เรื่องการบ้านการเมือง ก็เครียดและวุ่นๆ กันยังไม่จบสิ้น
เรื่องการศึกษาซึ่งเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศก็ยังสะสางไม่เรียบร้อย
เรื่องเศรษฐกิจ คนรวยก็รวยไป ส่วนคนจนก็ก้มหน้ารับกรรมต่อไป
มาว่าเรื่องกีฬากันบ้าง เขาว่ากันว่า หนึ่งในตัวบ่งชี้ความเจริญและการพัฒนาของคนในชาติก็คือกีฬานี่แหละ
กีฬาก็มีหลากหลายประเภท และไทยเราก็มีนักกีฬาชื่อเสียงในระดับโลกก็ไม่น้อย
แต่ที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดในโลกก็คงจะหนีไม่พ้น
"ฟุตบอล" และอีกไม่กี่วัน มหกรรมฟุตบอลโลก ก็จะเริ่มแล้ว และเป็นที่น่ายินดีว่า
ประเทศไทยถื่อว่าเป็นระดับแนวหน้าของการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก
รวมถึงฟุตบอลนานาชนิด ของต่างประเทศ
ซึ่งอาจจะเป็นประเทศที่มีการถ่ายทอดฟุตบอลมากที่สุดในโลกก็ว่าได้
และถ้าเป็นอย่างนี้ เรามีฟุตบอลดีๆ ให้ดูมากมาย การพัฒนากีฬาฟุตบอลก็น่าจะดีไปด้วยอันนี้ฝากเป็นการเมื่อง เอ๊ย การบ้านให้ไปขบคิดกันเอง แต่ไม่ต้องส่งนะขอรับ
ในอดีตเมื่อ ๒๐-๓๐ ปีที่แล้ว ในย่านเอเชียนั้น คนอายุเลย 30 ขึ้นไปก็พอจะทราบว่า
ฝีไม้ลายเท้าด้านฟุตบอลของไทยเราอยู่ในอันดับต้นๆ ก็ว่าได้
เราเคยยำจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เละเทะมาแล้ว
ผ่านไปไม่กี่ทศวรรษ ๓ ประเทศดังกล่าว กลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจไปเสียแล้ว
รวมถึงด้านกีฬาฟุตบอลด้วย
ปีนี้ก็ได้ไปฟุตบอลโลกอีกแล้ว แฟนบอลชาวไทย ก็ได้แต่มองตาปริบๆ
รอเชียร์ทีมชาติอังกฤษ บราซิล ซึ่งเป็นขวัญใจของคนไทยส่วนใหญ่เอาก็แล้วกัน อิอิ...
ในทศวรรษที่ผ่านมา สมาคมบางสมาคม ก็อิ่มอกอิ่มใจหนักหนากับความเป็น ๑ ในเอเซี่ยน
แต่นักฟุตบอลฝีเท้าดีๆ ของเราหลายคน กลับต้องไปค้าแข้งในประเทศเพื่อนบ้านอาเซี่ยน
ที่กำลังมาแรงแซงโค้ง ก็เห็นจะเป็น เวียดนามและสิงคโปร์
อีกไม่กี่ปี หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ เราก็จะได้เห็นเพื่อนบ้านอาเซี่ยนเราได้ไปฟุตบอลโลก
และเราก็ยังรอลุ้นอังกฤษกับบราซิล อยู่หน้าจอทีวี
ใครที่โชคดีอาจได้ไปดูถึงขอบสนามเพราะบ้านเรามีรายการชิงโชคไม่หวาดไม่ไหว
และที่มองข้ามไม่ได้ก็คือบ้านใกล้เรือนเคียงของเรานี่แหละ สปป.ลาว ระยะหลังฝีเท้าพัฒนาไป
พอสมควร และหากพัฒนาไปเรื่อยๆ และเราย่ำเท้าอยู่กับที่ คนที่พัฒนาย่อมแซงเราไปแน่นอน
ฟุตบอลโลกในเร็วๆ นี้เราอาจจะได้เชียร์เพื่อนบ้านใกล้ตัวเรามากยิ่งขึ้น นั่นคือ สปป.ลาว
การเมืองก็ยุ่ง
การศึกษาก็แย่
เศรษฐกิจก็ยุบ
การกีฬาก็หยิบโหย่ง
มาทายกันเล่นๆ ว่าไทยกับลาว ในอนาคตใครจะได้ฟุตบอลโลกก่อนกัน เอ้า