พระพยอมไม่รับงานของรัฐทั้งหมด
จากกรณีวัดสวนแก้วซื้อที่ดินตรงข้ามวัด แต่ปรากฏว่าเป็นโฉนดทับซ้อน จนมีปัญหากันอยู่ในขณะนี้นั้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ย. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ พร้อมด้วยทนายความอีก 6 คน เดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าพบพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดยนายสุรชัยเปิดเผยว่า วันนี้จะมาขอเอกสาร และสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นจะนำข้อมูล ไปศึกษาให้การช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่พระพยอมเปิดเผยว่า
อาตมาดีใจที่ทางสภาทนายความเป็นห่วง เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ทำให้อาตมาสบายใจไปได้อีกเปลาะหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาทางวัดไม่เคยมีทนายความประจำวัด ส่วนเรื่องนางวันทนา สุขสำเริง ที่นำที่ดินมาขายให้วัดนั้น อาตมาไม่ติดใจเอาความ เพราะเข้าใจว่าเขามีเจตนาบริสุทธิ์ เป็นคนที่ซื่อเกินไปจนเกิดเรื่อง หลังมีข่าวเรื่องนี้ออกไป มีโทรศัพท์มาหาอาตมาว่า เขาเป็นคนอิสลาม ยินดีจะยกที่ดิน 7 ไร่ ที่ จ.มุกดาหาร ให้วัดไว้ใช้ประโยชน์ ลองคิดดูขนาดคนนับถือศาสนาอิสลามยังช่วยเหลือวัด แล้วคนไทยพุทธแท้ ๆ กลับมาเอาเปรียบวัด อาตมาอยากให้รัฐบาลพิจารณาแก้กฎหมายเสียใหม่ ต่อไปพวกนายทุน หรือคนมีเงินที่ล่ามโซ่เแผ่นดินไว้นาน โดยไม่ได้นำที่ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์เกิน 5 ปี ควรยึดเป็นของรัฐเสียเลย
พระชื่อดังยังกล่าวอีกว่า นับจากนี้เป็นต้นไป อาตมาจะงดรับกิจนิมนต์ของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด จนกว่าศาลจะตัดสินคดี หากวัดแพ้จะปิดวัด 3 ปี เพื่อรักษาความบอบช้ำที่เกิดขึ้น ต่อไปทางวัดจะร่วมมือกับสภาทนายความจัดตั้งศูนย์คลินิกสภาทนายความพบประชาชนที่วัดสวนแก้ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในด้านกฎหมาย ก่อนที่พระคนดังจะขอตัว ยังได้กล่าวทิ้งท้ายแบบติดตลกว่า หากวัดแพ้คดี หรือแพ้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อาตมาอาจจะเอาระเบิดใส่บาตร แล้วเดินไปบิณฑบาตที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง เพื่อพลีชีพเหมือนโชเฟอร์แท็กซี่.
เดลินิวส์