The Last Emperor
|
 |
« เมื่อ: 04-01-2007, 16:59 » |
|
ในฐานะที่ คตส. ถูกตั้งขึ้นมามีหน้าที่ดำเนินการไต่สวน/สวบสวนหาข้อเท็จจริงโดยมีหน้าที่คล้ายๆกับตำรวจ+อัยการ ซึ่งปรกติการสอบสวน/ไต่สวนโดยตำรวจมักจะมีทนายความเข้าร่วมรับฟังด้วย
แต่การที่ คตส. ปฎิเสธที่จะให้โอ๊ค-เอมนำทนายความเข้าไปร่วมรับฟังการไต่สวนของ คตส. ถือเป็นการลิดรอนสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาอย่างร้ายแรง แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่ากระบวนการไต่สวน/สอบสวนของ คตส. ไร้ความยุติธรรม มีอคติ และลำเอียง ใช่หรือไม่?!?
"คตส.เมิน หญิงอ้อ-บรรพจน์ เบี้ยวนัดรับข้อกล่าวหา ขีดเส้นภายใน 15 วัน หากยังเพิกเฉยถือว่าสละสิทธิ์ ไม่ติดใจในข้อกล่าหา ก่อนเดินทางไต่สวนคดีทันที ยัน โอ๊ค-เอม ไม่มีอภิสิทธิชน ต้องชี้แจงด้วยตัวเองเท่านั้น และสั่งห้ามทนายร่วมรับฟังคดีเลี่ยงหุ้นชินฯ วันนี้ (4 ม.ค.) ภายหลังการเข้าชี้แจงของนายวันชัย หงษ์เหิน และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ ผู้ถูกกล่าวหากรณีหลีกเลี่ยงการเสียภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น ต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) น.ส.ปราณี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า บรรยากาศในที่ประชุมไม่เคร่งเครียด คตส.ให้การต้อนรับดีมาก ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้คดีขอให้ถามทนายความ ขณะที่นาย วีรภัทร ศีระไชยา ทนายความ กล่าวว่า ทั้งสองบุคคลรับทราบข้อกล่าวหาจาก คตส.เรียบร้อยแล้ว โดย คตส.นัดให้มาชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ด้าน นายสัก กอแสงเรือง ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนครั้งนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา 2 คน คือ น.ส.ปราณี และนายวันชัย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว อนุกรรมการไต่สวนได้กำหนดให้ทั้งสองเข้าแก้ข้อกล่าวหาด้วยตนเองหรือทำเป็นหนังสือชี้แจงภายในวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งในการรับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ได้อนุญาตให้ทนายความของทั้งสองบุคคลเข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่งกรณีนี้จะต่างจากกรณีที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร จะมาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินคอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่ไม่อนุญาตให้บุคคลใดเข้าร่วมรับฟังได้ เนื่องจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ถูกเชิญมาในฐานะที่เป็นผู้ให้ข้อเท็จจริง ซึ่งอยู่ในชั้นการตรวจสอบ ส่วนกรณีน.ส.ปราณี และนายวันชัย ถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหาแล้ว นายสัก กล่าวว่า ส่วนคุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และนางกาญจนาภา ได้มอบหมายให้ทนายความแจ้งว่าติดภารกิจสำคัญไม่สามารถมารับฟังข้อกล่าวหาได้ ขณะที่ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี ก็ไม่ได้ติดต่อมา ดังนั้น อนุกรรมการไต่สวนจึงแจ้งผ่านทนายความว่าจะส่งเป็นหนังสือลงทะเบียนตอบรับในวันที่ 5 ม.ค.ให้ทราบข้อกล่าวหา และกำหนดให้มาชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หลังจากได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา นายสัก กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะมีสิทธิ 2 ประการ คือ 1.ชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยตนเอง และ 2.ชี้แจงเป็นหนังสือ แต่หากไม่ใช้สิทธิทั้งสองประการก็ไม่มีผลอะไร ถือว่าสละสิทธิ์ ไม่ติดใจที่จะแก้ข้อกล่าวหา แต่ถ้ามีการแก้ข้อกล่าวหาอนุกรรมการไต่สวน ก็จะต้องตรวจสอบคำชี้แจงก่อนที่จะสรุปสำนวนคดีและดำเนินการตามระเบียบ คตส.ต่อไป"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 04-01-2007, 17:02 » |
