ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2025, 19:26
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เวลานี้คนของทักษิณ คิดว่าพวกเขาเป็น'ตัวอะไร' หรือ.....? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เวลานี้คนของทักษิณ คิดว่าพวกเขาเป็น'ตัวอะไร' หรือ.....?  (อ่าน 1261 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 27-02-2007, 11:18 »

ในเมื่อปัจจุบัน ยังไม่มีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) มาทำหน้าที่ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ออกอากาศสถานีโทรทัศน์ โดยไม่มีใบอนุญาตดังกล่าว จึงถือว่ากระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น
       
       3) ในช่วงรัฐบาลทักษิณ ปรากฏว่า มีสถานีโทรทัศน์ใหม่ ออกอากาศเพิ่มเติมจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ ยังไม่ได้รับใบอนุญาตจาก กสช. ส่วนใหญ่เป็นการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไทยคมของบริษัทชินแซทเทิลไลท์ ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของธรรมกาย บริษัทเบรฟฮาร์ท สไมล์เน็ตเวิร์ก (Smile Network) บริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด MVTV ฯลฯ
       
       และมีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม อีก 2 ราย ที่ไม่ได้ใช้บริการดาวเทียมของชินแซทฯ คือ บริษัท เอเชีย บรอดคาสติ้ง เทเลวิชั่น จำกัด (ABTV) ผ่านดาวเทียม ST-1 และบริษัท ไทยเดย์ ดอทคอม จำกัด ผลิตรายการและขายรายการให้เอเอสทีวี(ASTV)ที่ฮ่องกง ทางอินเทอร์เนต แล้วส่งสัญญาณขึ้นดาวเทียม NSS 6 ของเนเธอร์แลนด์ โดยส่งสัญญาณขึ้นจากฮ่องกง ประเทศจีน ซึ่งอยู่นอกเหนือเขตอำนาจของกฎหมายไทย
       
        รัฐบาลทักษิณ ปล่อยปละละเลยให้มีการออกอากาศโทรทัศน์ดาวเทียมได้ ทำให้บริษัทชินแซทฯ ได้ผลประโยชน์ทางธุรกิจ และบริษัทเหล่านั้นเป็น “เพื่อนพ้องน้องพี่” ของกลุ่มทุนพรรคไทยรักไทย
       
      แต่รัฐบาลทักษิณ โดยความควบคุมดูแลของพรรคไทยรักไทย ก็ได้ให้กรมประชาสัมพันธ์ ดำเนินคดีแต่เฉพาะเอเอสทีวี (ASTV) เพื่อต้องการจะปิดเอเอสทีวี(ASTV)ที่นำเสนอข้อมูลความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลทักษิณ
       
       จนในที่สุด เอเอสทีวี (ASTV) ได้ไปร้องขอต่อศาลปกครอง กระทั่ง ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เอเอสทีวี (ASTV) จึงยังคงดำเนินการออกอากาศมาได้จนถึงทุกวันนี้

       
       4) ในยุคปัจจุบัน รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ กรมประชาสัมพันธ์ยุคนี้ก็ยังยืนยันท่าทีเดิม คือ ดำเนินคดีกับเอเอสทีวีต่อไป
       
       อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันว่า “ไม่ได้มีการถอนแจ้งความกับทางเอเอสทีวีใดๆ ทั้งสิ้น กระบวนการดำเนินคดีทั้งหมดอยู่ในขั้นของอัยการที่จะพิจารณาฟ้องหรือไม่ฟ้อง แม้ว่าจะเคยมีการปรึกษาหารือเรื่องการถอนแจ้งความ แต่ก็เพราะเห็นว่าการแจ้งความกับเอเอสทีวีในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เป็นธรรมกับเอเอสทีวี เพราะถูกดำเนินคดีอยู่เจ้าเดียว ทั้งๆ ที่ มีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่ออกอากาศผิดกฎหมายอีกว่า 10 สถานี แต่ไม่สามารถถอนแจ้งความได้เพราะเรื่องไปอยู่ในชั้นของอัยการแล้ว”
       
