ความโปร่งใสเป็นจริยธรรมข้อสามสำหรับข้าราชการประจำที่จะถือปฏิบัติ แต่การ
ปฏิวัติที่ผ่านมาโดยหน่วยเรนเจอร์ผู้มีจริยธรรมสูงติดออกมาจากท้องพ่อท้องแม่ แต่
ตกไปหนึ่งข้อคือความโปร่งใส ผ่านมาสองเดือนกว่าก็ไม่มีการแถลงว่าใช้เงินภาษีของ
ประชาชนไปเท่าไหร่ในการยึดอำนาจประชาชน แต่สื่อก็คุ้ยได้เล็กน้อยว่า
เปิดบัญชี
ค่าใช้จ่ายในการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน ช่วง 2 สัปดาห์แรก จากสำนักงบประมาณ
500 ล้านบาท เป็น งบปฏิบัติการ ในการเข้ายึดอำนาจของคปค. แต่ในเบื้องต้นเบิก
ได้แค่ 200 ล้านบาท และเตรียมที่จะเบิกเพิ่มเติมในงบประมาณปี 2550 นี้ จากรัฐบาล
หอยเฒ่า ในส่วนที่เหลือ (www.posttoday.com) ปกติงบประมาณที่ใช้ในการยึดอำนาจ
นี้จะถูกปกปิดเป็นความลับ และจะมีการเบิก จ่ายในรูปของงบประมาณชื่ออื่น เช่น งบ
ปฏิบัติการ งบส่งกำลังบำรุงหรืองบ ประมาณในการฝึกและเตรียมพร้อมจึงยากที่จะตรวจ
สอบหรือเปิดเผยต่อสาธารณะได้ สำหรับค่าตอบแทนความเสี่ยงสำหรับเรนเจอร์จริยธรรมสูงเหล่านี้ก็ยังเป็นที่กังขาและ
ลือกันมาตลอดในวงเงินหกพันล้าน วันที่ 4 ธันวาที่ผ่านมาก็ได้เกิดการซื้อขาย big lot
ในตลาดหลักทรัพย์โดยหุ้นของกลุ่มคนกันเองขายให้กับบริษัทในตระกูล ที่ว่าเป็นคนกัน
เองกับเรนเจอร์พลเอกเก๊กห้าวอวดหญิงไปรายวันก็เนื่องจากน้องชายแท้ๆ ที่ไม่ได้ติด
จริยธรรมอันน่าอ้วกจากท้องพ่อท้องแม่ออกมาด้วย มีคดีปั่นหุ้นคาอยู่ในศาลด้วยกันกับ
คนกันเอง (หมายเลขดำ อ.937/2549) คือร่วมมือกันโกงแมงเม่าด้วยการปั่นหุ้นบริษัท
ตัวเองนั่นเอง หุ้น big lot นี้ ราคาที่ซื้อขายระดับ 20 บาท (138,000,000 หุ้น ที่ราคา
20 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็นในช่วงที่ผ่านมาเกือบสิบบาทซึ่งคูณกับจำนวนแล้ว
จะได้พันล้านพอดี ทั้งที่เป็นหุ้นในกลุ่มก่อสร้างซึ่งตกต่ำในช่วงนี้และไม่มีเหตุผลที่จะมี
ราคาขนาดนี้ และราคาปลายเดือนตุลายังอยู่แค่ประมาณสิบบาท (
www.settrade.com/SIM_History.jsp?txtBrokerId=IPO&txtSymbol=TPIPL) ก็เป็นที่สงสัยกันอยู่ว่าทำ
อะไรกันนี่ หน่วยงานตรวจสอบตาถั่วกันหมดหรือไง
หวังว่าบรรดาเหล่าทหารหาญผู้ยึดมั่นในจริยธรรมคุณธรรมสูงส่ง ช่วยทำเรื่องเหล่านี้
ให้เป็นที่โปร่งใสด้วย และขอให้พวกท่านมาด้วยจริยธรรมและไป(ไกลๆ)ด้วยจริยธรรม