Cherub Rock
|
 |
« เมื่อ: 30-10-2006, 03:26 » |
|
"จอน อึ๊งภากรณ์" NGO พันธุ์แท้ คนไทยเซ็นเซอร์ตัวเองเพราะบุญคุณรัฐประหาร
เรื่อง ที่ผิดหวังอย่างรุนแรงคือเสรีภาพสื่อมวลชน ส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชน คือเกิดบรรยากาศที่สื่อมวลชนเซ็นเซอร์ตัวเอง เหมือนที่เคยเซ็นเซอร์ตัวเองสมัยในรัฐบาลทักษิณ คือเราไม่ค่อยเห็นสื่อมวลชนกล้าออกมาตั้งคำถาม หรือท้าทาย หรือวิพากษ์วิจารณ์ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้
"ในแง่หนึ่ง สังคมในส่วนที่ต่อต้านคุณทักษิณ มันอาจจะมองว่าเป็นบุญคุณที่มีการรัฐประหาร แต่ผมคิดว่าหน้าที่สื่อมวลชนก็คือสื่อมวลชนต้องตรวจสอบได้ทุกยุคทุกสมัย และผมก็อึดอัดกับสื่อมวลชนที่ไม่กล้าออกมาวิจารณ์คุณทักษิณอย่างตรงไปตรงมา เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันก็ยังอยู่ในสภาพเดิม อันนี้เป็นลักษณะการเซ็นเซอร์ตัวเอง"
และอีกส่วนที่ออกมาแรงกว่า สมัยคุณทักษิณ คือการเซ็นเซอร์เว็บไซต์ อันนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แม้แต่ประชาไทดอตคอมที่ผมมีส่วนเกี่ยวข้องก็เกือบถูกปิด และเราต้องระมัดระวังมากและเราต้องเซ็นเซอร์ตัวเราเองด้วย แต่เราจะเซ็นเซอร์ตัวเองเฉพาะประเด็นเดียวที่พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ประเด็นอื่นเราพยายามเปิด เราตั้งขึ้นมาเพื่อเปิดเสรีภาพ
แต่ เว็บไซต์อื่นถูกปิดไปหลายเว็บไซต์ที่ต่อต้านรัฐประหาร อย่างมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เป็นเว็บไซต์วิชาการที่เอาบทความ เอาความคิดทางวิชาการทางสังคม และยังถูกปิดถึงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02spe01301049&day=2006/10/30สัมภาษณ์ อ.จอน มีอีกหลายประเด็นหลังรัฐประหาร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
Cherub Rock
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 30-10-2006, 03:31 » |
|
ล่าสุดเว็บไซต์ http://midnightuniv.org/ ยังเข้าได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 30-10-2006, 04:09 » |
|
แหม...จอนก็น่าจะรู้ สร้างสรรค์กับทำลาย มันต่างกันนะ
สื่อที่แผ่ว ๆ ไม่ตรวจสอบรุนแรง เพราะรัฐบาลนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเสียหาย
หลาย ๆ เรื่องเค้าก็ออกมาตรวจสอบบ้าง...เช่นเรื่องการต่อท่ออำนาจ หรือ ความไม่ไว้วางใจเรื่องเช็คบิลคอรัปชั่น
รวมไปถึงสภาร่างรัฐธรรมนูญ....จะว่าไป มันก็เหมือน ช่วงเวลาฮันนีมูน นั่นแหละ...
ที่สำคัญ จอนต้องดูแลเว็บบอร์ดดี ๆ ด้วยล่ะ...โดยเฉพาะกระทู้เกี่ยวเนื่องสถาบันฯ น่าเป็นห่วงนะ...