|
หรือการกระทำดังกล่าวของ คตส. อาจเป็นแผนการของคณะกรรมการฯบางคนที่ต้องการให้เป็นช่องโหว่เพื่อศาลจะได้ยกฟ้อง!?! 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 04-01-2007, 17:15 » |
|
หรือแม้กระทั่งการสอบพยาน/จำเลยในชั้นศาลก็ยังอนุญาตให้ทนายความเข้าร่วมฟังและแนะนำแนวทางการต่อสู้คดีได้เลย เรื่องตื้นๆแบบที่ คตส. ทำอยู่นี้.....สภาทนายความฯไม่สนใจบ้างรึไงเอ่ย!?! อดีตนายกสภาฯที่ชื่อสักที่เป็นมาสิบกว่าปีก็เมามันส์กับหัวโขนซะจริงๆเล๊ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 04-01-2007, 17:29 » |
|
กรุณาโต้ตอบอย่างสร้างสรรกันหน่อยน๊ะครับ...จะได้ไม่เสียชื่อสาวกAT อ่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Solidus
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 04-01-2007, 17:40 » |
|
กลัวไรครับ รู้เรื่องอยู่แล้วนี่ หรือว่าเวลาสอบต้องใช้โพย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 04-01-2007, 18:48 » |
|
กลัวไรครับ รู้เรื่องอยู่แล้วนี่ หรือว่าเวลาสอบต้องใช้โพย  ไม่มีใครกลัวไรครับ ประเด็นมันอยู่ที่สิทธิอันชอบธรรมของผู้ต้องหาในการนำทนายความเข้าไปร่วมสอบสวน....มันถูกริดรอนไป
ถ้าเป็นตัวคุณบ้างที่โดนแบบโอ๊ค-เอมจะโวยวายไหมเอ่ย!?!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อมพระมาพูด
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 04-01-2007, 19:10 » |
|
 เออ นะ ถ้าเป็น(พาน)ทองแท้ ย่อมไม่กลัวไฟ ไฟจะเผาสักกี่ครั้ง ทองคำก้อยังเป็นทองคำวันยังค่ำ ยกเว้นพวกทองชุบสอดไส้ตะกั่ว น่ะเซ้ ถ้าเจตนาบริสุทธิ์ผุดผ่องจะกลัวอะไร้...ไม่ต้องกลัวร๊อกกก.. กรรมอยู่ที่การกระทำ ทำดีย่อมได้ดี ทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น !! ไม่ต้องร้อนตัวถ้าเป็นคนดีจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
|
|
|
|
No_Tuky
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 04-01-2007, 20:03 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-01-2007, 20:07 » |
|
ไปใช้สิทธิ์ทางศาลได้อยู่แล้วครับ
ที่สำคัญน่าจะไม่อยู่ใน ป.วิอาญา เป็นกฎหมายเฉพาะ
หากใช้ ป.วิอาญา อาจต้องมีการออกหมายเชิญ หมายเรียก หมายจับ หรือจับกุม คุมขัง ประกันตัว
ผมคิดว่าใช้หลักกฎหมายคนละตัวครับ
แต่กฎหมาย ปปช. ก็สามารถขออำนาจศาล ออกหมายได้อีกต่างหาก
อย่าลืมว่า คตส. ใช้อำนาจตามกฎหมาย สตง. ปปช. ปปง. อำนาจอธิบดีสรรพากร
องค์กรเหล่านั้นมีอำนาจแค่ใหน คตส. ก็มีอำนาจตามนั้น
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2007, 20:13 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 04-01-2007, 20:18 » |
|
อย่าลืมว่า ประกาศ คปค. เป็นกฎหมายอย่างหนึ่ง
อำนาจหน้าที่ใน คตส. ข้อ 9 วรรคท้าย ระบุชัด หากอำนาจ คตส. ไปไม่ถึง ( กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เรื่อง ปปช. )
ก็สามารถขอให้หน่วยงานที่มีอำนาจ ใช้อำนาจตามที่กฎหมายที่มีอยู่ของหน่วยงานนั้น ๆ ได้
โดยถือว่าสำนวนการสอบสวนของ คตส. เป็นสำนวนการสอบสวนของหน่วยงานนั้น ๆ ด้วย
