ต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในเมืองไทย
ผมกลายเป็นตัวปัญหาโดยไม่รู้ตัว ปัญหาหนึ่ง คือ ฝ่ายที่จะเอาชนะทางการเมืองกับผม ไม่สามารถเอาชนะด้วยระบอบประชาธิปไตย ด้วยการเลือกตั้งได้ เพราะรัฐบาลอยู่มา 5-6 ปีได้ทำผลงานมาก และทำให้ประชาชนรัก ทำโพลล์ออกมาทีไร เรานำอยู่เยอะ เลือกตั้งทีไรเราก็ชนะ ทำให้คนไม่อยากเข้าสู่ระบบปกติ มีบอยคอตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อจะเกิดขึ้นในระบบประชาธิปไตย
สอง ผมได้ขัดผลประโยชน์คนจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว เพราะการมุ่งทำงาน เช่น ปราบยาเสพติด ปราบหวยใต้ดิน บางคนเป็นนักธุรกิจที่ปรับโครงสร้างหนี้ไม่สำเร็จ เพราะเหตุว่าพยายามซักฟอกเงินออกจากบริษัท แบงก์ล้ม ประเทศ เศรษฐกิจก็พัง รัฐบาลก็เข้าไปดูแล พอเข้าไปก็กลายเป็นว่าผมไปขัดผลประโยชน์ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับผมเลยนะ เป็นผลประโยชน์ของประเทศ ก็โกรธ บางคนเคยถูกพ่อตาผมจับ เพราะทำแชร์เถื่อน สมัยโน้นหนีออกนอกประเทศไทย ก็มาโกรธผม ทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่องเลย ก็มารวมตัวกัน แล้วก็มีอีกคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเหมือนรุ่นราวคราวเดียวกัน แล้วเคยแข่งกันทางธุรกิจ และก็เป็นรองผมมาตลอด ไม่ค่อยชอบผมหรอก...ก็หัวหน้าม็อบนั่นแหละ... ตอนหลังก็เกิดมาชอบผม เชียร์ผมใหญ่ ผมกลายเป็นเทวดากลับชาติมาเกิดเลยนะตอนนั้น ก็เชียร์ใหญ่ เชียร์ไม่ลืมหูลืมตา แล้วมาขอประโยชน์ อะไรที่เราให้ถูกกฎหมาย ถูกความชอบธรรมเราก็ให้ ให้ไม่ได้ก็ให้ไม่ได้ ตอนหลังให้ไม่ได้กับเรื่องที่เขาหวังสูง ก็โกรธกัน ก็ไปตั้งวงด่าผม เมื่อด่าผมคนของผมก็อาจจะไปทะเลาะด้วย ก็เลยไม่พอใจ คนเหล่านี้มารวมกันพอดี เป็นก้อนใหญ่ ต่อต้านผมเต็มที่....
http://www.naewna.com/news.asp?ID=27211"เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด"
อย่างที่ไทยรัฐลงไว้จริงๆ
** เนื้อความเต็มไปอ่านเอาในเวปแนวหน้านะครับ