      พูดง่ายๆ กรมประชาสัมพันธ์ยืนยันความเห็นว่า กรณีเอเอสทีวี(ASTV) เป็นการทำผิดกฎหมาย และสถานีทรทัศน์ดาวเทียมอีก 10 กว่าสถานี ก็ผิดกฎหมายด้วย
       
      มาถึงกรณีของพีทีวี (PTV) ของ “เพื่อนพ้องน้องพี่พรรคไทยรักไทย” กรมประชาสัมพันธ์ก็ยังคงยืนยันตามเดิมว่า ผิดกฎหมาย ไม่สามารถกระทำได้ และได้แจ้งให้ “เพื่อนพ้องน้องพี่ฯ” ได้รับทราบตรงกันมาโดยตลอด แต่“เพื่อนพ้องน้องพี่ฯ” ก็ยังดื้อดึงจะดำเนินการต่อไป
       
       กรมประชาสัมพันธ์ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีกับพีทีวี (PTV) เพื่อรักษาบรรทัดฐานความเท่าเทียมกัน กับกรณีเอเอสทีวี (ASTV)

       
      5) ศาลปกครอง จำเป็นต้องมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวแก่พีทีวี(PTV) เหมือนที่คุ้มครองเอเอสทีวี(ASTV) หรือไม่?
       
       น่าเป็นห่วงแทน “เพื่อนพ้องน้องพี่พรรคไทยรักไทย” เพราะศาลปกครองย่อมจะพินิจพิจารณาตามข้อเท็จจริง สภาพปัญหา เจตนา และผลกระทบที่เกี่ยวข้อง

       
       ปัญหากรณีเอเอสทีวี (ASTV) และพีทีวี (PTV) แตกต่างกัน
       
       กรณีเอเอสทีวี (ASTV) เริ่มดำเนินการออกอากาศมาก่อน โดยขณะนั้นยังไม่มีข้อพิพาททางคดี และการดำเนินการของเอเอสทีวีในขณะนั้น ก็เป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม ทำให้สังคมได้รับข้อมูลข่าวสารที่รัฐบาลในขณะนั้นพยายามปกปิดบิดเบือน กรณีจึงสมควรได้รับความเมตตาคุ้มครอง
       
        กรณีที่พีทีวี (PTV) เป็นการพยายามทำตัวให้เป็นปัญหา เพราะรู้ทั้งรู้ว่า การกระทำเช่นนี้จะทำให้เกิดข้อพิพาททางกฎหมาย ดังที่เอเอสทีวี(ASTV)กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ แม้หน่วยงานราชการจะตักเตือนแล้ว แต่ก็ยังแสดงท่าทีและลงทุนเตรียมการต่อไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะเป็นปัญหา
       
        ถามสามัญสำนึก กรณีเยี่ยงนี้ สมควรจะได้รับความเมตตาคุ้มครอง จากศาลปกครอง หรือไม่?
       
       ไม่แปลกใจ หากเรื่องนี้ไปถึงศาลปกครอง และศาลปกครองจะพิจารณากรณีพีทีวี (PTV) แตกต่างจากกรณีเอเอสทีวี(ASTV) โดยพิจารณาบนบรรทัดฐานของยุติธรรรม ศีลธรรมอันดี และผลประโยชน์ส่วนรวม
       
       6) รัฐบาลทักษิณ โดยการควบคุมของพรรคไทยรักไทย เคยวินิจฉัยการส่งสัญญาณและออกอากาศของเอเอสทีวี(ASTV) ว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ถึงกับให้กรมประชาสัมพันธ์แจ้งความดำเนินคดี แต่น่าสนใจว่า เวลานี้ “เพื่อนพ้องน้องพี่ของพรรคไทยรักไทย” กลับออกมาบอกกล่าวว่า สามารถดำเนินการได้อย่างเอเอสทีวี

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000023231

ในกรณีการเปิดสถานีโทรทัศน์ PTV นั้นผิดกฎหมายของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2543 มาตรา 80 และมาตรา 77 แต่ในระหว่างนั้นจะพิจารณาจัดสรรคลื่นความถี่ ออกใบอนุญาตประกอบกิจการ หรืออนุญาตให้ประกอบกิจการเพิ่มเติมไม่ได้”......

คนของทักษิณ ยังดึงดันจะตั้งสถานีให้ได้ โดยอ้างว่าASTV นั้นสามารถตั้งได้ โดยลืมไปแล้วว่า ในสมัยทักษิณมีอำนาจ ได้ใช้ 'อำนาจเป็นธรรม' รมต.ประจำสำนักฯ สุรนันทน์ ได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ฟ้องร้อง ASTV จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังเป็นคดีความอยู่.....

วันนี้ คนของทักษิณต้องการ'สิทธิพิเศษ' โดยไม่ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากกรมประชาสัมพันธ์เช่นเดียวกับASTV  ทั้งที่ PTV ผิดกฎหมายชัดเจน......... Exclamation





วันนี้ คนของทักษิณต้องการจะออกอากาศสถานีช่อง 11 เหมือนรายการ'ยามเฝ้าแผ่นดิน'ของคุณสนธิบ้าง

ผู้สื่อข่าว(กรุงเทพธุรกิจ)ถามว่า หาก PTV จะขอออกอากาศทางช่อง 11 เหมือนกรณีที่ASTV ไปออกอากาศ'ยามเฝ้าแผ่นดิน' อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กระบวนการขอสามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าจะให้หรือไม่  เพราะมีคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการนโยบาย....


รายการ'ยามเฝ้าแผ่นดิน'นั้นไม่ได้ถ่ายทอดโดยตรงจากสถานีช่อง 11 แต่เป็นการถ่ายทอดรายการจาก ASTV ไม่ใช่การออกอากาศ ณ สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ตามที่คนของทักษิณ เรียกร้องและต้องการให้ได้..... Exclamation




เวลานี้คนของทักษิณ คิดว่าพวกเขาเป็น'ตัวอะไร'หรือ
พวกเขายังเป็น'อภิสิทธิ์ชน'ที่จะเรียกร้อง ต้องการอะไรก็ได้
แม้ว่าจะผิดกฎหมายก็ตาม เหมือนยุคทักษิณใช้'อำนาจเป็นธรรม'........ Question






       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2007, 11:24 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #1 เมื่อ: 27-02-2007, 11:41 »

ตัวเขาเองมองเห็นเป้นอภิสิทธื์ชน จะทำอะไรก็ได้
และทำได้ทุกอย่างเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้าม
ไม่ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ ทำผิดกฎหมายกี่ข้อ

แต่คนรอบข้างกลับเห็นเขาเป็นตัวเงินตัวทอง ไม่ก็สุนัขขี้เรื้อน
วิ่งวุ่น ทำความเดือนร้อนไปทั่ว
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #2 เมื่อ: 27-02-2007, 14:26 »

รายการ'หมาเผาแผ่นดิน'นั้นไม่ได้ถ่ายทอดโดยตรงจากสถานีช่อง 11 แต่เป็นการถ่ายทอดรายการจาก ASsholeTV ไม่ใช่การออกอากาศ ณ สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ตามที่คนของทักษิณ เรียกร้องและต้องการให้ได้.....Exclamation

เวลานี้คนของทหาร คิดว่าตัวเองเป็น'ตัวอะไร'เหรอ
เป็น'อภิสิทธิ์ชน' ที่จะสั่งพวกลิ่วล้อ สุรยวยกะโปโตก อะไรก็ได้
แม้ว่าจะไม่มีกฎหมาย เป็นยุคเผด็จการครองเมือง 'บ้าอำนาจ'.......Question