เอาเป็นว่า "คำสั่ง คปค. ฉบับที่ 30" เป็นกฎหมายเผด็จการนั่นแหละ
มีไรมั๊ย...อิ อิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiDKuN
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 04-01-2007, 20:41 » |
|
นอกจากที่ลุงแคนกล่าวมาแล้ว คงต้องถามว่า ถ้าไม่มีทนายไปด้วย แล้วไม่ดียังไงหรือ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 04-01-2007, 21:30 » |
|
ไม่มีทนายความไปด้วย ก็สามารถตั้งประเด็น ต่อสู้ในชั้นศาลได้อยู่แล้ว
หากการดำเนินการสอบสวน ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมาย ศาลอาจยกฟ้องก็ได้นี่
หรือศาลอาจไม่รับว่า สำนวนการสอบสวนนั้นไม่เป็นไปตามกระบวนการ
ศาลอาจให้อัยการหรือทนายความใต่สวนหาประเด็นในศาลเองก็ได้อีก
ไปสู้กันในเชิงกฎหมายที่ศาลซีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายเกตุ
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 05-01-2007, 10:10 » |
|
กลัวไรครับ รู้เรื่องอยู่แล้วนี่ หรือว่าเวลาสอบต้องใช้โพย  ไม่มีใครกลัวไรครับ ประเด็นมันอยู่ที่สิทธิอันชอบธรรมของผู้ต้องหาในการนำทนายความเข้าไปร่วมสอบสวน....มันถูกริดรอนไป
ถ้าเป็นตัวคุณบ้างที่โดนแบบโอ๊ค-เอมจะโวยวายไหมเอ่ย!?! ถ้าสมมติว่าถ้าเป็นตัวผม ผมก็คิดว่าผมคงไม่โดนไอ้เรื่องอย่างนี้หรอกครับ เพราะผมคงไม่ฉลาดเท่าโอ๊ค-เอมได้หรอกกับไอ้เรื่องพรรค์นี้
และอีกอย่างคุณพ่อกับคุณแม่ผมคงไม่รักผมถึงขนาดสร้างปัญหาไว้ให้ลูกบานขนาดนี้หรอกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 05-01-2007, 11:41 » |
|
ไม่มีทนายความไปด้วย ก็สามารถตั้งประเด็น ต่อสู้ในชั้นศาลได้อยู่แล้ว
หากการดำเนินการสอบสวน ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมาย ศาลอาจยกฟ้องก็ได้นี่
หรือศาลอาจไม่รับว่า สำนวนการสอบสวนนั้นไม่เป็นไปตามกระบวนการ
ศาลอาจให้อัยการหรือทนายความใต่สวนหาประเด็นในศาลเองก็ได้อีก
ไปสู้กันในเชิงกฎหมายที่ศาลซีครับ
ลุงแคนครับ
เข้าใจว่าศาลฎีกาที่คดีนี้ถูกส่งไปให้วินิจฉัยเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะดูเอกสารและข้อมูลต่างๆที่ คตส. ส่งขึ้นไปให้พิจารณาเท่านั้น หาก คตส. บิดพลิ้วส่ง/ไม่ส่งข้อมูลบางด้านอันทำให้โอ๊ค-เอมเสียผลประโยชน์...จะมีหน่วยงานไหนตรวจสอบไหมเอ่ย?
ประเด็นก็คือ ศาลไม่มีหน้าที่ตรวจสอบที่มาที่ไปของข้อมูล แต่จะตัดสินจากข้อมูลที่ถูกส่งไปให้วินิจฉัยนั้นเท่านั้นจาก คตส. ......ซึ่งมีความชอบธรรมและยุติธรรมเพียงใดในขั้นตอนของ คตส.!?!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
O_envi
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 05-01-2007, 14:27 » |
|
คตส เขาใช้อำนาจปปช ในการเรียกเข้าพบไม่ใช่เหรอครับ
ไม่ต้องกลัวครับคุณ จ๊ะ ถ้าคตส ทำอะไรข้ามขั้นตอนโดนมิชอบคดีนั้นทักษิณหลุดครับ ผมว่าคุณน่าจะดีใจมากกว่า
แต่ผมเข้าใจว่าที่มันไม่เหมือนกันเพราะมันหลายขั้นตอน กม.หลายฉบับ ขึ้นกับ ว่าตอนนั้นถึงขั้นตอนไหนและควรใช้กม ฉบับไหนซึ่งมีหลักการแน่นอน วันนั้นดู ASTV เขาก็ตั้งคำถามนี้เหมือนกันแต่คนที่อ่อนเรื่องกม. ดูยังไงก็ไม่เข้าใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
The change musts come one by one.It has to start with you
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 05-01-2007, 14:49 » |
|
คตส เขาใช้อำนาจปปช ในการเรียกเข้าพบไม่ใช่เหรอครับ
ไม่ต้องกลัวครับคุณ จ๊ะ ถ้าคตส ทำอะไรข้ามขั้นตอนโดนมิชอบคดีนั้นทักษิณหลุดครับ ผมว่าคุณน่าจะดีใจมากกว่า
แต่ผมเข้าใจว่าที่มันไม่เหมือนกันเพราะมันหลายขั้นตอน กม.หลายฉบับ ขึ้นกับ ว่าตอนนั้นถึงขั้นตอนไหนและควรใช้กม ฉบับไหนซึ่งมีหลักการแน่นอน วันนั้นดู ASTV เขาก็ตั้งคำถามนี้เหมือนกันแต่คนที่อ่อนเรื่องกม. ดูยังไงก็ไม่เข้าใจ
คนที่มีความยุติธรรมอยู่ในใจย่อมต้องตั้งข้อสังเกตุถึงกระบวนการตรวจสอบคดีชินวัตรเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและยุติธรรมเพื่อหากต่อไปศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นที่ชนชั้นพันธมารไม่ปราถนา....ก็จะได้ไม่ต้องมามั่วโทษอีกว่าเพราะผิดพลาดทางเทคนิค ทักษิณและคณะจึงรอดคุกไง
แค่ขอให้กระบวนการการไต่สวน/สอบสวนดำเนินไปอย่างถูกต้องและบริสุทธิ์ยุติธรรมเหมือนชาวบ้านเค้ากระทำกันทั่วโลก....คตส. กลัวการมีมาตรฐานในการไต่สวน/สอบสวนหรือไร!?! ไม่ต้องมากล่าวอ้างกฎหมงกฎหมายใดๆเพื่อสร้างความชอบธรรมให้คตส.หรอกครับ...พฤติกรรมมันบ่งชี้ชัดๆว่า คตส. ละเมิดสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา
แปลกไหมที่ตอนแรกคตส.ชี้มูลความผิดของโอ๊ค-เอมอย่างชัดเจนว่าผิด แต่พอเรียก2คนไปสอบสวน/ไต่สวน...กลับบอกหน้าตาเฉยว่าเรียกเข้าไปเพื่อให้ข้อเท็จจริง
แหลเรียกป้าจริงๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
monty
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 05-01-2007, 15:59 » |
|
หยุดแถเถอะ  เมื่อเช้าดูข่าวสัมภาษณ์นายสัก เขาก็บอกชัดว่า กรณีโอ๊คกับเอม เป็นชั้นของการให้เข้ามาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง จึงไม่ให้มีทนายเข้ามาด้วย ไม่ได้อยู่ในชั้นของการไต่สวนหรือสอบสวนนะครับ อย่างนั้นมีทนายเข้าร่วมได้ สองคนนี้บรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มูลค่านับหมื่นล้านของธุรกิจชินมาแล้ว กลัวจะโชว์โง่หรือไง หรือกลัวว่าจะไปเผลอพูดความจริง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 05-01-2007, 16:08 » |
|
หยุดแถเถอะ  เมื่อเช้าดูข่าวสัมภาษณ์นายสัก เขาก็บอกชัดว่า กรณีโอ๊คกับเอม เป็นชั้นของการให้เข้ามาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง จึงไม่ให้มีทนายเข้ามาด้วย ไม่ได้อยู่ในชั้นของการไต่สวนหรือสอบสวนนะครับ อย่างนั้นมีทนายเข้าร่วมได้ สองคนนี้บรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มูลค่านับหมื่นล้านของธุรกิจชินมาแล้ว กลัวจะโชว์โง่หรือไง หรือกลัวว่าจะไปเผลอพูดความจริง  ถามว่า คตส. เค้าชี้มูลความผิดโอ๊ค-เอมแล้วใช่หรือไม่? ตำตอบก็คือ ชี้มูลเรียบร้อยแล้วว่าต้องมีการตั้งอนุคณะกรรมการไต่สวนฯเพื่อดำเนินการ ในเมื่อมีการชี้มูลความผิดของ 2 ผู้ต้องหาแล้ว โอ๊ค-เอมก็ย่อมมีสิทธิในการนำทนายเข้าไปร่วมรับฟังการซักถาม
ทำไม คตส. กลัวทนายขนาดนั้นเชียวฤา!?! หรือว่ากลัวจะมีพยานบุคคลเพิ่มขึ้นหากมีการบันทึกข้อมูลบิดพลิ้วกันแน่!?! 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
justy
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 05-01-2007, 18:07 » |
|
หยุดแถเถอะ  เมื่อเช้าดูข่าวสัมภาษณ์นายสัก เขาก็บอกชัดว่า กรณีโอ๊คกับเอม เป็นชั้นของการให้เข้ามาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง จึงไม่ให้มีทนายเข้ามาด้วย ไม่ได้อยู่ในชั้นของการไต่สวนหรือสอบสวนนะครับ อย่างนั้นมีทนายเข้าร่วมได้ สองคนนี้บรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มูลค่านับหมื่นล้านของธุรกิจชินมาแล้ว กลัวจะโชว์โง่หรือไง หรือกลัวว่าจะไปเผลอพูดความจริง  ติวเข้มมาแล้วแหละ เชื่อเหอะ อย่าบอกว่ากาผิดอีกน่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
|
|
|
MacBookPro
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 05-01-2007, 18:37 » |
|
กระทู้นี้ ขี้ข้่้่าจ๊ะ ตั้งเอง ตอบเอง ชงเอง ตบเอง สมบูรณ์แบบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
เหยี่ยวพิฆาต
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 05-01-2007, 19:29 » |
|
กลัวไรครับ รู้เรื่องอยู่แล้วนี่ หรือว่าเวลาสอบต้องใช้โพย  ไม่มีใครกลัวไรครับ ประเด็นมันอยู่ที่สิทธิอันชอบธรรมของผู้ต้องหาในการนำทนายความเข้าไปร่วมสอบสวน....มันถูกริดรอนไป
ถ้าเป็นตัวคุณบ้างที่โดนแบบโอ๊ค-เอมจะโวยวายไหมเอ่ย!?!ใครบอกว่า เป็นผู้ต้องหา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: 06-01-2007, 04:29 » |
|
เค้าเรียกว่า เชิญตัวไปให้ข้อมูล ไม่ไปก็ไม่มีใครว่า ถึงเวลาขึ้นศาลก็ใช้หลักฐานที่ คตส.ทำขึ้นมา
จะไปคัดค้านพยานเอกสารอะไรก็ว่ากันไป
ส่วนกรณี คุณหญิงอ้อ...เป็นการเรียกไปรับทราบ "ข้อกล่าวหา" แยก ๆ กันบ้างก็ดีครับ
หากโอ๊ค - เอม ไม่ไปก็ไม่มีปัญหาหรอก ไปสู้กันในศาลได้ เพราะเป็นปัญหา "ข้อกฎหมาย"
กรณีโอ๊ค-เอม น่าจะเป็นคดีของกรมสรรพากร...ความผิดไม่มีอะไร หากตัดสินว่าต้องเสียภาษี ก็นำเงินไปจ่าย
ข้อหาแบบนี้แก้ไม่ยากนี่นะ เพราะยกเอาคำแนะนำของกรมสรรพากรบอกว่า ไม่ต้องเสียไปอ้างก็ได้
ไม่ผิดอะไรเป็นสำคัญผิดหรือเชื่อหนังสือของกรมสรรพากร
แค่นั้นเอง
แต่หากศาลบอกว่า "ต้องเสีย" นั่นก็คือ ต้องจ่ายเงินภาษีพร้อมดอกเบี้ย...เท่านั้นเอง
โทษอาญา น่าจะไม่มีอะไรสำหรับ โอีค-เอม
แต่กรณีคุณหญิงอ้อ...เรื่องซื้อที่ดิน ตรงนี้แหละ เข้าตัวหน้าเหลี่ยมตรง ๆ ตาม มาตรา 100 ของ ปปช.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นู๋เจ๋ง
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 06-01-2007, 07:22 » |
|
แค่ชี้แจง ยังไม่ได้ตั้งข้อหา เป็นแค่คำชี้แจงธรรมดาเฉยๆ ไม่ได้เป็นผู้ต้องหานี่นะ พูดจากันธรรมดา ยังไม่ได้สรุปว่าผิด แค่มาให้คำชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้โดนสอบสวนนะ เวลาไปหาสรรพากร โดนเรียกตรวจสอบภาษี มีหนังสือราชการมาเชิญ ก็ต้องไปชี้แจง ประกันสังคมถามทำไมยังไม่จ่ายก็วิ่งไปชี้แจง บ้ารึเปล่าว่าต้องพาทนายไปด้วย เวลาชี้แจงเรื่องภาษีทุกบริษัทก็ ต้องพาทนายไปด้วยหมดสิ มาชี้แจง กับการถูกล่าวหา นี่คนละเรื่องกัน
คตส ทำหน้าที่แทนสรรพากร มีอำนาจหน้าที่ เมื่อสงสัย ไม่จ่ายภาษี ก็ไปชี้แจงทำไมต้องใช้ทนายด้วยล่ะ กรั่กๆ ไม่ไว้ใจ สมองลูก ไม่ไว้ใจความรู้ ความคิด ความสามารถของลูกที่อบรมสั่งสอนมา
มันเลี้ยงลูก รักลูก ยังไงหว่า ลูกคุณภาพ ระดับไหนหว่า จบเกษตร จบราม ก็ พูดจารู้เรื่องล่ะน่า ไม่ต้องพา ทนายสัปดน ปัสสะวะไปด้วยหรอกน่า??? 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2007, 10:13 โดย นู๋เจ๋ง »
|
บันทึกการเข้า
|
~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
|
|
|
ปุถุชน
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: 06-01-2007, 13:24 » |
|
สัมภาษณ์พิเศษ : กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
14 พฤศจิกายน 2549 09:52 น. ชำแหละเทมาเส็ก"ซูเปอร์นอมินี"ชินคอร์ป
คมช.ต้องตรวจสอบ"สัญญาลับ"ชิน-เทมาเส็กเพื่อหาความจริงว่าตระกูลชินวัตร-ดามาพงษ์ ใช้เทมาเส็กเป็นนอมินีให้แค่ช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น
การชำระสะสางคดีซุกหุ้นภาค 2 กรณีการเลี่ยงภาษีการขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่น ทั้งหมดของ"ตระกูลชินวัตร"และ"ดามาพงศ์"ให้กับเทมาเส็กของรัฐบาลสิงคโปร์ อาจแค่เป็นการเริ่มต้นสำหรับรัฐบาลชั่วคราวที่มีเป้าหมายปราบทุจริตคอรัปชั่น แต่สำหรับ กอร์ปศักดิ์สภาวสุ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์เกาะติดและแกะรอยคดีซุกหุ้นมาตั้งแต่ภาคแรกต่อเนื่องมาจนถึงภาค 2 จนได้ค้นพบความไม่ปกติต่างๆ ที่เป็นการทำธุรกิจเชิงนโยบายอันแยบยล
วันนี้กอร์ปศักดิ์ยังคงเดินหน้าตรวจสอบเมกกะโปรเจคฉาวหลายเรื่อง คู่ขนานไปกับองค์กรที่รัฐบาลชั่วคราวนี้ตั้งขึ้นมาสะสางการทุจริตอย่าง และที่น่าสนใจคือข้อมูลการซุกหุ้นภาค 2 ที่เขาย้อนรอยกลับไปหาหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงกระบวนการซุกหุ้นในนอมินีที่ชัดเจน
กอร์ปศักดิ์เริ่มต้นว่า "ถ้าอยากจะค้นหาความจริงก็ต้องตามเส้นทางเดินของเงินให้ถูก ความลับและข้อมูลทั้งหลายจะไหลเข้ามา อย่างเช่น กรณีซุกหุ้นภาคแรก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจเส้นทางเดินของเงิน พบว่าเงินปันผลที่บรรดาคนรับใช้ในบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้รับจากการถือครองหุ้นชินแทนเจ้านาย มีการนำเข้าบัญชีส่วนตัวของของหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด เรื่องถึงได้ถูกเปิดโปงออกมา จึงมีคำว่าบกพร่องโดยสุจริต ออกจากปากพ.ต.ท.ทักษิณในสมัยนั้น
"มาถึงวันนี้ ถ้าอยากรู้ว่า ใครคือเจ้าของบริษัท Ample Rich ตัวจริงไม่ยาก แค่ตรวจสอบว่า เงินปันผลที่บริษัท Ample Rich ได้รับตลอด 4 ปี เป็นเงินรวมแล้วกว่า 1,700 ล้านบาท เข้ากระเป๋าใคร เข้าบัญชีใคร คนนั้นคือเจ้าของบริษัทตัวจริง และถ้าอยากจะรู้ว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทชิน(คอปอเรชั่น)ตัวจริง ต้องดูที่เส้นทางเดินของเม็ดเงินที่ใช้ในการซื้อหุ้น เพราะหากวิเคราะห์เฉพาะโครงสร้างของการถือหุ้นบริษัทกุหลาบแก้ว ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเข้ามาซื้อหุ้น จะมองไม่ออกว่าเจ้าของตัวจริงเป็นใคร ไทยแท้หรือไทยเทียม เนื่องจากเป็นการจัดโครงสร้างเพื่อให้สอดคล้องตามที่กฎหมายไทยได้กำหนดไว้เท่านั้น"
กอร์ปศักดิ์อธิบายต่อว่า เริ่มต้นกันที่สถานะภาพของบริษัท ชิน ในปัจจุบัน ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2549 ผู้ถือหุ้นชินรายใหญ่ มีเพียง 3 ราย คือ 1. บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด 1,742,407,239 หุ้น (54.53 %) 2. บริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด 1,334,354,825 หุ้น(41.76 %) 3. UBS AG สาขาสิงคโปร์ 35,600,300 หุ้น (1.11%)
บริษัทซีดาร์ โฮลดิ้งส์ นั้นเป็นบริษัทไทย บริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ เจ้าของคือ เทมาเส็ก รัฐบาลสิงคโปร์ ส่วนรายที่ 3 เจ้าของเป็นบุคคลนิรนาม ฝากหุ้นให้ธนาคาร UBS ถือแทน วันนี้เรายังไม่พูดถึงบุคคลนิรนาม รายที่ 3 แต่เราจะดูเม็ดเงินที่บริษัทซีดาร์ และบริษัท แอสเพน ใช้ในการไล่ซื้อหุ้น ซึ่งได้ใช้เงินทั้งหมดไปแล้วกว่า 151,000 ล้านบาท เพื่อเข้าครอบครองกิจการของบริษัท ชิน โดยถือหุ้นรวมกันสูงถึง 96.29 เปอร์เซ็นต์ เงินจำนวนมากกว่า 151,000 ล้านบาทที่ใช้ซื้อหุ้นนี้ เป็นเงินสดทั้งหมด เวลานี้กองทุนเทมาเสคยอมรับว่าถือหุ้นในชินคอร์ป ถึง 96.29 % ซึ่งก่อนหน้านั้น กองทุนฯ ทักษิณ แกนนำพรรคฯ ปฏิเสธ บริษัทแอสเพน ใช้เงินไปประมาณ 65,000 ล้านบาทเศษ ส่วนบริษัท ซีดาร์ใช้ไปกว่า 85,000 ล้านบาท บริษัท แอสเพน เป็นของรัฐบาลสิงคโปร์ มีเงินซื้อหุ้นแน่นอน ส่วนของบริษัท ซีดาร์ ที่ควรตรวจสอบให้ชัดว่า จะหาเงินกว่า 85,000 ล้านบาทมาจากไหน อย่าลืมว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทไทย
กอร์ปศักดิ์ลงรายละเอียดว่า บริษัทซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จดทะเบียน เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2549 มีทุนจดทะเบียน 8,000 ล้านบาท กรรมการตอนนี้มี 3 คน คือ 1.นาย ฟูน ชิวเฮง 2. นาง สาง ทาน ไอซิง 3.นาย สุรินทร์ อุปพัทธกุล โดย 2 ใน 3 ของกรรมการลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทได้เท่านั้น เห็นได้ชัดว่ากรรมการจากสิงคโปร์ 2 คือตัวจริงที่มีอำนาจในบริษัทนี้ การจัดทำโครงสร้างให้บริษัท ซีดาร์ เป็นบริษัทไทย เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย เทมาเส็ก ที่ใช้โครงสร้างการถือหุ้น 3 ลำดับชั้น
เขายังชี้ให้เห็นถึงฝ่ายที่ควรรับภาระส่วนของเม็ดเงินที่ใช้ในการซื้อหุ้นชินที่แบ่งตามสัดส่วนของความเป็นเจ้าของ โดยเงินที่ฝ่ายไทยควรรับผิดชอบคือ1.ธนาคารไทยพาณิชย์ 8,581ล้านบาท 2. พงส์ สารสิน ศุภเดช พูนพิพัทธ 700 ล้านบาท 3.สุรินทร์ อุปพันธกุล 24,000 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ผู้ถือหุ้นฝ่ายไทยต้องหาเงินมาลงขันทั้งหมดประมาณ 40,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ คือ 110,000 ล้านบาทเศษ เป็นเงินจากเทมาเส็กทั้งสิ้น ในนามบริษัทแอสเพน บริษัทซีดาร์ และบริษัทไซเปรส
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงวิเคราะห์แบบนี้กอร์ปศักดิ์ บอกว่า เขาอาจจะมองต่างมุม เพราะเห็นว่าตัวเลขนี้บอกให้ได้รู้อะไรบางอย่าง เช่น เทมาเส็ก หรือรัฐบาลสิงคโปร์ ทุ่มเงินไปแล้วกว่า 110,000 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นชินฝ่ายไทย และต้องรับผิดชอบเม็ดเงินส่วนที่เหลือประมาณ 40,000 ล้านบาท ส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ 8,500 ล้านบาท ไม่น่าเป็นปัญหาเพราะเป็นธนาคาร แต่ส่วนของบุคคลนั้นน่าสงสัย โดยเฉพาะของนายสุรินทร์ ที่ต้องใช้เงินถึง 24,000 ล้านบาท ส่วนอีกสองคน จะไม่พูดถึง เพราะถือหุ้นแบบบุริมสิทธิไม่ต้องรับผิดชอบมากเหมือนผู้ถือหุ้นสามัญ
บริษัทซีดาร์ มีทุนจดทะเบียนเพียง 8,000 ล้านบาท เชื่อได้ว่าต้องใช้เงินกู้อย่างน้อยก็ 40,000 ล้านบาท ในสัดส่วนของฝ่ายไทย อย่างแน่นอน สำหรับหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ คงหนีไม่พ้น กองทุนเทมาเส็ก รัฐบาลสิงคโปร์ นักลงทุนฝ่ายไทยคงไม่สามารถ ไม่ใช่ดูถูกกัน แต่เท่าที่ทราบจากผลการตรวจสอบของกระทรวงพาณิชย์ พบว่าแค่เงินของฝ่ายไทยที่ต้องใช้ในการลงทุนในบริษัทกุหลาบแก้ว ยังต้องยืมเงินจากเทมาเส็กบ้าง หรือขอให้เทมาเส็กค้ำประกันให้บ้าง
"ส่วนของคุณสุรินทร์ ที่ต้องจ่ายกุหลาบแก้วถึง 2,700 ล้านบาทนั้น ก็ไม่ได้มาจากบัญชีเงินฝากของตัวเอง แต่กลายเป็นเงินจากบัญชีของบริษัท Fairmont ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน มาจากไหนไม่ทราบ แถมการจ่ายเงินก็สั่งจ่ายโดยบริษัท GreenLand ซึ่งเป็นเจ้าของ บริษัท Fairmont อีกทอดหนึ่ง ยุ่งกันไปหมด สรุปแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกเงินค่าทุนจดทะเบียนของกุหลาบแก้วให้คุณสุรินทร์ เห็นแต่ชื่อนอมินีเต็มไปหมด ชัดแล้วว่าแท้ที่จริงแล้วเทมาเส็กเป็นเจ้าของบริษัท ชิน เกือบทั้งหมด"
เขายังกล่าวต่อว่าดังนั้นจึงอยากให้ช่วยกันหาเหตุผลด้วยว่า ทำไมเทมาเส็กต้องการเป็นเจ้าของบริษัท ชิน แต่เพียงผู้เดียว เพราะอีกไม่กี่เดือนบริษัท ชิน ก็จะถูกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์แล้ว เนื่องจากมีหุ้นหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ถึงร้อยละ 15 และบริษัท ชิน จะกลายเป็นนิติบุคคลทั่วไป ไม่ใช่บริษัทมหาชนอีกต่อไป
"วันนี้บริษัท ชิน ไม่ใช่บริษัทของคนไทยอีกต่อไปแล้ว บริษัทลูกๆ ของบริษัท ชิน ไม่ว่าจะเป็น AIS Shin Satellite ITV หรือ Air Asia ถ้ามีโครงสร้างการถือหุ้นที่ปรากฏได้ว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ใช่บริษัทไทย สัญญาสัมปทานที่บริษัทเหล่านี้มีกับหน่วยงานของรัฐบาลไทย ต้องถูกยกเลิก"
พร้อมกันนี้เขายังเรียกร้องให้ ประธานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ ทำตามที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติหรือคมช.บอกว่าส่งท่าน"นายพล"มาปราบคอร์รับชั่นนั้น ขอให้จับงานชิ้นนี้เป็นชิ้นแรก
"เรียกบริษัทคู่สัญญาสัมปทานทั้งหมดให้นำข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นว่ายังคงความเป็นบริษัทไทยหรือไม่ มาตรวจสอบทันที เชื่อว่า ถ้าเริ่มงานนี้อย่างจริงจังเมื่อไหร่ เทมาเส็ก กองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ต้องขอพบแน่ ถึงวันนั้นเทมาเส็กคงจะบอกให้พวกเราได้รับรู้ว่าบริษัท ชิน ยังเป็นบริษัทไทยอยู่ ไม่มีเหตุผลใดที่เทมาเส็กจะมาฮุบบริษัท ชิน ทั้งหมด ยิ่งเหตุผลทางธุรกิจ ยิ่งเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะบริษัทต่างชาติ ไม่ว่าชาติใด เวลามาลงทุนในไทยก็ต้องการมีหุ้นส่วนฝ่ายไทยที่เก่ง ที่มีเส้นสายดีทั้งนั้น
ในกรณีนี้เทมาเส็กคงจะเปิดเผยข้อตกลงลับ ที่มีไว้กับผู้ขายตอนซื้อหุ้นชิน เมื่อต้นปีนี้ให้ประธาน คมช.ได้ทราบ ท่านจะได้ไม่ยกเลิกสัญญาสัมปทาน สัญญาลับนี้ น่าจะเป็นข้อตกลงว่า แท้ที่จริงแล้วคนในตระกูลชินวัตรและดามาพงษ์ ไม่ได้ขายหุ้นให้เทมาเส็ก เป็นเพียงขอให้เทมาเส็ก เป็นนอมินีให้ช่วงระยะหนึ่งเท่านั้นเอง" กอร์ปศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
~เด็กบอร์ด~
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: 06-01-2007, 13:37 » |
|
กระทู้นี้ ขี้ข้่้่าจ๊ะ ตั้งเอง ตอบเอง ชงเอง ตบเอง สมบูรณ์แบบ
จริงอย่างที่ คุณMacBookProกล่าวค่ะ จขกท ไม่รู้ใช้อะไรคิดถึงตั้งชื่อกระทู้แบบนี้ คิดว่าแค่นี้จะตบแล้วตายคามือเหรอค่ะ ขนาดแมลงวันยังไม่ตายเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
monty
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 06-01-2007, 14:44 » |
|
มาตรฐานระดับความคิดและมโนธรรมของพวกที่มีอคติคิดร้ายต่อคนดีๆนั้นไม่ได้สนใจกระบวนการยุติธรรมสักน้อยนิด พวกนั้นชอบคิดเอง เออเอง สรุปเอง....พ่นความกระสันต์ของต่อมมโนธรรมอักเสบไปวันๆ
ทั้งทางโลกและทางธรรม...ไม่สรรเสริญคนจำพวกนั้นครับ  ข้อความแบบนี้ คุ้นๆบ้างไหม จขกท 5555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 06-01-2007, 18:02 » |
|
ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ กรณี โอ๊ค-เอม นั้น คตส. ใช้อำนาจ อธิบดีกรมสรรพากร
เรียกคนที่ต้องเสียภาษีไปสอบถาม จะชี้แจงยังไงก็เป็นเรื่องของผู้เสียภาษี
หากไม่ไปเค้าก็จะส่งเรื่องเรียกตัวให้มาเสียภาษี
ก็เท่านั้น
หากไม่ไปอีกก็ส่งเรื่องฟ้องศาล อาจมีคดีอาญาด้วยแล้วคราวนี้...
เวลาพิจารณาแต่ละเรื่องต้องดูด้วยว่า เค้ากล่าวหาเรื่องอะไร จะได้ไม่สับสน
ทำเป็นเล่นไปล่ะ ตัวทนายความเองอาจโดนสอบภาษีอีกกระทอก...ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|