คน ถูกไล่ออกจากราชการ เพราะอะไร.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


ปล.ขอชมน้ำใจข้าราชการประจำบางคนที่ยัง"กล้าตาย"เพื่อ"นายผู้ชาย" เพราะคาดหวังว่า"นายผู้ชาย" จะกลับมามีอำนาจตามคำทำนายของหมอ"อีที" จะได้รับผลตอบแทนบ้าง.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




มองโลกแคบไปหน่อยหรือเปล่า?

บรรดาข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของ คตส. เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย และข้อเท็จจริง

ต้องถูกมองว่าเป็นพรรคพวก ของรัฐบาลเก่าทั้งหมดหรือ?

แล้วอย่างนี้  บรรดารัฐมนตรีขิงแก่  ที่ถูก คตส.ข่มขู่โดยอ้างว่าไม่ให้ความร่วมมือ

ต้องถูกมองว่าเป็นพรรคพวกรัฐบาลเก่าด้วยล่ะสิ?

แน่จริงก็ลองเล่นงานพวกรัฐมนตรี  และคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ด้วยสิ  จะได้รู้ว่า คตส.มั่วหรือไม่?


สำหรับ จนท.สรรพากร ที่ถูกเล่นงานด้วยอำนาจที่ไม่ชอบ  ไม่ต้องห่วงหรอกครับ

ผ่านพ้นไปจนได้รัฐบาลประชาธิปไตยเมื่อไหร่  เขาฟ้องกลับแน่

เสียดายก็แต่ ภาษีอากรของประชาชน  ที่คตส.เตรียมร่างระเบียบหวังเอาเงินภาษีไปใช้เพื่อสู้คดี
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #15 เมื่อ: 30-04-2007, 14:04 »

ทำไม เมื่อยึดอำนาจไปจากท่านนายกทักษิณแล้ว ถึงทำอะไรไม่ได้เลย

คำถาม มันไม่ได้เป็นจริง จึงไม่รู้จะตอบอย่างไร

เพราะหลังจากยึดอำนาจไปแล้ว ผู้ยึดอำนาจ กลับใช้ขบวนการตามหลักกฎหมายสากล คือใช้กระบวนการยุติธรรม ในการจัดการปัญหา ซึ่งต้องใช้เวลา เพื่อให้เกิดความยุติธรรมจริงๆ และสิ่งที่ทำไป แก้ผ้านายกทักษิณและก๊วนจนล่อนจ้อน ว่าได้กระทำผิดอะไรไว้บ้าง ซึ่งเรื่องก็ทยอยเข้ากระบวนการยุติธรรมไปตามลำดับ

ความขัดแย้งในมุมมองของหน่วยงานของรัฐเองนั้น เป็นการขัดแย้งตามหลักกฎหมาย เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องแย้งกัน และจบลงตรงใช้กฎหมายเป็นหลักว่า จะเอาอย่างไรกันแน่

หากหน่วยงานรัฐ เออออมั่วกันเพื่อเอาผิด ลิ่วล้อก็จะแหกปากอีกว่า ใช้อำนาจเผด็จการคุกคามเจ้านาย

เมื่อใช้กระบวนการยุติธรรมที่ต้องใช้เวลา ลิ่วล้อก็แหกปากว่า ป่านนี้แล้วยังเอาผิดอะไรไม่ได้เลย

อย่างว่า แหกปากแลกเงิน ก็ต้องแหกกันไป 
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 30-04-2007, 14:09 »

ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #17 เมื่อ: 30-04-2007, 16:20 »

แล้วอย่างนี้  บรรดารัฐมนตรีขิงแก่  ที่ถูก คตส.ข่มขู่โดยอ้างว่าไม่ให้ความร่วมมือ

ต้องถูกมองว่าเป็นพรรคพวกรัฐบาลเก่าด้วยล่ะสิ?

แน่จริงก็ลองเล่นงานพวกรัฐมนตรี  และคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ด้วยสิ  จะได้รู้ว่า คตส.มั่วหรือไม่?

ข้อความโดย: Nai_puan


คุณคงไม่ได้ทราบว่าอดีต รมว.คลัง หม่อมอุ๋ย, รมว.มหาดไทย อารีย์ และ รมว.คลัง ฉลองภพ เข้าพบคณะกรรมการ คตส. เพื่อให้ปากคำแล้ว........

รัฐมนตรีจะได้รับทราบว่า ความเห็นของข้าราชการประจำที่เสนอให้รัฐมนตรีทราบนั้นแตกต่างจากคณะกรรมการ คตส.อย่างไร..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


ปล. อธิบดีกรมสรรพากรคนปัจจุบัน จะประวิงเวลาได้นานเท่าใด.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #18 เมื่อ: 30-04-2007, 16:24 »

ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...

นักการเมือง ข้าราชการประจำ และคนรักเหลี่ยมฯ งมงายกับการบอกเล่าของเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกว่า
จะกลับเมืองไทยสัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า จึงยังกล้าดื้อด้านกับคณะกรรมการ คตส. และ คมช....
Exclamation


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
aoporadio
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 404


« ตอบ #19 เมื่อ: 02-05-2007, 09:11 »

 

อ่านข่าวบ้างป่าว จขกท


เรื่องมันมันโดนคั่วอยู่ จะงวดแล้ว
บันทึกการเข้า
truly
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 253


« ตอบ #20 เมื่อ: 02-05-2007, 09:29 »

ทำไมถึงว่า ทำอะไรไม่ได้ล่ะครับ

อย่างนึงที่เห็นๆ คือ ไอ้ทักษิณกลายสภาพเป็นหมาจรจัด เข้าบ้านไม่ได้
นี่ก็เซฟเงินของชาติจากการโกงกินของมันไปได้เยอะแล้ว...

บันทึกการเข้า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #21 เมื่อ: 02-05-2007, 13:29 »

จำไม่ได้แล้วว่าใครหน้าไหนบอกว่า "จะรักษาประชาธิปไตยด้วยชีวิต"

จขกท ช่วยตอบเสียงดังฟังชัดหน่อยครับ เอาให้ดังไปถึงลอนดอนเลยนะ 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
หน้า: [1]
    กระโดดไป: