มติคตส.รับ 8 คดี ระบุหลักฐานชัดเจน พร้อมตั้งอนุกรรมการสอบ ให้อำนาจล้นฟ้า ขอข้อมูลได้ทุกที่
นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการ คตส.และนายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการ คตส. แถลงข่าวร่วมกัน หลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยนายสัก กล่าวว่า กรรมการ คตส.เข้าร่วมประชุมครบทุกคนโดยที่ประชุมได้หารือถึงการร่างระเบียบ คตส.ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของอนุกรรมการตรวจสอบและอนุกรรมการไต่สวนเพราะการทำหน้าที่ของคณะอนุกรรมการช่วยงานทั้ง 2 ชุดต้องมีระเบียบรองรับซึ่งที่ประชุมเห็นชอบขั้นตอนในการดำเนินการตามที่เสนอ ส่วนระเบียบต่างๆจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งในวันพุธที่ 11 ต.ค.ในช่วงบ่ายเพื่อส่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นายสักกล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบมีมติรับได้ดำเนินการตรวจสอบทั้ง 8 เรื่องจาก 3 กองงานที่รับผิดชอบ โดยเห็นว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนที่จะดำเนินการตามระเบียบของ คตส.ได้ คือการตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบและคณะอนุกรรมการไต่สวนต่อไป ซึ่งการดำเนินการจะทำได้เมื่อระเบียบของ คตส. ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดำเนินการทั้ง 8 โครงการได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องที่ คตส.รับไว้พิจารณาแสดงว่าเรื่องนั้นต้องมีมูล เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ คตส. ชี้มูลแล้วก็ต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาด้วย และตรงนั้นจะสามารถเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง รวมถึงคณะอนุกรรมการที่เข้าไปไต่สวน
นายสัก กล่าวต่อว่า ตามระเบียบของ คตส.จะยึดหลัก 3 ประการคือ ให้ความเป็นธรรมโดยจะมีการตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนว่ามีพยานหลักฐานเพียงใด ให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาในการแก้ข้อกล่าวหา โดยเปิดโอกาสให้เข้าชี้แจงนำสืบพยาน หลักฐานได้ โดย คตส. ฟังข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย และยึดหลักความเป็นกลาง เมื่อทุกอย่างชัดเจนจะใช้สำนวนของ คตส.ไปสู่การดำเนินคดี คือต้องส่งให้ อัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลยุติธรรม
ขณะที่นายแก้วสรร กล่าวว่า จากการที่สื่อนำเสนอข่าวเกี่ยวกับ 8 โครงการ ทำให้มีกระบวนการทำลายข้อมูล พยาน หลักฐานไปแล้วอย่างน้อย 1 เรื่อง ดังนั้น คตส.ยืนยันว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้ง 8 เรื่องได้เนื่องจากมีผลต่อรูปคดี ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนถามว่า ข้อมูล 8 โครงการออกมาได้อย่างไร ตนๆไม่สามารถตอบได้เพราะข้อมูลมาจากสื่อ หากจะผิดหรือถูกสื่อต้องรับผิดชอบและเมื่อสื่อเสนออะไรออกไปก็ต้องไปติดตามและกันพยานเพื่อไม่ให้หลบหนีเพื่อไม่มีการทำลาย เมื่อรวบรวมได้แล้วก็ต้องเก็บในที่ปลอดภัย จึงขอให้สื่อระวังในการรายงานข่าว ซึ่ง คตส.จะเปิดเผยชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ก็เมื่ออยู่ในขั้นตอนการไต่สวน
...
http://www.naewna.com/news.asp?ID=29824