เท่าที่ดู ๆ อาจถึงขั้นโดนปิดในเร็ววันนี้ก็เป็นได้....ถึงเวลานั้นก็อย่าโวยล่ะ.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sky
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 30-10-2006, 04:15 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 30-10-2006, 04:21 » |
|
ที่นั่นเป็นเว็บข้อมูล ใครอยากเข้าไปโต้แย้งก็มีอยู่นี่...ถ้าไม่หยาบคายเค้าปล่อยสบาย ๆ อยู่แล้ว กระทู้นี้ก็ยังอยู่ ไม่เห็นเค้าลบหรือรังแกแต่อย่างใด เพราะความ อิจฉา ริษยา ของอ้ายโม่ง จึงทำให้ชาติไทยต้องเสียหายปั่นป่วน « 1 2 ... 23 24 » พิเภกอินเตอร์ ตอบ 2386 อ่าน 50858 http://www.weopenmind.com/board/index.php?topic=101.0
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2006, 04:33 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
555555555555
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 30-10-2006, 10:02 » |
|
มันก็น่าปิดอยู่หรอกนะ เพราะทุกเวปไซด์ที่ต่อต้านรัฐประหาร มักจะ ใช้คำจาบจ้วง ดูหมิ่น ก่นด่า ปลุกระดม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกลิ้วล้อแม้วทั้งนั้น อ.จอนยังอ่อนมากๆ สักวันจะต้องโดนเล่นงานไปด้วยแน่ๆ เพราะดันไปเกลือกกลิ้งกับ พวกอาจม ไม่หัดดูแล เวปบอร์ดตนเอง สักวันก็ต้องโดนปิด จะโทษใครได้ล่ะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 30-10-2006, 10:04 » |
|
ถ้าใช้คำว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกลิ่วล้อแม้วทั้งนั้น รับรองว่าหลงทาง แก้คลื่นใต้น้ำไม่จบแน่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
555555555555
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 30-10-2006, 10:54 » |
|
ถ้าใช้คำว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกลิ่วล้อแม้วทั้งนั้น รับรองว่าหลงทาง แก้คลื่นใต้น้ำไม่จบแน่
คำว่าส่วนใหญ่ แตกต่างจากคำว่าทั้งหมดนะจ๊ะ ปัญหาคลื่นใต้น้ำอยู่ที่แกนนำ ใครเป็นแกนนำบ้างละ รู้แล้วก็เรียกไปคุย เรียกไปกินข้าวหมูแดง กินโอเลี้ยง คงจะดีขึ้นนะจ๊ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 30-10-2006, 11:02 » |
|
น่าสงสารคนไทยจริงๆที่เห็นดีเห็นงามกับการถูกปล้นประเทศอย่างไม่รู้หนาวรู้ร้อน ต่างชาติมันดูแคลนคนไทยยิ่งกว่ากระเหรี่ยง+พม่าอีก พม่าเค้ายังมีการต่อต้านเสียชีวิตไปหลายร้อยคนกว่าที่ทหารจะยึดอำนาจสำเร็จ ส่วนไทยเรานอกจากไม่รู้หนาวรู้ร้อนกันแล้ว...ยังไปให้ดอกไม้+ถ่ายรูปกันหน้าตาเฉยอีกแน๊ะ
อย่างว่า...คุณภาพระดับความคิดและสามัญสำนึกของคนไทยบางคนมันต่ำกว่าพม่านั่นเอง หรือว่าใครจะเถียง!?!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 30-10-2006, 18:48 » |
|
น่าสงสารคนไทยจริงๆที่เห็นดีเห็นงามกับการถูกปล้นประเทศอย่างไม่รู้หนาวรู้ร้อน ต่างชาติมันดูแคลนคนไทยยิ่งกว่ากระเหรี่ยง+พม่าอีก พม่าเค้ายังมีการต่อต้านเสียชีวิตไปหลายร้อยคนกว่าที่ทหารจะยึดอำนาจสำเร็จ ส่วนไทยเรานอกจากไม่รู้หนาวรู้ร้อนกันแล้ว...ยังไปให้ดอกไม้+ถ่ายรูปกันหน้าตาเฉยอีกแน๊ะ
อย่างว่า...คุณภาพระดับความคิดและสามัญสำนึกของคนไทยบางคนมันต่ำกว่าพม่านั่นเอง หรือว่าใครจะเถียง!?!
ก็เพราะเค้าไม่เห็นด้วยกับการปล้นประเทศดิ เค้าถึงออกมาไล่เหลี่ยม ก็เพราะเค้าไม่เห็นด้วยกับการปล้นประเทศดิ เค้าจึงดีใจที่เหลี่ยมถูกไล่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MacBookPro
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 30-10-2006, 19:44 » |
|
ถ้าใช้คำว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกลิ่วล้อแม้วทั้งนั้น รับรองว่าหลงทาง แก้คลื่นใต้น้ำไม่จบแน่
แกล้งโง่ หรือโง่จริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 30-10-2006, 19:47 » |
|
^ ^ โง่จริงๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย เค้าล้างสมองก็เชื่อไปหมด ซื่อบื้อสุดในเสรีไทยแล้วไอ้คนนี้ ขนาดกระทู้ประนามมันยังไหลไปเกือบร้อย
ชัดมั้ยน้อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MacBookPro
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 30-10-2006, 19:49 » |
|
หมากัด อย่ากัดตอบ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
MacBookPro
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 30-10-2006, 19:50 » |
|
^ ^ โง่จริงๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย เค้าล้างสมองก็เชื่อไปหมด ซื่อบื้อสุดในเสรีไทยแล้วไอ้คนนี้ ขนาดกระทู้ประนามมันยังไหลไปเกือบร้อย
ชัดมั้ยน้อง
หัดไปดูกระทู้นั้นนะแล้วนับว่าใครประนาม มีกี่คน และคนชื่นชม มีกี่คน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 30-10-2006, 20:59 » |
|
คำสารภาพของจอน
โดย : จอน อึ๊งภากรณ์ เมื่อ : 28/09/2006 01:00 PM
เมื่อวานนี้ผมได้พูดถึงผลของสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดการแบ่งแยกทางความคิดของนักเคลื่อนไหวภาคประชาชนและนักวิชาการรักประชาธิปไตยออก เป็นสองฝ่าย
นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนและนักวิชาการรักประชาธิปไตยฝ่ายหนึ่ง (ขอเรียกว่า "ฝ่าย ก.") กำลังมีอารมณ์โกรธและมีความเสียใจอย่างยิ่งกับรัฐประหาร ไม่มีความเชื่อใจไว้ใจต่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังรัฐประหารครั้งนี้ว่าจะนำระบอบประชาธิปไตยมาสถาปนาโดยเร็ว เพราะมองว่าผู้สนับสนุนการรัฐประหารนั้นรวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่น่าจะแสวงหาอำนาจไม่ต่างกับการแสวงอำนาจของกลุ่มทักษิณ (รวมไปถึง "กลุ่มอำนาจเก่า" ที่สูญเสียอำนาจในยุครัฐบาลทักษิณและตอนนี้มีโอกาศฟื้นคืนชีพ) ทั้งยืนหยัดในด้านหลักการที่จะคัดค้านการรัฐประหาร การฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญ และการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ไม่ว่าในกรณีใด แม้พวกตนจะไม่ชอบรัฐบาลทักษิณและเคยต่อต้านการกระทำของรัฐบาลทักษิณที่ละเมิดประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรมมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถสนับสนุนการแก้ปัญหาทั้งปวงที่ก่อโดยรัฐบาลทักษิณด้วยวิธีการนอกระบอบประชาธิปไตย
นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนและนักวิชาการรักประชาธิปไตยอีกฝ่ายหนึ่ง (ขอเรียกว่า "ฝ่าย ข.") กำลังมีอารมณ์ดีใจโล่งใจเพราะดูเหมือนว่าระบอบทักษิณที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม สามารถถูกโค่นล้มไปได้ในที่สุด แม้พวกตนจะไม่ชอบการรัฐประหารและเคยต่อต้านการรัฐประหารมาตลอด แต่ในครั้งนี้มองไม่เห็นทางออกที่เป็นทางอื่น เพราะการออกมาชุมนุมต่อต้านตามระบอบประชาธิปไตยมากเท่าไรก็ไม่ได้ผล ความจริงต้องมองว่ารัฐบาลทักษิณเองก็ได้ก่อรัฐประหารมาก่อนหน้านี้แล้ว รัฐประหารครั้งนี้จึงเป็นรัฐประหารซ้อนเพื่อคืนอำนาจแก่ประชาชน แน่นอนไม่ใช่ทางออกที่พึงปรารถนา แต่เราควรให้โอกาสผู้นำรัฐประหารแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขาในเจตนาที่เขาประกาศ และเราควรจะร่วมมือกับเขาในส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นระบอบประชาธิปไตยและการส่งเสริมบทบาทภาคประชาชน
แล้วผมได้ย้ำว่ายังมีคนในแวดวงภาคประชาชนอีกไม่น้อย ที่มีแนวคิดและมุมมองกระจายอยู่ระหว่างสองขั้วนี้ (แต่ก็คงไม่มีใครสามารถยืนอยู่บนคมมีดได้ ถึงที่สุดทุกคนก็จะล้มไปข้างใดข้างหนึ่งอยู่ดี)
ความจริงนี่อาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ขบวนการภาคประชาชนที่เกิดการแบ่งขั้วที่ยืนอยู่แทบจะฝั่งตรงกันข้ามกันเลย (ยิ่งถ้า "ฝ่าย ข." ไปร่วมมือใกล้ชิดกับคณะรัฐประหารหรือรัฐบาลที่เป็นผลผลิตจากรัฐประหารครั้งนี้) สมัย 14 - 6 ตุลา 2516 - 2519 มีขั้วที่เอากับ พคท. (พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) กับไม่เอา พคท.เถียงกันรุนแรง แต่ก็ยังมีจุดร่วมต่อต้านอำนาจมืดฝ่ายขวาอยู่ หลัง 6 ตุลา ขบวนการภาคประชาชนแทบจะสามัคคีกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแม้นระหว่างฝ่ายเข้าป่ากับฝ่ายสันติวิธี ในเหตุการณ์พฤษภา 2535 เกิดความร่วมมือกันในวงกว้าง (ความขัดแย้งมีแค่มุมมองเกี่ยวกับจำลอง) ส่วนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปีนี้เป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าวใหม่ แต่ยังมีจุดร่วมกันในการต่อต้านทักษิณดำรงอยู่ จุดต่างอยู่ที่วิธีการต่อสู้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม (เหมือนทุกครั้ง) แต่บัดนี้ขั้วทั้งสองกำลังหันกระบอกปืนของจุดยืนใส่กันและกันโดยตรง เพราะไม่มีเรื่องการต่อต้านทักษิณเป็นจุดร่วมอีกแล้ว
ผมอยากเสนอว่าในความขัดแย้งปัจจุบันเรากำลังลืมนึกถึงรากหญ้าแห่งอุดมการณ์ภาคประชาชนอันได้แก่ประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมของประชาชน เสรีภาพสื่อ สิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชน สันติภาพและความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งผมเชื่อว่ายังคงเป็นอุดมการณ์ร่วมกันทั้งของนักเคลื่อนไหว"ฝ่าย ก." และ "ฝ่าย ข."
ผมยืนยันในสิทธิของทั้งสองฝ่ายที่จะแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกทางอื่นต่อรัฐประหารครั้งนี้ตามความเชื่อของตน ไม่ว่าจะประณามหรือปกปัองคณะรัฐประหาร แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการประณามกันเองอย่างรุนแรงด้วยความสะใจในอารมณ์ เพราะยังมีภารกิจมากมายที่จะต้องทำงานร่วมกันต่อไป โดยเฉพาะในด้านการปฏิรูปสังคมและการเมือง และถ้าต่อไปปรากฎว่าความกลัวของ "ฝ่าย ก." กลายเป็นจริง เราก็จะต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่ายในการต่อต้านอำนาจเผด็จการต่อไป แม้ในขณะนี้เองเราควรจะต้องสร้างแนวร่วมภาคประชาชนเพื่อรณรงค์เรียกร้องการเลิกปิดกั้นเสรีภาพสื่อและเสรีภาพการชุมนุมอย่างสงบโดยเร่งด่วน และเรียกร้องธรรมนูญชั่วคราวที่ประกันสิทธิของประชาชน สิทธิชุมชน และเสรีภาพของสื่อ ไม่น้อยไปกว่าระดับที่กำหนดในรัฐธรรมนูญปี 2540
ส่วนระหว่าง "ฝ่าย ก." กับ "ฝ่าย ข." มุมมองของใครจะถูกหรือผิดนั้น กาลเวลาย่อมจะต้องพิสูจน์ ผมอยากเสนอว่าเราควรจัดสัมมนาร่วมกันเพื่อประเมินสถานการณ์และสรุปบทเรียนครั้งแรกในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ (หนึ่งเดือนหลังรัฐประหาร) และครั้งที่สองในวันที่ 19 กันยายน 2550 (หนึ่งปีหลังรัฐประหาร) ถ้าไม่มีใครอื่นจัดผมเสนอให้ประชาไทจัดเอง เพราะฉะนั้นแทนที่จะด่ากันไปด่ากันมา เราร่วมกันประเมินสถานการณ์จากความเป็นจริงและหาทางออกร่วมกันไม่ดีกว่าหรือ ?
ผมมีความเห็นว่าจุดยืนและมุมมองที่ต่างกันระหว่าง "ฝ่าย ก." กับ "ฝ่าย ข." มาจากการประเมินที่ต่างกันในเรื่อง (ก) ระดับความเสียหายต่อสังคมไทยและต่อระบอบประชาธิปไตยที่รัฐบาลทักษิณได้ก่อขึ้น และ (ข.) โอกาสแก้ไขวิกฤติของรัฐบาลทักษิณโดยวิถีทางประชาธิปไตยก่อนที่ความเสียหายจะกลายเป็นความหายนะ (ค.) ระหว่างการดำรงต่อไปของอำนาจทักษิณกับการรัฐประหารระยะสั้นเพื่อฟื้นโครงสร้างประชาธิปไตย อันไหนเลวร้ายน้อยกว่ากัน (lesser evil) (ง.) ประชาธิปไตยงอกมาจากกระบอกปืนเป็นไปได้หรือไม่ (ฉ.) เป็นไปได้หรือที่กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังรัฐประหารครั้งนี้ (คงไม่ใช่แค่คนที่เป็นหัวหน้าโดยตำแหน่ง) จะไม่แสวงอำนาจแก่ตนเองและพวกพ้องต่อไปเหมือนพวกทักษิณ
และอีกประการหนึ่งมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างผู้ที่พร้อมจะยืดหยุนหลักการในสถานการณ์ที่เห็นว่ามีความจำเป็น (realistic) ซึ่งย่อมถูกสงสัยและกล่าวหาได้ว่าเป็นผู้ไร้หลักการ กับผู้ที่ยึดถือหลักการว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายอย่างไรก็ตาม ตนก็จะยังยืนหยัดในวิถีทางประชาธิปไตยเท่านั้น (principled) ชึ่งแน่นอนเป็นผู้ที่ยึดพื้นที่คุณธรรม (high moral ground) แต่ไม่รู้ว่าจะหลง "ความถูกต้อง" ของตัวเอง (righteousness) มากไปหรือเปล่า
คราวนี้ก็มาถึงคำสารภาพของผม เพราะผมได้บอกไว้ในบทความผมตอนที่แล้วว่าผมจะพยายามเปิดเผยจุดยืนของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย จะบอกให้ ! ผมมีความรู้สึกว่าผมได้หลอกลวงเพื่อนผม เช่น คุณแหม่มหรืออาจารย์ธงชัยที่ผมนับถือแต่ไม่รู้จักโดยส่วนตัวว่าผมอยู่ฝ่ายคัดค้านรัฐประหาร เพราะผมรีบออกมาเรียกร้องการคืนสิทธิเสรีภาพ รัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งโดยด่วนที่สุด (ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเห็นว่าเราต้องร่วมกันเรียกร้องอย่างหนักแน่น)
บอกให้ก็ได้ว่าผมอยู่ "ฝ่าย ข."
ที่รู้ตัวตรงนี้เป็นเพราะว่าเมื่อผมรู้ว่าเกิดรัฐประหารโค่นทักษิณ ผมรู้สึกโล่งใจถึงที่สุดเลย ทั้งยังตื่นเต้น และรู้สึกมีความหวังสำหรับอนาคต อย่างนี้ผมคงไม่สามารถบอกใครได้ว่าผมอยู่ "ฝ่าย ก." ทั้งๆ ที่ ถ้าถามผมก่อนนั้นว่าผมเห็นด้วยกับการรัฐประหารล้มทักษิณหรือไม่ ผมก็จะตอบว่าผมไม่เห็นด้วย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2006, 21:05 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|