พันธมิตรฯ มองคลื่นใต้น้ำอย่างไร?
โดย หมายเหตุผู้จัดการ 17 พฤศจิกายน 2549 15:00 น. เป็นดังที่เราได้คาดหมายไว้ว่ากฎอัยการศึกนั้นแม้สำคัญและจำเป็น แต่ในที่สุดก็ต้องยกเลิกสักวันหนึ่ง เพราะไม่อาจยึดถือเป็นสรณะตลอดไปชั่วกัลปาวสานได้ และวันนั้นก็กำลังใกล้เข้ามาถึงแล้ว
มันใกล้เข้ามาถึงในสถานการณ์ที่คลื่นใต้น้ำและคลื่นบนน้ำกำลังโหมกระเพื่อมแรง และรุมเร้ารัฐบาล ตลอดจน คมช. อย่างหนักหน่วง
ต่อหน้าสถานการณ์เช่นนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตลอดจนประชาชนผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พึงมองสถานการณ์ด้วยท่าทีอย่างไร ตลอดจนควรกำหนดจุดยืนอย่างไร จึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างเร่งด่วน
เหตุนี้จึงควรศึกษาพิจารณาทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้จงดี! ดังนั้นเราจึงเสนอข้อคิดเห็นครั้งนี้ต่อเนื่องจากที่ได้เคยนำเสนอมาโดยลำดับแล้ว เพื่อให้ได้พิจารณาเพิ่มเติมโดยถ้วนหน้ากัน
หลังยึดอำนาจการปกครองจากระบอบทักษิณได้สำเร็จ แม้ว่าโดยธาตุแท้และโดยสถานการณ์รวมได้กำหนดให้คณะปฏิรูปฯ และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตลอดจนประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ต้องจับมือเป็นพันธมิตรกัน
เพื่อถอนรากถอนโคนระบอบเผด็จการทรราช นำความสงบสุขกลับคืนประเทศชาติ และฟื้นฟูบูรณะประเทศให้ร่มเย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรืองสืบไป
แต่น่าเสียดาย มีใครบางคนไม่ได้คิดเช่นนี้ กลับคิดว่าระบอบทักษิณสูญสิ้นไปแล้ว ระแวงว่าพลังประชาชนจะเป็นเสี้ยนหนามและเป็นอุปสรรคของพวกตนในอนาคต จึงกีดกัน กระทั่งระแวง สงสัย และบ่อนทำลายในระดับต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
โบราณว่าสนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในเหล็กฉันใด ความเสื่อมของ คมช. และรัฐบาลหากเกิดขึ้นก็เกิดจากเนื้อในของตนเองฉันนั้น อย่าได้ตำหนิติเตียนหรือโทษผู้อื่นเลย
วันเวลานี้พวกเรากลายเป็นพวกที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สูญเสียผลประโยชน์ หรือไม่ก็ เป็นพวกอกหักที่ไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่ต้องการ ซึ่งเป็นข้อหาเดิม ๆ เช่นเดียวกับที่ระบอบทักษิณเคยกล่าวหาพวกเรา
เราเห็นสถานการณ์ดังกล่าวอย่างแจ่มแจ้งมาระยะหนึ่งแล้ว จึงได้บอกกล่าวให้เพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งปวง ถอยขึ้นบนภูดูเสือกัดกัน เพื่อปกปักษ์รักษาพี่น้องประชาชนให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง
และความจริงก็เป็นดังที่เราได้คาดหมายไว้! ระบอบทักษิณยังไม่ตาย ยังคงดิ้นรนเพื่อฟื้นคืนชีพอย่างต่อเนื่อง อย่างเอาการเอางาน และอย่างกว้างขวาง
ยิ่งสถานการณ์อำนวยเพราะคนมักใหญ่ใฝ่สูงคิดผิด ทำผิด ดำเนินนโยบาย ดึงศัตรูมาเป็นมิตร ผลักมิตรไปเป็นศัตรู จึงเอื้ออำนวยต่อการฟูมฟักและต่อการเติบโตของบรรดาลิ่วล้อทรราชให้ฮึกเหิมลำพองและขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
คนที่มักใหญ่ใฝ่สูง คิดผิดทำผิด และดำเนินนโยบายที่ผิดดังกล่าว คิดไม่ถึงว่าการกระทำนั้นจะทำให้รัฐบาลและ คมช. โดดเดี่ยวลงไปทุกวัน
ชะตาของบ้านเมืองยังดีที่พลเอก เปรม ติณสูลานนท์, พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์, พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน, พลเอก อนุพงศ์ เผ่าจินดา และพลเอก สพรั่ง กัลยาณมิตร เข้าใจเรื่องราวความเป็นมาและสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงได้เพียรพยายามปรับสถานการณ์ให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง
แต่ก็ต้องหนักใจกับคนคิดผิด ทำผิด และดำเนินนโยบายดังกล่าว เพราะดูเหมือนว่าถึงวันนี้แล้วก็ยังไม่สำนึกตัว เพียงแต่เปลี่ยนการดำเนินงานให้ปิดลับซับซ้อนและซ่อนเงื่อนมากขึ้นเท่านั้น
เราเข้าใจสถานการณ์นี้อย่างดียิ่ง และยังคงยืนยันจุดยืนร่วมมือสนับสนุนรัฐบาลและ คมช. ในการฟื้นฟูชาติบ้านเมืองให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติสุขโดยเร็ว
เรายังคงยืนหยัดในจุดยืนที่จะตำหนิติติงคนทำผิดคิดชั่วเป็นรายตัวบุคคล เพื่อไม่ให้ทำผิดคิดร้ายต่อบ้านเมืองและประชาชน โดยที่ไม่กระทบต่อรัฐบาลและ คมช. ในภาพรวม
แต่เราจะไม่ออกไปเผชิญหน้ากับบรรดาเหล่าคลื่นใต้น้ำและเหล่าคลื่นในอากาศ เพราะนั่นคือภาระหน้าที่ของรัฐบาลและ คมช. โดยตรง
ประวัติศาสตร์ได้เตือนเราว่าหากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและบรรดาผู้รักชาติรักประชาธิปไตยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเข้าร่วมในแผนการคัดค้านต่อต้านคลื่นใต้น้ำ หรือการกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแล้ว
เมื่อนั้นมวลชนทั้งสองฝ่ายก็อาจปะทะกัน แล้วกลุ่มคนที่มีความคิดชั่วร้ายมักใหญ่ใฝ่สูงก็อาจฉวยโอกาสปราบปรามมวลชนทั้งสองฝ่ายก็เป็นได้ เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง
ฝูงแรกคือทำลายบรรดารากหญ้ารากแก้วและเครือข่ายลิ่วล้อทรราชไม่ให้ฟื้นคืนชีพได้อีกต่อไป
ฝูงต่อมาคือบรรดาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ไม่ให้มีกำลังวังชาที่จะเป็นเสี้ยนหนามขัดขวางแผนการร้ายในอนาคต
นี่คือเหตุผลที่พวกเราต้องวางเฉยต่อการก่อตัวและการเคลื่อนไหวของคลื่นใต้น้ำทั้งปวง แต่ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหญ่ที่ต้องร่วมมือกับรัฐบาล คมช. ต่อสู้กับการฟื้นคืนชีพของเผด็จการทรราช เรายังคงต้องร่วมมือในการเป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวคราวเบาะแสต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองให้รัฐบาลและ คมช. ทราบ เพื่อป้องกันปัญหาได้ทันท่วงที
เพราะนับแต่นี้ไปคลื่นใต้น้ำจะถาโถมโหมกระหน่ำเข้าสู่ฝั่งรัฐบาลและ คมช. หนักหน่วงและรุนแรงยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ ประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยจะต้องรวมกำลังตั้งมั่นเตรียมความพร้อมทุกเมื่อ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และต้องพร้อมที่จะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ให้บรรดาทรราชกระทำย่ำยีได้เป็นอันขาด
ประชาชนเราต้องระวังการเคลื่อนไหวและท่าทีทั้งปวงที่จะก่อให้เกิดผลดีต่อการฟื้นคืนชีพของเผด็จการทรราช จะต้องไม่กระทำการใดที่เอื้อประโยชน์ให้กับการคืนชีพของระบอบทักษิณเป็นอันขาด
เราสนับสนุนร่วมมือกับรัฐบาลและ คมช. แต่คัดค้านต่อต้านบางคนที่ทำผิดคิดชั่ว โดยต้องระวังไม่ให้เอื้อประโยชน์ต่อการฟื้นคืนชีพของระบอบทักษิณ
เราขอเตือนกลุ่ม เซนต์ 6411 ว่าเราติดตามการกระทำและพฤติกรรมของพวกท่านอยู่อย่างใกล้ชิด และขอเตือนรัฐบาล รวมทั้ง คมช. ให้จับตากลุ่มนี้เอาไว้บ้างก็จะดี!
นี่คือวิถีทางเดียวและเป็นวิถีทางที่ถูกต้องที่ประชาชนเราจะป้องกันชีวิตและทรัพย์สินให้รอดปลอดภัย และทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคง มีความสงบสันติ อันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000142167