อ้อลืม 5 5 5 5 5
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #3 เมื่อ: 27-02-2007, 15:05 »

เรื่อง rebranding คงไม่คิดหรอก ถ้าไม่มี ไอ้พวกความคิดต่ำชอบแปลงชื่อให้ใกล้เคียงไปเที่ยวตอบกระทู้
อาบ อบ นวด ทำให้แฟนคลับเข้าใจผิด ก็จำเป็นต้องบอกซะหน่อยว่านี่ แถคุณธรรม ไม่ใช่ แถเกรียนเทพ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #4 เมื่อ: 27-02-2007, 15:35 »

ช่วยไม่ได้ มาตรฐานที่นี่ post อะไรดีๆ โดนลบหมด เกรียนอยู่ได้ ก็ต้องปรับตัวกันมั่งนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #5 เมื่อ: 27-02-2007, 19:39 »

การดิ้นรนเหมือนคนบ้า ของกลุ่มสุนัขรับใช้เหลี่ยมนั้น เป็นไปตามใบสั่งจากเจ้านาย สังเกตุได้ว่าจะรุนแรงตามความเข้มข้นของคดีของเจ้านาย ที่ใกล้ติดตารางเข้าไปเต็มทนแล้ว ก็เข้าแบบที่เรียกกันว่า ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ชนๆไปเลยค่ะ

เมื่อคดีสำคัญที่จะนำตัวเหลี่ยมและครอบครัวมาลงโทษได้ขึ้นสู่ศาล ความรุนแรงของกลุ่มคนเหล่านี้จะมากขึ้น ทั้งนี้เพราะเขาต้องการให้เกิดการปราบปราม การจับกุม เพื่อสร้างภาพเผด็จการที่คุกคามประชาชนขึ้น ซึ่งทาง คมช.และรัฐบาลก็รู้ดี และหนูเชื่อว่าเขามีทางจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว

คลื่นใต้น้ำที่ปลุกปั่นด้วยเงินนั้น จะยังคงมีต่อไปเรื่อยๆค่ะ สุดท้ายคือการชน การก่อจลาจลความวุ่นวาย ไอ้เหลี่ยมไม่มีทางออกแล้วค่ะ มันต้องแลกด้วยทุกอย่างที่มี ทั้งตัวทั้งลูกทั้งเมียโดนคดีถ้วนหน้า ต้องหาที่อยู่แบบกำนันเป๊าะ ที่ที่จะตามตัวไม่เจอ ไม่ได้เสวยสุขกับเงินทองมหาศาล ต้องจ่ายเพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และไม่รู้จะมีสัญชาติอะไรต่อไป 
บันทึกการเข้า
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #6 เมื่อ: 27-02-2007, 20:30 »

5555
ชอบแถมันบ้าไปแล้ว อารมณ์ไม่แน่นอน
มันคงรู้ว่าเวลาของมันใกล้หมดแล้ว
เหมือนๆกับเพื่อนๆของมันที่รู้ตัวแล้ว
ลาจากบอร์ดไปทีละคนๆ
มันคงจะไปเร็วๆนี้
เพราะทนความเน่าของตัวเองไม่ได้
555555555
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #7 เมื่อ: 27-02-2007, 20:56 »

คนของเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ฟังภาษาคนของคณะ คมช. ไม่รู้เรื่อง
จึงมีพฤติกรรมให้เห็นอย่างทุกวันนี้.......

กลายเป็นคนที่ฟังภาษาคนของคณะ คมช.ที่ไม่รู้เรื่อง และเกเรเกตุง.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


นอกจากนั้น ยังไม่ยอมทอดทิ้งนิสัย สันดานที่เคยปฎิบัติระหว่างเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก
ใช้อำนาจเป็นธรรมและการสอพลอของ'นิติกรบริการ' และ 'อลัชชีกฎหมาย' ตะแบง เอาแต่ได้.....




พฤติกรรมการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ท้าทายอำนาจคณะ คมช. ในขณะนี้
จะทำให้คณะ คมช. ใช้อำนาจดำเนินคดีกับ'รักษาการหัวหน้า'พรรคเทียมรักเทียม และพรรคพวก ที่ไปหาเสียง ปลุกระดมในภาคอีสาน..... Exclamation


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Dont cry for me:Thailand
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #8 เมื่อ: 27-02-2007, 21:37 »

ทำไมสมองทื่ออย่างนั้นละ เรื่องแค่นี้ยังตีประเด็นไม่แตกอีกหรือ
ที่มันเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ ก็ด้วยเรื่อง พื้นฐาน ก็คือการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร

ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องข้อกฏหมายเส็งเคร็งอะไรเหล่านั้นเลย

เอาแค่เรื่องปัจจัยพื้นฐานมาพิจารณา ก็ตัดสินใจได้แล้วว่า
สิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ควรกระทำคืออะไร

ก่อนหน้านี้ ASTV เกิดขึ้นมาก็เพราะมันโดนถีบออกจากช่อง 9
เรื่องดึงเบื้องสูง มาด่าทักษิณ ใช่หรือเปล่า ????

เรื่องเพิ่งจะผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน ก็อัลไซเมอร์เสียแล้ว
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #9 เมื่อ: 28-02-2007, 14:03 »

on the way
แหล่งรวมความคิด ความเห็น ว่าด้วยปรัชญา-ศาสนา และสื่อสารมวลชน
Permalink : http://www.oknation.net/blog/chakkrish
วันอังคาร ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550
อย่าห้ามปลา ไม่ให้กินน้ำ
Posted by jk : 14:20:12 น. | หมวดหมู่ : สื่อสารมวลชน   

การกดดัน PTV ในนามของ กฎหมาย ก็เท่ากับส่งมอบชัยชนะให้ PTV แม้การแข่งขันจะยังไม่เริ่มต้น

เนื่องเพราะประเด็นสาธารณะของ PTV มิใช่เรื่องการแข่งขันในเชิงธุรกิจ หรือความไม่ชัดเจนของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ที่มีปัญหาในการแต่งตั้ง กสช. หากแต่เป็นเรื่องความขัดแย้งในเชิงอุดมการณ์ระหว่างอำนาจเก่าและอำนาจใหม่

ไม่ว่า คมช.และรัฐบาล จะพยายามแสดงราคาเผด็จการรูปแบบใหม่ ที่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตยเปี่ยมล้นเพียงใด แต่เมื่อทอดระยะเวลาเนิ่นนานออกไป คมช.และรัฐบาล ซึ่งมีที่มาจากการเมืองนอกกติกา จะเป็นฝ่ายแพ้เปรียบในท่ามกลางการตอกย้ำของสื่อวิทยุชุมชนบางสถานี และกลุ่มรากหญ้าที่ยังรวมตัวกันเหนียวแน่น

แน่นอนว่า PTV เกิดขึ้นเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มอำนาจเก่า และได้แสดงเจตจำนงเช่นนั้นชัดเจน ความเคลือบแคลงสงสัยสำหรับ PTV จึงไม่มี ในขณะที่รัฐบาล และคมช.ใช้กฎหมายเป็นข้ออ้างในการสะกัดกั้น PTV ซึ่งก็กลายเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตี ในประเด็นยามเฝ้าแผ่นดิน ของเอเอสทีวี ที่พ่วงไปออกอากาศทางช่อง 11

จุดก่อเกิดของ PTV อาจมีนัยสำคัญไม่แตกต่างไปจาก ไอทีวี ในการประกาศตัวเป็นสื่ออิสระ

ไอทีวี ก็เริ่มต้นด้วยปรัชญาเช่นนั้น

โทรทัศน์เสรีช่องแรก (Independent Television) หรือ ไอทีวี เคยเป็นสัญลักษณ์การเปลี่ยนแปลงปรัชญาแห่งวิชาชีพของนักสื่อสารมวลชนสาขาโทรทัศน์ จากภาพที่เคยเป็นสื่อหาเสียงและสร้างความชอบธรรมทางการเมืองของรัฐบาล แต่ก็ดำรงสถานะความเป็นสื่ออิสะเพียงช่วงเวลาสั้นๆ



เนื่องเพราะการเริ่มต้นของไอทีวี มาจากการแข่งขันในเรื่องทุน ทุนจึงเป็นตัวกำหนดอนาคตของ ไอทีวี ในเวลาต่อมา

ภายหลังที่กลุ่มชินเข้ามายึดครองไอทีวี จนกระทั่งถ่ายโอนให้เทมาเส็ก พร้อมหนี้สิน 7.7 หมื่นล้านบาท ไอทีวี ก็มิได้มีนัยสำคัญที่แตกต่างไปจากสถานีโทรทัศน์ของรัฐช่องอื่นๆ ที่มุ่งให้ความบันเทิงเริงรมย์แก่ผู้บริโภคข่าวสารมากกว่าเนื้อหาสาระ อีกทั้งทำหน้าที่เป็นแหล่งผลิตสารโฆษณาชวนเชื่อให้กับระบอบทักษิณ และพรรคไทยรักไทย

หลังการเลือกตั้งคราวหนึ่ง ไอทีวี ได้สัมภาษณ์สดว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก่อนใคร เพราะสถานที่ทำการพรรคไทยรักไทย และสถานีโทรทัศน์ไอทีวี อยู่ภายในกลุ่มอาคารเดียวกัน

แม้ภายหลังการยึดอำนาจ ภาพและข่าว คมช. กับรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ปรากฎบนจอไอทีวี ก็สามารถสังเกตุเห็นคลื่นรบกวนได้อย่างมีนัยสำคัญ

ความพยายามที่จะลบภาพทักษิณ ออกไปจากไอทีวี ในยุคหลัง จึงไม่สัมฤทธิ์ผล ไม่ว่านักสื่อสารมวลชนของไอทีวี จะแสดงความเป็นสื่ออิสระเพียงใดก็ตาม

พีทีวี กับ ไอทีวี ยุคหลังชินและเทมาเส็กก็ย่อมเป็นเช่นเดียวกัน

ฉะนั้น การประกาศตัวว่าเป็นสื่ออิสระ การอ้างประชาชนเป็นคาถาป้องกันตัวเอง จึงไม่สำคัญเท่ากับภาพความจริงที่ประชาชนสัมผัสรับรู้ได้ 

ไอทีวี เคยเป็นตัวแทนคนชั้นกลาง หลังยุคพฤษภาคม 2535 เมื่อไอทีวี เปลี่ยนไป เอเอสทีวี สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของไทยเดย์ ด็อท คอม เครือผู้จัดการ ก็กลายเป็นฐานที่มั่นแห่งใหม่สำหรับกลุ่มคนชั้นกลาง

ความสำเร็จในการโค่นล้มระบอบทักษิณ ของ เอเอสทีวี คือโมเดลของ พีทีวี ที่จะกลับมาฟื้นระบอบทักษิณ

โดยนัยเดียวกัน พีทีวี ก็คือสื่อตัวแทนกลุ่มอำนาจและผลประโยชน์ทักษิณ แทนที่ ไอทีวี ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติยึดคืนให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ววันนี้ (27)

เราคงไม่อาจบอกปลาที่อยู่ในน้ำมิให้กินน้ำ

แต่เราอาจจะบอก รัฐบาลและคมช.ได้ว่า หากปรารถนาจะจมน้ำตาย อย่าทรมานตัวเองด้วยการจมน้ำเพียงตื้นๆ
 


ผมไปคัดลอกมาจาก...
http://www.oknation.net/blog/chakkrish/2007/02/27/entry-2

เป็นแง่มุมมองหนึ่งที่น่าสนใจครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2007, 14:07 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: