"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"เปิดฉากเพิ่มอำนาจภาคประชาชนต่อรองกำหนดสิทธิเสรีภาพในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ระบุ"คมช." ยังไม่เห็นการจัดการกับระบอบทักษิณได้
ห้องมาลัยคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จัดงานเสวนาสมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง (สปป.) โดยมีนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด พันธมิตรภาคเหนือ น.ส.ดุจหทัย นาวาพานิช พันธมิตรภาคประวันออก นายสมภพ บุญนาค พันธมิตรภาคอีสาน นายเอกชัย อิสระทะ พันธมิตรภาคใต้ นายศิริชัย ไม้งาม เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐสาหกิจ น.ส.วิลาวรรณ แซ่เตีย กรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ร่วมเสวนานายพิภพ ธงไชย ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เป็นประธานกล่าวเปิดการเสวนาตอนหนึ่งว่า บทบาทของพันธมิตรภาคประชาชนมีพันธกิจคือ เพิ่มอำนาจภาคประชาชน ลดอำนาจภาครัฐ การเพิ่มอำนาจภาคประชาชนไม่ใช่แบบนักการเมืองทั่วไป
แต่ต้องทำให้ประชาชนมีอำนาจในการต่อรองกำหนดสิทธิเสรีภาพในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการกำหนดการดำเนินชีวิตของตัวเองในหลายมิติ ไม่ใช่เฉพาะด้านกาเมืองเท่านั้น จะต้องเพิ่มความคิดและความเข้มแข็งในทางปัญญาให้กับประชาชน เพราะที่ผ่านมาประชาชนระดับรากหญ้าถูกกล่าวหาว่านโยบายของพรรคการเมืองชักจูงประชาชนให้ลุ่มหลง โดยที่นโยบายเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ใดต่อวิถีชีวิตตัวเองเลย
นายสุริยันต์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้อีกไม่กี่วันจะครบ 2 เดือนที่คมช.เข้ามาทำงานตามพันธกิจ 4 ข้อ แต่ยังไม่เห็นคณะกรรมการ คมช.จะทำอะไรที่จะแก้ไขปัญหา เพราะยังเห็นว่าบริวารของระบอบทักษิณอยู่เย็นเป็นสุข มีการดำเนินการต่อท่อตามน้ำของระบอบทักษิณ และมีมหกรรมวางยาขนานใหญ่ โดยเฉพาะงานพืชสวนโลก ภาษาเหนือเรียกว่า "หมูบุ่นหมาล่นลัก" หมายถึงหมูจะเป็นใครก็ตามที่ทำโครงการไว้แล้ว ก็มีหมาวิ่งไปกินเลย เพราะฉะนั้นอาจจะกลายเป็นความเสื่อมของคมช.และอาจจะแปลได้ว่าคมช. คือ "คนไม่เชียร์ไม่ชอบแล้ว"
นายสุริยันต์กล่าวต่อว่า คมช.และรัฐบาลชุดนี้ไม่มีการเชื่อมโยงกับการทำงานภาคประชาชน อย่างกรณีที่พล.อ.สุรยุทธ์ไปจ.ลำปางเมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา มีตัวแทนเกษตรกรไปยื่นหนังสือให้แก้ไขเรื่องที่ทำกิน แต่ไม่มีใครออกมารับหนังสือ ขณะที่ยุคของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลดีๆชั่วๆ แต่ยังมีตัวแทนออกมารับหนังสือ และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหา
น.ส.วิไลวรรณกล่าวว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ใช่ตัวแทนภาคประชาชนอย่างแท้จริง การปฏิรูปการเมืองโดยเฉพาะในการร่างรัฐธรรมนูญควรทำให้ภาคประชาชนและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่านี้ นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้ยกเลิกการกำหนดวุฒิการศึกษาในการสมัคร ส.ส. และส.ว. เพราะเท่ากับจำกัดสิทธิของคนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนยากจน มีประสบการณ์แต่ไม่มีปริญญาตรี และขอให้ผู้ใช้แรงงานมีสิทธิ์ใช้สิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่ที่ตัวเองทำงาน รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรสนับสนุนให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ ตลอดจนสิทธิเสรีภาพทางด้านแรงงานควรได้รับการคุ้มครองจากรัฐ
นายศิริชัยกล่าวว่า รัฐบาลใช้รัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวย การเคหะ กองทุนหมู่บ้าน การพักหนี้เกษตรกร เมื่อต้องใช้รัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือจึงต้องส่งคนของตัวเองไปในนั่งเป็นบอร์ด
อย่างยุคพ.ต.ท.ทักษิณก็ส่งตำรวจไปนั่งเป็นบอร์ดมาวันนี้ทหารมีอำนาจก็ส่งทหารเข้าไปนั่งเป็นบอร์ด ถ้าเข้าไปนั่งในตำแหน่งในจำนวนที่เหมาะสม ก็พอรับได้ แต่บางแห่งส่งทหารเข้าไปบอร์ดถึง 4 คนถือว่ามากเกินความเป็นจำเป็น ขอเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนการพิจารณาบอร์ดในรัฐวิสาหกิจ โดยควรนำนักวิชาการด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมเป็นกรรมการ
"เหตุที่เราเคลื่อนไหวไม่ได้หมายความว่าต้องการประธานสหภาพแรงงานเข้าไปร่วมเป็นบอร์ด แต่บอร์ดนั้นควรเป็นคนที่สหภาพเห็นชอบ เพราะการทำงานของบอร์ดส่งผลกระทบต่อสหภาพ และขอเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับภาคประชาชน"
http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_120512.jsp