ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-05-2025, 00:43
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  **มูลนิธิ "เสรีไทยเว็บบอร์ด" เพื่อเด็กด้อยโอกาสในสังคม** 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
**มูลนิธิ "เสรีไทยเว็บบอร์ด" เพื่อเด็กด้อยโอกาสในสังคม**  (อ่าน 3121 ครั้ง)
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« เมื่อ: 03-03-2007, 09:01 »

ตอนที่พิมพ์กระทู้นี้ ผมมีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์แน่นอนครับ ไม่มีอาการ "ประกิตเผ่า" แต่อย่างใด

ผมเห็นว่า วันนี้เป็นวันดี วันเพ็ญเดือนสาม เป็นวันมาฆะบูชา วันที่พระสงฆ์จำนวน 1250 รูป ซึ่งล้วนแต่เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทาได้เดินทางมาชุมนุมกันเพื่อสักการะพระพุทธเจ้าที่เวฬุวันวิหาร ในกรุงราชคฤห์  ถือเป็นการประชุมในพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยพุทธกาล

เป็นจาตุรงคสันนิบาต ด้วยความมหัศจรรย์ 4 ประการ (1250รูป..เดินทางมาโดยมิได้นัดหมาย..เป็นเอหภิกขุ และเป็นพระอรหันต์)

หลังจากที่ได้นำเสนอความคิดว่าจะทำหนังสือครบรอบหนึ่งปีขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดไปแล้ว ก็..ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า..ทำไมพวกเราจึงมาชุมนุมกันอย่างพร้อมหน้า มีจิตศรัทธาในการที่ทำความดีร่วมกันได้มากมายเช่นนี้

เรื่องยอดจองหนังสือ ผมไม่แปลกใจเท่าไร เพราะคาดหมายเอาไว้ว่าประมาณนี้อยู่แล้วสำหรับในเว็บบอร์ด  แต่ยอดเงินบริจาคสมทบที่ไม่ได้หวังจะซื้อหนังสือ มีจำนวนเงินมิได้น้อยกว่ายอดจองหนังสือเลย..นี่สิ

ถ้าใครก็ตามได้มาเห็น ได้มารับรู้ตรงนี้ ผมว่า ก็คงต้อง "ไม่เข้าใจเหมือนกัน" เช่นเดียวกับผม ว่าทำไมชุมชนเล็กๆ แห่งนี้จึงมีพลังมากมายเช่นนี้ได้

ความอัศจรรย์ 4 ประการที่ผมอยากบอก คือ..

ประการแรก..พวกเราไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อนเลย มาจากทุกสารทิศทั้งในและนอกประเทศ

ประการที่สอง..มีจิตใจดีงามที่จะทำเพื่อสังคมที่ด้อยโอกาสกว่าโดยพร้อมเพรียงกัน

ประการที่สาม..ยอมเสียสละทรัพย์ส่วนตัวเพื่อผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าโดยไม่หวังผลตอบแทน

ประการที่สี่..ล้วนเป็นผู้ที่ต่อต้านพฤติกรรมฉ้อโกงของนายทักสิงค์และคณะทั้งสิ้น


คุณว่า..มันเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ไหมล่ะครับ ในยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งมีแต่ผู้คนที่ชิงดีชิงเด่น และมุ่งทำลายล้างกันเพื่อให้ความคิดของตนเองได้ครองบทบาทในสังคมน่ะ

ตอนที่ผมมีความคิดว่าจะทำหนังสือ ผมไม่ได้คิดว่า เราจะมีเงินกำไรบริจาคให้สังคม เสียด้วยซ้ำไป คิดว่า คงต้องควักกระเป๋าส่วนตัวบางส่วนเสียด้วยซ้ำ (หากในบอร์ดซื้อกันคนละเล่มสองเล่ม ยอดจอง 500 อย่างเก่ง)

ลองคำนวณกันดูกันก็ได้ครับ..

พิมพ์หนังสือ 1000 เล่มขนาดพ็อคเก็ตบุค ความหนา 200 หน้า หน้าปกและกระดาษด้านในตามมาตรฐานพ็อคเก็ตบุคในท้องตลาด + ภาพสี่สีประมาณ 10 หน้า  ราคาคนกันเองยังไงๆ ก็ต้อง 120บาทบวกลบนิดหน่อย เพราะพิมพ์น้อย

ถ้าขายไปทั้งหมด 900 เล่มๆ ละ 150 บาทบวกลบ เหลือไว้ 100 เล่ม เอาไว้แจกจ่ายสื่อมวลชนและบริจาคให้ห้องสมุด จะมีรายรับรายจ่ายหักกลบแล้วดังนี้..

รายได้ (900 คูณ 150)...............................................135,000 บาท
รายจ่ายค่าพิมพ์ (1000 คูณ 120)...................................120,000 บาท

กำไร.......................................................................15,000 บาท

**ยังไม่ได้รวมเรื่องการจัดส่งในประเทศนะครับ ต้นทุนเล่มละประมาณ 15 บาท(เฉลี่ยแล้ว)


คราวนี้..หันมาดู ในกรณีเราจะพิมพ์ขายทั่วไปบ้าง

จำนวนพิมพ์จะเพิ่มเป็น 2000 เล่ม ขายในบอร์ดและเก็บไว้บริจาคเท่าเดิม คือ 1000  ขายข้างนอก 1000
ต้นทุนในการพิมพ์ลดลงเหลือเล่มละ 100 บาทบวกลบ  ในขณะที่ขายผ่านร้านหนังสือ จะต้องเสียค่าจัดจำหน่ายประมาณ 35% ของมูลค่าหนังสือ  ราคายังคงเดิม 150 บาทบวกลบ

สมมุติว่า เดชะบุญเราขายหมดเกลี้ยงก็แล้วกันนะครับ  จะได้ตัวเลขดังนี้

รายได้..(900 คูณ 150 (+) 1000 คูณ 97.5).....................232,500 บาท
รายจ่าย..(2000 คูณ 100)............................................200,000 บาท

กำไร........................................................................32,500 บาท

**สังเกตนะครับว่า ราคาขายภายนอก สูสีกับต้นทุนการพิมพ์ต่อเล่มมากๆ ยังไม่รวมค่าวางบิล และเก็บเช็คอีกสามเดือนหลังจากขายได้นะครับ**

ผมคิดมาก่อนหน้าแล้วว่า เงินแค่นี้เราช่วยเหลืออะไรสังคมไม่ได้หรอกครับ แต่มันมีความหมายต่อบอร์ดต่ออุดมการณ์ที่เกิดมาชาติหนึ่งต้องรับใช้สังคม  ส่วนนี้ต่างหากที่ผมหวังว่า จะมีการสืบทอดต่อไป โดยมีชนวนเหตุจากการทำหนังสือเล่มแรก

ครบรอบวันเกิดของขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดปีหน้าและปีต่อๆ ไป  ผมก็ไม่ทราบว่า ปณิธาน นี้จะมีใครสืบสานต่อหรือไม่ กองบก.เฉพาะกิจนี้จะถูกยุบทิ้งเมื่อภารกิจในการส่งมอบเงินให้องค์กรการกุศลเสร็จสิ้นแล้ว และถ้าจะตั้งกันใหม่ หน้าตาก็คงไม่เหมือนเดิม และคงจะไม่มีผมอยู่ในกองบก.แน่นอน เพราะถือว่า ได้ฝากผลงานไปแล้ว


ผมจึงลองมาคิดดูอีกทีหนึ่ง..

เงินที่ได้กำไรจากการขายหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นขายภายใน หรือ ขายทั่วไป ก็ดี  จะอยูที่ 15,000 - 30,000 บาทแน่นอน  แต่เราจะมีเงินบริจาคอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเวลานี้มียอดรวมแล้วเกือบ 30,000 บาท

ถึงวันบริจาคจริงก็น่าจะมียอดเงินบริจาคให้องค์กรการกุศลถึง 50,000  ค่อนข้างแน่นอน 100%

เงินจำนวนนี้ ถ้านำไปบริจาคครั้งเดียวจบ ก็คือ จบเลย โอกาสข้างหน้าไม่รู้ว่า จะมีกิจกรรมดีๆ เช่นนี้อีกหรือไม่ และหากมี ก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่า จะมีผู้ร่วมศรัทธามากมายเช่นนี้อีกหรือเปล่า ถ้าบอร์ดไม่ได้ใหญ่ขึน คนที่ทำต่อเหนื่อยกว่านี้แน่นอน

ถ้าเงินจำนวนนี้ เราเอามาตั้งเป็น"มูลนิธิเสรีไทยเว็บบอร์ดเพื่อเด็กด้อยโอกาส" มันจะอยู่ตลอดไป และมีเงินบริจาคให้กับเด็กด้อยโอกาสในสังคมทุกๆ ปี จะดีกว่าไหม

แม้ในวันข้างหน้า ไม่มีผม ไม่มีคุณ แต่มูลนิธินี้ยังอยู่ และยังมีเงินบริจาคให้กับเด็กเหล่านั้นอยู่ตลอดทุกปี น่าจะเป็นอนุสรณ์แห่งการทำความดีของชาวเสรีไทยยุคใหม่นี้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้..
การจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ ยังให้ประโยชน์ตอบแทนหลายประการดังนี้..

1) เป็นนิติบุคคล ไม่ล่มสลายได้โดยง่าย
2) ไม่ยึดติดกับตัวบุคคล ใครมาบริหารต่อก็ได้
3) การบริจาคเข้าบัญชีของมูลนิธิจะได้รับความไว้วางใจ น่าเชื่อถือมากกว่า บัญชีส่วนบุคคล โดยเฉพาะเมื่อรับบริจาคจากคนนอกบอร์ดนี้
4) มูลนิธิสามารถออกใบอนุโมทนาบัตรได้ ซึ่งผู้บริจาคสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย

จำนวนเงินเบื้องต้นในการก่อตั้งมูลนิธิ ผมตั้งเอาไว้ที่ 100,000 บาท  ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากพอที่จะนำดอกผลไปบริจาคทุกปีได้ (ประมาณปีละ 5000 - 7000 บาท เป็นอย่างต่ำ เทียบผลตอบแทน ณ เวลานี้) ซึ่งเงินเริ่มต้นนี้จะไม่ลดลงเด็ดขาด แต่อาจจะเพิ่มขึ้น หากวันข้างหน้ามีกิจกรรมที่หารายได้เช่นนี้อีกก็จะนำเงินรายได้มาสมทบ

ตอนนี้เราจะมีเงินก้นบาตรอยู่แล้ว 50,000 แน่นอน ท่านที่มีจิตศรัทธาก็ยังสามารถร่วมสมทบทุนกันเข้ามาได้อีกเรื่อยๆ แต่สุดท้ายแล้ว ส่วนที่ยังไม่ถึง 100,000 บาท ผมจะรับผิดชอบเองทั้งหมด (ผมตั้งใจเป็นจิตกุศลเอาไว้แล้ว)

จะสนับสนุนหรือคัดค้านก็แสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ วันนี้เป็นวันดีจริงๆ ผมยังคาดหวังว่าจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับสังคมไทย โดยมีจุดเริ่มต้นจากชุมชนเล็กๆ ที่รวมตัวกันด้วยสาเหตุจากวิกฤติการเมืองแท้ๆ

บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #1 เมื่อ: 03-03-2007, 09:15 »

มาชื่นชมแนวความคิดครับ

ระหว่างการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส
กับการช่วยเหลือผู้ใหญ่ผู้โง่เขลา
ผมเลือกอย่างหลัง
เพราะเชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่พัฒนาแล้ว
โอกาสที่จะมีกับเด็กย่อมเกิดข้นได้ง่ายครับ

การช่วยเหลือผู้ใหญ่ผู้โง่เขลา
เช่นจัดพิมพ์หนังสือแล้วส่งไปให้
เชิญชวนไปฟังการอภิปรายที่ประเทืองปัญญา
คงไม่เครียดเกินไปนะครับ
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #2 เมื่อ: 03-03-2007, 09:35 »

สนับสนุนค่ะ ถึงตอนนี้หนูอยู่ไกล อาจะช่วยอะไรไม่ได้มาก

แต่ก็หวังว่าสักวันเมื่ออะไรๆลงตัว หนูคงจะช่วยพี่บอนนี่ได้เต็มที่ค่ะ



เมืองไทยเราอย่างว่าค่ะ นับวัน ฐานะคนรวยกับคนจนจะต่างกันลิบลับ อีกซอกหนึ่งของประเทศที่เราอาจจะมองไม่เห็น หรือไปไม่ถึง เด็กที่วันหนึ่งอาจจะด้อยโอกาศในการดำเนินชีวิตของพวกเขา แต่หนูมีจิตศรัทธาอย่างแรงกล้าว่าคนกลุ่มเล็กๆๆจากเวบบอร์ดแห่งนี้ได้ช่วยพวกเขาให้มีโอกาศถึงจะไม่ทั่วประเทศ แต่อย่างน้อยคนละไม้คนมือ ให้น้องบางคนได้มองเห็นชีวิต และวันข้างหน้าของพวกเขาบ้าง.....
หนูขอสนับสนุนและช่วยเหลือมูลนิธิ เท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวยให้หนูทำได้ค่ะ
 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 03-03-2007, 13:03 »

มาสนับสนุนแนวคิดครับ แต่ว่าหลังจากจัดทำหนังสือแล้ว เราน่าจะมีกิจกรรมอย่างอื่นด้วยเพื่อให้รายรับเข้ามายังมูลนิธิสม่ำเสมอ ทีนี้ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะรับอาสาออกหน้าดำเนินธุรกรรมกับมูลนิธิ เพราะว่าการตั้งมูลนิธิ อย่างน้อยต้องมีตัวตนในการจัดตั้ง และต้องมีระเบียบ ข้อบังคับมากมายหลายประการที่เราจะต้องร่าง ตรงนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นการต่อยอดความคิดในขั้นต่อไปก็ได้ครับ

ป.ล.ใครจะมาแถกระทู้ดีๆ แบบนี้อีก 
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 03-03-2007, 13:30 »

..เอาลิงค์ข้อมูลมาฝากค่ะ

http://www.dopa.go.th/dload/mog4.htm

http://www.dopa.go.th/formreg/fmulniti.htm

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #5 เมื่อ: 03-03-2007, 13:36 »

..เอาลิงค์ข้อมูลมาฝากค่ะ

http://www.dopa.go.th/dload/mog4.htm

http://www.dopa.go.th/formreg/fmulniti.htm



หนูว่าจดทะเบียนกับชายหนุ่มนี้มันยากแล้วนะค่ะพี่อังฯ

มาเจอจดทะเบียนมูลนิธิฯ หนูอนาอึ้ง........ อั้ม อึ้ง แบบพี่บอนนี่ว่าจริงๆๆ
 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
lekapuk
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 279



« ตอบ #6 เมื่อ: 03-03-2007, 13:52 »

ขอสนับสนุนนแนวคิดนี้ค่ะ

ให้ทีละน้อยๆแต่นานๆดีกว่า ทุ่มไปครั้งเดียว ถ้าไม่เกิดประโยชน์ก็แย่เลย

บันทึกการเข้า

เกลียดทักษิณ ใช่ว่าจะชอบประชาธิปัตย์ อย่าเหมารวม ใช้ความคิดก่อนแสดงความคิดเห็นนะจ๊ะ
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 03-03-2007, 15:43 »

ค่อย ๆ ทำครับ อย่าฮวบฮาบ หวือหวามาก

เหมือนน้ำหยดลงตุ่ม เติมไปวันละเล็กวันละน้อย เติมบ่อย ๆ เดี๋ยวก็เต็มเอง
บันทึกการเข้า

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #8 เมื่อ: 03-03-2007, 21:30 »

ไม่ควรนำชื่อ นพ ประกิตเผ่า มาล้อเล่น ว่าเป็น คนบ้า เข้าใจนะครับ
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 03-03-2007, 22:01 »

สนับสนุนแนวคิดครับ

* ขั้นตอนตั้งมูลนิธิคงยาก แต่อาจเป็น กองทุนเพื่อกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมก็ได้ครับ 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #10 เมื่อ: 04-03-2007, 09:41 »

ไม่ควรนำชื่อ นพ ประกิตเผ่า มาล้อเล่น ว่าเป็น คนบ้า เข้าใจนะครับ

เข้าใจผิดอ๊ะป่าว  อาการประกิตเผ่าไม่ได้หมายความว่า บ้า ผมไม่เคยคิดว่า เขาบ้า แต่สลึมสลือเหมือนโดนยา เข้าใจความหมายหรือเปล่า

..................................................................

เรียนทุกท่าน..

เรื่องจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายจำเป็นครับ ยากก็ต้องทำ จำเป็นต้องใช้มืออาชีพก็ต้องทำครับ  เพราะทำครั้งเดียว และ ทำให้มีนิติกรรมที่ผูกพันกับสาธารณะได้ตามกฎหมาย  มีกฎหมายคุ้มครองและเป็นที่ยอมรับของสังคมครับ

กองทุนธรรมดาที่จัดตั้งขึ้นมาโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ง่ายก็จริง แต่คนนอกที่ไม่รู้จักเราคงไม่กล้าส่งเงินบริจาคมาให้ครับ โดยเฉพาะจำนวนมากๆ เราออกใบอนุโมนนาให้ไม่ได้เลย  ตรงนี้ถือเป็นข้อสำคัญ  ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าทำในรูปของกองทุนจึงมักมีระยะเวลาสิ้นสุดเสมอ  เพราะจุดประสงคืไม่ต้องการความต่อเนื่องยาวนานนั่นเอง

ส่วนเรื่องบุคลากรที่จะบริหารมูลนิธิ  ถ้าไม่มีกิจกรรมอะไรซับซ้อนมากก็แทบไม่ต้องมีคนทำงานอะไรเลยครับ แต่จำเป็นต้องมีตำแหน่งรับผิดชอบตามกฎหมายเท่านั้น  งานหลักคือ งานทะเบียน และงานบัญชีรับ-จ่าย  ไม่ได้ทำทุกวัน แต่ทำเฉพาะเมื่อมีการเคลื่อนไหวเท่านั้น

อย่างไรก็แล้วแต่..
มูลนิธินี้จะเกิดขึ้นและเป็นจริงเป็นจังได้ ก็ต่อเมื่อสมาชิกที่บริจาคเงินผ่านกระทู้หนังสือให้การยอมรับและสนับสนุนนะครับ แต่ตอนนี้..ผมแค่โยนหินถามทางเท่านั้น 
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #11 เมื่อ: 04-03-2007, 09:57 »

ไม่ควรนำชื่อ นพ ประกิตเผ่า มาล้อเล่น ว่าเป็น คนบ้า เข้าใจนะครับ

เข้าใจผิดอ๊ะป่าว  อาการประกิตเผ่าไม่ได้หมายความว่า บ้า ผมไม่เคยคิดว่า เขาบ้า แต่สลึมสลือเหมือนโดนยา เข้าใจความหมายหรือเปล่า

นพ ประกิตเผ่า ไม่ใช่บุคคลสาธารณะ ถ้ามีมารยาทหน่อยไม่ควรยกขึ้นมากล่าวล้อเล่น ไม่ว่าเป็นอาการใดก็ตาม เข้าใจนะ
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #12 เมื่อ: 04-03-2007, 10:02 »



ข่าวออกจะดังขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนพูดถึง นี้จิแปลก   

 ถ้าอย่างงั้นในพันทิพคงต้องไปเปิดห้องมารยาทกันแล้วล่ะ 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #13 เมื่อ: 04-03-2007, 10:55 »

ไม่ควรนำชื่อ นพ ประกิตเผ่า มาล้อเล่น ว่าเป็น คนบ้า เข้าใจนะครับ

เข้าใจผิดอ๊ะป่าว  อาการประกิตเผ่าไม่ได้หมายความว่า บ้า ผมไม่เคยคิดว่า เขาบ้า แต่สลึมสลือเหมือนโดนยา เข้าใจความหมายหรือเปล่า

นพ ประกิตเผ่า ไม่ใช่บุคคลสาธารณะ ถ้ามีมารยาทหน่อยไม่ควรยกขึ้นมากล่าวล้อเล่น ไม่ว่าเป็นอาการใดก็ตาม เข้าใจนะ

ตอนแรกก็หาว่า ผมไปว่าเขาบ้า ตอนนี้มาบอกว่า เพราะไม่ใช่คนสาธารณะ  ก็บอกแต่แรกเลยสิว่า อย่าอ้างถึงเพราะเขาไม่ใช่สาธารณชน  ไม่ใช่พอผมมาตอบอย่างนึงก็แถไปอีกประเด็นหนึ่ง

นี่แหละถึงเรียกตัวเองว่า ชอบแถ  เพราะไม่เคยหยิบประเด็นได้ถูก เบี่ยงไปเรื่อยๆ

อาการชอบแถนี่ ความจริงต้องเข้าศรีธัญญานะเนี่ย
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #14 เมื่อ: 04-03-2007, 11:25 »

สนับสนุนแนวคิดครับ

* ขั้นตอนตั้งมูลนิธิคงยาก แต่อาจเป็น กองทุนเพื่อกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมก็ได้ครับ 


สนับสนุนแนวคิดคุณนทร์ครับ เรื่องทำมูลนิธิผมว่ามันยังเร็วเกินไปหน่อย น่าจะรอให้งานหนังสือนี่เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยประเมินดูอีกทีก็ได้ครับ ผมว่าถ้าไปได้สวย เพื่อนๆสมาชิกคงพร้อมที่จะร่วมเดินไปข้างหน้า

ด้วยความเคารพครับ   Mr. Green
บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #15 เมื่อ: 04-03-2007, 11:56 »

นพ ประกิตเผ่า ไม่ใช่บุคคลสาธารณะ ถ้ามีมารยาทหน่อยไม่ควรยกขึ้นมากล่าวล้อเล่น ไม่ว่าเป็นอาการใดก็ตาม เข้าใจนะ

ว๊าวว เจอลูกศิษย์ พี่หมอป๊อบ ตัวจริงเข้าซะแล้วววว
 

ลูกหินเข้ามาช่วยยืนยันกับ พี่ชอบแถฮะ
ว่า พี่หมอป๊อบ ไม่ได้บ้า แต่ เขาถูกวางยา
ใครอยากทราบเรื่องราวก็เชิญอ่านที่นี่ได้ฮะ
http://www.stonekid.com/modules/news/article.php?storyid=17
 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
คนเจียงใหม่
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 297


« ตอบ #16 เมื่อ: 04-03-2007, 12:15 »

 Coolคนเจียงใหม่ ยินดีสนับสนุนครับ
เอาเป็นว่าหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ
หนังสือครบรอบ 1 ปี เสรีไทย
ก่อนไม่ดีหรือครับ แล้วค่อยมาเริ่ม
เรื่อง มูลนิธิ จดทะเบียนคงไม่ยากนักหรอก
เรื่อง กฏระเบียบ วิธีปฏิบัติ คงไม่ต่าง
ไปจาก มูลนิธิ สมาคม อื่นๆที่มีมาแล้ว
ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ยินดีให้ความร่วมเต็มที่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2007, 12:17 โดย คนเจียงใหม่ » บันทึกการเข้า
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #17 เมื่อ: 04-03-2007, 12:55 »

 

บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #18 เมื่อ: 04-03-2007, 13:38 »

เห็นด้วยครับ
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 04-03-2007, 21:45 »

คนคิดดี ทำดี น่าสนับสนุน

มีแต่คนคิดชั่ว ทำชั่ว ถึงไม่ชอบงานกุศล

การจดทะเบียนมูลนิธิ ต้องเปิดเผยตัวตน ในโลกจริง

แต่การก่อตั้งกองทุนฯ ทำได้ไม่ยาก

ตอนเล่นอยู่กรุงเทพธุรกิจ

เค้าก็ก่อตั้ง "กองทุนริมปิง" ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวเชื่อม

มีกิจกรรมให้ทุนการศึกษาเด็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด ก็ทำได้ดี

ไม่ต้องมากหรอกครับ การทำบุญมากหรือน้อย แต่ความใสสะอาดมันอยู่ที่จิตใจได้ทำบุญ

ส่วนเรื่องก่อตั้ง "มูลนิธิ" ผมคิดว่า คงอีกยาวใกล เว้นแต่จะมี "ผู้อาสา" เปิดเผยตัวตน
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: