คำตัดพ้อของใบไม้
|
|
« เมื่อ: 03-11-2006, 09:33 » |
|
สนธิ กำลังกลายเป็น ทักษิณ? โดย สุรวิชช์ วีรวรรณ 2 พฤศจิกายน 2549 18:11 น. ผมคิดว่า ตอนนี้เรากำลังมาถึงทางสามแพร่งอย่างแท้จริง 4-5 ปีมานี้เราเหมือนเดินอยู่บนเส้นทางที่มีแสงสีเรืองรอง ฉาบยาพิษประชานิยมที่ทักษิณกับพวกพ้องมอบให้ ด้วยความเชี่ยวชาญในการจัดตั้งมวลชนของคนที่เติบโตมาจากเดือนตุลาหลอมรวมเข้ากับอำนาจเงินจากทุนนิยมเต็มรูปแบบ ก่อนที่ศรัทธาของทักษิณค่อยเสื่อมมนต์ขลังลง เมื่อข่าวสารและความรับรู้ของประชาชนขยายวงออกไป การต่อสู้ระหว่างประชาชนกับระบอบทักษิณยังไม่ทันรู้แพ้ชนะ ไม่ทันที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะชุมนุมนัดสุดท้าย คปค.ก็ออกมายึดอำนาจ ก่อนจะแปลงโฉมเป็น คมช.ในเวลาต่อมา คนจำนวนไม่น้อยเจ็บปวดที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องจบลงด้วยการยึดอำนาจของทหารอีกครั้ง แต่ก็แอบเบาใจที่ไม่ต้องเห็นคนไทยฆ่ากันเอง และเชื่อมั่นว่า คมช.จะสรุปบทเรียนในอดีต ถอยหลัง 1 ก้าว เพื่อเดินไปข้างหน้าหลายก้าวอย่างมั่นคง แต่เส้นทางที่ คมช.ขีดให้เดินวันนี้กลับดูตีบตันเหลือเกิน เพราะตลอด 1 เดือนเศษของการยึดอำนาจล้มรัฐบาลทักษิณ ยังมองไม่ออกเลยว่า คมช.เข้าใจเหตุผลของการล้มอำนาจอย่างที่ตัวเองประกาศไว้หรือไม่ ข้อกล่าวหา 4 ข้อในการยึดอำนาจทักษิณนั้น ยังไม่มีข้อหาใดที่ปรากฏเป็นรูปธรรมเลย เอาเถอะครับการตรวจสอบการทุจริต ในนามของ คตส. และป.ป.ช. อาจต้องดำเนินไปตามหลักเกณฑ์ของความเป็นธรรมที่สากลยอมรับได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกกล่าวหาว่า เป็นศาลเตี้ย แต่เรื่องอื่นๆ ก็ไม่เห็น คมช. และรัฐบาลจะสั่งการลงไปตรวจสอบอย่างจริงจัง เรื่องที่ คตส.และป.ป.ช.ตั้งแท่นจะตรวจสอบไปแล้วก็ปล่อยให้ดำเนินไป มีหลายเรื่องที่ คมช.และรัฐบาลควรจะทำ เอาง่ายๆ เรื่องสนามบินสุวรรณภูมิที่วันนี้ปรากฏผลชัดเจนแล้วว่า มีการตรวจพบทางเข้าหลุมจอดเครื่องบิน ยุบตัวตามแนวล้อของเครื่องบิน เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังรอบๆ สนามบินซึมเข้าไปจนรับน้ำหนักไม่ไหว ต้องปิดหลุมจอด เพื่อซ่อมแซม ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการทุจริตถมทรายในอดีตนั่นเอง ทางแพร่งต่อมา คือ ความแตกต่างทางความคิดของสังคมไทย ที่ผมหวังลึกๆ ว่า ไม่ใช่เรื่องของผิดกับถูกที่รวมกันไม่ได้ หรือดีกับชั่วที่ไม่อาจสมานฉันท์กันได้ แต่เป็นความปรารถนาดีที่ต่างมุมมอง ซึ่งความแตกต่างนี้จะหลอมรวมกันเป็นก้าวใหม่ที่มั่นคงของสังคมไทยได้ มากกว่าจะพัฒนาเป็นความขัดแย้ง เหมือนเรากำลังเดินอยู่ในป่าดงพงพฤกษ์พนาที่ต้องหามาทางออกให้เจอ แน่นอนครับว่า ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีมานี้ คนไทยมีความแตกแยกอยู่มาก แบ่งออกเป็นสองฝ่ายจนเกือบจะเผชิญหน้าก้นด้วยความรุนแรงหลายครั้ง ระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณและฝ่ายที่ต่อต้านทักษิณ จนกระทั่งการเลือกตั้งที่ทำให้ความแตกแยกชัดยิ่งขึ้นด้วยเสียงสนับสนุนไทยรักไทย 16 ล้านเสียง กับเสียงโนโหวต 10 ล้านกว่าเสียง บวกกับที่จงใจทำบัตรเสียมากเป็นประวัติการณ์อีก 3 ล้านเสียง รวมเป็น 14 ล้านเสียง ความแตกแยกทางในอดีตนั้นเกิดจากฝ่ายหนึ่งเห็นความฉ้อฉลจากอำนาจของทักษิณ พร้อมกับนำข้อมูลออกมาตีแผ่อย่างเป็นรูปธรรม ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ทักษิณทำนั้นผิดทั้งกฎหมายและผิดทั้งจริยธรรมจนไม่อาจสมานฉันท์ตามข้อเรียกร้องของบางฝ่ายได้ และส่วนใหญ่ฝ่ายที่เรียกร้องให้สมานฉันท์ก็คือ ฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณนั่นเอง แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็คือ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ กับฝ่ายที่เห็นว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะหยุดยั้งความรุนแรงและทำลายระบอบทักษิณที่ฉ้อฉลลงได้ แน่นอนว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจนั้นมีฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณรวมอยู่ด้วย และฝ่ายนี้มีอำนาจเงินที่เครือข่ายของทักษิณเข้าไปจัดตั้งควบคุมผลักดันให้เคลื่อนไหว คลิปวิดีโอต่างๆ ในเว็บไซต์ ใบปลิวที่โจมตีป๋าเปรมและคมช. อยู่ในขณะนี้นั้น เป็นวิธีการและรูปแบบเดียวกับที่เคยโจมตีสนธิ ลิ้มทองกุล ก่อนหน้านี้ จนกระทั่งถูกพัฒนาเป็น สื่อเทียม ในเวลาต่อมา และวันนี้ คมช.ก็ปล่อยให้เครือข่ายของ สื่อเทียม ยังหาประโยชน์ในกรมประชาสัมพันธ์ และช่อง 11 โดยไม่ใส่ใจดำเนินการ และข้าราชการของกระทรวงนี้ที่เคยรับใช้ทักษิณอย่างสุดจิตสุดใจก็ยังอยู่ครบ ทั้งอธิบดีและรองอธิบดีที่เคยสั่งการไม่ให้เคเบิลรับสัญญาณของเอเอสทีวี ที่วันนั้นไม่มีนักเสรีภาพสื่อคนไหนออกมาร่วมต่อสู้ ผมยังคิดในแง่ดีว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจแต่ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณ โดยเฉพาะฝ่ายที่เป็นนักวิชาการและปัญญาชน คงจะฉลาดพอที่ไม่ให้ฝ่ายสนับสนุนทักษิณเข้ามาเกาะเกี่ยวหรือแสวงหาประโยชน์จากการเคลื่อนไหว เพียงเพื่อหวังมวลชนที่มากขึ้นและเงินสนับสนุนที่จะตามมา และคงแยกแยะได้ว่า ปัญญาชนหรือนักวิชาการคนไหนเคยเกาะเกี่ยวผลประโยชน์จากระบอบทักษิณมาก่อน สำหรับ คมช.ตอนนี้เหมือนกับคนที่ไปไม่เป็น โชคดีอยู่ที่ คมช.ยังสามารถควบคุมสติ และปล่อยให้ฝ่ายที่คัดค้านใช้เสรีภาพอย่างเต็มที่ ไม่ใช้อำนาจรัฐเข้าจับกุมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมเหมือนยุคของทักษิณซึ่งอ้างว่ามาจากประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง แต่สิ่งสำคัญคือ คมช.จะต้องเร่งสลายความคลางแคลงใจออกไปให้เร็วที่สุด ด้วยการหยุดให้คนใน คมช.ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อรวบรวมนักการเมือง คมช.ต้องทำตัวให้ห่างนักการเมืองมากที่สุด จัดการกับข้าราชการที่เคยรับใช้ทักษิณอย่างไร้คุณธรรม จัดการกับรัฐตำรวจที่ทักษิณสร้างขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้ตำรวจเลวบางคนยังได้ดิบได้ดีแม้วันที่ทักษิณไร้อำนาจ นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นพื้นฐานและหาจุดบกพร่องเพื่อสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่สำคัญอย่าลืมว่า ดอกไม้และกระแสหนุนเนื่องของประชาชนในวันแรกๆ นั้น เกิดจากเหตุผล 4 ข้อที่ คมช.ประกาศไว้ในการยึดอำนาจ และกำลังกลายเป็นบูมเมอแรงที่วิ่งกลับมาหา คมช.ในวันนี้นั่นแหละ ถ้า คมช.ตั้งรับไม่ดี 3ประสานจะมารวมกัน หนึ่ง ฝ่ายที่ต่อต้านการรัฐประหาร สอง ฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณ สาม ฝ่ายที่ผิดหวัง คมช.รวมถึงการพลีชีพเพื่อประชาธิปไตยของลุงนวมทอง ไพรวัลย์จะกลายเป็นเชื้อไฟลามทุ่ง และเราคงเห็นแล้วว่า มีผีดิบบางรายที่หาประโยชน์จากคนยากจนจนร่ำรวย แล้วหันไปรับใช้ทักษิณอย่างสุดใจ กำลังเหยียบศพลุงนวมทองเพื่อต่อวีซ่าประชาธิปไตยให้กับตัวเอง พล.อ.สนธิ ต้องตั้งสติมั่นเพื่อรับมือกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ลองไปศึกษาจุดจบของทักษิณดูสิครับว่า มีที่มาอย่างไร เพราะหากยังเฉยเมยและตั้งรับไม่ดี พล.อ.สนธิก็จะมีสภาพไม่ต่างจากทักษิณในอดีต แล้วคนที่จะมาเล่นบทผู้นำประชาชนในการต่อสู้กับพล.อ.สนธิ ก็คือ ทักษิณที่ลิ่วล้อกำลังปั่นกระแสอยู่นี่แหละครับ พูดง่ายๆ ก็คือ สนธิ (บุญ) จะกลายเป็นทักษิณ และทักษิณจะกลายเป็นสนธิ (ลิ้ม) พูดให้งงๆ ไว้ก็คือ สนธิกลายเป็นทักษิณ ทักษิณกลายเป็นสนธิ แต่ผู้นำประชาชนที่ชื่อทักษิณต่างกับบทบาทที่สนธิเคยเล่นคือ มีเงินมหาศาล ผมถามหน่อยสิครับว่า คมช.จะรักษาอำนาจจากกระบอกปืนที่ไม่มีประชาชนหนุนหลังได้อย่างไร.
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2006, 09:36 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ »
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
คำตัดพ้อของใบไม้
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 03-11-2006, 09:43 » |
|
คำเตือน ฉบับที่ 2 โดย หมายเหตุผู้จัดการ 2 พฤศจิกายน 2549 15:09 น. วันนี้วันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 เป็นวันที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามประเพณีการปกครองแผ่นดิน เพราะถึงแม้ว่ารัฐธรรมนูญชั่วคราว จะมิได้กำหนดว่าต้องแถลงนโยบายก่อนจึงจะบริหารราชการแผ่นดินได้ แต่เพื่อให้เป็นไปตามประเพณีและเพื่อให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้รับทราบนโยบาย จึงต้องมีการแถลงให้ได้ทราบโดยทั่วกัน ความจริงรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลชั่วคราวเหมือนกับรัฐธรรมนูญชั่วคราว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีนโยบายแบบเดียวกับรัฐบาลปกติ หากต้องมีนโยบายเฉพาะหรือพิเศษที่สอดคล้องกับสถานการณ์และภาระหน้าที่ของตน นโยบายของรัฐบาลชั่วคราวจึงต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตและความจำกัดของระยะเวลาดังกล่าว จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ประหนึ่งว่าเป็นรัฐบาลปกติธรรมดานั้นไม่ได้ รัฐบาลนี้มาจากการยึดอำนาจการปกครองที่มีต้นเหตุมาจากปัญหา 4 ประการดังที่ได้ทราบกันดีอยู่แล้ว ดังนั้นหน้าที่หลักและนโยบายหลักที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลนี้คือการแก้ไขปัญหา 4 ประการดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วงไปให้จงได้ กล่าวโดยรวมก็คือจะต้องกำหนดเป็นนโยบายเฉพาะว่าต้องแก้ไขปัญหาความแตกแยกภายในชาติ ต้องจัดการกับการโกงบ้านกินเมือง และติดตามเอาทรัพย์สมบัติของชาติกลับคืน แก้ไขปัญหาการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของนักการเมืองในรัฐบาลก่อน และแก้ไขปัญหาการครอบงำแทรกแซงองค์กรอิสระ จะต้องมีนโยบายหลัก 4 ประการนี้จึงจะชอบด้วยภาระหน้าที่ในสถานการณ์พิเศษนี้ แต่น่าเสียดายและน่าเสียใจอย่างยิ่ง ที่ไม่มีความสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ดังกล่าวเลย และไม่มีการกำหนดภารกิจทั้ง 4 ประการนี้ไว้เป็นนโยบายเลย คงพูดบ้างก็แต่เรื่องสมานฉันท์ ซึ่งเป็นความสมานฉันท์แบบไร้หลักการ คือเรียกร้องหาความสมานฉันท์โดยไม่จำแนกผิดชอบชั่วดี ไม่จำแนกถูกผิด ประหนึ่งจะให้พระกับโจรสมานฉันท์กัน ประหนึ่งจะให้คนโกงชาติกับคนปราบโกงสมานฉันท์กัน ประหนึ่งจะให้คนที่คิดล้มล้างสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กับคนที่ปกป้องพิทักษ์รักษาทั้งสามสถาบันนี้ให้สมานฉันท์กัน มันจะเป็นไปได้หรือ! ความสมานฉันท์ต้องเป็นไปเพื่อการไม่ทำความชั่ว เพื่อการทำความดีงาม เพื่อการสร้างความร่มเย็นเป็นสุขในบ้านเมือง ไม่ใช่ความสมานฉันท์แบบไร้หลักการ มีการพูดถึงการทำหน้าที่โดยซื่อสัตย์สุจริต แต่ปรากฏจากการกระทำของคนสำคัญในรัฐบาลที่ปกป้องการทุจริต ปกป้องคนโกงชาติ โกงภาษี และคุ้มครองลิ่วล้อทรราชให้มีอำนาจดังเดิมทุกประการ เช่นนี้แล้วถึงจะเขียนนโยบายเรื่องซื่อสัตย์สุจริตไว้อย่างไร ใครเขาจะเชื่อถือได้! มีการพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของสูง เป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง ควรเป็นเรื่องที่คิด พูด และทำให้เป็นอย่างเดียวกัน และทำกันจริง ๆ ให้เป็นผลจริง ๆ แต่ปรากฏว่ามีความสับสนในนโยบายอย่างชัดเจน เพราะในนโยบายการเงิน การคลังนั้นกลับสวนทางกับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง เพราะไปกำหนดนโยบายการคลังว่ามีนโยบายงบประมาณขาดดุล หมายความว่านโยบายการคลังของประเทศไทยภายใต้รัฐบาลนี้คือการใช้จ่ายมากกว่ารายได้ หรือใช้จ่ายเกินตัวนั่นเอง แล้วอย่างนี้มันจะพอเพียงที่ตรงไหน? ความจริงงบประมาณปี 2550 ได้ยกร่างและเตรียมการมาตั้งแต่รัฐบาลก่อน ซึ่งมีโครงการโคตรโกงมหาโกงอยู่เป็นจำนวนมาก ระดับของการโกงในการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ มีระดับถึง 30-40% ดังนั้นเพียงแค่บริหารบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ลดจำนวนเงินงบประมาณที่ตั้งเผื่อการโกงเท่านั้น วงเงินรายจ่ายก็จะลดลงกว่าแสนล้านบาท สามารถตั้งเป็นงบประมาณสมดุลได้ แต่กลับตั้งเป็นนโยบายงบประมาณขาดดุล ซึ่งนอกจากจะเป็นการสวนทางกับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงอย่างชัดเจนแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการโกงบ้านกินเมืองตามงบประมาณและแผนการเดิมที่ทำไว้ทุกประการ จึงขอบอกกล่าวมายังท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เพื่อตรวจสอบในเรื่องนี้ให้มีความชัดเจน เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ภาพลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ สุจริต และความเชื่อมั่นของภาคประชาชนก็หมดสิ้นไปโดยไม่ต้องสงสัย เราเข้าใจดีว่านายกรัฐมนตรีที่มีประสบการณ์ในชีวิตทางด้านทหารเป็นส่วนใหญ่ ย่อมไม่อาจรู้เท่าทันกโลบายเล่ห์กลของพวกเทคโนแครตเจ้าเล่ห์ได้ แต่เราเชื่อมั่นว่าอำนาจแห่งความสัตย์สุจริตจะสามารถป้องกันและกำจัดเล่ห์ร้ายเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน เพราะมั่นใจเช่นนี้ เราจึงขอส่งคำเตือน ฉบับที่ 2 ให้มีการตรวจสอบนโยบายที่ขาดความชัดเจน ที่สับสนขัดแย้งกันเอง และส่งสัญญาณของการโกงบ้านกินเมืองเหมือนกับที่เกิดขึ้นในรัฐบาลก่อนอย่างเอาจริงเอาจัง นโยบายและงบประมาณที่กำลังจะแถลงและกำลังจะเสนอต่อสภาคือพยานหลักฐานที่ชัดเจนอันสมควรและจำเป็นที่เราต้องส่งคำเตือน เป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน เช่นเดียวกับคนสำคัญในรัฐบาลที่ออกมากางปีกปกป้องอดีตลิ่วล้อทรราชให้มีอำนาจในบ้านเมืองต่อไป ปกป้องโครงการทุจริตและปกป้องการโกงภาษีที่กำลังตรวจสอบกันอยู่ รวมทั้งกางปีกปกป้องโครงการทุจริตในการรับจำนำข้าวที่เสียหายแก่บ้านเมืองกว่า 18,000 ล้านบาท โดยตัดตอนว่าไม่มีผู้ต้องรับผิดชอบ กางปีกปกป้องความชั่วร้าย 4 สถานแล้วยังไม่พอ ยังคงเดินหน้าโครงการโกงชาติ คือโครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่ให้บริษัทหนึ่งลงทุนแค่ 13,000 ล้านบาท แต่ประเทศชาติต้องจ่ายค่าเช่าเป็นเงินรวมกันถึง 86,000 ล้านบาท ถ้าหากยังปล่อยให้ปกป้องการโกงชาติและให้ดำเนินการโกงชาติกันชัด ๆ ต่อไปเช่นนี้ จะตอบคำถามข้อข้องใจประชาชนว่าแล้วมันต่างกับระบอบทักษิณอย่างไร? ได้หรือ? เราได้แต่หวังและเตือนอย่างกัลยาณมิตรต่อพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีว่าอย่าทำให้ประชาชนผิดหวัง และอย่าให้เสียแรงที่ใครต่อใครวางใจไว้ใจเป็นอันขาด!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
คำตัดพ้อของใบไม้
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 03-11-2006, 09:47 » |
|
การต่อสู้ระหว่างประชาชนกับระบอบทักษิณยังไม่ทันรู้แพ้ชนะ ไม่ทันที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะชุมนุมนัดสุดท้าย คปค.ก็ออกมายึดอำนาจ ก่อนจะแปลงโฉมเป็น คมช.ในเวลาต่อมา ---- คุณสนธิเสียดายหรือคะ ที่พันธมิตรมิได้เป็นผู้กำชัยชนะใน ตอนสุดท้าย ตกลงที่พันธมิตรทำทั้งหมด เพื่ออยากเป็นพระเอก ในหัวใจคนไทย หรือเป็นยามพิทักษ์แผ่นดินกันแน่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
คำตัดพ้อของใบไม้
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 03-11-2006, 09:58 » |
|
ความแตกแยกทางในอดีตนั้นเกิดจากฝ่ายหนึ่งเห็นความฉ้อฉลจากอำนาจของทักษิณ พร้อมกับนำข้อมูลออกมาตีแผ่อย่างเป็นรูปธรรม ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ทักษิณทำนั้นผิดทั้งกฎหมายและผิดทั้งจริยธรรมจนไม่อาจสมานฉันท์ตามข้อเรียกร้องของบางฝ่ายได้ และส่วนใหญ่ฝ่ายที่เรียกร้องให้สมานฉันท์ก็คือ ฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณนั่นเอง แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็คือ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ กับฝ่ายที่เห็นว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะหยุดยั้งความรุนแรงและทำลายระบอบทักษิณที่ฉ้อฉลลงได้ แน่นอนว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจนั้นมีฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณรวมอยู่ด้วย และฝ่ายนี้มีอำนาจเงินที่เครือข่ายของทักษิณเข้าไปจัดตั้งควบคุมผลักดันให้เคลื่อนไหว คลิปวิดีโอต่างๆ ในเว็บไซต์ ใบปลิวที่โจมตีป๋าเปรมและคมช. อยู่ในขณะนี้นั้น เป็นวิธีการและรูปแบบเดียวกับที่เคยโจมตีสนธิ ลิ้มทองกุล ก่อนหน้านี้ จนกระทั่งถูกพัฒนาเป็น สื่อเทียม ในเวลาต่อมา
และวันนี้ คมช.ก็ปล่อยให้เครือข่ายของ สื่อเทียม ยังหาประโยชน์ในกรมประชาสัมพันธ์ และช่อง 11 โดยไม่ใส่ใจดำเนินการ และข้าราชการของกระทรวงนี้ที่เคยรับใช้ทักษิณอย่างสุดจิตสุดใจก็ยังอยู่ครบ ทั้งอธิบดีและรองอธิบดีที่เคยสั่งการไม่ให้เคเบิลรับสัญญาณของเอเอสทีวี ที่วันนั้นไม่มีนักเสรีภาพสื่อคนไหนออกมาร่วมต่อสู้
ผมยังคิดในแง่ดีว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจแต่ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณ โดยเฉพาะฝ่ายที่เป็นนักวิชาการและปัญญาชน คงจะฉลาดพอที่ไม่ให้ฝ่ายสนับสนุนทักษิณเข้ามาเกาะเกี่ยวหรือแสวงหาประโยชน์จากการเคลื่อนไหว เพียงเพื่อหวังมวลชนที่มากขึ้นและเงินสนับสนุนที่จะตามมา และคงแยกแยะได้ว่า ปัญญาชนหรือนักวิชาการคนไหนเคยเกาะเกี่ยวผลประโยชน์จากระบอบทักษิณมาก่อน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บางอักษร บางภาษามันทะแม่งๆ อยู่นะคะ สำหรับเหล่าพันธมิตร
อยากจะติงไว้สักนิดว่า-----คำพูดที่พวกท่านเคยกล่าวว่าระบอบทักษิณ จะกลายเป็น ระบอบสนธิ ได้เช่นกันนะ ----อย่าให้ผลประโยชน์ส่วนตน มาอยู่เหนือผลประโยชน์ส่วนรวมมากเกินไปนะคะ
เดี๋ยวก็กลายเป็นว่า-----ทุกอย่างที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของ เอเอส ทีวีหรืออย่างไร
ติดตามและชื่นชมผลงานพันธมิตรหลายประเด็น แต่มาระยะหลังนี้ มีความรู้สึกว่าล้นกรอบประชาธิปไตยมากเกินไป อดที่จะติงไม่ได้ค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2006, 10:03 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ »
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
|
คำตัดพ้อของใบไม้
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 03-11-2006, 10:29 » |
|
ผมว่าไม่ใช่มีความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เป็นวีรบุรุษอะไรนั่นหรอกครับ
เพียงแต่ว่า มันเป็นเรื่องน่ากังวล ที่การทำรัฐประหารไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา
แต่อาจจะเป็นการแย่งชิงอำนาจระหว่างการนำของแต่ละฝ่าย โดยใช้พันธมิตรเป็นเครื่องมือ
พอเสร็จสมก็โยนทิ้ง ... จบ
ในภาวะสถานการณืเช่นนี้ คำว่า ประชาธิปไตย กับคำว่า เผด็จการ มันอยู่ใกล้กันแค่เส้นยาแดง ทำอะไร ก็ต้องรอบคอบ ช้าๆได้พร้าเล่มงาม
และต้องเป็นกระบวนการ ที่สำคัญ โปร่งใสและมีความเป็นธรรม
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะใจร้อนให้ได้ดังใจหาได้ไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
::วิญญาณห้อง2::
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 03-11-2006, 10:33 » |
|
สงสัยไม่ได้ฟังเมืองไทยรายสัปดาห์วันที่ 27/10/49 มั้งครับ
และการที่บอกว่าจะเป็นเจ้าของประเทศ ก็เกินไป เพราะเขาไม่ได้เข้าไปจัดการประเทศอะไรเลยสักกะนิด แค่ตั้งข้อสังเกตเฉยๆนี่ เรื่องสื่อเทียม ผมก็เห็นเป็นอย่างนั้น ช่อง 11 ช่อง 9 ควรเป็นอิสระ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลไหนๆก็ตาม เพราะมันเป็นกันทุกยุค
ส่วนเรื่องผลประโยชน์ สนธิไม่ได้จัดการประเทศแล้วเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองดังเช่นไอแม้วนี่
เกินไปหน่อยมั้งที่จะไปกล่าวหาแบบนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
--------this is the world-------
|
|
|
Solidus
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 03-11-2006, 11:44 » |
|
เป็นสุนัขเฝ้าบ้านครับ ให้ท้ายมันมากมันก็เลียปากแบบนี้แหละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
In The Name Of Justice.
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 03-11-2006, 11:55 » |
|
สงสัยไม่ได้ฟังเมืองไทยรายสัปดาห์วันที่ 27/10/49 มั้งครับ
และการที่บอกว่าจะเป็นเจ้าของประเทศ ก็เกินไป เพราะเขาไม่ได้เข้าไปจัดการประเทศอะไรเลยสักกะนิด แค่ตั้งข้อสังเกตเฉยๆนี่ เรื่องสื่อเทียม ผมก็เห็นเป็นอย่างนั้น ช่อง 11 ช่อง 9 ควรเป็นอิสระ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลไหนๆก็ตาม เพราะมันเป็นกันทุกยุค
ส่วนเรื่องผลประโยชน์ สนธิไม่ได้จัดการประเทศแล้วเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองดังเช่นไอแม้วนี่
เกินไปหน่อยมั้งที่จะไปกล่าวหาแบบนั้น
ขอติงนิดนึงครับพี่วิญญาณ ในบางครั้งที่ผมฟังพี่ธิเขาพูดแล้วก็รู้สึกว่าแกพยายามจะโปรโมทตัวเองเหมือนกันครับ บางคำพูดก็เหมือนจะทวงบุญคุณประชาชนด้วยซ้ำ แต่ไม่ถึงขนาดที่คุณครูใบไม้กล่าวมาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"มนุษย์มักต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มี..."
"I Fight In The Name Of Justice."
|
|
|
|
คำตัดพ้อของใบไม้
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 03-11-2006, 12:54 » |
|
ความจริงรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลชั่วคราวเหมือนกับรัฐธรรมนูญชั่วคราว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีนโยบายแบบเดียวกับรัฐบาลปกติ หากต้องมีนโยบายเฉพาะหรือพิเศษที่สอดคล้องกับสถานการณ์และภาระหน้าที่ของตน นโยบายของรัฐบาลชั่วคราวจึงต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตและความจำกัดของระยะเวลาดังกล่าว จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ประหนึ่งว่าเป็นรัฐบาลปกติธรรมดานั้นไม่ได้ รัฐบาลนี้มาจากการยึดอำนาจการปกครองที่มีต้นเหตุมาจากปัญหา 4 ประการดังที่ได้ทราบกันดีอยู่แล้ว ดังนั้นหน้าที่หลักและนโยบายหลักที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลนี้คือการแก้ไขปัญหา 4 ประการดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วงไปให้จงได้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อความข้างบนนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพียงแต่ผู้ที่จะแก้ไขปัญหาตรงสี่ประเด็นนี้ได้ดี ต้องเป็นผู้ที่เคยคลุก เคยสัมผัสกับต้นเหตุของปัญหานี้พอควร และบางครั้ง ต้องทำทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง
ถ้าจะเป็นห่วงก็ห่วงอยู่นิดเดียวคือ รัฐบาลนี้อาจจะดีเกินไปที่จะล้วงลึกคนโกงได้เท่านั้นเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
::วิญญาณห้อง2::
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 03-11-2006, 14:11 » |
|
สงสัยไม่ได้ฟังเมืองไทยรายสัปดาห์วันที่ 27/10/49 มั้งครับ
และการที่บอกว่าจะเป็นเจ้าของประเทศ ก็เกินไป เพราะเขาไม่ได้เข้าไปจัดการประเทศอะไรเลยสักกะนิด แค่ตั้งข้อสังเกตเฉยๆนี่ เรื่องสื่อเทียม ผมก็เห็นเป็นอย่างนั้น ช่อง 11 ช่อง 9 ควรเป็นอิสระ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลไหนๆก็ตาม เพราะมันเป็นกันทุกยุค
ส่วนเรื่องผลประโยชน์ สนธิไม่ได้จัดการประเทศแล้วเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองดังเช่นไอแม้วนี่
เกินไปหน่อยมั้งที่จะไปกล่าวหาแบบนั้น
ขอติงนิดนึงครับพี่วิญญาณ ในบางครั้งที่ผมฟังพี่ธิเขาพูดแล้วก็รู้สึกว่าแกพยายามจะโปรโมทตัวเองเหมือนกันครับ บางคำพูดก็เหมือนจะทวงบุญคุณประชาชนด้วยซ้ำ แต่ไม่ถึงขนาดที่คุณครูใบไม้กล่าวมาครับ ติงได้ no problem ครับ...... เรื่อง promote ก็จริง แต่การ promote ผมไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไร ถ้าคุณไม่ซื้อซะอย่าง ก็เค้าทำธุรกิจนี่ ผมว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเทียบกับสิ่งที่เขาทำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
--------this is the world-------
|
|
|
คำตัดพ้อของใบไม้
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 03-11-2006, 14:15 » |
|
สงสัยไม่ได้ฟังเมืองไทยรายสัปดาห์วันที่ 27/10/49 มั้งครับ
และการที่บอกว่าจะเป็นเจ้าของประเทศ ก็เกินไป เพราะเขาไม่ได้เข้าไปจัดการประเทศอะไรเลยสักกะนิด แค่ตั้งข้อสังเกตเฉยๆนี่ เรื่องสื่อเทียม ผมก็เห็นเป็นอย่างนั้น ช่อง 11 ช่อง 9 ควรเป็นอิสระ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลไหนๆก็ตาม เพราะมันเป็นกันทุกยุค
ส่วนเรื่องผลประโยชน์ สนธิไม่ได้จัดการประเทศแล้วเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองดังเช่นไอแม้วนี่
เกินไปหน่อยมั้งที่จะไปกล่าวหาแบบนั้น
ขอติงนิดนึงครับพี่วิญญาณ ในบางครั้งที่ผมฟังพี่ธิเขาพูดแล้วก็รู้สึกว่าแกพยายามจะโปรโมทตัวเองเหมือนกันครับ บางคำพูดก็เหมือนจะทวงบุญคุณประชาชนด้วยซ้ำ แต่ไม่ถึงขนาดที่คุณครูใบไม้กล่าวมาครับ ติงได้ no problem ครับ...... เรื่อง promote ก็จริง แต่การ promote ผมไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไร ถ้าคุณไม่ซื้อซะอย่าง ก็เค้าทำธุรกิจนี่ ผมว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเทียบกับสิ่งที่เขาทำ ขอบคุณมากนะคะ คุณวิญญาณที่มามีมุมมองเช่นนี้ ทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ก็จริงของคุณนะ สิ่งที่ได้มากกว่า สิ่งที่เสีย เข้าใจจ๊ะ------
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
TAKSIN THE BEST PM.
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 03-11-2006, 14:49 » |
|
จองที่บนภู โอบสาวชมดอกไม้ ดูหมากัดกันดีกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 03-11-2006, 15:16 » |
|
อ่านๆดู มันจับโยงกันมั่วๆยังไงไม่รู้แฮะ แต่ละคนก็มีหน้าที่มีบทบาทมีที่มาต่างกัน สนธิ(ลิ้ม)ก็พ่อค้าสื่อหันมาเดินหน้าขับไล่ทักษิณก็แบบนึง ทักษิณ ก็พ่อค้าที่หันหน้ามาหากินบ้านเมืองก็แบบนึง สนธิ(บุญ) ก็ทหารที่หันหน้ามาไล่นักการเมืองแบบเก่าก็แบบนึง (หวังว่าคงไม่"เล่น"ด้วยไม่งั้นจะกลายเป็นการเมืองแบบเก่ากว่า)
หากพิจารณาดูแต่ละคน หาสาเหตุปัจจัย อย่าหลงไปกับการเล่นคำเล่นชื่อที่ทางการเมือง ผมว่าน่าจะวิเคราะห์ดูที่มาหาที่ไปได้ชัดเจนกว่า
ส่วนรัฐบาลนี้ทำอะไรถูกใจไม่ถูกใจ บอกตรงๆ มีเรื่องให้ระคายเคืองในหัวใจไม่เว้นแต่ละวัน แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แค่เราคิดของเราไปว่าถ้าทำแบบนี้น่าจะดีกว่า ไม่เหมือนสมัยทักษิณ อันนั้นไม่ใช่คิดว่า"ถ้าทำแบบนี้" แต่คิดว่า"ทำไมมันริยามคิดโกงกินแบบนี้" ตอนนี้คงยังไม่ติอะไรมากมาย เพราะกำลังรอดูผลที่จะตามมาในอีก 2-3เดือนข้างหน้า คิดว่าอย่างไรก็คงไม่เลวร้ายไปกว่าตอนทักษิณอยู่หรอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Neoconservative
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 03-11-2006, 15:21 » |
|
ผลประโยชน์ ยังไม่ถึงมือ ลิ้มโกตั๊บ ก็ต้อง อาระวาด ไปเรื่อยๆ ครับ สินค้า ของเขา คือ การขาย ความท้าทาย ขายการต่อต้าน ขายผ่านสื่อในเครือ ไม่รู้ว่า รับจ้าง ล้มรัฐบาล หรือ ไม่ แต่ ตอนล้ม เหลี่ยม ใช้เงินส่วนตัว 400 ล้านบาท คิดแล้ว ก็ ประมาณ 6 ล้านปอนด์ .................................................................................................... คิดคอนเซพท์ ให้ ลิ้มโกตั๊บ ที่ปรึกษา รับจ้างล้มรัฐบาล เพียงแค่ คุณ มีเงินมาจ้าง เพียง 10 ล้านปอนด์ การันตี สามารถ ล้มรัฐบาลไทยได้ทุก รัฐบาล คราวนี้ ถ้ามีคนมาจ้าง ล้ม รัฐบาลแต่งตั้ง แบบด่วนสุดๆ ระยะเวลาไม่เกิน ๑ ปี ลิ้มโกตั๊บ จัดให้ เพี่ยงคุณติดต่อผ่าน เครือข่าย พร้อมแสดง สมุดบัญชี เงินค่าจ้าง สามารถ เริ่มงานได้ทันที ...........................................................................................................................
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
batman
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 03-11-2006, 16:02 » |
|
แต่ละฝ่ายก็มี hidden agenda ของตัวทั้งนั้นแหละ ได้ตามประสงค์ก็เงียบ ไม่ได้ก็โวย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
stromman
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 03-11-2006, 16:28 » |
|
เค้าหมายถึงพลเอกสนธิ ไม่ใช่เหรอครับ อ่านดูใหม่นะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 03-11-2006, 16:35 » |
|
ได้ ทีวี วิทยุไปแล้ว เดี๋ยวก็เลิกเห่าเองหล่ะ ถ้าไม่พอแทะเดี๋ยวก็ออกมา เห่าใหม่ แบล็คเมย์ไปเรื่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
buntoshi
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 03-11-2006, 17:07 » |
|
ได้ ทีวี วิทยุไปแล้ว เดี๋ยวก็เลิกเห่าเองหล่ะ ถ้าไม่พอแทะเดี๋ยวก็ออกมา เห่าใหม่ แบล็คเมย์ไปเรื่อย ทักษิณก็เหมือนกัน ได้ อำนาจ ได้ เงิน ได้โกงประเทศ ก็คงเลิกเห่าแล้ว
โกงไปเรื่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ---------------------------
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 03-11-2006, 17:10 » |
|
ได้ ทีวี วิทยุไปแล้ว เดี๋ยวก็เลิกเห่าเองหล่ะ ถ้าไม่พอแทะเดี๋ยวก็ออกมา เห่าใหม่ แบล็คเมย์ไปเรื่อย ทักษิณก็เหมือนกัน ได้ อำนาจ ได้ เงิน ได้โกงประเทศ ก็คงเลิกเห่าแล้ว
โกงไปเรื่อยเขาโกงเขาชั่วเขาเลว ก็รอศาลฎีกาตัดสินกันดีกว่าครับ แต่ที่แน่ๆตอนนี้ เขายังไม่ได้โดนตัดสินว่าผิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
buntoshi
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 04-11-2006, 11:30 » |
|
ได้ ทีวี วิทยุไปแล้ว เดี๋ยวก็เลิกเห่าเองหล่ะ ถ้าไม่พอแทะเดี๋ยวก็ออกมา เห่าใหม่ แบล็คเมย์ไปเรื่อย ทักษิณก็เหมือนกัน ได้ อำนาจ ได้ เงิน ได้โกงประเทศ ก็คงเลิกเห่าแล้ว
โกงไปเรื่อยเขาโกงเขาชั่วเขาเลว ก็รอศาลฎีกาตัดสินกันดีกว่าครับ แต่ที่แน่ๆตอนนี้ เขายังไม่ได้โดนตัดสินว่าผิด สนธิ ก็ยังไม่ได้ โดน ศาล ตัดสิน ว่า แบล็กเมย์ ใคร นิ
ไม่ได้ โดนศาลตัดสิน ว่า ต้องการ วิทยุ ต้องการ ทีวี ซักหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ---------------------------
|
|
|
|