ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
10-07-2025, 02:04
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ถ้าหากเหลี่ยมและทรท.มีความผิดตามคำพิพากษาของศาล พวกที่หลงผิดจะรับผิดชอบอย่างไร? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ถ้าหากเหลี่ยมและทรท.มีความผิดตามคำพิพากษาของศาล พวกที่หลงผิดจะรับผิดชอบอย่างไร?  (อ่าน 1455 ครั้ง)
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« เมื่อ: 10-11-2006, 17:32 »


ผมสงสัยมานาน พวกที่ปกป้องเหลี่ยมและทรท.มาตลอด ทำให้กระบวนการยุติธรรมเกิดการติดขัด

ทำงานไม่ได้ เช่น ล่าช้าเลือกปฏิบัติ ตั้งแต่ขั้นเจ้าพนักงานตำรวจ กกต. อัยการ ปปช. คตง. สตง. ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม

จนครั้งสุดท้าย 3หนา ต้องคำพิพากษา ไปแล้ว มาจนถึงการพยายามจัดม็อบชนม็อบของสมุนกลุ่มจัดตั้งทางการเมือง

รายละเอียดข้อข้ามครับ ประเด็นอยู่ที่ว่าพวกนี้ ยังหวังว่าเหลี่ยมไม่ผิด ทั้งที่3หนามีความผิดไปแล้ว กฎหมายหลายฉบับไม่ผ่านโดยคำสั่งศาล

ถูกตีกลับเพราะความบกพร่องรีบร้อน ฯลฯ
พวกที่สนับสนุนเหลี่ยมก็แค่เปลี่ยนชื่อ เพิ่มชื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง แบบนี้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองอะไรกันได้บ้าง?

           


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006, 17:37 โดย Q » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 10-11-2006, 17:33 »



ผมสงสัยมานาน พวกที่ปกป้องเหลี่ยมและทรท.มาตลอด ทำให้กระบวนการยุติธรรมเกิดการติดขัด

ทำงานไม่ได้ เช่น ล่าช้าเลือกปฏิบัติ ตั้งแต่ขั้นเจ้าพนักงานตำรวจ กกต. อัยการ ปปช. คตง. สตง. ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม

จนครั้งสุดท้าย 3หนา ต้องคำพิพากษา ไปแล้ว มาจนถึงการพยายามจัดม็อบชนม็อบของสมุนกลุ่มจัดตั้งทางการเมือง

รายละเอียดขอข้ามครับ ประเด็นอยู่ที่ว่าพวกนี้ ยังหวังว่าเหลี่ยมไม่ผิด ทั้งที่3หนามีความผิดไปแล้ว กฎหมายหลายฉบับไม่ผ่านโดยคำสั่งศาล

ถูกตีกลับเพราะความบกพร่องรีบร้อน ฯลฯ
พวกที่สนับสนุนเหลี่ยมก็แค่เปลี่ยนชื่อ เพิ่มชื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง แบบนี้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองอะไรกันได้บ้าง?

           




อย่างพิเภก ไปปั่นกระทู้อยู่เว็บ WOM  เต้าข่าวเห็นชัด  คิลเลอร์  SKY เตมูจิน(หมื่นปี) และก็อีกหลายคนที่เราคุ้นหน้ากันที่นี่..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006, 17:39 โดย Q » บันทึกการเข้า

อมพระมาพูด
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 918


สนิมเกิดแต่เนื้อในตน


« ตอบ #2 เมื่อ: 10-11-2006, 17:36 »

 

"รับชอบ" อย่างเดียวคับ "รับผิด" ไม่มีอยู่ในหัวอยู่แล้ว แค่บกพร่องโดยสุจริตเท่านั้นแร่ะคับ !! ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 10-11-2006, 17:40 »

จะรับผิดชอบโดยการ

โบ้ยว่าศาลลำเอียง ศาลรับเงินสินบน

เหมือนที่เคยทำมา...

ตถตา... มันเป็นเช่นนี้แล...
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 10-11-2006, 17:42 »



"รับชอบ" อย่างเดียวคับ "รับผิด" ไม่มีอยู่ในหัวอยู่แล้ว แค่บกพร่องโดยสุจริตเท่านั้นแร่ะคับ !! ฮ่า ฮ่า


ผมจะรอดูว่าฟากขะโน้น รวมทั้งลิ่วล้อ แม่ยก และก็พวกกระเทียม จะไม่ตรวจสอบกันเองบ้างหรือ?? 555....
บันทึกการเข้า

type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #5 เมื่อ: 10-11-2006, 17:42 »

ผิดก็ผิดไงครับผิดรับโทษไปตาม กฎหมายไป
แต่ตอนนี้ หาข้อกล่าวหาไปยื่นฟ้องศาลก่อนครับใกล้จะสองเดือนแล้ว

เออว่าแต่ ถ้า เอาผิดแม้วไม่ได้นี่ พวกที่ไปไล่เขานี่จะรับผิดชอบอย่างไร
บันทึกการเข้า
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 10-11-2006, 17:45 »

ผิดก็ผิดไงครับผิดรับโทษไปตาม กฎหมายไป
แต่ตอนนี้ หาข้อกล่าวหาไปยื่นฟ้องศาลก่อนครับใกล้จะสองเดือนแล้ว

เออว่าแต่ ถ้า เอาผิดแม้วไม่ได้นี่ พวกที่ไปไล่เขานี่จะรับผิดชอบอย่างไร

พฤติกรรมเก่าของพรรคพวกคุณมันฟ้อง
ยอมรับคำตัดสินเฉพาะที่ตนเองได้ประโยชน์
ถ้าตนเองเสียเปรียบจะบอกว่าศาลลำเอียงทันที..
บันทึกการเข้า

1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #7 เมื่อ: 10-11-2006, 17:46 »

เต็มที่ก็คงเปลี่ยนชื่อล็อกอิน ไม่ก็แถไถไปเรื่อย
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 10-11-2006, 17:47 »

จะรับผิดชอบโดยการ

โบ้ยว่าศาลลำเอียง ศาลรับเงินสินบน

เหมือนที่เคยทำมา...

ตถตา... มันเป็นเช่นนี้แล...


ไม่อยากจะพูดว่าพวกนี้กล่าวหาละเมิดศาลโดยไม่ได้ดูหลักฐาน และสำนวนคำพิพากษาอย่างละเอียดด้วยซ้ำ ต่างจากคราวซุกหุ้นหนึ่งอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

เรื่องของสนธิก็เช่นกัน ต่างจากตอนที่สนธิยกหางเหลี่ยม อย่างกับเป็นคนละคน เวลาผ่านมาไม่นาน บางกรณีอาจจะต้องว่ากันเป็นหลักนาทีหรือชั่วโมงด้วยซ้ำไปครับ...


บันทึกการเข้า

type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #9 เมื่อ: 10-11-2006, 17:51 »

ผิดก็ผิดไงครับผิดรับโทษไปตาม กฎหมายไป
แต่ตอนนี้ หาข้อกล่าวหาไปยื่นฟ้องศาลก่อนครับใกล้จะสองเดือนแล้ว

เออว่าแต่ ถ้า เอาผิดแม้วไม่ได้นี่ พวกที่ไปไล่เขานี่จะรับผิดชอบอย่างไร

พฤติกรรมเก่าของพรรคพวกคุณมันฟ้อง
ยอมรับคำตัดสินเฉพาะที่ตนเองได้ประโยชน์
ถ้าตนเองเสียเปรียบจะบอกว่าศาลลำเอียงทันที..

ผมยังไม่เห็นพรรคไทยรักไทยออกมาพูดซักทีว่าศาลลำเอียง 
ไฟฟ้าไม่ผ่าน เขาก็บอกว่ารีบไปหน่อยเลยผิดพลาดทางเทคนิค
ไม่เห็นว่าจะบอกว่าศาลลำเอียงเลยครับ
แต่ อ่า.....แล้วที่ศาลบอกว่าบกพร่องโดยสุจริตนี่
อ่า    ......  ...   
ผมก็ไม่เห็นพรรคไทยรักไทยว่าไงนี่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006, 17:55 โดย type » บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 10-11-2006, 17:53 »

ผิดก็ผิดไงครับผิดรับโทษไปตาม กฎหมายไป
แต่ตอนนี้ หาข้อกล่าวหาไปยื่นฟ้องศาลก่อนครับใกล้จะสองเดือนแล้ว

เออว่าแต่ ถ้า เอาผิดแม้วไม่ได้นี่ พวกที่ไปไล่เขานี่จะรับผิดชอบอย่างไร

จำกรณีเหลี่ยม ม.8 ที่มีชัยว่าไว้ไม่ได้เหรอ???? มีชัยนี่ก็อีกราย เวลาเชียร์เหลี่ยมนี่ หึหึ

ยังมีวิษณุ และบวรศักดิ์ และคนอื่นๆอีกมากครับ..เขาถอนตัวกันหมดแล้ว สงสัยว่าเชื่อเหลี่ยมคนเดียว

ไม่ใช่ลิ่วล้อหรือทาสให้เรียกว่าอะไรดีครับ??

                                                                 
                                                                     
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 10-11-2006, 17:57 »

ผิดก็ผิดไงครับผิดรับโทษไปตาม กฎหมายไป
แต่ตอนนี้ หาข้อกล่าวหาไปยื่นฟ้องศาลก่อนครับใกล้จะสองเดือนแล้ว

เออว่าแต่ ถ้า เอาผิดแม้วไม่ได้นี่ พวกที่ไปไล่เขานี่จะรับผิดชอบอย่างไร

พฤติกรรมเก่าของพรรคพวกคุณมันฟ้อง
ยอมรับคำตัดสินเฉพาะที่ตนเองได้ประโยชน์
ถ้าตนเองเสียเปรียบจะบอกว่าศาลลำเอียงทันที..

ผมยังไม่เห็นพรรคไทยรักไทยออกมาพูดซักทีว่าศาลลำเอียง 
ไฟฟ้าไม่ผ่าน เขาก็บอกว่ารีบไปหน่อยเลยผิดพลาดทางเทคนิค
ไม่เห็นว่าจะบอกว่าศาลลำเอียงเลยครับ

ไปดูกระทู้เก่าราชดำเนินสิครับ ละเมิดศาลกันให้ขรมกันไปหมด
ขนาดสมัครยังเงียบไปแล้วตอนนี้ ผมก็แปลกใจว่าอุดมการ์ณแรงกล้าอะไรกันขนาดนี้ทุกคนเลยเหรอ หรือวิ่งตามใคร??
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006, 18:00 โดย Q » บันทึกการเข้า

type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #12 เมื่อ: 10-11-2006, 18:02 »

ผิดก็ผิดไงครับผิดรับโทษไปตาม กฎหมายไป
แต่ตอนนี้ หาข้อกล่าวหาไปยื่นฟ้องศาลก่อนครับใกล้จะสองเดือนแล้ว

เออว่าแต่ ถ้า เอาผิดแม้วไม่ได้นี่ พวกที่ไปไล่เขานี่จะรับผิดชอบอย่างไร

จำกรณีเหลี่ยม ม.8 ที่มีชัยว่าไว้ไม่ได้เหรอ???? มีชัยนี่ก็อีกราย เวลาเชียร์เหลี่ยมนี่ หึหึ

ยังมีวิษณุ และบวรศักดิ์ และคนอื่นๆอีกมากครับ..เขาถอนตัวกันหมดแล้ว สงสัยว่าเชื่อเหลี่ยมคนเดียว

ไม่ใช่ลิ่วล้อหรือทาสให้เรียกว่าอะไรดีครับ??

                                                                 
                                                                     

ม.8 มีชัยว่าไว้ไงเหรอครับ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ (ม.8นี่มาแนวฮาเท่ามุข ม.7ป่าวครับ)
แต่ก็อ่านะ  ถ้ารู้ว่าผิดก็ไปยื่นฟ้องเลยครับ ผมหนับหนุนด้วยนะ

---อ่ะที่ศาลนั่นเขาไปให้กำลังใจ  กกต.นี่ ไม่เกี่ยวกับ ทรท.
---เออเอ้า เรื่อป๋าหมัก ก็รู้ๆตอนนี้กฎอัยการศึกยังไม่ประกาศยกเลิกเลย
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 10-11-2006, 18:10 »


ช่วงแรกๆเห็นบอกจะโนโหวต ถ้าไม่ใช่ทรท. ผมว่าไม่มีน้ำใจ ว่าแต่เขา เป็นเสียเอง

สมัยซุกหุ้นภาคแรก ฝ่ายอื่นๆ ยังให้โอกาสทำงานมาตั้ง5-6ปี ตอนนี้รัฐบาลปัจจุบัน

ทำงานมาไม่นาน จะหาเรื่องเขาให้ได้ แปลกดี... เรื่องรัฐประหาร ถ้าบ้านเมืองแตกแยกรุนแรง

มีการใช้กำลังกัน แบบที่ทำร้ายผู้ประท้วงหญิงและคนแก่ ยังไงก็หนีไม่พ้น..

...........

กรณีม.8 เขากำลังจะดำเนินคดีเหลี่ยมอยู่ไง? ไว้ไปค้นหารายละเอียดมาอีกที ถ้าว่างนะ อิอิ รอดู รอฟัง ศาลก่อนไม่ดีกว่าเหรอ 
บันทึกการเข้า

type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #14 เมื่อ: 10-11-2006, 18:18 »

โถ....เรื่องรัฐประหาร  แล้ว ใยกลัวอะไรกับคลื่นใต้น้ำ บ้านเมืองไม่ได้แตกแยกจะกลัวทามมาย 
ซุกหุ้นผิดก็ปายฟ้องครับ  ม.8 อะไรนั่น จะรอฟงศาลก็รอครับ
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 10-11-2006, 18:19 »

อ่านรัฐธรรมนูญ 2540 ไปก่อน

http://www.senate.go.th/web-senate/Senate/maincons.htm
http://www.senate.go.th/web-senate/Senate/cons.htm#2

หมวด ๑

บททั่วไป

________

 

มาตรา ๑  ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้

 

มาตรา ๒  ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

มาตรา ๓  อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้

 

มาตรา ๔  ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง

 

มาตรา ๕  ประชาชนชาวไทยไม่ว่าเหล่ากำเนิด เพศ หรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน

 

มาตรา ๖  รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้ บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้

 

มาตรา ๗  ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

 

 

 

 

หมวด ๒

พระมหากษัตริย์

________

 

มาตรา ๘  องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้

ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้

 

มาตรา ๙  พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก

 

มาตรา ๑๐  พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย

 

มาตรา ๑๑  พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะสถาปนาฐานันดรศักดิ์และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

 

มาตรา ๑๒  พระมหากษัตริย์ทรงเลือกและทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรีคนหนึ่งและองคมนตรีอื่นอีกไม่เกินสิบแปดคนประกอบเป็นคณะองคมนตรี

คณะองคมนตรีมีหน้าที่ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษา และมีหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญนี้

 

มาตรา ๑๓  การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรีหรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้เห็นไปตามพระราชอัธยาศัย

ให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานองคมนตรีหรือให้ประธานองคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง

ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งองคมนตรีอื่นหรือให้องคมนตรีอื่นพ้นจากตำแหน่ง

 

มาตรา ๑๔  องคมนตรีต้องไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือสมาชิกหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง และต้องไม่แสดงการฝักใฝ่ในพรรคการเมืองใด ๆ

 

มาตรา ๑๕  ก่อนเข้ารับหน้าที่ องคมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้

“ข้าพระพุทธเจ้า(ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

 

มาตรา ๑๖  องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งเมื่อตาย ลาออก หรือมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง

 

มาตรา ๑๗  การแต่งตั้งและการให้ข้าราชการในพระองค์และสมุหราชองครักษ์พ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย

 

มาตรา ๑๘  ในเมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือจะทรงบริหารพระราชภาระไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม จะได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

 

มาตรา ๑๙  ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา ๑๘ หรือในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่สามารถทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพราะยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะหรือเพราะเหตุอื่น ให้คณะองคมนตรีเสนอชื่อผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาประกาศในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ แต่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง

 

มาตรา ๒๐  ในระหว่างที่ไม่มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

ในระหว่างที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่ง หรือในระหว่างที่ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคสอง ประธานองคมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นประธานองคมนตรีมิได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

 

มาตรา ๒๑  ก่อนเข้ารับหน้าที่ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมรัฐสภาด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้

“ข้าพเจ้า(ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ (พระปรมาภิไธย) และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาตามมาตรานี้

 

มาตรา ๒๒  ภายใต้บังคับมาตรา ๒๓ การสืบราชสมบัติให้เป็นไปโดยนัยแห่งกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗

การแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ เมื่อมีพระราชดำริประการใด ให้คณะองคมนตรีจัดทำร่างกฎมณเฑียรบาลแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลเดิม ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อมีพระราชวินิจฉัย เมื่อทรงเห็นชอบและทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ให้ประธานองคมนตรีดำเนินการแจ้งประธานรัฐสภาเพื่อให้ประธานรัฐสภาแจ้งให้รัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับเป็นกฎหมายได้

ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการรับทราบตามวรรคสอง

 

มาตรา ๒๓  ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบและให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ

ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะองคมนตรีเสนอพระนามผู้สืบราชสันตติวงศ์ตามมาตรา ๒๒ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อรัฐสภาเพื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ในการนี้ จะเสนอพระนามพระราชธิดาก็ได้ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ

ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการรับทราบตามวรรคหนึ่งหรือให้ความเห็นชอบตามวรรคสอง

 

มาตรา ๒๔  ในระหว่างที่ยังไม่มีประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามมาตรา ๒๓ ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน แต่ในกรณีที่ราชบัลลังก์ว่างลงในระหว่างที่ได้แต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไว้ตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ หรือระหว่างเวลาที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง ให้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นั้น ๆ แล้วแต่กรณี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไป  ทั้งนี้ จนกว่าจะได้ประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์

ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งไว้และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไปตามวรรคหนึ่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

ในกรณีที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่ง หรือทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวตามวรรคสอง ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๐ วรรคสาม มาใช้บังคับ

 

มาตรา ๒๕  ในกรณีที่คณะองคมนตรีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๓ วรรคสอง หรือประธานองคมนตรีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือมาตรา ๒๔ วรรคสอง และอยู่ในระหว่างที่ไม่มีประธานองคมนตรีหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะองคมนตรีที่เหลืออยู่เลือกองคมนตรีคนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ประธานองคมนตรี หรือปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือตามมาตรา ๒๔ วรรคสาม แล้วแต่กรณี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006, 18:21 โดย Q » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 10-11-2006, 18:31 »

ปชป. เย้ยลิ่วล้อ รบ. เลิกแก้ต่างแทน "แม้ว"

http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=16690

 
ปชป. เย้ยลิ่วล้อ รบ. เลิกแก้ต่างแทน "แม้ว"

วันที่ 06 ก.ค. 2549


ปชป. เย้ยลิ่วล้อรัฐบาลเลิกแก้ต่างแทน "แม้ว" ชี้มาตรา7 ไม่ใช่ความผิดเตือนระวัง "แม้วม.8" ดีกว่า


ความเคลื่อนไหวพรรคประชาธิปัตย์ กรณีอัยการสูงสุดส่งเรื่องยุบพรรคไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ (6 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ  คล้ามไพบูลย์  โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  แถลงข่าวภายหลังการประชุมแกนนำและทีมกฎหมายของพรรคว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่ปราฎตามข่าว ข้อกล่าวหา 3 ข้อ ทางพรรคมั่นใจว่าสามารถชี้แจง และหลุดพ้นจากการถูกยุบพรรคได้

เมื่อถามว่าการที่นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ผู้มีบารมีอยู่นอกรัฐธรรมนูญ คือผู้ที่ต้องการใช้มาตรา 7 เพราะต้องการเบี่ยงเบนเป้าหมายที่พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายองอาจ กล่าวว่า คิดว่าลิ่วล้อในรัฐบาลควรจะยุติบทบาทในการบิดเบือนคำพูด และนำคำพูดนั้นไปใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น เพราะวันนี้ชัดเจนว่า เรื่องมาตรา 7 ไม่ใช่เรื่องความผิดใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรื่องที่ควรระมัดระวังมากกว่าคือเรื่องแม้วมาตรา 8 ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ได้เขียนบทความไว้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้คำพูดที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นครั้งแรกของนายกฯ เพราะเคยใช้วาจาทำให้เกิดวิกฤตการเมืองทำให้เกิดความแตกแยกขัดแย้งกันในสังคม และอาจนำไปสู่การปะทะกันอยู่ตลอดเวลา

"ผมมองว่าก่อนที่นายกฯ จะสอนข้าราชการให้เคารพกติกาควรจะสอบตัวเองก่อน และควรถามตัวเองว่าตลอด 4-5 ปีที่เป็นผู้นำรัฐบาลท่านเคารพกติกาอย่างจริงจังหรือไม่ มีความพยายามที่จะอาศัยช่องโหว่ของกติกาเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องใช่หรือไม่" นายองอาจ กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกฯควรพิจารณาว่าตัวนายกฯ เองคือตัวปัญหาส่วนหนึ่งทางการเมืองในขณะนี้ และที่นายกฯบอกว่าถูกเล่นงานหนัก เพราะเปลี่ยนแปลงประเทศ จนมีผู้เสียประโยชน์ ความจริงแล้ว 4-5 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมาก คือการหาประโยชน์ จากเดิมที่การทุจริตกินอิฐ กินหิน กินดินทราย มาเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย และผลประโยชน์ทับซ้อน โดยผู้ที่ได้ประโยชน์ คือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดรอบๆ ตัวผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองนี้ทั้งสิ้น ดังนั้นวันนี้ผู้ที่จุดชนวนทำให้บ้านเมืองวุ่นวายก็คือตัวนายกฯ 
 


.....มติชน
 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 10-11-2006, 18:46 »



ความคิดเสรีของมีชัย      http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=3&action=view&mcid=56&type=9
 

ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี
ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี[1]
มีชัย ฤชุพันธุ์

 

 ตลอดระยะเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เคยมีการประชุมข้าราชการระดับสูงมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนการประชุมเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ จะเป็นครั้งเดียวที่เขียนมาอ่าน  ซึ่งน่าจะต้องแปลว่าท่านได้ไตร่ตรองและระดมมันสมองที่อยู่ใกล้ตัวมาอย่างรอบคอบแล้ว ว่าต้องการสื่อให้ตรงตามที่คิดไว้ทุกประการ

            การเริ่มต้นด้วยการอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ มากล่าวเพื่อชักจูงใจให้ข้าราชการที่อยู่กันพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นั้นให้ปฏิบัติตาม นับว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม โดยเฉพาะพระราชดำรัสประการแรก ที่ว่า

 “การที่ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน และประการที่สาม ที่ว่า “การที่ทุกคนประพฤติ ปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต ในกฎ กติกา และในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมเสมอกัน”

          ท่านนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ข้าราชการนำพระราชดำรัสดังกล่าวใส่เกล้าใส่กระหม่อม

            แต่ข้อความในแต่ละตอนที่ท่านกล่าวในวันนั้น ดังจะได้นำมาแสดงให้เห็นดังต่อไปนี้ ดูเหมือนจะส่งผลตรงกันข้ามกับพระราชดำรัสที่ท่านขอให้ข้าราชการใส่เกล้าใส่กระหม่อม

-          “วันนี้องค์กรนอกรัฐธรรมนูญไม่ใช่ในรัฐธรรมนูญ คือบุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป มีการไม่เคารพกติกา”

-          “บางคนยังเข้าใจว่าตัวเองมีความสำคัญมากกว่าคนจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเสียงของตัวเองต้องดังและมีความหมายกว่าเสียงของคนอื่น ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน”

-          “มีคนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีมาตรา ๗ ทั้ง ๆ ที่มีพระราชดำรัสรับสั่งออกมาแล้วว่ามาตรา ๗ นั้นไม่เป็นประชาธิปไตย เลยทำให้วุ่นวายกัน”

-          ตอนท่านรองนายกรัฐมนตรีวิษณุ เครืองาม ท่านเลขาธิการคณะรัฐมนตรีบวรศักดิ์ อุวรรณโณ มาขอลาออก ก็ยังพูดกับผมถึงเรื่องแรงจูงใจที่มีคนมาขอให้ออก”

-          “บางองค์กรหัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรตัวเองเสีย เพื่อที่จะทำตามนโยบายผู้ที่ร้องขอบางราย”

-          “ท่านทำหน้าที่ของท่านไปตรงนั้น นั่นคือ ธง ไม่ต้องรออีกธงหนึ่งเลย ธงเดียว และใครมาแอบสั่งราชการ อย่าปฏิบัติ เพราะหน้าที่ของท่านทำตามนั้นแล้ว คนที่จะสั่งราชการของท่านคือผู้บังคับบัญชาโดยตรง ประเภทแอบสั่งราชการนั้นผมขอร้องทั้งคนแอบสั่งและคนปฏิบัติ”

-          ผมจะไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยโดยเด็ดขาด ผมจะขอปกป้องประชาธิปไตยของชาติ....ใครก็แล้วแต่จะนำพาประเทศถอยหลังเข้าคลองโดยทิ้งประชาธิปไตย ผมไม่ยอม ขอย้ำอีกครั้งว่าผมจะปกป้องประชาธิปไตยด้วยชีวิต”

 

ในระหว่างที่ท่านนายกรัฐมนตรีอารมณ์ดี ๆ ลองอ่านทบทวนข้อความดังกล่าว (ซึ่งเพื่อให้เกิดความถูกต้องอย่างแท้จริง ผมได้คัดจากสำเนาคำกล่าวของท่านโดยมิได้ลอกจากหนังสือพิมพ์ ) ท่านจะตระหนักได้ดีว่า มิได้มีสิ่งใดที่จะแสดงให้เห็นถึง “ความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญ” ต่อกันเลย ทั้งยังไม่อาจกล่าวได้ว่า อยู่ในความสุจริต ในกฎ กติกา และในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมเสมอกัน

เมื่อมีคนไปถามท่านว่าท่านหมายถึงใครที่มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแล้วเข้ามาวุ่นวายในองค์กรต่าง ๆ  ท่านไม่ตอบแต่กลับจะร้องเพลงให้ฟัง

เมื่อท่านไม่ตอบจึงเป็นธรรมดาที่สื่อมวลชนและผู้คนทั่วไปจะแปลกันไปต่าง ๆ นานา 

เมื่อคนทั้งประเทศเชื่อกันว่าคนที่มีบารมีมากที่สุดและเป็นที่รักของคนทุกคน ก็คือ พระเจ้าอยู่หัว  ส่วนคนที่เคยอยู่ในแวดวงการเมืองที่มีบารมีและคนยังเคารพนับถือ ก็คือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งบัดนี้ท่านก็พ้นจากแวดวงการเมืองไปดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี อันเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้ชิดพระเจ้าอยู่หัว

ประชาชนที่เป็นคนไทยล้วนต่างเคารพ รัก และเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัวอย่างไร ท่านนายกรัฐมนตรีย่อมประจักษ์แก่ใจดี จากภาพที่ปรากฏในช่วงเวลาที่มีการเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ ๖๐ ปี

ประชาชนจึงไม่อยากให้อะไรที่อึมครึมมาระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทได้

เขาจึงเพียรพยายามขอให้นายกรัฐมนตรีออกมาระบุให้ชัดเจนว่าท่านหมายถึงใคร 

ในส่วนตัวของผมไม่คิดว่าใครก็ตามที่เขียนคำกล่าวให้ท่านนายกรัฐมนตรีอ่านในวันนั้นจะบังอาจ เหิมเกริม หรือเลวร้าย ถึงขนาดที่จะเขียนให้นายกพูดอะไรให้มีความหมายไปในทางที่คนเขาสงสัยกันได้

แต่เขาก็สะเพร่าหรือจงใจทำให้นายกรัฐมนตรีตกอยู่ในฐานะเป็นที่คลางแคลงใจของผู้คนได้  โดยเฉพาะความที่เขาเขียนให้ท่านอ่านถึงระบอบประชาธิปไตย  ท่านลองย้อนกลับไปดูเถอะว่า เขาจงใจใช้คำว่า “ประชาธิปไตย” ห้วน ๆ ในทุกแห่ง ทั้ง ๆ ที่เราเรียนรู้กันมาแต่อ้อนแต่ออกว่าระบอบประชาธิปไตยของไทยนั้น เป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”  ซึ่งเป็นระบอบที่แตกต่างไปจากประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยอื่น ๆ  และในรัฐธรรมนูญจะใช้คำว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ในทุกแห่ง

ดูเหมือนเขาจะจงใจให้คนเชื่อกันว่าข่าวลือเกี่ยวกับ “ปฏิญญาฟินแลนด์” นั้นเป็นเรื่องจริง

ความคลางแคลงใจของประชาชนที่มีต่อคำกล่าวของท่านนายกรัฐมนตรี จะผิดหรือถูกเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญก็คือว่า รัฐธรรมนูญมาตรา ๘ บัญญัติว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้   ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้”   

และก่อนที่ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนจะเข้ารับตำแหน่ง ต่างก็ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์ว่า “ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้ และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

  โดยภาระหน้าที่และคำสัตย์ปฏิญาณ ท่านนายกรัฐมนตรีจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องมิให้ใครมากระทำการใดอันเป็นการละเมิดมาตรา ๘ ของรัฐธรรมนูญได้

  บัดนี้ ประชาชนคลางแคลงใจในคำกล่าวของท่านนายกรัฐมนตรีเป็นทำนองว่าท่านนายกรัฐมนตรีเองนั่นแหละที่ละเมิดมาตรา ๘ ของรัฐธรรมนูญ ท่านนายกรัฐมนตรีจะนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร 

            จริงอยู่ในทางการเมืองท่านนายกรัฐมนตรีอาจไม่อยู่ในฐานะที่จะระบุว่าหมายถึงใคร  แต่ถ้านายกรัฐมนตรีมิได้มุ่งหมายอย่างที่คนเขาคลางแคลงใจ ท่านนายกรัฐมนตรีจะนิ่งเฉยโดยไม่ปฏิเสธให้เกิดความชัดเจนว่าท่านมิได้มุ่งหมายอย่างที่ประชาชนเขาคลางแคลงใจได้หรือ

            เพราะสิ่งที่เขาคลางแคลงใจนั้น ถ้าไม่เป็นความจริง ก็แก้ไขได้ง่าย ๆ เพียงท่านออกมาบอกให้ประชาชนทราบว่า ท่านมิได้หมายความอย่างที่เขาสงสัย  ยังไม่หนักหนาถึงขนาดที่ต้องสละชีวิตเพื่อปกป้อง

ถ้าท่านจะถือว่าเป็นเรื่องของคนเข้าใจผิด ไม่ใช่หน้าที่ของท่านที่จะต้องทำความเข้าใจ ท่านก็จะได้ชื่อว่ามิได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเสียเอง โดยมิได้ดูแลให้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา ๘ เกิดความศักดิ์สิทธิ์ และไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้

ถ้าท่านยังนึกไม่ออก ก็ลองนึกดูว่า คำพูดของท่านที่ว่า “บุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป.....ใครมาแอบสั่งราชการอย่าปฏิบัติ ....ประเภทแอบสั่งราชการนั้นผมขอร้องทั้งคนแอบสั่งและคนปฏิบัติ” นั้น ถ้าสื่อมวลชนและประชาชนต่างเข้าใจกันว่า ท่านหมายถึงคุณหญิงพจมานของท่านและคุณผดุงที่อยู่ติดกับท่าน เพราะอันที่จริงแล้วดูเหมือนคุณหญิงท่านมีบารมีอยู่ในพรรคไม่น้อย และเป็นบารมีที่มิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมือง อีกทั้งคุณผดุงก็เป็นคนที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญที่เวลาไปสั่งอะไรข้าราชการ ๆ ก็มักจะเกรง ๆ ใจอยู่อย่างที่เขาชอบลือกัน ซึ่งจะจริงเท็จอย่างไรก็ไม่รู้

แต่ถ้าเขาเข้าใจกันอย่างนั้น ท่านจะออกมาปฏิเสธหรือไม่ ท่านจะออกมาด่ากราดผู้สื่อข่าวหาว่าเขาเข้าใจเลอะเทอะไปหรือไม่ ท่านจะตอบเพียงว่าจะร้องเพลงให้ฟัง หรือเมื่อยแข้งเมื่อยขาหรือไม่ และท่านจะมีกะใจไปดูบอลโลกโดยยังไม่ทำความชัดเจนให้เกิดขึ้นได้หรือไม่

ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ ท่านจึงมีหน้าที่ที่จะต้องทำความชัดเจนให้เกิดขึ้น  ถ้าท่านมิได้หมายความอย่างที่คนเขาคลางแคลงใจ แม้ท่านจะไม่อยู่ในฐานะที่จะบอกได้ว่าหมายถึงใคร  แต่ท่านก็อยู่ในฐานะที่จำต้องออกมาบอกให้ชัดเจนว่าท่านมิได้หมายถึงใคร

ถ้าท่านยังไม่ทำ ท่านจะอ้างได้อย่างไรว่าท่านจะปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไว้ด้วยชีวิต หรือท่านจะยอมให้คนเขาเข้าใจว่าท่านหมายความอย่างที่เขาคลางแคลงใจจริง ๆ

ในตอนท้ายของคำกล่าวของท่าน ท่านกล่าวว่า “ถ้าหากทุกท่านได้กลับไปทำกันตรงนี้ แล้วรัฐบาลยึดมั่นคงในแนวทางที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ในแนวทางที่ได้ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าข้าพเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” 

ในส่วนข้าราชการทั้งหลายนั้น เขาคงทำตามคำแนะนำของท่านแล้ว ถึงตอนนี้จึงถึงคราวของท่านที่จะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้ปฏิญานไว้




 



--------------------------------------------------------------------------------

[1] หมายเหตุ   ไหน ๆ คนในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ก็ไปปล่อยข่าวกับหนังสือพิมพ์มติชนว่า ผมเป็นที่ปรึกษาลับ ๆ ให้กับนายกรัฐมนตรี  ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง (อันที่จริงการอุปโลกน์นี้มีมาตั้งแต่ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ ๆ แล้ว ซึ่งผมก็ได้ปฏิเสธไปทุกครั้งที่มีการกล่าวอ้าง ปฏิเสธทั้งในที่ประชุมสัมมนา ทาง meechaithailand.com และต่อสื่อมวลชน  แต่การปล่อยข่าวทำนองนี้ก็ดูเหมือนจะมีอยู่ร่ำไป) ข้อเขียนนี้ขอให้ถือเสียว่าเป็นคำปรึกษาของคนที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นที่ปรึกษาก็แล้วกัน
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006, 18:54 โดย Q » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 10-11-2006, 19:27 »

โถ....เรื่องรัฐประหาร  แล้ว ใยกลัวอะไรกับคลื่นใต้น้ำ บ้านเมืองไม่ได้แตกแยกจะกลัวทามมาย 
ซุกหุ้นผิดก็ปายฟ้องครับ  ม.8 อะไรนั่น จะรอฟงศาลก็รอครับ


อย่าสร้างความวุ่นวาย เกลียดชัง ปั่นข่าว สร้างกระแส นะครับ เตือนกันไว้ก่อน ถึงมีไม่กี่คน รัฐบาลรักษาการปัจจุบันก็ไม่ประมาท

แล้วถ้าเหลี่ยมมีความผิดก็สาวกันได้ถึงเครือข่ายทั้งหมด ขนาดพรรคยังจะไม่เหลือ กิจการของเครือญาติ ตลอดจนกองทุนของสิงค์โปร์เดือดร้อน

ก็เพราะสนับสนุน เหลี่ยม แบบไม่รับผิดชอบนี่แหละ จะหาว่าไม่เตือน ว่าอาจจะกวาดไปกินข้าวผัดกันให้หมด เพราะไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตยแล้ว

เป็นเรื่องของพวกสนับสนุนให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าไม่อยากให้วุ่นวายเลือกตั้งใหม่กันเร็วๆ ระยะนี้ ไม่ควรคิดเรื่องเหลี่มอะไร ให้รอศาล !!!

ส่วนเรื่องบ้านเมืองก็ให้สงบ พูดคุยกันมีหลักวิชา มีเหตุผลตามสมควร อย่าเอาแต่ใจหรือความนิยมของตนเอง

จะได้มีการจัดการปฏิรูปการเมือง มีการเลือกตั้งใหม่ได้เร็วอย่างใจทุกคน...ผลานเชียร์เหลี่ยมของพวกลิ่วล้อใครจะไปเชื่อ

เชียร์ใครหัวหน้าตายหมด อย่างกับนักการเมืองเขมร อย่างฮาเลยครับ...เอาแค่ตรวจสอบพวกเดียวกันเองให้ผ่านก่อนเถอะ 555...

                                                                                                                                                                   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006, 19:31 โดย Q » บันทึกการเข้า

ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 11-11-2006, 08:26 »

รับรองว่า เตมูจิน พิเภกอินเตอร์ Sky Killers และ ฯลฯ ขอตามไปติดคุกด้วย
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: