สปน.บี้ไอทีวีจ่ายแสนล้านมีนาคม
สปน. ยืนกราน ไอทีวี ต้องทำตามสัญญา ขีดเส้นต้องจ่ายทั้งค่าสัมปทานและค่าปรับรวมกว่าแสนล้านบาทภายในเดือนมีนาคม ลั่นไม่มีขยายเวลาอีกแล้ว วันนี้ (6 ก.พ.) นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กล่าวถึงกรณีไอทีวีขอแยกชำระหนี้ค่าสัมปทานค้างจ่ายกับค่าปรับว่า การดำเนินการของ สปน. ยึดสัญญาเป็นหลัก เพราะสัญญาระบุชัดเจนว่าถ้าต้องชำระทั้ง 2 ยอด ซึ่งจะต้องหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือภายในสัปดาห์นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากครบกำหนด 30 วันแล้วไอทีวียังไม่ชำระจะมีการขยายเวลาอีกหรือไม่ นายจุลยุทธ ปฏิเสธว่า จะไม่มีการขยายเวลาอีกแล้ว ไอทีวี จะต้องชำระเงินตามยอดที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำหนังสือทวงไป
เมื่อถามว่า แสดงว่าจะยกสัญญา หากไอทีวีไม่ชำระเงินตามกำหนด นายจุลยุทธ กล่าวว่า เรามีสิทธิยกเลิกสัญญาแต่ยังไม่ทราบวิธีการว่าจะทำอย่างไร เรื่องนี้คงต้องหารือกันกับกรรมการก่อน ส่วนกรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุว่าให้ไอทีวีชำระค่าสัมปทานค้างจ่ายจำนวน 2,210 ล้านบาทก่อนนั้น ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องหารือกันอีกครั้ง ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการตามสัญญาทุกอย่าง แต่ในส่วนของนโยบายคงต้องหารือกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดไอทีวีต้องจ่ายค่าสัมปทานค้างจ่ายจำนวนกว่า 2.2 พันล้านบาท ส่วนค่าปรับหลังจากไอทีวีปรับเปลี่ยนผังรายการนั้น ทาง สปน.ได้คำนวณออกมาเป็นตัวเลขทั้งหมดกว่า 9.7 หมื่นล้านบาท และได้ทำหนังสือทวงถามไปแล้ว แต่ทางไอทีวียังบ่ายเบี่ยง
ขณะที่ฝ่าย บมจ.ไอทีวี ยังไม่มีความเคลื่อนไหวต่อกรณีดังกล่าวในขณะนี้ โดยก่อนหน้านี้ไอทีวีได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งหนังสือดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
1.บริษัทฯ ขอให้การชำระหนี้ครั้งนี้จำกัดอยู่เพียงค่าตอบแทนส่วนต่างจำนวน 2,210 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาเงินมาชำระหนี้ดังกล่าว
2.ในส่วนของดอกเบี้ยและค่าปรับจำนวนประมาณหนึ่งแสนล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่คู่สัญญา มีความเห็นแตกต่างกันอย่างมีสาระสำคัญในการตีความข้อสัญญาและเป็นข้อพิพาทอยู่ในกระบวนพิจารณา วินิจฉัยชี้ขาดโดยคณะอนุญาโตตุลาการ บริษัทฯ จึงขอให้การชำระดอกเบี้ยและค่าปรับดังกล่าว (ถ้ามี) เป็นไปตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของกระบวนการยุติธรรม
และ 3.การที่ สปน.ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัทฯ ชำระหนี้ค่าตอบแทน ดอกเบี้ย และค่าปรับ เป็นจำนวน รวมกันทั้งสิ้นกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับหนังสือของ สปน. นั้น มีผลกระทบต่อการหาแหล่งเงินกู้และหรือแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ อย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถหาเงินได้ บริษัทฯ จึงได้ขอเรียกร้องให้เปลี่ยนกำหนดวันชำระหนี้ค่าตอบแทน ส่วนต่างจำนวน 2,210 ล้านบาท เป็นชำระภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติข้อเรียกร้อง ขอความเป็นธรรมดังกล่าวแล้ว
โดยไอทีวี อยู่ระหว่างการรอความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรี หลังจากยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาไอทีวีหรือไม่ ถึงขณะนี้ไอทีวียังไม่มีความสามารถหาเงินทั้ง 2 ก้อน กว่าแสนล้านบาทมาชำระได้ภายระยะเวลาที่กำหนด หากไม่มีคำตอบจากนายกฯ และถึงกำหนดเวลาชำระเงิน ไอทีวีได้เสนอแนวทาง ให้ สปน.ไปพิจารณาแล้วเช่นกัน รวมถึงการให้ยกเลิกสัญญา
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/07/news_22739665.php?news_id=22739665 คุณอะไรจ๊ะ ห่วงไปทำไม.........
เดี๋ยว'หม่อมอุ๋ย'จะนำค่าปรับ 100000 ล้านบาท ไปลงทุนก่อสร้างรถไฟ.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า