ใครไม่รู้คงคิดว่าเว็บไซต์ตัวใหม่ที่ลิ่วล้อ "นายทักษิณ" เปิดเป็นพื้นที่ให้กับ "นาย" ได้เล่นหัวแก้เบื่อนั้น เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ระบายความในใจ และปลุกระดมมวลชน "คนรักทักษิณ" ธรรมดาๆ
ไม่น่าจะมีพิษสงอะไรหนักหนาสาหัสไปกว่านั้น
แต่ถ้าใครคิดเพียงแค่นั้น ดาร์คนิวส์" คงต้องบอกว่าคิดผิด-คิดใหม่ได้แล้ว
เพราะเว็บไซต์
www.hi-thaksin.net ที่เพิ่งติดต่อขอเช่าพื้นที่เว็บ ไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกาโดยการโอนเงินผ่านทางบัตรเครดิต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เองนั้น
ให้จับตาให้ดีเถอะว่ามันกำลังจะกลายเป็นเว็บไซต์ต้องห้าม คล้ายกับ
www.manussaya.com ที่ต้องใช้กำลังภายในอย่างสูงที่เดียวกว่าจะปิดลงได้เมื่อปลายรัฐบาลนายแม้ว
เหตุก็เพราะเว็บไซต์ที่ว่านั่นล้วนเป็นเว็บไซต์ที่บรรจุข้อความเข้าข่าย "หมิ่นเบื้องสูง" อย่างแรง
ความไม่พอใจของบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อรัฐบาลนายแม้ว ในประเด็นที่ว่าปล่อยให้เว็บฯพรรค์นั้นเปิดอยู่ได้ตั้งนานกว่า 2 ปี กลับไม่มีความพยายามเร่งรีบปิดให้ไวนั้น
ดูเหมือนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่างเลยว่าเป็นของใคร และอย่างไร ผลสอบใครผิด ใครถูกอย่างไร
ได้ข่าวว่า "วงกต มณีรินทร์" เป็นหัวหอกในการสอบสวนเรื่องนี้ไม่ใช่หรือ น่าจะแถลงให้รู้แจ้งเห็นจริงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
เบื้องหลัง "ตัวจริง" เป็นใครกันแน่ ???
เป็นรายการ "โยนบาปให้เพื่อน" หรือไม่ ???
จนวันนี้ "ของเก่า" ก็ยังไม่ตอบ ดันต้องมาเจอ "ของใหม่" ซ้ำเข้าให้อีกแล้ว !!!
ที่ว่าเข้าข่ายเป็น "ภาคต่อ" ของมานุษยะดอทคอมนั้น ไม่ใช่แค่คลิปวิดีโอของ "นายแม้ว" ที่ทยอยนำออกอากาศผ่านทางบรอดแบนด์นั่นหรอก
หากอยู่ตรงบทความหลายบทความที่เอ่ยพาดพิงไปยังชนชั้นที่ "รับใช้ใกล้ชิด" สถาบันเบื้องสูงต่างหาก !!!
ถึงนาทีนี้จะยังไม่เข้าใกล้ "สถาบัน" โดยตรงเหมือนเว็บไซต์ "manussaya.com" แต่เชื่อได้ว่า หากปล่อยไว้อีกไม่นาน คงเดินตามรอยกันแหงมๆ
โดยผู้ที่ถูกเอ่ยถึงในขณะคือ "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ที่นายแม้วกระทบกระเทียบเปรียบเปรยก่อนจะถูก ยึดอำนาจนั่นแหละ
ลองดูหัวข้อบทความ และตัวอย่างคำพูดที่ใช้กันหน่อยประไร
หัวข้อเฉพาะ "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" นั้น เขียนมาถึงตอนที่ 5 แล้วในวันนี้ โดยผู้ที่ใช้นามปากกาว่า "อาคม ซิดนี่ย์"
เริ่มด้วย...1.แค้นของคนชื่อเปรม
2.เปรมาธิปไตย
3.พระมหาอุปราชเปรม
4.จิ๋วตายน้ำตื้น
5.ยุทธการเราพร้อมแล้ว
และนี่คือการสรุปประเด็นของแต่ละตอนเพื่อเรียกความสนใจ !!!
๑. กรณี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ อันเป็นการโค่นล้มระบอบเผด็จการจอมพลถนอม โดยกลุ่มนักศึกษาปัญญาชนในนาม "ศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย"
๒. เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เป็นการทวงคืนอำนาจของกลุ่มข้าราชการที่ผมเรียกว่าพรรคข้าราชการหรืออมาตยาธิปไตย โดยมีการวางแผนอย่างเป็นระบบภายหลังจากการสูญเสียอำนาจ
๓. พฤภาทมิฬ เป็นการช่วงชิงอำนาจอันเกิดจากความขัดแย้งของนายทหาร จปร.รุ่น ๑, ๕ และ ๗ โดยอาศัยการตายของประชาชนไปเป็นเครื่องมือในการประกาศศักดาแห่งบารมีเปรม อันเป็นการแจ้งเกิดของระบอบเปรมาธิปไตย ที่ผมบอกว่าน่ากลัวว่าระบอบเผด็จการในอดีต
๔. เหตุที่เกิดความวุ่นวายขึ้นในประเทศ เกิดจากกลุ่มบุคคลรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท โดยมีพรรคการเมืองเก่าแก่และสื่อมวลชนบางกลุ่มให้ความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การโค่นล้มทักษิณเพื่อตอกย้ำให้เห็นอำนาจเบ็ดเสร็จและเด็ดขาดว่า "อำนาจและบารมีของข้า ใครอย่าแตะ" ซึ่งผมเรียกว่า "พระมหาอุปราชเปรม" ที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอันจะต้องพลัดถิ่นอยู่ในเวลานี้
สำหรับบทความเรื่อง "ยุทธการเราพร้อมแล้ว" ผมต้องการชี้ให้เห็นเหตุการณ์ทั้งสี่ นับตั้งแต่กรณี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ มาสู่เหตุการณ์ ท๊ากก..สินออกไป มีส่วนเกี่ยวเนื่องกันจนแยกไม่ออก เพราะทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเกิดจากกลุ่มผู้ได้ชื่อว่าบุคคลผู้รับใช้ใกล้ชิดเบื้องยุคลบาททั้งสิ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจและไม่เป็นการทำให้สับสน ผมจึงจะแยกเหตุการณ์ ให้ท่านผู้อ่านได้ทบทวนความจำ เพื่อให้เห็นความเกี่ยวโยงกันอย่างชัดเจนดังนี้
ส่วนตอนที่ 6 ชื่อตอนว่า เปรมาธิปไตย ลัทธิมอมเมา มีเนื้อหาที่เป็น "ไฮไลท์" ดังนี้
"การบิดเบือนกระแสพระราชดำรัสของกลุ่มคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลในระบอบเปรมาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นกระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับความพอเพียงก็ดี หรือการมอมเมาให้ สัง คมหลงและงมงายเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นทำให้เกิดความเกรงกลัวอย่างไม่มีเหตุผลนี่เอง จึงปรากฎมีผู้คนเริ่มมานั่งรอกราบไหว้พล.อ.เปรม อยู่ข้างทางเหมือนรอรับเสด็จ ด้วย ความเข้าใจผิด"
การวิพาษ์วิจารณ์สถาบันองคมนตรี ซึ่งมีรัฐธรรมนูญรองรับให้เป็นคณะบุคคลซึ่งมีหน้าที่ถวายคำแนะนำให้พระบาทสมเด็จประเจ้าอยู่หัวนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำกันมาเลยก่อนหน้านี้
เพิ่งจะมีก็สมัย "นายแม้ว" นี่ล่ะ !!
แล้วประเด็นที่เสี่ยงจะหมิ่นเหม่เข้าไปใหญ่อยู่ตรงชื่อตอนที่ 7 ซึ่งแม้ยังไม่ได้เขียนรายละเอียดบทความนำเสนอในวันนี้ แต่เมื่อดูจากชื่อแล้ว ชวนให้น่าคิดในเจตนาของผู้นำเสนออย่างมาก
นั่นคือชื่อตอน "เปรมข้อต่อธุรกิจ-การเมือง-เบื้องสูง"
ถ้ารัฐบาลและคมช.ปล่อยให้เว็บไซต์นี้คงอยู่ต่อไป มีหวังในที่สุดแล้วจะไม่อาจควบคุมได้ และมีหวังจะบานปลายกันไปใหญ่โต
ทีมงานที่ร่วมแรงลงแขกจัดการเว็บไซต์ได้อย่างอลังการพันลึกอย่างนี้ ไม่น่นจะตามจับมือใครดมได้ยาก
ลองมองไปทางทีมงานเดิมๆ ก็คงจะเห็นชื่อเดิมๆที่หากินกับรัฐบาลนายแม้วมาตลอด 4 ปีนั่นแหละที่เป็นทีมงานร่วมบรรเลงงานนี้
ทีมสื่อเทียมทั้งหลายที่ "รัฐบาล" และ "คมช." ขึ้นบัญชีดำไว้แล้วนั่นแหละ
แต่ก็น่าแปลกตรงที่ขึ้นบัญชีหนังหมาที่ว่านั่นมาชาติหนึ่งแล้ว ไม่เห็นลงมือทำอะไร
ปล่อยให้ย่ามใจมาได้ตั้งเกือบครึ่งค่อนปี
หรือว่านี่คือกลยุทธเปิดช่องให้ตายใจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการยัดข้อหา "กบฎ" อีกที ???คิดอย่างไรกันครับ พี่น้องเสรีไท