ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
13-02-2025, 14:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ช่อง 5 นำร่องสื่อสาระหลังไพร์มไทม์ ... จุดเริ่มต้นของสื่อเสรี 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ช่อง 5 นำร่องสื่อสาระหลังไพร์มไทม์ ... จุดเริ่มต้นของสื่อเสรี  (อ่าน 1073 ครั้ง)
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 16-11-2006, 09:33 »

ค่ำคืนวันพุธที่แสนเงียบเหงาและว่างเปล่า เมื่อกดรีโมทไปที่ช่อง 5 หลังสี่ทุ่ม อาจจะดูแปลกใจซักนิดหนึ่ง ชายคนหนึ่งที่หลายคนคิดว่า เป็นบุคคล “ต้องห้าม” ในการแสดงออกผ่านทางหน้าจอ ยุคสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้กลับออกมาพูดวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ บนจอฟรีทีวีอย่างหน้าตาเฉย...

เขาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก “สุทธิชัย หยุ่น” นักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศชื่อดังจากค่ายเดอะเนชั่น ในวันนี้เขาเริ่มชิมลางด้วยการเปิดตัวรายการ “เจาะลึก APEC 2006” ซึ่งเกี่ยวกับการวิเคราะห์และรายงานสถานการณ์ การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกที่ประเทศเวียดนาม โดยมีอดีตโฆษกคณะปฏิรูป “มนัส ตั้งสุข” เป็นผู้ดำเนินรายการร่วม

พร้อมส่งทีมข่าวและทีมผลิตรายการของทางค่ายเนชั่น (เข้าใจว่าน่าจะเป็นทีมงานเดียวกับรายการชีพจรโลก) นำโดย “วีณารัตน์ เลาหภคกุล” ออกเดินทางไปยังประเทศเวียดนาม เพื่อเกาะติดเหตุการณ์ นำกลับมารายงานผู้ชมทั้งทางช่อง 5 และทาง Thai TV Global Network เป็นประจำทุกวัน วันละ 15 นาที

หลังรายการของสุทธิชัยจบลง ด้วยความรู้สึกใจชื้น แม้จะมีความรู้สึกเหมือนทานข้าวไม่เต็มอิ่ม รายการดูมีน้อยไปสักนิด สักพักหนึ่งกลับมีรายการที่ชื่อว่า “แด่แผ่นดิน” ซึ่งในรายการมีบุคคลต้องห้ามอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือ “ดร.นิติภูมิ นวรัตน์” เป็นผู้ร่วมรายการ ในคราวนั้นเขาเท้าความถึงเรื่องของสถานการณ์ในประเทศอาเจนตินา หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับนโยบายประชานิยม

ช่อง 5 สถานีโทรทัศน์ของทหาร สื่อที่ถือเป็นช่องแม่ข่าย ถ่ายทอดสัญญาณประกาศและคำสั่ง ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ในค่ำคืนการยึดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

หลังเหตุการณ์รัฐประหารดังกล่าว นอกเหนือจากความเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง มีการเปลี่ยนผู้นำประเทศ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาดูแล และการออกนโยบายที่สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างการปลดล็อกนโยบายรักษาโรค 30 บาทแล้ว “สื่อสารมวลชน” อย่างสื่อกระแสหลักวิทยุ-โทรทัศน์ ก็นับว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย

000

นับจากกรมประชาสัมพันธ์ นอกเหนือจากการให้สิทธิ์ระยะยาวแก่ บริษัท ฟาติมา บอร์ดคาสติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เข้ามาผลิตรายการที่คลื่นวิสด้อม เรดิโอ เอฟเอ็ม 105 โดยมีเถกิง เสริมทรัพย์เป็นผู้ดูแล และพิรุณ ฉัตรวณิชกุล เข้ามาจัดรายการอย่างขยันขันแข็งทุกวันไม่มีวันหยุด หลังจากต้องเว้นวรรคเมื่อ “อากู๋-ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ขอร้องให้ออกจากคลื่นโอเพ่น เรดิโอ

แม้ในระยะแรกๆ อัญชลี ไพรีรัก ที่เคยจัดรายการเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ ทางสถานีต้องให้เธอขอบายเพื่อความปลอดภัย แหล่งข่าวระบุว่า เนื่องจากยังมีคนในระบอบทักษิณ คุมบังเหียนอยู่ในกรมประชาสัมพันธ์ และเธอยังต้องดูแลต้นสังกัดคือค่ายผู้จัดการ ในการเดินสายจัดรายการยังต่างประเทศอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มีการโยกย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ “ดุษฏี เจิมสินสิริ” ไปช่วยราชการ เป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วแต่งตั้ง “ปราโมช รัฐวินิจ” อดีตรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่ถูกโยกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นอธิบดีคนใหม่

โดยปราโมชได้ให้แนวนโยบายการทำงานเอาไว้ว่า ในปีหน้าจะมีการปรับผังรายการ โดยเน้นรายการท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคมากขึ้นเป็นวันละ 6 ชั่วโมง และกำหนดสัดส่วนรายการข่าวสารหน่วยงานรัฐ ข่าวจากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และยังเพิ่มรายการความรู้ด้านประชาธิปไตย ที่สำคัญที่สุด จะเปิดทางให้ผู้ผลิตหน้าใหม่เข้ามาเพื่อป้องกันการผูกขาดในช่อง 11

งานนี้เป้าหมายดิ่งตรงไปยังกลุ่มทุนระบอบทักษิณอย่างที่เห็นชัดเจนก็คือ “ทราฟฟิค คอร์เนอร์” ของเสี่ยแหบ-วิทยา ศุภกรโอภาส บุคคลใกล้ชิดของสุรนันท์ เวชชาชีวะ และ “อาร์เอ็นที เทเลวิชั่น” ของ พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ที่ว่ากันว่าเป็นนอมินีของเจ๊แดง-เยาวภา วงษ์สวัสดิ์ อาจจะถึงขั้นร้อนๆ หนาวๆ จากสัญญาที่หมดลงในช่วงสิ้นปี แม้จะมีหลายธุรกิจแยกย่อยไว้รองรับก็ตาม

ส่วนช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ เมื่อมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ลาออกจากตำแหน่ง ผอ.อสมท. และมีการแต่งตั้งพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร เข้ามาเป็นรักษาการ ผอ.อสมท.ท่ามกลางแรงเสียดทานจากพนักงาน อสมท.ที่เคยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายในบริษัท ต้องออกมาเคลื่อนไหวแต่งชุดดำ ด้วยข้อครหาแบ่งเค้กของผู้จัดรายการข่าว 3 รายใหญ่ๆ แม้จะอธิบายได้ว่า รอง ผอ.อสมท.เป็นคนเสนอขึ้นมา

แต่ผลงานที่ถือเป็นการชิมลางภายใต้คอนเซ็ปต์ “สัมมาปัญญา” กับรายการพิเศษ “วิพากษ์นโยบายรัฐบาล” เมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา คนที่ได้ดูถือเป็นผลงานที่ “เข้าตากรรมการ” ด้วยบรรดานักวิชาการหลายคนที่เคยเป็นขาประจำสมัยรัฐบาลทักษิณ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาลสุรยุทธ โดยที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสอันน้อยนิดที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาบนสื่อสาธารณะ

000

ในวันนี้จะเห็นได้ว่า รายการทางการเมืองเริ่มจะเห็นเด่นชัดในสื่อสาธารณะมากขึ้น ซึ่งรายการเหล่านี้ สามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ในแบบที่ไม่ต้องเชลียร์ใคร ไม่ต้องเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่งเพื่อความอยู่รอด โดยละทิ้งอุดมการณ์และความถูกต้อง ทั้งยังสามารถตรวจสอบการบริหารประเทศของรัฐบาลในแบบที่ประชาชนควรรับรู้ ให้รับทราบอีกทางหนึ่งด้วย

แต่ถึงกระนั้น จุดอ่อนที่สำคัญของรายการเหล่านี้ นอกเหนือจากจุดขายทางการตลาด ที่เอเจนซี่แต่ละรายยังคิดว่าเรตติ้งสู้รายการบันเทิงอื่นๆ ไม่ได้ แม้จะมีจุดเด่นที่ตัวบุคคลก็ตาม สิ่งที่กำลังเป็นปัญหาก็คือ ช่วงเวลาออกอากาศยังกระจัดกระจายเกินไป ไม่ใช่ช่วงเวลาไพร์มไทม์ที่จะต้องต่อสู้กับละครช่อง 3 กับช่อง 7  รวมทั้ง การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามรายการอย่างต่อเนื่องและแน่นอน ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก 

สำคัญที่สุด ประชาชนที่ยังศรัทธากับระบอบทักษิณ หากชมรายการในช่วงแรกๆ อาจจะมองผู้ดำเนินรายการเหล่านั้นด้วยความรู้สึกที่แปลกแยก ทั้งยังอาจจะมีอคติในจิตใจ จนไม่อยากที่จะเปิดใจรับฟัง และให้เวลาในการพิจารณาซึ่งเป็นกระบวนการของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และเรียนรู้ทางปัญญาด้วยตัวเอง ไม่นับในเรื่องรูปแบบรายการที่ประชาชนมองว่าการเมืองเป็นเรื่องน่าเบื่อ ทำอย่างไรที่จะให้รายการทางการเมืองมีสีสันควบคู่ไปกับสาระประโยชน์

สิ่งเหล่านี้ ผู้ที่รับผิดชอบทางด้านสื่อสารมวลชน ควรพึงตระหนักในการทำหน้าที่ และคิดหาวิธีในการใช้สื่อเพื่อทำความเข้าใจในสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน ทั้งยังเข้าถึงจิตใจประชาชน ให้เกิดการพัฒนาทางความคิด และเป็นภูมิคุ้มกันทางการเมือง ที่ทำให้ประชาชนมีวิจารณญาณ ในสถานการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 16-11-2006, 11:00 »

โอ้... ขอบคุณที่มาให้ข้อมูล

ผมเพิ่งรู้ว่าช่อง 5 เริ่มปรับแล้ว.. (ว่าแต่..ปรับนิดเดียว....)


แต่ที่ FM 105 ผมชอบฟัง ช่วงเช้าก็น่าฟังจัดรายการได้ดี
ช่วงเย็นๆมีพิธีกร 2 คน อ่านข่าว มันไปอีกแบบ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2006, 11:44 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Tropico
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 98



« ตอบ #2 เมื่อ: 16-11-2006, 11:41 »

ปกติจะดูเนชั่นตลอด อาทิตย์ที่แล้วแปลกใจเหมือนกัน ลองกดรีโมทไปดูช่อง 5 ช่วง 4 ทุ่มกว่าๆ เจอนิติภูมิกับอาจารย์แก้วสรร รู้สึกจะเป็นรายการ " แด่แผ่นดิน " พูดเรื่องระบอบทักษิณหลายๆเรื่อง กับโครงการตรวจสอบทุจริต ..... ( ไม่ค่อยได้ดูฟรีทีวี มา 1-2 ปี แล้วโดยเฉพาะพวกละคร )
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 16-11-2006, 11:54 »

ข่าวดีครับ ข่าวดี
บันทึกการเข้า

O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #4 เมื่อ: 16-11-2006, 12:58 »

ผมว่าไม่ต้องง้อช่อง 9 หรอกครับเอาเจิมศักดิ์มาอยู่ช่อง 5 ก็ได้หนิครับ
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 16-11-2006, 13:29 »

ที่จริง ช่อง 5 เหนือกว่าช่อง 9

สั่งการได้ทันทีเพราะเป็นช่องทหาร

ผมเคยเสวนาเรื่องช่อง 5 ที่ราชดำเนิน กับคุณ  nongbe เป็นกระทู้ที่น่าจดจำอีกกระทู้หนึ่ง

แต่ตอนหลังเค้าไปทาง ระบอบทักษิณ ซะหมดทั้งใจ หลัง ๆ เลยไม่เคยคุยกันอีก
บันทึกการเข้า

Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #6 เมื่อ: 16-11-2006, 15:07 »

มาช้ายังดีกว่าไม่มาครับ

โปรโมทอีกสักนิด เรตติ้งไปได้แน่

ยี่ห้อ "กาแฟดำ" กับการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศ ขายได้อยู่แล้ว 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 19-11-2006, 00:07 »

ช่วงลุงตุ้ย ชัยสิทธิ์มา ก็เกือบ ๆ เอาช่อง 5 เข้าตลาดหุ้นไปแล้ว

เปลี่ยน ผอ. ช่อง 5 ไป 2-3 คน ในช่วงเวลาติด ๆ กัน ผมละหน่าย

รอดมาได้ก็บุญแล้ว จะว่าไปช่อง 5 นั่นสุดยอดที่สุด แต่คนบริหารทำไม่ดีเอง
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: