บาปต่อแผ่นดิน (โดยคุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์)

บาปต่อแผ่นดิน

สถานการณ์วิกฤติการเมืองเข้าสู่ภาวะสุกงอมจนต้องมีการปฏิรูปเกิดขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะห่างหายไปนานกว่าสิบปีและเป็นสิ่งที่ไม่ดี ทำให้ประชาธิปไตยถอยหลัง แต่ก็ดูจะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดความพอใจ โล่งใจหรือบางกลุ่มอาจสะใจ เบื้องหลังของความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดจากประเด็นคุณธรรมของนักการเมืองในเรื่องของอำนาจเงิน ความแตกแยกของผู้คนในสังคม การทุจริตทุกรูปแบบ ความไม่เป็นธรรมในทุกส่วน การเข้าแทรกแซงหน่วยงานอิสระจนสูญเสียความเป็นกลาง การทำลายความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตยและที่หนักหน่วงที่สุดคือ การจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์

ทุกประเด็นล้วนทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นเรื่อย ความแตกแยกเกิดในวงกว้างจนน่ากลัว โดยเฉพาะนักการเมืองบริหารราชการโดยใช้วิธีแบ่งแยกและปกครอง เอาผลประโยชน์เข้าล่อจนข้าราชการละทิ้งคุณธรรมกันทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่หนักหน่วงหลังสุดคือ การราดน้ำมันใส่องค์กรทหารจากประเด็นคาร์บอมบ์คาร์บ๊องและปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้

ความตกต่ำของระบบคุณธรรมคือตัวทำลายระบอบประชาธิปไตย ตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้นำการเมืองดูจะกอดคะแนนเสียงไว้แน่นมาก ไม่เคยสนใจใส่ใจที่จะทำให้เกิดความกระจ่างในประเด็นคุณธรรม แต่กลับดำเนินการแทรกแซงองค์กรต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานราชการ มีบล็อกโหวต มีการแต่งตั้งคนใกล้ชิดเป็นผู้บริหารเพื่อให้ได้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ

บรรดาลิ่วล้อใกล้และไกลตัวต่างแสดงพฤติกรรมคล้ายกันคือ ออกมาเห่า วิ่งไล่ หรือกัดผู้คนที่แสดงความเห็นกระทบต่อหัวหน้าของเขา ประหนึ่งจะลืมซึ่งอุดมการณ์ว่าทุกคนเป็นตัวแทนของประชาชน

แม้ว่าประเทศไทยจะก้าวพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ แต่หากย้อนศึกษาให้ละเอียด รัฐมนตรีแต่ละคนที่เคยอยู่ในรัฐบาลนี้มีสักกี่คนที่ไม่เคยได้ประโยชน์จากวิกฤติเศรษฐกิจเลย แม้รัฐธรรมนูญจะกำหนดให้ปลดธุรกิจส่วนตัว แต่กลับตั้งนอมินี หรือใช้ช่องว่างช่องโหว่ หรือช่องทางพิเศษแสวงหาประโยชน์กันอย่างไม่อายฟ้าดิน เพราะได้วางคนของตนไว้ในองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบทั้งหลาย

บอกได้ว่า นี่คือกลียุคด้านคุณธรรมของสังคมไทย

บทบาทของทหารในครั้งนี้ แม้จะทำให้กระบวนการประชาธิปไตยต้องหยุดชะงักถอยหลัง แต่ถือเป็นโอกาสที่จะสำรวจความผิดพลาดเพื่อการแก้ไข ท่านสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นนายทหารสุภาพบุรุษ การออกมาดำเนินการครั้งนี้ถือว่าเป็นการเสียสละอย่างยิ่ง ระบอบการเมืองได้ทำลายฐานกำลังในกองทัพจนแทบง่อยเปลี้ยยากที่จะรวมกำลังได้

หากใช้ธรรมะวิเคราะห์ก็จะเข้าใจได้ไม่ยากว่า ต่อให้มีการวางแผนที่ยิ่งใหญ่เพื่อผลประโยชน์เพียงใด แต่หากเป็นบาปต่อแผ่นดิน ก็คงไม่มีอะไรที่จะปกป้องเจ้าตัวได้ ความผิดต่อธรรมะและความผิดต่อแผ่นดินใหญ่หลวงนัก นี่ต่างหากคือกรรมได้ตามสนองผู้นำการเมือง

http://www.komchadluek.net/2006/09/column/m012_49949.php?news_id=49949

กรรมหนัก